สารแห่งการรอคอย

8.0

เขียนโดย Nuth

วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.07 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  3,531 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 22.18 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ครั้งหนึ่งเทพนิยายได้กล่าวขาน

เรื่องราวของความรักที่ชักพาให้เจอกัน

และ…ความรักที่ทำให้พลัดพรากจากกัน

บทสุดท้ายนี้คงไม่อาจรู้ได้

อาจจะได้พบ หรือไม่ ก็ได้เช่นกัน

แต่สิ่งสุดท้ายคือความเชื่อที่เธอให้ไว้กับฉัน

เราจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน

 

 

            ครั้งหนึ่งมีเด็กสาวนามว่า เวทา เธอเป็นเด็กน่ารักทว่าไม่มีใครเข้าใกล้เธอหรือแม้กระทั่งสบตากับเธอ ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาจากไหนแต่เรื่องนั้นคงไม่ได้ทำให้ใครหวาดกลัวเธอได้ ถ้าหาก…เธอไม่ได้แปลกแยกออกไป…

            "ไง วันนี้ก็ออกมาเดินเล่นอีกแล้วนะ" เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังจากเด็กหนุ่มท่าทางสบายๆ

            เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเลยเรียกเด็กสาวก็ไม่รอช้าหันไปมองต้นกำเนิดเสียงนั้นทันที ดวงตาฉายแววสดใสเหมือนทุกวัน นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนยังคงเปล่งประกายมีชีวิตชีวา เด็กสาวยิ้มยี้ตาพุ่งเข้าไปกอดเด็กหนุ่มเต็มแรงราวกับชดเชยในช่วงทีไม่ได้เจอกัน

            "คิดถึง…" เด็กสาวเอื้อนเอยจากใจจริง เป็นคำๆ เดียวที่เด็กหนุ่มก็อยากมอบให้เด็กสาวไม่ต่างกัน

            "ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน…เวทา" เด็กหนุ่มเอยในขณะที่แขนของเขาเองก็กระชับโอมกอดให้แน่นขึ้นราวกับต้องการจะซึมซับกลิ่นอายที่แสนจะคิดถึง

            "กาลทำไมคราวนี้ไปนานจัง ฉันเหงามากเลยนะ"

            "โทษทีนะ ที่ไม่ได้บอก" เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่า 'กาล' เอยพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เด็กสาว

            'กาล' จะมีท่าทางอ่อนโยนและสบายๆ กับเวทาเท่านั้น เพราะงานที่เขาทำไม่ต้องการความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย งานที่เขาทำคือการคอยเก็บเหล่าดวงวิญญาณหรือเรียกง่ายๆ ก็คือยมทูต ทุกๆ วันจะต้องเห็นผู้คนมากมายตายไปด้วยสาเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการฆ่ากันเองของมนุษย์ ดังนั้นภาพเหล่านี้จึงกลายเป็นภาพที่ชินตาไปสำหรับกาลและเมื่อนานวันเข้าเขาจึงกลายเป็นคนเงียบๆ ไปในที่สุด เพราะไม่รู้จะพูดคุยไปทำไม จะมีเพื่อนไปทำไม ในเมื่อเดียวก็ตาย ทุกคนรอบตัวของเขาตายกับไปหมดแล้วยกเว้น…เขาเพียงคนเดียว นานแสนนานเขาเฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอ

            ทำไมเหลือแค่ฉันล่ะ?

            ทำไมฉันไม่ตายล่ะ?

            ทำไมจะต้องมาเจอกันด้วย?

            ทำไม…ทำไม ทำไม?

            เป็นเวลานานที่เขาเฝ้าถามเรื่อยมาแต่ก็ไม่มีคำตอบใดปรากฏเลย ไม่รู้เพราะโชคชะตาอยากช่วยเขาหรืออยากมอบความทุกข์ที่แสนสาหัสมากกว่าครั้งไหนๆ ให้เขากันแน่ เขาถึงได้มาเจอกับเวทาแบบนี้… ทั้งๆ ที่ตัวเขาไม่ต้องการใครอีกแล้ว แต่กลับเจอเธอ แม้การอยู่กับเธอจะมีความสุขสักแค่ไหน แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเช่นกัน

            ถ้าหายเธอตายไปเหมือนคนอื่นๆ ล่ะ เขาจะทำยังไงดี เขาจะต้องทนรับความเหงาและความเจ็บปวดไปอีกนานเท่าไรหากเสียเธอไป… ทุกๆ ครั้งที่มีความสุขร่วมกับเธอก็อดนึกไม่ได้เลยจริงๆ ยิ่งสุขมากเท่าไรก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะทำยังไงดี

            "อิๆ " เด็กสาวหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข

            เด็กหนุ่มมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนละสายตาจากเธอและมองไปรอบๆ ทว่าพื้นที่สีเขียวที่มีทั้งดอกไม้และต้นไม้นานาชนิดที่เขาควรจะเห็นกลับถูกแทนที่ด้วยสีดำสนิท ดินที่เคยอุดมสมบูรณ์ตอนนี้กลับกลายเป็นสีดำแห้งเสีย เหล่าต้นไม้ดอกไม้พากับเหี่ยวเฉาไปหมด นี่คือภาพที่ที่เด็กหนุ่มมองเห็นด้านหลังเด็กสาวไม่ไกลออกไปมากนัก

            "เธอคงเหงามากสินะ คราวหลังฉันจะไม่ไปไหนนานๆ อีกแล้ว ดีมั้ยเวทา? " เด็กหนุ่มก้มลงมองใบหน้าของเด็กสาวในอ้อมกอดอีกครั้ง

            "อื้อ ดีสิ" เด็กสาวเอยจบก็หันไปมองภาพด้านหลังของตนด้วยสายตาสำนึกผิด เธอรู้อยู่แล้วว่ากาลจะต้องเห็นมันแน่ๆ "…ขอโทษนะกาล ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันตาย…" เด็กสาวเอยขอโทษเสียงแผ่ว

            "ฉันรู้อยู่แล้วน่า…" เด็กหนุ่มเอยพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนราวกับจะยืนยันสิ่งที่ตนพูด "งั้นเราไปทำให้มันกลับเป็นเหมือนเดิมดีมั้ย ตอนนี้เธอมีความสุขอยู่นี่น่า" เด็กหนุ่มเอยพลางพยุงเด็กสาวขึ้นและพาเดินไปบริเวณสีดำสนิท

            พรึ่บ!

            เมื่อเด็กสาวก้าวเท้าเข้าไปใกล้ทั้งดินที่เป็นสีดำอยู่หรือกระทั้งสัตว์ทั้งหลายต่างฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา สีสันสดใสของพื้นที่ป่ากลับมาดังเดิมราวกลับไม่เคยกลายเป็นสีดำเลย เด็กสาวยิ้มไปในขณะที่มองไปรอบๆ ที่ค่อยๆ กลับคืนสภาพเดิม

            เด็กหนุ่มยังคงจับมือเด็กสาวอยู่เช่นเดิมพลางมองสภาพโดยรอบที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปมีชีวิต กาลได้พบกับเวทาเมื่อ 5 ปีทีแล้ว ตอนเขาพบเธอครั้งแรกเธอก็อยู่คนเดียวไม่ต่างกลับตอนนี้ ไม่รู้เพราะอะไรทำให้เขาคอยเฝ้ามองการใช้ชีวิตของเธออยู่เงียบ บ้างทีอาจเป็นเพราะตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรกเธอยังคงมีความสุขดีอยู่ก็เป็นได้ รอบๆ ตัวของเวทาตอนนั้นราวกับทุกอย่างดูสดใสไปหมดราวกับจะคงอยู่แบบนั้นชั่วนิรันดร์ แต่ไม่นานเมื่อมีชาวบ้านแถบนั้นผ่านมาพบเวทาก็ได้ชวนเวทาไปอยู่ที่หมู่บ้าน ทว่าไปอยู่ไม่นานทุกคนที่หมู่บ้านต่างรักและเอ็นดูเวทาเป็นอย่างมากแต่เวทาก็คิดถึงป่า คิดถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่เคยเล่นกับเธอ เวลาผ่านไปนานวันเข้าความคิดถึงนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เธอไม่สดใสอีกต่อไป ในตอนนั้นเองกาลถึงได้รับรู้ถึงพลังอันน่ากลัวของเวทา เมื่อเธอเศร้าไม่มีความสุขอีกต่อไปทุกสิ่งทุกอย่างก็พากันเป็นสีดำสนิท หลายชีวิตในหมู่บ้านต้องดับสูญไป คนที่ยังเหลือรอดอยู่ต่างไม่มีใครเข้าใกล้เวทา มองเธอด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ความรักความเอ็นดูก่อนหน้านั้นที่เวทาได้รับพลันเปลี่ยนเป็นความชิงชังทั้งสิ้น เมื่อเธอได้สติว่าตนทำอะไรลงไปทั้งๆ ที่คนในหมู่บ้านต่างก็รักเธอแต่เธอกลับ…ตอบแทนพวกเขาด้วยการพรากชีวิตพวกเขาไปจนหมดสิ้น น้ำตาของเวทาเริ่มไหลรินนัยน์ตาสีแดงสดใสเริ่มมีแววสั่นไหว ก่อนที่เธอจะวิ่งหนีเข้าป่าไป

            กาลซึ่งได้มองเธออยู่ตลอดเวลาก็อดนึกถึงตัวเองที่ไปนำดวงวิญญาณเหล่านั้นมาส่งให้ศาลวิญญาณ เขาเองก็เป็นคนๆ หนึ่งที่พรากหลายชีวิตไม่ต่างกัน กาลจึงทนดูอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เขาเข้าไปหาเวทาในขณะที่เธอกำลังวิ่งเขาก็เข้าไปขวางตรงหน้าเธอ เวทาที่ไม่ทันได้มองสิ่งใดจึงชนเข้ากับแผ่นอกกว้างของกาลอย่างจัง กาลคือยมทูตที่ไม่มีวันตายแน่นอนว่าเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพลังของเวทา กาลพยายามจะกอดเธอไว้แต่เธอเองก็พยายามจะขัดขืนดิ้นไม่หยุดจนกระทั่งเธอสงบจิตสงบใจลงได้เธอจึงหยุดที่จะดิ้นและปล่อยให้คนตรงหน้ากอดเธอต่อไป ความอบอุ่นของอ้อมกอดที่เธอไม่เคยได้สัมผัสทำให้เธออ่อนลงไปมาก ไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองบุคคลตรงหน้า ทั้งคู่ต่างสบตากันกาลเองก็ยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างแผ่วเบาราวกับต้องการปลอบเธอให้หายจากความเศร้านี้ ความอบอุ่นนี้คือสิ่งที่เวทาไม่เคยลืมเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอสงบและมีความสุขอีกครั้งได้ และเมื่อเธอมีความสุขรอบข้างเธอก็พลันมีชีวิตดังเดิม มันสดใสเฉกเช่นเดียวกับตอนที่เขาพบเธอครั้งแรก ณ เวลานั้นกาลก็ได้เข้าใจถึงพลังของเวทาทันที เขาจึงอยู่กับเธอเรื่อยมาคอยมอบความอบอุ่นและความสุขให้แก่เธอ หากเป็นไปได้เขาก็อยากให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป เวทาเองก็รู้ว่ากาลไม่ใช่มนุษย์เพราะเขาไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของเธอเลย แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เธอหมดรักกาลไปได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเธอก็ไม่อาจออกจากความอบอุ่นนี้ได้ เธอไม่สามารถขาดมันได้อีกต่อไป

            วันคืนผ่านไปเวทาเริ่มมีอาการไม่ดีเธอรู้สึกเพลียตลอดเวลา กาลรู้ดีเวลาที่เขากลัวใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เวทากำลังจะตาย เขายอมไม่ได้ที่จะเสียเธอได้ไป เขาพยายามทำทุกทางที่จะทำให้เธอหายแต่แล้วเขาก็ได้เข้าใจว่าพลังของเวทาไม่ได้มีไว้ทำลายแต่มีเพราะมันคือการดูดกลืนพลังชีวิตเพื่อจะต่อชีวิตของเธอ หากเมื่อใดเธอมีความสุขพลังเหล่านั้นก็จะถูกนำออกไปทำให้ทุกอย่างต่างมีชีวิตขึ้นมาได้ ตลอดเวลาเวทามีความสุขมากมายเหลือเกินกับก็มีกาลอยู่เคียงข้าง พลังของเธอจึงถูกปล่อยออกทุกวันหมายความความชีวิตของเธอเองก็สั้นลงทุกวันเช่นเดียวกัน เมื่อกาลได้รู้เขาก็รู้สึกผิดขึ้นไปอีก เพราะเขาทำให้เวทาตาย เพราะเขาคนเดียว แต่ถ้าหากเขาทำให้เวทาไม่มีความสุขเขาเองก็ไม่อาจมีความสุขได้แม้รู้ว่าเวทาจะหาย แต่เธอก็จะไม่สามารถมีความสุขได้เพราะก็มีความสุขเท่ากับเป็นการบั่นทอนชีวิตของเวทาเอง เขาจะทำยังไงดี ควรจะทำยังไงดี ให้เธอมีความสุขและมีชีวิตต่อไปได้…

            กาลบอกเวทาว่าเขาจะไปหาทางมารักษาเธอไปเพียงไม่นานแล้วจะรีบกลับมา ใจจริงเวทาไม่อยากให้กาลไปแต่เขากำลังทำเพื่อเธออยู่ เธอเองก็ไม่รู้จะห้ามยังไง มันคงดูเป็นการเอาแต่ใจตัวเองมากไป เธอจึงจำต้องปล่อยเขาไป กาลเดินทางมาถึงหอสมุดคัมภีร์โบราณ เขาพยายามจะหาวิธีการถ่ายโอนอายุขัยของเขาให้กับเวทา ถ้าหากเวทามีอายุขัยของเขาได้ละก็เธอก็ไม่จำเป็นต้องดูดกลืนพลังชีวิตอีก เธอจะสามารถมีความสุขได้อีกครั้ง…แม้เขาจะไม่สามารถอยู่ดูความสุขของเธอได้ก็ตาม

            ในที่สุดเขาก็พบ การถ่ายโอนอายุขัยของยมทูตจะต้องให้อีกฝ่ายดื่มเลือดตรงหัวใจเพราะเลือดส่วนนั้นจะมีพลังมากที่สุดและเป็นสิ่งที่ทำให้ยมทูตอยู่ต่อไปได้ กาลรีบกลับมาหาเวทาที่กำลังนอนอยู่ลมหายใจของเธอโรยรินเต็มที กาลมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก เป็นความรักที่เขาคงไม่สามารถมอบมันให้กับใครได้อีก ช่วงเวลายาวนานที่ได้มีชีวิตอยู่เรื่อยมาเขาไม่เคยมีความสุขจริงๆ เสียที เธอเป็นคนที่มอบความสุขมากมายให้กับเขาเพราะฉะนั้น…

            "ได้โปรดอยู่เป็นความสุขของฉันต่อไปทีนะเวทา ฉันรักเธอมากนะ…" กาลโอบกอดร่างบางตรงหน้าอย่างแผ่วเบาพลางกระซิบความในใจให้เธอได้ยิน

            ฉึก!

            คมกริซที่เขาเตรียมมาบัดนี้ได้แทงทะลุหัวใจของกาล สีหน้าเจ็บปวดฉายชัดขึ้นมาพร้อมกับเลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลรินออกมาจากปากแผล เลือดหยดแล้วหยดเล่าถูกรองรับด้วยถ้วยแก้วใบงาม มือของกาลที่จับแก้วอยู่เริ่มสั่นน้อยๆ ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง แต่กาลก็พยายามจะนำเลือดนี้ให้เวทาได้ดื่ม ตาของเขาเริ่มพล่ามัวขึ้นเรื่อยๆ ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือ เลือดของเขาได้เข้าไปในร่างของเวทาเรียบร้อยแล้ว กาลพยายามจะพาร่างที่อ่อนแรงเต็มทนของตัวเองโน้มไปหาเวทาและมอบจุมพิตสุดท้ายให้

            'หากเธอมีความสุข…เพียงแค่ความตายมิได้น่ากลัวเลย เลือดของฉันที่เข้าไปในร่างของเธอมันจะยังคงมีชีวิตต่อไปในร่างกายของเธอ เพราะงั้นโปรดจำไว้นะเวทาฉันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ฉันแค่เข้าไปอยู่ในตัวเธอเท่านั้นเอง มีความสุขให้มากๆ นะ ฉันรักเธอมากจริงๆ เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอมีความสุขฉันเองก็มีความสุขเช่นเดียวกัน เราจะต้องได้พบกันอีกแน่ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะอยู่กับเธออีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดใหม่สักกี่ครั้ง…ฉันรักเธอ'

            กาลใช้พลังเฮือกสุดท้ายฝากคำพูดนี้ไว้ให้กับเวทา เมื่อเธอตื่นขึ้นเธอจะได้รับข้อความนั้น เธอจะมีชีวิตต่อไป

 

 

          

            'หากเธอมีความสุข…เพียงแค่ความตายมิได้น่ากลัวเลย เลือดของฉันที่เข้าไปในร่างของเธอมันจะยังคงมีชีวิตต่อไปในร่างกายของเธอ เพราะงั้นโปรดจำไว้นะเวทาฉันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ฉันแค่เข้าไปอยู่ในตัวเธอเท่านั้นเอง มีความสุขให้มากๆ นะ ฉันรักเธอมากจริงๆ เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอมีความสุขฉันเองก็มีความสุขเช่นเดียวกัน เราจะต้องได้พบกันอีกแน่ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะอยู่กับเธออีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดใหม่สักกี่ครั้ง…ฉันรักเธอ'

            เมื่อร่างของเด็กสาวลืมค่อยๆ ตาตื่นขึ้น คำพูดที่เด็กหนุ่มฝากไว้ก็พลันดังก้องให้เธอได้รับรู้ ภาพตรงหน้าของเด็กสาวเริ่มพล่ามั่วมองไม่ชัดอย่างเคย เสียงราวกับแหบหาวไป แม้อยากตะโกนเรียกหาเธอมากเท่าไรก็ไม่สามารถทำได้…

            "ทำไม…ฮื่อๆๆ …ฉันไม่เคยขอให้กาลทำแบบนี้ ฮื่อๆๆ …" เด็กสาวร้องไห้และพูดพร่ำกับตนเองราวกับคนบ้า น้ำตาไหลรินไม่ยอมหยุด ไหลไปเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะไหลออกมาเท่าใดก็ไม่สามารถลบล้างความเศร้าที่สูญเสียคนซึ่งเป็นที่รักไปได้…

            "อึก! …ฮื่อๆ ฉันมีความสุขได้ยังไงกาล…จะมีได้ยังไง ฮื่อๆ …ในเมื่อไม่มีเธออีกแล้ว…ไม่มี ฮื่อๆๆ " เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นและค่อยๆ งอตัวและกอดตัวเองไว้แน่น มือทั้งสองข้างจิกแขนของตนราวกับต้องการให้ความเจ็บปวดนี้บรรเทาความเศร้าในใจให้ลดลง เลือดสีแดงสดเริ่มไหลซึมและค่อยๆ ไหลอาบแขนเธอจนทั่ว แต่ก็ไม่เป็นผลความเศร้าภายในใจไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ไม่นานเด็กสาวก็ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นในที่สุด

            "กาล…ฮื่อ…กาล…กลับมา…ได้โปรด…ฮื่อๆ " เด็กสาวยังคงพร่ำเพ้อเรียกชื่อคนรักราวกับคนเสียสติ ครั้งแล้วครั้งเล่าซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้

            "กาล…ฉันไม่ต้องการ…ฮื่อๆ …ฉันไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่…ฮื่อๆ …เพราะมีกาล…เพราะมีกาล…ฉันถึงอยากจะอยู่…การอยู่โดยไม่มีกาลฉัน…นึกไม่ออก…นึกไม่ออกจริงๆ " เด็กสาวแหงนหน้ามองฟ้า พร้อมกับเอยขอร้อง "ให้กาลมีชีวิตต่อ…ฮื่อๆ …ได้โปรดคืนชีวิตให้เขา…ฮื่อๆๆ …เอาชีวิตฉันไปแทน…คืนกาลมา…คืนมา…ฮื่อๆ " เด็กสาวยังคงร้องไห้ฟูมฟายต่อไปเรื่อยๆ วันคืนผ่านไปเธอก็ยังคงร้องอยู่อย่างนั้น ไม่กิน ไม่นอน ไม่แม้แต่จะลุกไปไหน

            วันคืนผ่านไปเด็กสาวก็ยังคงร้องไห้อยู่เช่นนั้น ป่าที่เคยสดใสรอบๆ พลันเหี่ยวเฉาลงไปเรื่อยๆ และแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เด็กสาวร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งไป ไม่ว่าจะร้องยังไงก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว แต่ความเศร้าก็ยังไม่จางหายไปยังคงเด่นชัดราวกับเพิ่งจะเกิดขึ้น

            เทวดาบนสวรรค์เห็นถึงความผิดปกติของป่าจึงได้ลงมาดู เมื่อลงมาก็พบว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่ราวกับคนเสียสติ แม้เทวดาจะลงมายืนอยู่ใกล้ๆ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลย ยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น เทวดาจึงเอยกับเด็กสาวทันทีที่รับรู้ถึงเรื่องทั้งหมด

            "เขาทำเพื่อเธอขนาดนี้ทำไมเธอยังจะร้องไห้อีก? "

เด็กสาวยังคงไม่สนใจและร้องไห้ต่อไป

            "เขาบอกเธอไว้แล้วไม่ใช่รึว่าถ้าเธอมีความสุขเขาก็มีเช่นกัน ทำไมเธอยังทำให้เขาไม่มีความสุขอยู่อีก? "

            เด็กสาวชะงักไป และค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเทวดา อย่างอ่อนแรง

            "หยุดร้องไห้เสียเถิด เวทา"

            "ฉันไม่รู้…ไม่รู้จะทำยังไงดี ท่านช่วยนำกาลกลับคืนมาได้มั้ย แลกกับชีวิตฉันก็ได้" เด็กสาวเอยถาม

            เทวดาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเอยต่อ "ถึงตัวข้าจะไม่สามารถทำให้เขากลับคืนมาได้ แต่ข้าก็ยังสามารถช่วยเจ้าได้"

            "ยังไง? ในเมื่อกาลไม่มีวันกลับมาแล้ว…"

            "ข้าสามารถทำให้เขาเกิดใหม่ได้ ถึงตอนนั้น เจ้าจะต้องได้พบเขาแน่"

            เด็กสาวเริ่มยิ้มออก เมื่อรู้ว่ายังสามารถพบกาลได้อยู่ แม้จะไม่ใช่ในตอนนี้แต่เธอก็จะรอ รอจนกว่าจะได้พบ จะตามหาจนกว่าจะเจอ ไม่ว่ายังไงก็ตาม

            'กาล…ฉันจะต้องได้พบ…ฉันจะหากาลให้เจอ จะพบกาลให้ได้…ไม่ว่านานแค่ไหน…ทุกข์ทรมานเพียงใด ขอเพียงได้พบ…ได้เจอ ได้อยู่กับกาลอีกครั้ง มันก็ไม่มีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว…ฉันรักกาลนะ'

 

The End

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา