[Real life] ตีกันครั้งแรกในคืนวันศุกร์

9.7

เขียนโดย LazyGirl

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.27 น.

  6 chapter
  12 วิจารณ์
  10.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557 00.48 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) เห็น...ดีกว่าเพื่อน?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 เห็น...ดีกว่าเพื่อน?

 

                “ชอบมันก็ไปเอามันสิ”

                “ดา…ก็บอกว่าเป็นเพื่อนกัน”

                บทสนนาทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ พูดวนไปวนมาไม่รู้จักจบสิ้น เรนท์ที่เบื่อจะฟังคำพูดงี่เง่าของทั้งสองออกไปเดินเล่นกับวีวิวแฟนสาวของตน อ๋อ…นี่ฉันเป็นส่วนเกินของพวกเธอสองคนใช่ไหม? โอเค ไปอยู่กับเนเน่ก็ได้ ฉันเดินไปหาเนเน่ที่นั่งจิ้มโทรศัพท์ไม่เลิก เธอส่ายหัวและหัวเราะให้ความงี่เง่าของแฟนสาวฟอง ใช่ ดาไร้สาระมาก ไม่มีเหตุผล และเห็นแก่ตัว ที่อารมณ์เธอน่ากลัวแบบนี้อาจจะเป็นเพราะความเมาก็ได้

                “มึงจะเอายังไงกับกู มึงบอกมา” จู่ๆดาก็ตะโกนขึ้นและทำท่าเหมือนจะเดินมาทางฉัน ฟองที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบดึงแขนดาไว้

                “ก็ไม่เอาไง” ฉันตอบด้วยใบหน้าที่น่าสงสาร ฉันคิดว่าฉันทำหน้าน่าสงสารสุดๆเลยนะ =_=

                “แต่กูจะเอามึงนี่แหละ!!”

                “เฮ้ยดา ใจเย็นๆ” ฟองรีบรั้งตัวดาไว้ทันทีที่เธอพุ่งมาทางฉัน

                “โอ๊ย! มึงอย่ามาห้ามกูได้ไหม!” ดาตวาดเสียงลั่นด้วยความรำคาญแล้วสะบัดแขนออกจากมือฟอง เธอหันขวับมาทางฉันอย่างน่ากลัว แววตาที่เกรี้ยวโกรธมันทำให้รู้สึกว่าเธอคนนี้เกลียดฉันมากๆ แต่ฉันรู้สึกยังไงน่ะเหรอ…

อีนี่แม่งโง่ว่ะ -_-

                “อีแจง…มึงระวังตัวไว้ให้ดี อย่าให้กูได้เจอมึงข้างนอกนะ” ดายกนิ้วอ้วนๆขึ้นมาชี้หน้า โอ้…กูกลัวมึงตายแหละอี!@$@%#^ เห็นมันโง่ไม่ยอมรับฟังเหตุผลแล้วมันชวนหงุดหงิดมากๆ =_=

                “จะตีกันแย่งอีฟองเหรอ?”

                “กูไม่แย่งอีฟอง แต่กูจะเอามึงให้ล้มวันนี้แหละ!!”

                เฮ้อ…ผมนี่ถอนหายใจเลยครับ

                “ดา”ฟองเรียกชื่อแฟนสาวของตัวเองอีกครั้งอย่างรำคาญ คนที่ยืนดูพวกเธอสองคนทะเลาะกันก็รำคาญเหมือนกันนั่นแหละค่ะ อย่าให้มันมาพาลฉันได้ไหม ฉันไม่ผิด รีบๆพูดให้ยัยนี่เข้าใจแล้วกลับบ้านกันเถอะ ฉันคิดถึงเตียงแล้ว อีกอย่างยัยกัลป์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่รู้ -_-

                “เมื่อไหร่จะเคลียร์กันสักทีวะ กูอยากกลับบ้านแล้ว” เนเน่โพล่งขึ้นปนๆหัวเราะพลางจิ้มโทรศัพท์ของตัวเองต่อไปเออ…เห็นมันกดโทรศัพท์มาตั้งนานแล้ว คุยอะไรกับใครนักหนา งั้นเรากดบ้างดีกว่า หาอะไรเพลินๆเล่นระหว่างรอพวกนั้นเคลียร์กัน

                “เฮ้ยบัดดี้ กูมีเรื่องว่ะ” นั่นคือทำแรกที่ฉันทักเพื่อนชายในแชท เขาคนนั้นเป็นบัดดี้สายรหัสเดียวกับฉันที่มหาลัยนั่นเอง

                (ฮะ? มีเรื่อง? กับใคร?)

                “แฟนเพื่อน”

                (หา? -_-)

                “มันหึง ฮ่าๆ”

                (แล้วเป็นไงบ้าง ชนะปะ?) คือ…ไม่ได้ห่วงอะไรเลย ห่วงว่าฉันจะแพ้หรือจะชนะเนี่ยนะ?

                “ไม่ได้ทำอะไรกัน ยืนดูเขาสองคนทะเลาะกันเฉยๆ”

                (อ๋อ ดูแลตัวเองกดีๆ)

                “โอเค” และบทสนทนาก็จบลงแต่นั้นเพราะมันไม่เข้ามาอ่านอีกเลย ไอ้บัดดี้คนนี้คืนนี้มันก็ออกไปเที่ยวเหมือนกัน เมื่อกี้แอบเห็นมันเช็คอินที่ผับแห่งหนึ่งอยู่ -_-

                และด้วยความเมาที่ทำอะไรมันก็สนุกและก็คึกคักไปหมด ไปทักเพื่อนๆหมดทุกคนที่ออนในตอนนั้นแล้วบอกว่าทุกคนว่า ‘เฮ้ย กูมีเรื่องว่ะ ฮ่าๆ’ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกทำไม อาจจะเป็นเพราะว่าว่างมาก ไม่มีอะไรทำ

                “เป็นอะไรกับแฟนกู” เสียงโหดคุ้นหูพ่นออกมาจากปากของใครบางคนทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้น อ..อ้าว ยัยนี่มาได้ยังไง ฟองปล่อยให้ดาเดินมาหาเรื่องฉันได้ยังไง เรนท์อยู่ไหนทำไมไม่มาช่วย เนเน่ เธออยู่ใกล้ฉันสุดนี่ ช่วยพูดไรหน่อยดิ!

                …

                เงียบ…

                มันก้มหน้าเล่นโทรศัพท์…

                คือ…อีนี่มันจะให้กูรับบทหนักอยู่คนเดียวไง?

                “เพื่อน” เมื่อเพื่อนไม่ยอมเข้ามาช่วยก็ต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ ฉันพยายามไม่แสดงอาการเมาออกมาทางการพูดและพุดจาด้วยความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุด นี่เรื่องจริงนะ ฉันอ่อนน้อมต่อศัตรูมาก เพราะยัยนี่อาจจะไม่ทำอะไรฉันก็ได้

                “เพื่อนทำไมต้องดูแลกันขนาดนั้น แบบนี้ก็เอามันไปเลยสิ” ดาพูดกระแทกเสียงพร้อมกับใบหน้าที่โมโหสุดๆ ฉันเห็นยังอารมณ์เสียตามเลย

                “ก็บอกว่าเป็นเพื่อนกัน”

                “ทำไมต้องอยู่ด้วยกันตลอดวะ กูเห็นหลายรอบแล้ว ไปคบกับมันเลยสิ ไปเป็นแฟนกับมันเลย!” เอ้า! ตอบดีๆกลับโดนตะคอกใส่ หน้าก็ไม่เป็นมิตร วิธีพูดก็ชวนโมโห นี่ฉันยังต้องคุยกับมันดีๆอยู่หรือเปล่า?

                โอเค ใจเย็นๆก่อน ใจเย็นดีที่สุด กันโดนตีน

                “ไม่ได้ชอบทอม”

                “แต่มันชอบมึง!!” เอ้า! ใช่เรื่องไหมล่ะสัส มันชอบกู มึงควรพาลกูเหรอวะ? กูเคยอ่อยแฟนมึงไหม? ไม่มี กูซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกกู กูชอบผู้ชาย!

                “จะไปรู้กับมันเหรอ!”

                “ทำไมวันนั้นถึงพูดจาไม่ดีกับกู ทำไมมึงไม่คุยกับกูดีๆ!!!”

                “ก็มึงตะคอกใส่กูก่อนทำไม!!” พูดยังไม่ทันจบ ยัยดาก็เอื้อมมือมาดึงผมฉันสุดแรง มันกดหัวฉันลงจนหน้าแทบจะติดกับพื้นอยู่แล้ว

                แล้วใครมันจะยอมให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียววะ!

                ตุบ ตับ พลั่ก!!

                ฉันเหวี่ยงกำปั้นน้อยๆด้วยกำลังที่เหลืออยู่ใส่เข้าไปอย่างสุดแรง โดนอะไรต่อมิอะไรของมันก็ไม่รู้ล่ะ ฉันพยายามตั้งสติไว้ไม่ให้หลุดไปไหน เพราะยิ่งมันกดหัวลงมาเท่าไหร่มันก็ยิ่งเวียนหัวมากเท่านั่น ด้วยความเมาที่ยังคงค้างอยู่มันทำให้มองเห็นพื้นเบลอไปหมด ก็เมาอยู่ยังจะมาเหวี่ยงหัวลงอีก ยัยนั่นยังคงกำเส้นผมฉันไว้แน่นจนมันแสบไปหมดทั้งหัว ฉันกระหน่ำหมัดใส่ยัยอ้วนนั่นไม่ยั้ง เจ็บหรือไม่เจ็บฉันไม่รู้ แต่ที่รู้คือไม่ยอมเป็นผู้ถูกกระทำแน่ๆ  

                “ปล่อย” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น “อย่าทำเพื่อนกู!”

นั่นมันเสียงของเรนท์นี่!

                เหตุการณ์ข้างบนเป็นยังไงบ้าง ฉันมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากพื้นกับผมของตัวเอง เรนท์เข้ามาช่วยงั้นเหรอ มันเหมือนมีมือของใครก็ไม่รู้มาดึงๆอะไรสักอย่าง เฮ้ย! ตรงนี้มันมีกี่คนกันเนี่ย อย่าทำอะไรกูนะกูกลัวแล้ว!! -O-

                แผล็บ

                เฮ้ย!! นี่มันเส้นผมนี่หว่า ผมฉันร่วงเหรอโอ๊ย! อีอ้วน มึงปล่อยมือออกได้แล้ว ผมกูร่วง!

                “โอ๊ย! ดามึงพอได้แล้ว!!!” เสียงตะโกนของฟองดังออกมาพร้อมๆกับสัมผัสอันอ่อนโยนที่ประคองร่างของฉันไว้ ฉันเงยหน้าเจ้าของมือที่ประคองหลังฉันไว้

                “เรนท์”

                “อีดาแม่งคุยไม่รู้เรื่อง” เรนท์ถอนหายใจอย่างรำคาญก่อนจะพาฉันมานั่งให้ไกลๆสองคนนั้น โอ๊ย ปวดหัว นี่หัวฉันล้านหรือเปล่า ถ้ามันล้านจริงๆจะไปฆ่ายัยดาเลยคอยดู =_=

                “พี่จุ๊บแจงเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

                “ไม่อ่ะ มันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย =_=”  ใช่ มันไม่ได้ทำอะไรเลย มันแค่เข้ามากระชากหัวแล้วกดลงไปเท่านั้น ที่เหลือฉันใส่มันลูกเดียว มันส์ดี

                “จริงเหรอวะ? เออ แต่ก็ดีละที่ไม่เป็นอะไร” เรนท์โพล่งขึ้นแล้วมองไปยังผู้หญิงเสื้อดำที่นั่งอยู่บนรถ(ผู้หญิงที่มาส่งดา) “ตอนที่มึงต่อยอีดาอ่ะ เพื่อนมันพุ่งตัวเข้ามาเลย”

               อ้าว แบบนี้ก็รุมดิ

                “กูกับวีเลยเข้าไปแยกพวกมึงออกมา แต่อีดามันไม่ยอมปล่อยหัวมึงเลย” เออ เจ็บมากๆ -_-

               “ดีแล้วที่เข้ามาห้าม อีนั่นตัวใหญ่โคตรๆ ถ้ากูลงคือกูเจ็บอ่ะ แต่ยังไงกูก็ไม่ยอมล้มลงไปนอนแน่ๆ” นี่ดีนะที่ใส่รองเท้าผ้าใบสีสวยมา ยึดติดกับพื้นดีมากแนะนำให้ทุกคนไปซื้อมาใส่เลย ประเด็นที่น่าแปลกคือทำไมถึงทรงตัวทั้งที่เมาและโดนเหวี่ยงขนาดนั้น ตัวก็เล็กนิดเดียว น้ำหนักก็ 46 นื่คือฉันเป็นยอดมนุษย์เหรอ? หรืออีดามันเมาก็เลยไม่ไออกแรงมาก? 

                “พี่แจง นี่เป็นครั้งใช่ไหม?”  วีวิวถามขึ้น

                “ใช่ ทำไม?” ฉันตอบพลางลูบหัวตัวเองไปมา

                “เก่งมากอ่ะ ครั้งแรกของวียังไม่ขนาดนี้เลยนะ” ยัยวีฉีกยิ้มกว้างแล้วยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น คือ…เรื่องพวกนี้มันสมควรยกย่องไหมเนี่ย

                “อีแจงมันโหด มันดูหนังโรคจิตเยอะ”

                เกี่ยวไหม? -_-

                “เจ๋งมาก ชอบเลย ชอบมากๆ >_<”

                “ฮ่ะๆ =_=” อย่าชมในเรื่องที่ไม่ดีเด็ดขาด เดี๋ยวสมองจะเอาไปคิดว่าเรื่องนี้ทำแล้วดูเท่ห์ ‘ชมแล้วรู้สึกดี กลายเป็นที่นับถือ’ พอสมองมันจำได้แบบนี้แล้วเดี๋ยวจะมีครั้งต่อไปอีก ไม่อยากมีอีกแล้วประสบการณ์หน้าหมาแบบนี้ ได้โปรด…อย่าชมเลยวีเอ๋ย =_=

                “กูตกใจ กำลังจะเข้าไปช่วยแต่ก็ต้องอึ้งตอนที่มึงต่อยมัน โห..อุตส่าห์เป็นห่วง ฮ่าๆ” ยัยเรนท์หัวเราะอย่างผ่อนคลาย

                “เออนั่นแหละ มึงเห็นใช่มั้ยว่ามันกระชากหัวกูลงอ่ะ ต่อไปมันต้องทำกุแน่ๆล่ะ กูไม่ยอมหรอก ใส่แม่ง”นี่เขาเรียกว่าสัญชาตญาณแห่งการป้องกันตัวหรือเปล่า น่ากลัวไปนะบางที           

                “เมื่อไหร่จะได้กลับวะเรนท์ =_=”

                “รออีฟองเนี่ย” ไม่รอมันแล้วได้เปล่าวะ รำคาญ

                “เออ..เฮ้ย! โทรศัพท์กูอยู่ไหน!” ฉันลุกขึ้นทันทีที่รู้ว่าโทรศัพท์ไม่ได้ยู่กับตัวเอง เมื่อกี้ก่อนที่ดาจะมาหาเรื่องฉันยังถือมันอยู่ในมืออยู่เลย เครื่องสองหมื่นเลยนะเว้ย! อย่าบอกนะว่ามันปลิวไปแล้ว

                “กูเอามาให้มึงแล้ว” เรนท์ส่งโทรศัพท์เคสสีฟ้าเบบี้บลูคืนให้ฉัน “ดีนะที่มึงวางมันไว้ที่เบาะรถก่อน ไม่งั้นมันพังไปแล้ว”

                “อ๋อ เหรอวะ -_-” เออดีว่ะ ดีที่ยังวางมันลง

                และหลังจากนั้นผ่านไปกี่นาทีและกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้ พวกมันยังคงคุยกันตามภาษาคนพูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งแต่ละคนก็เอือมๆกันหมด ไม่รู้จักเคลียร์กันสักที ยืนรอมาเป็นชั่วโมงแล้วนะเว้ย ยืนเล่นโทรศัพท์จนแบตจะหมดอยู่แล้ว อยากกลับบ้านไปอาบน้ำนอนแล้วนะ เมื่อไหร่จะจบปัญหาสักที? ทำไมฟองมันใจอ่อนกับแฟนมันจังวะ แฟนแกทำเพื่อนเจ็บเลยนะเว้ย อยากให้ความเจ็บปวดของฉันมันสูญเปล่าเหรอ? ก็ปลื้มอยู่หรอกที่ฟองมันเข้าไปล็อคตัวและกันให้ดาออกห่างจากฉัน แต่แบบนี้มันเกินไปหรือเปล่าวะ? เอาเพื่อนเข้าไปเกี่ยวแต่ไม่รู้จักจบปัญหาสักที แถมอีนั่นยังจ้องมาไม่หยุดเลยด้วย อะไร จะเอาอีกรอบเหรอ? นี่ถ้าแฟนฉันทำร้ายเพื่อนตัวเองล่ะก็ จะยอมเลิกกับคนๆนั้นเพื่อคบเพื่อนต่อเลย มีแฟนงี่เง่าไปหรือเปล่าวะฟอง มึงรักมันขนาดนั้นเลยเหรอ โอ๊ย ไม่เข้าใจ

                “ฟอง เมื่อไหร่จะกลับ” ร.เรนท์ใจกล้าเดินเข้าไปถามฟองที่ยินคุยกับดา ยัยดานั่นก็หัวเราะคิกคักเหมือนมีความสุขอะไรยังไงก็ไม่รู้

                “เออ…งั้นมึงกลับก่อนเลย”

                แค่นี้? -_-

                “งั้นกูกลับแล้วนะ”

                “เออเรนท์ มึงจะกลับยังไง” ฟองที่มีหน้าที่ไปรับ-ส่งเรนท์เอ่ยถามขึ้น

                “ไม่ต้องแล้ว กูจะนอนบ้านแจงแล้วให้พ่อกูมารับ” คำตอบของแรนท์ทำให้ฟองพยักหน้ารับอย่างง่ายๆแล้วหันหน้าไปคุยกับดาแฟนสาวที่รักของตนต่อ

                “แจง เดี๋ยวกูไปส่งวีวิวที่บ้านก่อน แล้วจะกลับมานอนบ้านมึงนะ”

                “โอเค” ฉันตอบเรนท์ก่อนจะเดินไปหาเนเน่

                “ปะ กลับเหอะ”

                “ดีเหมือนกัน กูง่วงละ” พูดจบเนเน่ก็สตาร์ทเครื่องทันที ยัยดา เพื่อนของดา แล้วก็ฟองคุยกันอย่างสนุกสนาน คืออะไร? พากูมาให้แฟนมึงดึงกระชากหัวเล่นแล้วก็มานั่งหัวเราะกันเนี่ยนะ? เสียดายผมว่ะ -_-

                ระหว่างขับรถ

                “โห กูไม่เคยมีปราบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยนะ” เนเน่ที่เป็นคนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น

                “งั้นก็เคยซะ -_-”

                “เออ กูเห็นนะ อยู่ดีๆก็มากระชากหัวมึง แต่มึงน่ากลัวหว่า กูกลัวมึงเลย”

                “เอ้า! ก็มันทำกูก่อนอ่ะ ไม่ยอมเจ็บคนเดียวหรอก -_-”

                “แต่มันยังไม่ทันได้ทำอะไรมึงเลยนะ” เนเน่หัวเราะเบาๆ

                “โห กระชากหัวไปแบบนั้นแล้วจะให้ยืนคุยกับมันดีๆต่อเหรอ ฉากต่อไปมันต้องตบกูหน้าหันแน่ๆ”

                “เออนั่นดิ มึงทำถูกแล้ว” เปิดฉากก่อนมีชัยไปกว่าครึ่ง โอ๊ย! คิดแล้วหงุดหงิด ทำไมอีนั่นไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยวะ คุยด้วยเหตุผลไม่เป็นหรือไง ใช้เป็นแต่กำลังไง? =_=

 

                My Home

                หลังจากที่มาถึงบ้านก็โทรเรียกให้กัลป์กลับเข้าบ้านและเล่าเรื่องยัยดาให้ฟังเลยทันที ระหว่างรอยัยนั่นมาก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำรอ ตอนนี้คงจะสร่างได้แล้วนะ

                ตี4กว่า

                “กลับมาแล้ว^O^” ยัยกัลป์เข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่ระรื่น สงสัยจะมีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้ฟัง

                “เป็นไงบ้าง?”

                “ดีว่ะ รู้สึกดีมากๆ พี่โอ๊ตแม่งเป็นคนดีว่ะ มันไม่ทำอะไรกูเลย” โห…ถ้ามันเป็นคนดีอย่างที่พูดมามันก็ดีเหมือนกัน จะได้สนับสนุนให้เพื่อนรักเลือกผู้ชายคนนี้ ^O^

                “มึงรู้ป่ะ กูไปนอนเล่นบ้านพี่โอ๊ตมา”

                “ฮะ? แล้วพี่เขาก็ไม่ทำอะไรมึงเนี่ยนะ?” ใช่เหรอวะ อีนี่โม้หรือเปล่า -_-

                “ใช่ นี่กุพูดเลย พี่โอ๊ตไม่ได้ทำอะไรกูเลย พี่เขาแค่จูบกู”

                “นั่นไง ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน” ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์แซวยัยกัลป์ที่ยิ้มร่าอยู่บนเตียง                     “มึงเข้าห้องพี่โอ๊นเหรอ?”

                “เปล่า ไม่ได้เข้า นอนอยู่บนโซฟาเนี่ยแหละ วันนี้พ่อแม่พี่โอ๊ตไม่อยู่บ้าน” อ้อ เหมาะมาก มันเป็นโอกาสดีเลยสินะ

                “จูบกันเป็นชั่วโมง แต่ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าเวลาจูบไอ้นันท์ว่ะ”

                “ก็ดีแล้วนี่ หมายความว่ามึงอยู่กับคนนี้แล้วมีความสุข” ฉันยิ้มมีความสุขไปกับเพื่อน

                “เออว่ะ เวลาอยู่กับนันท์แม่งไม่เป็นตัวของตัวเองเลย พออยู่กับพี่โอ๊ตนะ กูอิสระเสรี!” ยัยกัลป์หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “แต่วันนี้กูใส่กางเกงสั้นไปหน่อย พี่โอ๊ตจนต้องทักกูอะ -_-”

                “อืม สั้นจริงๆ แต่กูสงสัย ทำไมพี่เขาไม่ทำอะไรมึงวะ” เฮ้ย มันน่าแปลกจริงนะเว้ย พวกแกแค่จูบกันเองเหรอวะ

                “จริงๆ กูสาบานเลย แต่จูบกันยาวนานมาก ไม่เคยจูบกับใครนานขนาดนี้มาก่อนเลย” กัลป์เล่าเรื่องราวพร้อมกับทำท่าเขินไปด้วย “ตอนแรกกูนอนอยู่บนโซฟาแล้วมันขึ้นมาคร่อมกู มันจูบกูแบบค่อยเป็นค่อยไปอ่ะ น่ารักมาก ปากนิ่มสัสๆ >_<”

                “เออ แล้วไงต่อ >_<”

                “แล้วมันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเว้ย มันพลิกตัวให้กูขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้วพี่เขาก็หายใจแรงมากๆ” พี่เขาระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้วดิ -O-

                “กูยังจำที่มันบอกได้อย่างแม่นยำ…” กัลป์เว้นช่วงไว้ให้ฉันคิดก่อนจะพูดต่อ “ถ้ากัลป์โตกว่านี้ พี่คงทำมากกว่านี้ไปแล้วล่ะ”

                “อีดอกกก! แมนสุดๆ!!” โห!! เป็นคนอื่นนี่เสร็จไปแล้ว ได้เสียกันเรียบร้อยไม่มาคิดเรื่องความเป็นผู้ใหญ่แบบนี้หรอกอยากเจอบ้าง! อยากเจอคนแบบนี้!!!

                “พี่เขาว่ายังไม่อยากคิดเรื่องแบบนั้นกับกู รอให้โตมากกว่านี้ก่อน”

                “พี่เขาคงคิดว่ามึงเป็นมนุษย์ใสที่ไม่เคยผ่านอะไรมาเลยสินะ =_=”

                “เออว่ะ ฮ่าๆ” ยัยกัลป์หัวเราะชอบใจก่อนจะกลิ้งตัวไปนอนกับเตียง เฮ้ยเดี๋ยว! แกยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ -O-

                “แจง กูมาละ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นทางประตู

                “อ้าวเรนท์ ส่งวีวิวมาแล้วเหรอ?” ฉันทักเรนทืทันทีที่นางเดินเข้ามาในห้อง ทำไมถึงทำหน้าเครียดๆแบบนั้น?

                “อืม มันโดนแม่มันด่า”

                “อ้าว -_-” ก็พอจะรู้ว่าวีวิวโดนแม่ด่าทำไม เพราะครอบครัวของวีวิวไม่ชอบทอมแถมยังเคยเล่นของใส่ทั้งคู่ด้วย

                “กูยืนรอจนกว่ามันจะเข้าบ้านอ่ะ กูสงสารมัน”

                “ไหนบอกวีวิวหลายใจไง ยังจะกลับไปหาอยู่เหรอวะ?” กัลป์โพล่งขึ้นมาอย่างไม่ดูสถานการณ์ เพื่อนกำลังดราม่าอยู่นะคะ -_-

                “เออ กูก็ไม่อยากกลับไปหามันหรอก มันมาง้อกู” ก็เลยใจอ่อนสินะ

                “แล้วฟองอ่ะ เป็นไงบ้าง?” ฉันถามเปลี่ยนประเด็น

                “มันฝากมาขอโทษมึงด้วย แต่กูโกรธมัน มันไม่ดูแลมึงเลย” โอ๊ยเศร้า อย่าว่าเพื่อน”

“เออ เป็นยังไงบ้างวะ?” กัลป์ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เอ่ยถามอย่างอยากรู้

                “อีแจงต่อยมันรัวอย่างกับท่าที่มันเต้นในผับเลยกัลป์ อีดาไม่ได้ทำอะไรมันเลย ฮ่าๆ” เรนท์หัวเราะร่าเมื่อพูดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้

                “โห เหรอวะ กูพลาดว่ะ น่าจะไปดู ^O^”

                “เออตลกละ พวกมึงไปอาบน้ำไป” ฉันโบกมือไล่ทั้งสองก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงไปนอนเล่นโทรศัพท์

                และเรื่องราวของคืนวันศุกร์ก็จบลงเพียงเท่านี้

                หลายวันผ่านไปก็ยังใช่ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้ว่าเรนท์จะบอกว่าให้ระวังตัวก็ตาม ส่วนฟอง เธอไม่มาให้เห็นอีกเลย ฟองไม่เข้าในบ้านหลังนี้อีก ไม่มีแม้คำขอโทษที่เป็นทั้งตัวหนังสือและคำพูดจากปากของเธอเลย สิ่งของที่ลืมไว้ที่นี่ เธอก็ไม่คิดแม้จะกลับมาเอา คือกูน่ากลัวขนาดที่มึงไม่กล้ามาหาเลยเหรอวะ ไม่เคยโกรธมึงเลยค่ะ  -_-

                เรนท์ที่ติดต่อกับฟองได้เล่าให้ฟังว่า

                “มันทั้งสองคนดีกันแล้ว ดีกันในวันนั้นนั่นแหละพวกมันเอากันแล้วก็ดีกันเลย ฮ่าๆ”

                เรื่องเพศช่วยสานความสัมพันธ์ของคุณได้ แล้วคืออะไร …สรุปมันเห็นอันนั้นของแฟนมันดีกว่าเพื่อนใช่ไหม? เออ ก็ตามใจ เรื่องนี้คุณจุ๊บแจงจะไม่ยุ่ง =_=

             

 

 

จอบอ

จบ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา