สารถึงสายฝน

-

เขียนโดย Nuth

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.15 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  3,675 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            กาลครั้งหนึ่งที่สุดขอบโลกมีนิทานของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งอาศัยพื้นทะเลเป็นบ้านอยู่ เด็กสาวคนนั้นชื่อ นาวา เธอเกิดจากสายลมและสายน้ำที่พบรักกัน และในที่สุก็ได้กำเนิดบุตรขึ้นซึ่งนั้นก็คือเธอนั้นเอง นาวามีเพื่อนคือสายฝน เมื่อใดที่นาวาเหงาสายฝนก็จะโปรยปรายลงมาหยอกล้อเล่นคลายความเหงาให้เธอเสมอ

            "ฝนจ๋า มาเล่นกันเถอะ นาวาเบื่อมากเลย" เด็กสาวตะโกนเรียกหาสายฝนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นฟ้า ไม่นานสายฝนก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวมาหานาวา

            แปะๆๆ …

            เสียงสายฝนตกลงมากระทบพื้นน้ำดังกังวานไพเราะไปทั่วบริเวณเด็กสาวชูมือขึ้นพร้อมกับกระโดนโลดเต้นไปทั่ว

            "ฮิๆ ฮ่าๆๆ สนุกจังเลยฝนจ๋า เอาอีกๆ " เด็กสาวตะโกนเสียงดังลั่น สายฝนเองก็สนุกมากเช่นกันที่ได้เห็นเด็กสาวกระโดโลดเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน สายฝนเริ่มร่ายรำหยอกล้อกับเด็กสาวจนลืมดูเวลา

            เมื่อฤดูฝนมาถึงชาวบ้านเตรียมตัวเพาะปลูกแต่ทว่ากลับไม่มีฝนตกเลย เพราะสายฝนยังคงเล่นกับเด็กสาวไม่หยุด นานวันเข้ามนุษย์ก็เริ่มอดตายกันมากขึ้นเพราะขาดแคลงน้ำที่จะนำมาเพาะปลูก เทวดาบนสวรรค์เห็นก็โกรธสายฝนเป็นอย่างมาก และได้ไปปรากฏกายเรียกสายฝนกลับมาทำหน้าที่ของตนด้วยสายตำหนิ

            "เจ้าสายฝน ทำไมเจ้าถึงได้เอาแต่เล่นสนุกอยู่แบบนี้? " เทวดามองสายฝนราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังมองเด็กทำผิดก้มิปาน

            "ข้าขออภัยยิ่งนักที่ข้าไร้ความรับผิดชอบต่อหน้าที่เช่นนี้ ข้าเอาแต่เล่นสนุกจนลืมวันคืน ข้าจะกลับไปทำหน้าที่ของข้าเดียวนี้" เมื่อสายฝนเอยจบก็เคลื่อนตัวจากไปทันที พร้อมกับเทวดาที่กลับสวรรค์ไปด้วยเช่นกัน เหลือทิ้งไว้แต่เด็กสาวที่มองตาไปด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอทำให้สายฝนต้องถูกตำหนิ

            ผ่านไปนานหลายวันสายฝนไม่ได้มาเล่นกับเธออีกเลย เด็กสาวจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะช่วยสายฝน และความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ เด็กสาวคลี่ยิ้มก่อนจะมุ่งหน้าไปทางแผ่นดินใหญ่ ณ บริเวณที่แห้งแล้ง เด็กสาวผู้เป็นบุตรของสายน้ำกับสายลมก็ได้เสกให้น้ำลอยขึ้นโดยใช้สายลมช่วยประคอง เธอพยายามจะนำน้ำเหล่านี้ไปบริเวณที่เพราะปลูก ทว่าปริมาณน้ำที่เธอขนมานั้นมีมากเกินไป ในขณะที่อยู่บริเวณยอดเขาเธอก็เริ่มจะหมดแรก น้ำที่ขนมาเริ่มเอนไปเอนมา ในที่สุด…

            ตูม! ซ่าๆๆ

            น้ำปริมาณมหาศาลไหลลงจากยอดด้วยความเร็วสูงไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ต่างพากันหนีน้ำอลม่าน หนีทันบ้างไม่ทันบ้าง หลายชีวิตต้องตายไปเพราะเหตุการณ์นี้ ในขณะเดียวกันสายฝนก็อยู่บริเวณนั้นพอดี สายฝนเองก็ตกใจมากที่อยู่ๆ ก็มีน้ำปริมาณมหาศาลไหลลงมาจากเขา แต่ทว่าทุกคนต่างคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะฝนตกหนักมากเกินไป ทุคนต่างพากันว่าตำหนิสายฝนสารพัด สายฝนเสียใจมากทั้งๆ ที่สายฝนเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแท้…

            "ฝนจ๋า…" เด็กสาวเรียกสายฝนเสียงเบาหวิว เมื่อรู้เรื่องที่ทุกคนต่างพากันตำหนิสายฝนก็เสียใจมาก อยากจะขอโทษสายฝนที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด

            "…" สายฝนมาหาเด็กสาวด้วยสีหน้าเศร้าๆ ไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำ

            "ฝนจ๋า…นาวาขอโทษ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะนาวาเอง…" เด็กสาวก้มหน้าไปพูดไปเพราะไม่กล้าที่จะมองสายฝนตรงๆ

            "นาวา…ทำไมเจ้าทำแบบนี้ ทุกคนเกลียดข้าหมดแล้ว ทำไมนาวา ทำไม…" น้ำเสียงของสายฝนฟังดูเจ็บปวดและคอยกรีดลึกลงไปในหัวใจของเด็กสาวอย่างช้า น้ำตาของเด็กสาวเริ่มไหลรินน้ำเสียงฟังดูไม่ชัดอีกต่อไป

            "นะ…นาวาขอโทษ…นาวาไม่ได้คิดจะแกล้งฝน นะ…นาวาเพียงแค่อย่างจะช่วยฝน…ขอโทษ นาวาขอโทษ ขอโทษ อึก…ฮื่อๆ " เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร แต่ทว่าสายฝนเมื่อได้รู้ว่านาวาเป็นคนทำสายฝนก็ถูกความโกรธครอบงำ ทำให้ไม่ยอมอภัยให้กับนาวาได้

            "เจ้าทำให้ทุกคนเกลียดข้า! นี่รึความหวังดีของเจ้า ข้าไม่อยากเห็นเจ้าอีกต่อไปแล้ว!" สายฝนประกาศกร้าวพร้อมกับหนีหายไปจากเด็กสาว

            เมื่อสายฝนไปเด็กสาวก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นาน เด็กสาวพยายามทำทุกทางเพื่อจะให้สายฝนยกโทษให้แต่ว่าสายฝนไม่ยอมมาเจอเด็กสาวอีกเลย

            'ฝนจ๋า ฝนเป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของนาวา นาวาขอโทษ นาวาไม่ได้ตั้งใจ นาวาแค่อยากช่วยนาวาไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ นาวาขอโทษ…นาวาขอโทษ…'

            เด็กสาวไม่รู้จะทำเช่นไรดี จึงนำผ้ามาห่อคำพูดของตัวเองไว้และมัดจนด้วยเหมือนผ้าผืนเล็กที่ได้ห่ออะไรบ้างอย่างที่ดูกลมๆ เพื่อไม่ให้เสียงออกไปก่อนจะถึงสายฝน เด็กสาวได้ทำห่อผ้านี้ไว้หลายต่อหลายอันพร้อมกับวาดหน้าตาให้กับผ้าที่ห่อเสียงของตนด้วย และสุดท้ายเธอก็เสกให้สายลมพาห่อผ้าพวกนี้ไป บ้างอันหล่นในป่าบ้าง หล่นบนหลังคาบ้านมนุษย์บ้าง ไม่รู้ว่าสายฝนรู้ได้อย่างไรว่าห่อผ้าเหล่านี้เป็นของนาวาดังนั้นเมื่อสายฝนเห็นห่อผ้านี้ก็จะหนีหายไปทันที ชาวบ้านหลายคนเห็นเช่นนั้นจึงตั้งชื่อให้ว่า 'ตุ๊กตาไล่ฝน'

 

 

            ไม่รู้ว่าข้อความนี้จะส่งถึงสายฝนหรือไม่ แต่ถ้าหากคุณแขวนตุ๊กตาไล่ฝนแล้วฝนยังตกอีกลงก็ บ้างทีสายฝนคงจะใจอ่อนฟังคำขอโทษของนาวาแล้วก็ได้…

            แต่เรื่องเล่านี้ใครจะรู้ได้ อาจเป็นจริงหรือเพียงความฝันที่ผ่านมาและผ่านไปก็เป็นได้

…เรื่องราวที่ถูกเล่าขาน และเรื่องราวที่ถูกลืม…

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา