เเม่ลออ

8.5

เขียนโดย Pinny_Bee

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.15 น.

  1 ตอน
  2 วิจารณ์
  3,625 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            เสียงวิงวอนร้องขอชีวิตฟังดูสั่นเครือและจำยอมดังในความมืด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ‘ลออ’ จำต้องยกมือขึ้นไหว้หญิงสาวตรงหน้าเมื่อในมือของเธอมีท่อนไม้ท่อนใหญ่เตรียมจะสังหารเธอได้ในไม่ช้า

                “อีลออ! อีสารเลว! มึงตายซะ” หญิงโฉดตรงหน้าเงื้ออาวุธในมือขึ้นสูงหวังปลิดชีวิตร่างเล็กที่นั่งกราบกรานเธออยู่แทบเท้า ก่อนที่เหตุการณ์ทุกอย่างจะผันแปรและกลายเป็นความมืดมิด...

 

                ลออสะดุ้งตื่นขึ้นมาทั้งเหงื่อที่ผุดเต็มร่าง เธอรีบสำรวจอวัยวะของตนเองทันทีหลังจากเหตุการณ์ที่เธอเห็นนั้นเธอยังจำได้แม่น แต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพบว่ามันเป็นเพียงฝันไปและอวัยวะภายในเธอยังไม่บุบสลาย

                “เกิดอะไรขึ้นหรือแม่ลออ” ผู้เป็นนายงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติเพราะถึงเวลาที่พวกหล่อนต้องทำหน้าที่ทุกๆวันตอนเช้ามืด ลออสะดุ้งและรีบขอโทษโพยอย่างรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนปลุกนายตัวเองตื่น

                “เปล่าเจ้าค่ะ ลออขอประทานโทษนะเจ้าคะ อิฉันแค่ฝันไป”

                “ฉันก็ไม่ได้ถือโทษดอก ดีเสียอีก นี่ก็ก่อนไก่โห่พอดี รีบไปจัดการตัวเองก่อนที่จะถึงเวลาทำกับข้าวกับปลาเสีย”

                “เจ้าค่ะคุณหญิง”เธอโค้งหัวอย่างนอบน้อมและรีบเดินออกจากที่ไปด้วยเสียงแผ่วเบา หญิงแก่มองตามหลังแล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าบ่าวคนนี้ก็มีมารยาทมากเนื่องจากหล่อนก็โดนดัดนิสัยมาตั้งแต่ยังเล็ก ‘เรไร’นั้นเลือกให้เธอมาเป็นบ่าวคนสนิทและจองตัวเสียแต่ยังเด็กเพราะเห็นแววฉลาด ซึ่งก็จริงอย่างที่หล่อนคิดเพราะไม่ว่าหล่อนจะสอนอะไรไป แม่ลออก็ทำตามได้อย่างรวดเร็วและยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ

                หญิงแก่รีบลุกตามไปอย่างช้าๆเพื่อไปที่ท่าน้ำ เธอจะรีบไปอาบน้ำก่อนที่จะได้เห็นพวกบ่าวไพร่อาบกัน โดยเฉพาะบ่าวที่เป็นผู้ชายลงไปอาบน้ำ เธอมักจะอดไม่ได้เป็นอันว่าต้องสั่งสอนอยู่ร่ำไปขณะที่พวกเขากำลังนุ่งแค่ผ้าขาวม้าผืนเดียว

                อีกไม่นานจะมีการแต่งงานของพ่อเทพหรือ ‘เทพกำพล’ ลูกชายคนเดียวของหล่อนกับ ‘ประยง’ หญิงสาวที่เป็นลูกคนเล็กของเจ้าพระยาในวัง เรไรมักกังวลเสมอเรื่องของลูกชายกับแม่ประยง เพราะหล่อนเป็นคนที่ไม่มีความเป็นกุลสตรี เรไรมักจะสนับสนุน ‘กลีบผกา’ ที่เป็นพี่สาวของหล่อนมากกว่า เธอเป็นกุลสตรีและรักษาภาพพจน์ผู้ดีได้มากกว่าประยงนัก ไม่กระโตกกระตากและรี่เข้าหาพ่อเทพลูกของหล่อน แถมเธอยังเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของลออเสียด้วย ทั้งสองจะคุยกันได้สนุกสนานเพราะเป็นเพื่อนต่างฐานะกันและชอบงานเรือน แตกต่างจากประยงโดยสิ้นเชิง

                เมื่อเรไรจัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จเธอก็จีบปากจีบคอพูดบ่นๆให้ลออฟังเมื่อเห็นหญิงสาวและบ่าวไพร่เดินตามกันเข้ามาในอาณาบริเวณบ้านของหล่อนแต่ไกล

                เรไรรีบเดินออกไปต้อนรับถึงหน้าบันไดบ้าน ทันเวลาที่ประยงจะมาถึงพอดี

                “ลมอะไรหอบมาแต่เช้าล่ะแม่คู๊ณ มาทำอะไรกันรึ ไม่กินข้าวมาจากที่บ้านล่ะ”

                ประยงเบ้ปากเพราะรู้ความหมายที่ยายเฒ่าส่งมา แต่ก็ยังยิ้มให้อ่อนหวานอย่างเติมแต่งกลับไป “ก็มาหาพี่เทพน่ะซีเจ้าคะ”

                “พ่อเทพหรือ เขายังไม่ได้บอกหล่อนหรือไรว่าเขาจะไปราชกาลที่อยุธยาเสียสามสี่วัน จะกลับมาอีกทีก็คงจะยาวนาน ฉันว่าหล่อนกลับบ้านหล่อนไปเถอะ กุลสตรีเขาไม่มาหาบุรุษกันแต่ก่อนไก่หรอก”

                หญิงแก่ยิ้มอย่างรู้สึกชอบใจเมื่อเห็นหน้าของหญิงสาวเริ่มขมวดเป็นปม “พี่เทพไปไหนเหตุใดจะไม่บอกประยงเจ้าคะ อีฉันนึกว่าพี่เทพจะไปวันนี้จึงคิดจะมาทำกับข้าวกับปลาให้ แต่อีฉันว่าคงไม่จำเป็นเจ้าค่ะ ลาแล้วนะเจ้าคะคุณแม่” หญิงสาวเน้นคำสุดท้ายให้คนแก่ได้ฟัง แต่ก็รู้สึกเจ็บใจไม่น้อยที่ว่าที่แม่ผัวจะขัดคอได้ขนาดนี้

                แต่เหตุผลจริงๆที่เธอมาที่นี่คือมาหาคนรับใช้ของเธอที่ชื่อลอย เธอเรียกหาหล่อนตั้งแต่เมื่อหลายคืนที่แล้ว แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า คิดแล้วก็เจ็บใจอีแก่นัก น่าจับเอายากรอกปากให้ตายๆไปเสีย!

                แต่ในเมื่อแผนการทุกอย่างที่จะเอาทั้งตัวพ่อเทพกำพลและทรัพย์สมบัติของคุณหญิงเรไร เธอยิ่งต้องใจเย็น เธอจึงสั่งให้คนรับใช้ที่ชื่อลอยเข้าไปค่อยๆต้มสมุนไพรพิษให้ยายแก่นั่นสุขภาพถดถอยทุกๆวัน แต่ไม่ว่าจะเวลาผ่านไปกว่าสองสัปดาห์ ก็ยังไม่เห็นวี่แววของอาการเจ็บป่วยได้ไข้ แถมนางลอยก็กลับหายตัวไปเสียดื้อๆ

                “เดี๋ยว หยุดก่อน”เธอสั่งเมื่อเธอรู้สึกแปลกใจกับบางสิ่งบางอย่างในระหว่างทางที่เธอกำลังเดินกลับ

                “มีอะไรหรือเจ้าคะคุณประยง”บ่าวคนสนิทถามอย่างสอดรู้ แต่ก็ต้องรีบปิดจมูกเมื่อได้กลิ่นพิลึกพิลั่น “เหม็นจังเจ้าค่ะ สงสัยจะเป็นหมาตาย”

                “นั่นซิ เมื่อคราวเดินมาไม่ยักได้กลิ่น อีแพ ไปดูให้หน่อยซิ”

                คนรับใช้นามว่า ‘แพ’ ทำหน้าเหวอ แต่ก็ต้องทำตามที่นายสั่ง เลยตามบ่าวอีกสองสามคนตามไปดูด้วย เมื่อตามกลิ่นไปเรื่อยๆก็แทบจะอาเจียนเพราะกลิ่นแรงมาก

                “พ... พี่แพ”

                “อะไรมึง! เห็นไอ้ซาก... ก”หล่อนหันขวับมาด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ต้องหน้าซีดเผือด ใจตกไปอยู่ที่ตามตุ่ม และขาสั่นพั่บ ก่อนที่จะกรี๊ดออกมา

                “ศพอีลอย!! อีลอยตายแล้ว!”

 

                เมื่อโปลิศมาถึง ทุกคนก็ต้องมามุงดูศพนางลอยตามระเบียบด้วยความสอดรู้ เมื่อบ่าวไพร่มามากเกินไป เจ้าบ้านก็รีบไล่ไปทำงาน จึงเหลือแค่หล่อน ลออ ประยงและบรรดาบ่าวไพร่ของประยง

                “เกิดอะไรขึ้นกับแม่ลอยหรือ”หญิงแก่พูดอย่างสงสารเมื่อเห็นบ่าวไพร่ตายทั้งสภาพที่น่าสยดสยอง หัวเละจนไม่มีชิ้นดีและนอนชอนไชไปทั่วดูน่าสะอิดสะเอียน

                “ดูเหมือนจะโดนทำร้ายจนตายนะขอรับคุณนาย น่าจะตายมาหลายวันแล้วด้วย”

                ประยงเริ่มลนลานเมื่อเห็นโปลิศ เธอกลัวว่าเขาจะถามว่าเหตุใด แม่ลอยที่เป็นบ่าวของเธอถึงมาตายในอาณาเขตบ้านของว่าที่สามี

                “นั่นซีเจ้าคะ ประยงถึงว่า นังลอยไม่กลับเรือนหลายวันแล้ว นึกหาตัวตั้งนาน อีฉันก็นึกว่าหนีกลับบ้านไปแล้ว”

                “อย่างนั้นหรือขอรับคุณประยง หล่อนหายไปเมื่อกี่วันแล้ว”

                “ส...” ในหัวของเธอยิ่งลนลานใหญ่เมื่อได้ยินคำถาม “สามวัน หล่อนออกมาจากบ้านได้สามวันประมาณนั้น ก่อนหน้านั้นแม่ลอยก็ไม่ค่อยมาให้อิฉันเห็นหน้าเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แต่น่าจะประมาณสามวัน”

                “ป... เปล่าเจ้าค่ะ หล่อนไม่อยู่ที่เรือนมาสองอาทิตย์แล้ว”นางแพตอบตามหน้าที่เพราะไม่รู้จุดประสงค์ของเจ้านาย และไม่รู้ด้วยว่านางลอยหายไปไหน ประยงได้ยินก็หันขวับ นึกขัดใจเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องที่เธอให้เอายามาให้เรไรกิน

                “เอาเป็นว่าพวกฉันไม่เกี่ยว เวลาก็ตั้งกะปูนนี้แล้ว กับข้าวกับปลายังไม่ทันได้ทำเลย ฉันคงไม่ว่างมาฟังดอก ที่เรียกมาก็แค่แก้ข้อกังขามิใช่หรือ ประยงขอตัวเจ้าค่ะ”ว่าแล้วเธอก็หันหลังกลับ ปล่อยให้คนที่เหลือกังวลกับศพของนางลอยที่ขึ้นอืดอยู่อย่างนี้ต่อไป

                “เธอพอรู้หรือเปล่าว่าจะหาคนร้ายได้อย่างไร”หญิงแก่ถามด้วยความหวาดหวั่นระตกใจ “ฉันกลัวมันจะเป็นเรื่องลือไปมากมาย ยิ่งคนรับใช้บ้านฉันก็ชอบพูดกันยิ่งกว่าผีเจาะปากมาพูดอีก”

                “ท่าทางจะยากขอรับคุณหญิง”

                “แล้วจารีตนครบาลมันหาคนร้ายไม่ได้เลยหรืออย่างไร! เอ๊ะ!”

                “คุณเรไรเจ้าคะ ลออว่าคุณเรไรขึ้นไปพักบนเรือนก่อนดีไหมเจ้าคะ คุณท่านยังไม่ได้ทานอะไรเลย เดี๋ยวลออไปตามบ่าวมาให้จัดการเรื่องนี้แทนดีกว่า แล้วพวกท่านจะทำอย่างไรกับศพยายลอยรึ”ลออรีบกันตัวของเจ้านายออกมา

                “ประเดี๋ยวพวกกระผมจะจัดการกันเองขอรับ อย่าได้ร้อนใจเลย”

                “ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ”

                เมื่อหญิงสองวัยเดินจากไป นายตำรวจทั้งสองก็ยังมองตามหญิงสาวด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม

           

                “อ้าว พ่อเทพ! ยังไม่ได้ไปอยุธยารึ! ไฉนกลับมาล่ะ!”หญิงแก่ปรี่เข้าไปหาลูกชายโดยทิ้งสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือทั้งหมด ลออจึงก้มลงเก็บเข็มและดอกมะลิที่หล่นกับพื้น ก่อนที่ตาจะเหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่ใต้ถุนเรือนจากร่องไม้

                มีหญิงคนหนึ่งกำลังหันหน้าหันหลังไปมาอย่างลนลานก่อนที่จะมีไพร่ในบ้านวิ่งมาหา หล่อนหยิบถุงยาอะไรบางอย่างให้และหญิงปริศนาก็รับไป

                ‘แล้วอย่าคิดปริปากไปบอกใคร ไม่อย่างนั้นมึงตายแน่ เย็นนี้อีเรไรจะจะไปที่วัด อย่าให้พลาด กูให้ยามึงไปแล้ว มึงก็เตรียมตัวมึงไว้ให้ดี’

                ลออเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขยับปากพูดอะไรกัน

                “ลออ!”

                “ค... คะ เจ้าคะ!”

                “หล่อนทำอะไรอยู่น่ะ”

                “ห... หาเข็มอยู่เจ้าค่ะ สงสัยจะหล่นลงไปข้างล่าง” ลออก้มหน้างุดหลบสายตาของเจ้าบ้านและลูกชายของเรไร

                “ให้พี่ลงไปช่วยหาไหมลออ”

                ลออไม่ชอบเอาซะเลยเวลาที่เทพกำพลนั้นมองเธอด้วยสายตาวาววับ เวลาอยู่ด้วยกันเองเขาก็ชอบเรียกเธอว่าน้องทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ แต่ลออหวังจะได้เป็นลูกแท้ๆของเรไร คนที่เก็บเธอมาเลี้ยงเมื่อยามที่พ่อแม่บังเกิดเกล้าจริงๆของเธอนั้นทิ้งไปตั้งแต่แบเบาะมากกว่า ไม่ใช่น้องของเทพกำพลที่เขาพูดแค่ลมปาก!

                “แน่ะ ไม่ต้องไปหาแล้ว ลออ ไปหาน้ำหาท่ามาต้อนรับซิ พ่อเทพกลับมาเหนื่อยๆ นั่งก่อนสิ แล้วทำไมยังไม่อยู่อยุธยาล่ะ หือ?”

                “เรือกระผมล่มกลางทาง ท่านเจ้าพระยาเห็นท่าไม่ดีจึ่งให้เจ้าคุณหลวงปรีดิ์ไปแทนขอรับ”

                ลออค่อยๆคลานออกมาเพื่อหลบจากวงสนทนาไป ในขณะที่นายทั้งสองกำลังคุยกัน ในใจก็ร้อนรนอยากจะบอกนายของตัวเองเหลือเกินว่าวันนี้ยังไม่ต้องรีบไปวัด ก็ได้แต่หวังว่าลูกชายของท่านจะรั้งไว้ทัน

                “พี่ลออ”

                “จ๊ะ!”เธอหันหลังกลับไปตามเสียงเรียก “มีอะไรเหรอกลอย... เออนี่! พอดีเลย คุณท่านกลับมาจากการไปราชการน่ะ คุณหญิงให้ไปเอาน้ำมาให้ พี่วานกลอยหน่อยนะจ๊ะ” ว่าแล้วเธอก็วานทันทีที่เห็นบ่าวคนที่จ้างให้คนไปดักคุณหญิงระหว่างทางไปวัด เด็กหญิงกลอยได้แต่พยักหน้างงๆและทำตามทันทีที่เห็นลออวิ่งไป ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

                ลออเว้นระยะห่างพอสมควรแต่ก็เห็นคนคนนั้นชัดเจน เธอจำได้ว่าหญิงคนนี้น่าจะเป็นบ่าวที่เรือนเล็ก เธอจะทำหน้าที่เฉพาะตอนที่แม่ประยงหรือกลีบผกามาพักที่นี่เท่านั้น ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นประยงเสียมากกว่า ดูท่าทางเธอนั้นรีบร้อนและลุกลี้ลุกลน แล้วเธอก็หยุดเดินเพื่อคุยกับใครซักคน ลออจึงเข้าไปใกล้ๆและเงี่ยหูฟัง

                “เตรียมทั้งคนทั้งอาวุธพร้อมแล้ว กะจะให้อีแก่นั่นตายๆไปเลย แกก็อย่าลืมค่าจ้างให้พวกฉันแล้วกัน”

                “เออๆๆ รีบเอาไป นี่ค่ามัดจำ ถ้าทำให้อีแก่นั่นตายไปได้คุณประยงจะมีให้มากกว่านี้อีก อย่าลืมแล้วกัน แล้วเอาศพมาทิ้งไว้แถวๆบ้านนี่ให้เหมือนศพอีลอยแล้วกัน”

                ประยง! แม่ประยงจ้างให้คนพวกนั้นพยายามฆ่าคุณเรไร แล้วก็ฆ่าคนที่ชื่อลอยด้วย!

                ลออเบิกตากว้างแล้วรีบออกวิ่ง ใบไม้แห้งและพื้นดินดูเป็นใจที่จะไม่ออกเสียงกรอบแกรบให้คนทั้งหลายได้ยิน เหงื่อกาฬเริ่มผุดออกจากหน้าผากด้วยความตระหนก หากวันนี้คุณเรไรออกจากบ้าน ก็ต้องตายแน่!

                ลออรีบวิ่งขึ้นเรือนจนเรไรต้องหันมาเอ็ด แต่ก็เบาเสียงเมื่อเห็นหน้าลออนั้นตระหนกมาแต่ไกล

                “หล่อนจะรีบอะไรนักหนาลออ”

                “ประทานโทษเจ้าค่ะ แต่ลออไม่รีบไม่ได้จริงๆ”

                “มีเรื่องอะไรล่ะหือ?”เทพกำพลถาม อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นคนอย่างลออดูรีบร้อนและไม่มีสติ

                “ลออว่าเย็นนี้คุณหญิงอย่าเพิ่งไปวัดดีไหมเจ้าคะ อ... เอ่อ”เธอเงียบลงเมื่อคิดถึงเหตุผลที่จะยั้งผู้เป็นนายไม่ออก แต่ก็พยายามคิดหาข้ออ้าง เพื่อตัวของคุณหญิงเอง!

                “อะไร มันมีอะไรล่ะหื๊อ?”หญิงชราถามเสียงสูง “ทำไมต้องยั้งไม่ให้ฉันไปทำบุญล่ะ ก่อนหน้านี้ก็เห็นดีเห็นงาม แล้วไหนมาบอกว่าอย่าเพิ่งไป”

                “ก... ก็... ลออว่า... นี่มันก็เย็นแล้ว ลออเกรงว่าวันนี้พระท่านจะติดกิจนิมนต์ที่อื่นเจ้าค่ะ เราก็ไม่ได้นัดแนะท่านไว้ ไปพรุ่งนี้จะดีไหมเจ้าคะ แล้วก็จะได้เอาเครื่องเพลไปถวายด้วยเจ้าค่ะ”ลออเงียบไปเพราะไม่อยากโกหกต่อ

                “ว่างั้นรึ... อืม ความคิดดี... แต่หล่อนยังไม่ได้บอกเลยนะว่าหล่อนจะรีบร้อนเพราะอะไร”

                “อ... รับประทานโทษเจ้าค่ะคุณหญิง แต่อิฉันบอกไม่ได้จริงๆ”ลออก้มหน้างุดอย่างคนทำความผิด เทพกำพลก็ลอบยิ้มขำๆด้วยความเอ็นดู  เรไรไม่ทันมองก็ได้แต่พยักหน้าไป

                “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ หล่อนจะไม่บอกก็ไม่เป็นไร เออนั่นซิ เมื่อตะกี้นังกลอยมันอยู่นี่ แล้วตอนนี้มันหายหัวไปไหนแล้วล่ะ สงสัยอยู่ข้างล่าง”ว่าแล้วหญิงแก่ก็ผุดลุกขึ้น ในใจนั้นไม่ทันคิดว่าเทพกำพลกำลังนั่งอยู่ข้างๆ ลออที่จะลุกตามไปก็โดนปรามให้นั่งอยู่ที่เดิมไป จึงได้แต่ก้มหน้างุดไม่อยากสนทนากับคนที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ไก่แจ้ คบหญิงไปทั่วพระนคร ก็คงจะมีแต่สองพี่น้องที่ชื่อเหมือนดอกไม้นั่นล่ะมั้งที่ยังรักเขาได้ลง

                “เย็นนี้พี่ไม่รู้ว่าลออจะว่างหรือไม่” คนนั่งอยู่ข้างบนเปิดประโยคสนทนา ลออเงียบไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เมื่อเขาเห็นคู่สนทนาไม่ตอบ เขาจึงพูดต่อ “ช่วงนี้พี่รู้สึกเมื่อยๆตัวบอกไม่ถูก ไม่ค่อยมีแรงเลย คุณแม่บอกว่าลออน่ะนวดดีนวดเก่ง”

                “เมื่อยตัวหรือเจ้าคะ สงสัยโรคกะล่อนคงกำเริบ เลยเกิดเมื่อยตัวเช่นนี้ คงต้องใช้ไม้หวายดักมันออก”

                “ลออบอกว่าลออจะใช้มันนวดพี่หรือ”

                “เปล่าเจ้าคะ อิฉันคิดอยากจะให้มีคนไล่ไอ้โรคนี้ออกไปเจ้าคะ เผื่ออาการจะทุเลา”

                “ลออ” เทพกำพลพูดเสียงเหนื่อยใจ “นี่น้องรังเกียจพี่ขนาดนั้นเชียวขนาดที่ไม่ยอมแตะตัวเลยหรือ แต่คราวนี้พี่ปวดตามตัวจริงๆนะ จะให้กลอยเป็นคนทำให้ก็ไม่ดี ไม่อยากใช้เด็ก”เขาอ้าง

                “เลยอยากอิฉันแทนหรือเจ้าคะ ลออว่าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ คุณหญิงบอกไม่ให้แตะเนื้อต้องตัวชาย”

                เทพกำพลเงียบไป แต่เพราะเขาเองเป็นคนทำให้ลออชังน้ำหน้าด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งซึ่งเขาก็ไม่รู้... เลยไม่รู้จะทำอะไรกับอาการที่เป็นมาช่วงหลายวันนี้

               

                ยามดึกสงัด นางไพร่กำลังพาร่างที่เริ่มชราเดินกลับมาอย่างเหนื่อยแรง หล่อนเพิ่งโดนประยงเรียกไปด่าหลายชุด ในใจก็อยากด่ากลับเหลือเกิน และอีกใจก็อยากจะด่าเจ้าของบ้านนี้กลับแทบตายเพราะอยู่ดีๆก็เกิดไม่อยากไปวัดขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อหล่อนกลับถึงเรือนของตัวเองและปิดประตูอย่างไม่ทันระวังและดูให้แน่ใจว่าในห้องนั้นมีคนแปลกหน้านั้นอยู่ด้วยหรือไม่  และเมื่อหล่อนหันไป หล่อนก็ร้องว้ายอย่างตกใจ

                “แก! แกเป็นใคร!”หล่อนถามกลัวกลัวและแหกปากร้องลั่นเพื่อจะให้มีคนได้ยิน “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! โจรเข้าบ้าน”

                “มึงหุบปากถ้ายังไม่อยากตาย อีแก่!”คนในชุดมอซอมีผ้าขาวม้าปิดหน้าเงื้อเหล็กแหลมจ่อคอหญิงวัยกลางคนที่มีความกลัวเกาะคืบขึ้นมาตามขาจนสั่นพั่บ

                “ก... แกต้องการอะไร เงิน! เงินหรือ ฉันไม่มีหรอกนะ แต่ฉันพาแกขึ้นไปปล้นบนเรือนใหญ่ได้! เงินของอีเรไรเจ้าของเรือนไง!”หล่อนทำใจดีสู้เสือและหยิบยื่นข้อเสนอ

                “เงินหรือ...”คนแปลกหน้าเงียบไป หญิงแก่รู้สึกดีใจชั่วขณะ ก่อนที่จะชาสันหลังวาบเมื่อเหล็กแหลมนั้นจ่อเข้ามาจนติดลำคอ “กูไม่อยากได้เงินมึง มึงบอกมาว่ามึงมียาอะไร”

                “ฝ... ฝิ่นจ๊ะฝิ่น”

                “อยู่ไหน!”

                “ย... อยู่ในหีบ ว๊าย”หญิงแก่ตกใจเมื่อแรงมหาศาลลากคอหล่อนไปตาม และเมื่อฝ่ายตรงข้ามเปิดเจอถุงยาฝิ่นในหีบจริงๆ หล่อนก็ท้วงขึ้นมา “แก... อยากได้ยาก็เอาไปเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ”

                ผู้บุกรุกหันกลับมาตาเขียว “ของอีประยงใช่ไหม อีคนเลวนั่น” หญิงแก่พยักหน้ากลัวๆเมื่อได้ยินคำถาม น้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นดวงตาของคนใต้ผ้าขาวม้า ปากก็ไม่มีแรงจะร้องขอชีวิต จึงได้แต่อยู่เงียบรอความตายที่เพิ่งเสียบทะลุลำคอไปเมื่อครู่

                “มึงมันเป็นแค่คนเลวที่ไม่รู้จักคุณคน มึงไม่น่ามีชีวิตรอดมาจนแก่ปานนี้เลยนะ!”

               

                “ผกา ผกา แม่ผกาของพี่”

                หญิงสาวเจ้าของชื่อลืมตาขึ้นเต็มตื่นเพราะจำเสียงนี้ได้แม่นนัก

                “พี่เทพ!”หล่อนโผเข้าใส่ร่างเจ้าคุณที่เพิ่งลักปีนหน้าต่างห้องเธอเข้ามา “พี่เทพมาได้อย่างไรเจ้าคะ ผกาไม่คิดว่าพี่เทพจะรีบกลับมา ผกาคิดถึงพี่เทพมาก”

                “จ๊ะ พี่ก็คิดถึงผกานะ แต่ช่วงนี้พี่ขยับไปไหนก็ไม่ค่อยสะดวกเอาเสียเลย ตัวมันปวดๆเมื่อยๆชอบกล คงมาหาผกาได้ไม่บ่อยนัก”เขาเอ่ยเสียงอ้อน แม้เขาจะไม่ได้โกหก แต่ก็ไม่ได้ทำท่าสนใจเธอเท่าไหร่ แต่หญิงสาวที่กำลังหลงก็ไม่ได้เอะใจอะไรซ้ำยังดีใจที่ชายคนรักกลับมาหา แต่ความจริงแล้ว เทพกำพลนั้นไม่ได้รักใคร่ลูกสาวบ้านนี้เสียสักคน เขาแค่กำลังรอเวลาให้ประยงคนน้องขอถอนหมั้นเองเพื่อให้เธอไม่โดนตราหน้าว่าเป็นหม้ายขันหมาก แต่เขาจะโดนจารึกไว้ว่าเป็นคนใจร้าย นึกควบทั้งพี่ทั้งน้องจนต้องโดนขอถอนหมั้น

                แต่เพื่อคนที่เขารักเพียงคนเดียวมาตลอด เขายอมที่จะเป็นคนเลวให้ได้

                “ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่พี่เทพมาหา ผกาก็ดีใจแล้ว”เธอกอดชายหนุ่มแน่นกว่าเดิม ก่อนที่จะฉุกใจคิดได้เมื่อเขาครางโอยออกมาเบาๆ “ตายจริง ผกาขอโทษเจ้าค่ะ พี่เทพเมื่อยตัวตรงไหนบ้าง มา เดี๋ยวผกานวดให้ดีกว่า”ว่าแล้วเธอก็จูงเขามาล้มนั่งที่เตียงเบาๆพร้อมกับค่อยๆนวดเฟ้นที่แขนของชายคนรัก

                “ไม่เป็นไรจ๊ะผกา พี่ไม่เป็นอะไรมากดอก จะห่วงก็แม่ผกาซิ เห็นช่วงนี้ซูบซีดไปมากเลยนะ คนดีของพี่”เขาเอ่ยพร้อมกับดึงมือของหญิงสาวไปกุมไว้ หญิงสาวได้แต่ขัดเขินก่อนที่ทั้งคู่จะสะดุ้งพร้อมกันเพราะประตูห้องของกลีบผกาถูกเปิดออกอย่างแรงและตามมาด้วยเสียงกรี๊ดแสบหู ซึ่งเทพกำพลไม่ได้แปลกใจอะไรแถมเกือบจะหุบยิ้มแทบไม่ทัน

                “พี่เทพ!! พี่เทพทำไมมาอยู่กับพี่ผกา!!”

                กลีบผกาลนลานและเริ่มกระถดถอยหลังเพราะประยงพุ่งเข้ามาไม่สนใจใครทั้งนั้น ทั้งบ่าวไพร่ก็วิ่งมาดูกันที่นอกห้องให้วุ่นวายจนนางแพออกปากไล่จึงหนีไปตามหน้าที่ แต่ก็ไม่วายถกหัวข้อนี้ขึ้นมาเถียงกันเนืองๆ

                “ไหนพี่เทพบอกว่าจะแต่งงานกับประยงอย่างไร!! เหตุใดถึงมาอยู่กับอีพี่สาวของฉันแทนล่ะ!! เลวที่สุด!”ประยงพุ่งเข้าหาฝ่ายชายและระดมกำลังทั้งจิกทั้งข่วนทำร้ายคนตรงหน้าด้วยความเคียดแค้น การถูกคนรักหักหลังยากที่จะอภัยและทำใจได้ คุณหลวงเทพไม่ขัดขืนและปล่อยให้หล่อนกระทำแม้ร่างกายจะเจ็บปวดเจียนแหลกลาญ

                “พอ! พอเสียให้หมด! ทุกคนเลยเจ้าค่ะ!”

                ทั้งเทพกำพล ประยงและกลีบผกาหันขวับไปตามเสียงเรียก ลออนั่นเอง

                “ลออ! มาอยู่อะไรที่นี่!”คุณหลวงเห็นหน้าลออก็เริ่มร้อนใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ ขณะนี้ลออนั้นมองตนอย่างหยามเหยียดและรังเกียจ ซึ่งปกติ เธอจะมองนิ่งๆมากกว่า เขาจึงรู้สึกกลัวลออไม่น้อยในตอนนี้

                “ลออเห็นคุณหลวงย่องออกมาจากเรือนดึกดื่นลออเลยตามมาดูห่างๆ ไม่คิดว่าคุณหลวงจะมาทำอะไรบัดสีแม้แต่ในเรือนคู่หมั้นคู่หมายเลยนะเจ้าคะ”

                “ลออ! หล่อนพูดแบบนี้ไม่กลัวฉันจะลงหวายรึ! กลับไปซะ ไม่ใช่ธุระของหล่อน!”เขาไม่ได้โกรธ แต่กำลังเสียใจ

                กลีบผกาแทบร้องไห้หลังจากที่เห็นว่าลออนั้นมีหน้าตาที่ดูน่าเกรงขาม ทั้งน่ากลัวในเวลาเดียวกันเหมือนกับลออนั้นจะจงเกลียดจงชังคุณหลวงและประยงเป็นพิเศษ กลีบผกาจึงถอยหลังไปเรื่อยๆจนชิดขอบเตียง

                “จะลงหวายสักร้อยรอบก็ไม่ทำให้อีลออคนนี้กลัวดอกเจ้าค่ะ! หากวันนี้ลออไม่ได้ทำให้คุณหลวงบาดเจ็บน่าจะน่ากลัวมากกว่า!”

                “กรี๊ด!! อีลออ!! มึงจะทำอะไร!”ประยงกรี๊ดเมื่อลออย่างเข้ามาใกล้และชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าหล่อนหนึ่งทีจนหน้าหงาย สลบไปกับที่ กลีบผการ้องอย่างตกใจและมาประคองน้องสาวไว้ เมื่อลออจะหันไปทางคุณหลวงต่อ เทพกำพลก็คว้าหมับเข้าที่แขนลออแล้วลากหล่อนลงจากเรือนไปทั้งกึ่งวิ่ง เมื่อมาถึงเกือบครึ่งทาง ลออก็สะบัดมือของเจ้าคุณที่อ่อนแรงออกอย่างง่ายดาย

                “ลออ! หล่อนไม่กลัวฉันจะโบยจริงๆน่ะหรือถึงกล้าทำแบบนี้!”

                “อีฉันไม่กลัวดอกเจ้าค่ะ!”

                “ถึงหล่อนรู้ว่าฉันจะไม่โบยหล่อนแต่ยังไงแม่ประยงก็ต้องโบยหล่อนแน่!”

                “อีฉันก็ไม่กลัวคนเลวพรรคนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ!”

                “หล่อนมีอะไรไปกล่าวหาเขา”เทพกำพลขมวดคิ้วเป็นปม

                “แล้วเจ้าคุณรู้ไหมเจ้าคะว่าเย็นนี้ลออรั้งคุณหญิงไม่ให้ไปวัดทำไม!”

                เทพกำพลยิ่งฉงนเข้าไปใหญ่ แต่ก็ยังอยากรู้ว่าทำไมและมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องเมื่อตอนเย็น “ยังไง”

                “ยังไงหรือเจ้าคะ! แม่ประยงของคุณหลวงสั่งให้คนไปลอบทำร้ายคุณหญิง คงกะให้ตายเทียว!”

                “ประยงจะทำหรือ! หล่อนมีอะไรเป็นหลักฐาน!ประยงจะทำไปทำไม!”เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่คนอย่างลออนี่หรือโกหกกันได้?

                “ที่แม่ประยงของคุณหลวงทำก็เพราะคุณหลวงเทียวเจ้าคะ! คุณเรไรไม่อยากให้หล่อนแต่งงานกับเจ้าคุณแต่ท่านกับแม่ประยงยังสานสัมพันธ์กันต่อและหล่อนก็คิดการใหญ่ แล้วเจ้าคุณไม่ต้องถามว่าลออไปรู้มาจากไหนเพราะลออไปแอบฟังคุยกันมา หล่อนใช้ให้บ่าวเรือนเล็กบ้านคุณท่านเป็นคนทำเจ้าค่ะ!”

                คุณหลวงอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแม่ลออผู้สงวนคำพูดร่ายประโยคยาวๆให้เขาฟัง“หล่อนไปได้ยินมาตอนไหน”

                “เมื่อสองสามยามผ่านมานี้เอง ลออออกมาหากลอยแล้วก็เจอบ่าวคนนั้นเดินออกมาท่าทางร้อนรน ลออจึงตามไป แล้วก็ตามคาด พอฟังพอจับความได้ลออก็เดินกลับมาแล้วก็เห็นคุณหลวงทำลับๆล่อๆอยู่แถวศาลาส่องบัว ลออเลยแอบดูเจ้าคุณอยู่สองนานจนเจ้าคุณย่องออกไปนั่นแหละเจ้าค่ะ”

                “แล้วบ่าวคนนั้นมันเป็นใคร หล่อนนำฉันไปเดี๋ยวนี้เลย”

                ลออขมวดคิ้วเหมือนกับจะบอกว่า มีสิทธิอะไรมาสั่ง แต่หล่อนก็นำไปแม้จะเกลียดเจ้าคุณขนาดไหนก็ตาม

                ยามดึกสงัด ที่เรือนไพร่ใกล้ท่าน้ำนั้นดูไร้สัญญาณผู้ที่ยังตื่น คุณหลวงเดินเข้ามาทั้งมองซ้ายมองขวา กลัวจะมีผู้ตื่นมาเห็นเหลือเกิน แต่ไม่ทราบว่าเหตุใด เจ้าคุณนั้นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ถูก และก็เป็นไปตามคาดเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป

                หญิงแก่ตาเบิกค้างลิ้นจุกปากและมีเหล็กแหลมยาวสองคืบปักคอจนทะลุไปอีกฝั่ง คุณหลวงตกใจและไม่มีเสียงร้องออกมา แต่ด้วยความอยากรู้ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ในขณะที่ลออทำท่าจะเป็นลม เขาก็หันกลับมาและจะไปรับตัว แต่หล่อนก็เกาะประตูไว้ ก่อนที่ต่อมา สีหน้าของเธอดูเปลี่ยนไปจากตอนแรก

                ทั้งหวาดกลัว หวาดระแวง รังเกียจ และดูไม่เหมือนลออเมื่อสักครู่ เธอกรี๊ดออกมาสุดเสียงทั้งน้ำตาที่เริ่มคลอ

                “คุณหลวง! คุณหลวงฆ่าคน!! คุณหลวงฆ่าคนตาย!”

                คนที่ถูกกล่าวถึงทั้งตกตะลึงและพูดไม่ออกที่อยู่ดีๆ ตัวเองก็โดนยัดข้อหาฆ่าคนตายเข้า

                “ล... ลออ ทำไมพูดอย่างนั้น หล่อนก็เห็นไม่ใช่หรือว่าฉันไม่ได้ทำ เราเข้ามาพร้อมกัน”เขาเดินช้าๆเข้ามาหาเธอเพราะเริ่มหมดแรง ลออส่ายหน้าเหมือนไม่เชื่อและเดินถอยหลังเพื่อจะหนี

                “ไม่จริงเจ้าคะ คุณหลวงฆ่าคนตาย”

                “พี่ไม่ตลกนะลออ!”

                แต่ลออก็ยังถอยหลังหนี เทพกำพลใจหายวาบเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ทำท่าทางลวงหลอก เธอกำลังรู้สึกจริงๆ

                เธอคิดว่าเขาเป็นฆาตกรหลังจากที่ฟุบลงไป!

                บ่าวไพร่เรือนข้างเคียงรีบวิ่งมาดูก็เห็นคุณหลวงกำลังเดินตามลออที่เดินกระถดหนี เมื่อมีคนเข้าไปเห็นในบ้านหลังเล็กๆก็ร้องว้ากด้วยความตกใจ “อีเพ็งตายแล้ว อีเพ็งโดนฆ่าตาย!!”

                คุณหลวงหันขวับไปดูบ่าวไพร่ที่มากหน้าหลายตาขนาดนี้ ทุกคนนั้นทำท่าหวาดกลัวเขา

                “ไม่... ไม่ฉันนะ ฉันไม่ได้ฆ่าหล่อน ฉันเดินมาดูพร้อมลออ หล่อนก็เห็นหญิงคนนั้นพร้อมๆฉัน”

                ถึงแม้เทพกำพลจะไม่ได้โกหก แต่ก็ดูเป็นคำแก้ตัวมากกว่าเพราะท่าทางของลออมันไม่ใช่เลย หล่อนดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนมองไปทางลอออย่างต้องการคำตอบซึ่งเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

                คุณหลวงหันซ้ายหันขวาอย่างขาดที่พึ่ง คนที่เห็นความจริงก็กลับกลับตาลปัตรไปเช่นนี้ เขาจะทำอย่างไรดี!

                “แม่ลออ! หล่อนเป็นอะไรขึ้นมา! หล่อนเห็นตอนที่ฉันฆ่าคนจริงหรือ! ทำไมมาบอกว่าฉันเป็นคนฆ่า”

                “ก...”เสียงเธอขาดไปและสะอื้นออกมา “ลออไม่เห็นตอนคุณหลวงฆ่าแต่คุณหลวงยืนอยู่เช่นนั้นจะให้ลออคิดอย่างไรล่ะเจ้าคะ”เธอจ้องหน้าเขากลัวๆ และหยุดเดินเพราะเกิดสะกิดใจ... คุณหลวงดูไม่ได้เป็นคนฆ่า

                “ไม่จริง!! อย่าเป็นแบบนี้สิแม่ลออ! เมื่อกี้หล่อนเป็นลม! หล่อนเป็นอะไร! ผีตัวไหนมันเข้าหล่อน!”คุณหลวงพุ่งไปจับไหล่ทั้งสองข้างของลออเขย่าๆ เธอร้องอย่างหวาดกลัวและพยายามวิ่งหนี บ่าวไพร่ทั้งหลายวิ่งมาลากตัวคุณหลวงกับลออแยกกัน แต่เขาก็ยังไม่ยอมแม้จะหมดแรง เขาไม่ใช่ฆาตกร! “อะไร! หล่อนจำให้ได้! ฉันไม่ได้ทำ! ทำไมหล่อนจะจำไม่ได้! มีผีที่ไหนมันสิงลออ!”เขาจำได้ดีถึงสายตาที่น่ากลัวเมื่อตอนที่อยู่ในเรือนของกลีบผกา ดูเป็นคนละคนกับตอนนี้ ต่างราวฟ้ากับดิน!

                “คุณหลวงขอรับ! ใจเย็นๆก่อนขอรับ! แม่ลออกลัวหมดแล้ว!”

                “ลออ! คิดเหรอว่าพี่จะฆ่าคน! ขนาดจะโบยยังไม่คิดจะโบยด้วยซ้ำ!!”เขาตะโกนหาคนที่ตอนนี้สั่นเป็นลูกนกอยู่อีกฝั่ง ในใจก็นึกกลัวว่าถ้าหากตอนนี้เขากลายเป็นคนร้ายในสายตาคนทั่วไปรวมทั้งเธอ

                เขาก็ไม่ได้ความรักจากคนที่เขารักมาตลอดอีกชั่วชีวิต

               

                ลออตัวสั่นงกด้วยความกลัว ภาพในอดีตไหลย้อนกลับมา ความหลังเมื่อคราวก่อนที่เธอจะเกลียดคนตรงหน้านี้

                เขาปล่อยมือเธอให้ตกบันไดโดยที่มีประยงเป็นคนดึงเขาไปกอดต่อหน้า ทั้งตอนที่เธอหัวกระแทกพื้น เขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีตัวอะไรตกลงมา

                หลังจากนั้นเธอก็มีฝันประหลาดๆมาตลอดแม้ตอนที่เธอเพิ่งวูบไปเมื่อครู่

                ชายร่างเล็กในชุดมอซอคลุมผ้าขาวม้าใช้เหล็กแหลมแทงทะลุคอหญิงแก่จนตาย...

                ลออสะดุ้งเฮือกและคิดแยกแยะระหว่างความจริงกับความฝัน แต่เธอก็พบว่าคนที่ยืนตรงนั้นกลับเป็นคนที่ปล่อยเธอตกบันไดหัวฟาดพื้น

                ในหัวไม่ลังเลแม้แต่นิดที่จะให้เขาเป็นคนร้าย

                “อะไร! เกิดอะไรขึ้น!”คุณหญิงเจ้าของบ้านวิ่งมาหน้าตาตื่นพร้อมกับบ่าวไพร่ที่ตามมาด้วย “พ่อเทพ! อยู่ไหน!”

                “เจ้าคุณแม่! ช่วยกระผมด้วย! กระผมไม่ได้เป็นคนฆ่า!”เทพกำพลที่โดนกดให้นั่งกับพื้นหันมาหาคนเป็นแม่ด้วยความกังวล ใบหน้านั้นซีดเผือด เมื่อบ่าวไพร่ทั้งหลายเป็นเจ้าของเรือนใหญ่ก็ปล่อยตัวลูกชายให้เป็นอิสระ

                “เกิดอะไร ว่ามาซิ”

 

                สามวันต่อมา คุณหลวงกลายเป็นคนที่โดนตราหน้าว่าเป็นฆาตกรและโดนสั่งพักราชการไปเพราะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด พยานบุคคลอย่างลออนั้นก็ให้การได้ไม่ครบถ้วนเหมือนเธอต่อเรื่องราวในหัวไม่ได้ แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นคืออาการของเทพกำพลที่แย่ลงจนเดินไม่ได้ และเกือบจะขยับแขนไม่ขึ้น ยามตื่นก็หน้าตาซีดเซียวกินข้าวแทบไม่ได้ ยามหลับก็พร่ำเพ้อถึงลออไม่หยุด

                หลังจากที่ลออไปชกหน้าประยงจนหงายได้หนึ่งคืน รุ่งเช้า ลออโดนเรียกให้ไปโดนโบย ซึ่งเธอก็ยอมรับโดยดีและโดนหวดไปสองยก ยกละสิบที เพราะประยงเป็นผู้มีอำนาจมาก ลออได้แต่เงียบและไม่พูดอะไรถึงแม้ร่างกายจะร้าวระบม  ใครมาคุยด้วยก็ไม่คุย แม้คุณหญิงเรไรจะเรียกเธอไปคุยเธอก็ไม่คุยจนกระทั่งวันนี้ เธอก็ยังไม่คุย คุณหญิงจึงได้แต่ปล่อยให้อยู่กับเทพกำพลที่ตอนนี้เดินไม่ได้

                “แม่ลออ เจ็บไหม”เขาถามด้วยความห่วงใย ใบหน้าของหญิงสาวซีดเซียวและดูไม่มีแรง แต่เธอก็นั่งฟุบอยู่นิ่งๆใกล้เตียงของเขา แต่ก็ยังห่างไกลเมื่อเธอนั้นเกลียดเขานัก

                แผลโดนหวดยังคงเด่นชัดและเป็นรอยเลือด หลังจากวันที่เธอโดนลงหวาย เจ้าคุณก็ขอยกเลิกการหมั้นกับประยงทันที ทั้งสองพี่น้องเขาก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีกเลยและสารภาพไปตามตรงว่าที่เข้าไปยุ่งกับกลีบผกา ก็เพื่อจะยกเลิกการหมั้น ประยงร้องไห้แทบเป็นบ้าหลังจากได้ยินคำบอกเล่าของเทพกำพลและทำร้ายเขาไม่หยุดกระทั่งบ่าวมาช่วยลากออกไป

                ในตอนนี้เขาอยากจะคุยกับเธอเหลือเกิน เธอนั้นไม่พูดไม่จา ตอนป้อนข้าวให้เขาเธอก็เงียบสงบราวรูปปั้น เมื่อเขาจะเอื้อมมือไปแตะตัวเธอก็เบี่ยงตัวหลบและกระเถิบห่างไปอีกหลายคืบ ทุกอย่างในหลายวันนี้ทำให้เทพกำพลแทบร้องไห้

                แต่จะรู้หรือไม่ว่าแต่ละนาทีหลังจากที่เธอโดนหวด ภาพต่างๆก็ประดังประเดมาในหัวทั้งหมดไม่หยุดยั้งจนเธอแทบเป็นบ้า

               

                เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว

                ในขณะที่ลออกำลังจะยกผ้าไปซัก ที่หลังเรือนใหญ่ แม่ประยงกำลังหยิบยื่นยาหลายถุงนี่ให้ ลอย นางบ่าวที่ตายไปแล้ว

                ลออนึกแปลกใจจึงแอบฟังอยู่จนเข้าใจและตกใจทั้งเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าแม่ประยงคนนี้จะเลวได้ขนาดนี้

                เธอกล่าวถึงคุณหญิงเรไรว่าเป็นคนขัดขวางความรัก อยากให้นางลอยนั้นไปวางยานี้ให้คุณหญิงทุกๆคืน ใส่ในน้ำผลไม้หรือชาให้คุณหญิงทุกๆวันและร่างกายหล่อนจะค่อยๆเป็นอัมพาต จนตายไปในที่สุด

                ลออว่าจะเป็นคนไปเอายานั่นทิ้งทุกๆวัน แต่ก็มีเหตุการณ์ทำให้เธอเปลี่ยนใจ เมื่อเพื่อนรักของเธอนั้น กลีบผกา เล่าให้ฟังถึงคุณหลวงว่าอย่างไร เขาเจ้าชู้ขนาดไหน ทั้งได้ใจเธอไปแล้วก่อนประยงแท้ๆ แต่ก็จะแต่งกับประยงแต่เขาก็ไม่ได้ยั้ง ยังมีแม่นวล แม่แสง แม่กระถินหรืออีกสารพัดให้ปวดใจ

                เธอไม่ได้เอายาไปทิ้ง แต่เธอเอายาไปให้คุณหลวงแทนต่างหาก

                หลังจากนั้นคุณหลวงก็เริ่มมีอาการระยะต้นของการอัมพาต ในขณะที่คุณเรไรยังแข็งแรงดีอยู่ทุกประการ

                จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังเปลี่ยนหม้อยา นางลอยที่สงสัยอยู่แล้วก็มาพบเห็นเข้า หญิงแก่กระชากร่างเล็กของลออให้ปลิวไปตามแรงได้ไม่ยาก ภายนอกนั้นฝนตกหนัก นางลอยมาทั้งไม้ท่อนใหญ่ หญิงสาวอ้อนวอนขอชีวิต แต่หญิงแก่ไม่ปราณีและฟาดหัวเธอเข้าเต็มแรง

                แต่แรงคนแก่หรือจะทำอะไรคนหนุ่มได้ และจะรู้หรือไม่ว่าการตีครั้งนี้จะเป็นการปลุกอสูรร้ายในร่างกายของลออออกมาแทน

                ลออแกล้งสลบไป คมไม้นั้นครืดกับหน้าผากจนเลือดออก หญิงแก่ย่ามใจและเดินไปทั้งที่ทิ้งไม้ไว้ที่ที่หล่อนตีเธอ

                เมื่อหญิงแก่หันหลัง ลออลืมตาขึ้น ก่อนที่จะคว้าไม้ตีเปรี้ยงเข้าที่หัวหญิงแก่ หล่อนร้องโอดโอยและขอเว้นชีวิต แต่ในยามนี้ สติของลออนั้นไม่มีอยู่... หญิงสาวกระหน่ำฟาดไม้ใส่ร่างหญิงแก่ไม่ยั้งจนแน่นิ่งไป เธอจึงเข้าไปในเรือนและหาผ้าเปลี่ยนก่อนกลับเข้าไปนอนตามปกติ

                เธอหลับไป อสูรร้ายหลับแล้ว แต่จิตใจสั่งให้เหตุการณ์ที่ผ่านมากลายเป็นความฝันที่เลือนรางไปเสีย...

                ทุกๆคืน ความทรงจำของเธอจะกลายเป็นความฝันไปซะเสียส่วนใหญ่ ลออร่างโหดร้ายและแรงมหาศาลจะโผล่กลับมายามวิกาลเหมือนปีศาจ แต่เธอก็ปฏิบัติเยี่ยงคนปกติเหมือนทั่วไปเพียงแต่สีหน้าและแววตานั้นจะดูแตกต่างจนคนรอบข้างสัมผัสได้

                คืนต่อมาก็เช่นกัน เธอเห็นหญิงแก่ออกเรือนไปทางบ้านประยง เธอก็พอเดาได้ทันทีว่าเรื่องอะไร จึงเดินกลับไปขโมยเสื้อและผ้าขาวม้าของไพร่ซักคนมาใส่ ถึงแม้จะรังเกียจและไม่คุ้น แต่เธอก็ใส่มัน...หลังจากที่หญิงแก่กลับมา เธอก็ฆ่าหล่อนตาย และออกมาเปลี่ยนเสื้อก่อนจะไปเจอคุณหลวงยืนร้อนรนอยู่ที่ศาลาดูบัว เธอก็ก็ยืนรออยู่ไม่รู้ด้วยเหตุใด แต่ก็เกลียดเขาโดยสัญชาติญาณแม้เรื่องที่เขาปล่อยให้เธอตกบันไดเธอแทบจะไม่เอามาใส่ใจ... รู้เพียงแต่ว่าเกลียด

                เธอตามมาและได้ชกประยงจนสลบ ก่อนที่จะโดนคุณหลวงลากออกมา เธอมีแผนร้ายในใจที่จะทำให้คุณหลวงเป็นฆาตกร แต่ก็คงคิดไม่ถึงว่าสติของร่างจริงจะกลับมาได้ตรงเวลาจนเหตุการณ์ไม่ร้ายแรงเท่าใดนัก

                แต่ทุกๆสิ่งในหัว เธอรู้อย่างเดียวว่าทุกอย่าง คิดอย่างเดียวกันไม่ว่าตอนที่เธอจะครองร่างอยู่หรือไม่

                คุณหลวงเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด!

               

                คุณหลวงได้แต่มองอย่างตัดพ้อเมื่อลออนั้นไม่ยอมคุยอะไรด้วยเลย เขาได้แต่คิดว่าเธอนั้นยังฝังใจว่าเขาเป็นฆาตกร “พี่ขอโทษนะลออ แต่รู้หรือไม่ว่าอย่างไรพี่ก็อยากให้น้องเข้าใจพี่ว่าพี่ไม่ใช่คนฆ่า ไม่ว่าน้องจะจำได้หรือไม่”

                ลออที่เข้าใจทุกอย่าง น้ำตาร่วงเผาะ เธอเกลียดเขามาก แต่ก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนผิดทั้งหมด เธอเป็นคนฆ่าทั้งนั้น!

                “ลออ เป็นอะไร”คุณหลวงพูดเสียงตื่นและพยายามไปปลอบขวัญ แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อเธออยู่ไกลเกือบปลายเท้า

                “คุณหลวงไม่เข้าใจหรอกว่าคนบ้าเขาคิดเยี่ยงไร”เธอหันหน้ามามองเขานิ่ง

                เทพกำพลดีใจที่เธอเริ่มพูดกับเขา แต่ก็ยังฉงนในคำพูด “หมายความว่าอย่างไร”

                “ก็หมายความว่า...”ลออขยับเข้ามาใกล้และโน้มตัวเข้าใกล้เทพกำพล เขาทั้งตกใจทั้งดีใจทั้งแปลกใจ แต่ก็คิดผิดทั้งหมดทุกเรื่องที่เขาคิดอยู่ตอนนี้ “คุณหลวงไม่รู้หรอกว่าอิฉันคิดอะไรอยู่”

                ปิ่นปักผมเสียบทะลุหัวใจของเขาไป เขาเบิกตาโพลงและกลัวจับใจเมื่อเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของลออ

                “ลออดีใจนะเจ้าคะที่ตัวปัญหาตายได้ในที่สุด!”

               

                “แม่ลออ! เป็นเยี่ยงไรบ้าง!”

                ลออตาปรือขึ้นมาและมองหน้าคนที่ประคองร่างหล่อนไว้ ที่หัวก็ปวดหนึบเหมือนไปกระแทกกับอะไรมาอย่างแรง “คะ... เจ้าคะ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”เธอถามทั้งยังมึนงงอยู่ แต่ก็รู้ว่าคนที่ดึงเธอเข้าไปกอดนี้คือเทพกำพล เจ้าคุณแห่งบ้านหลังนี้

                “พี่ตกใจแทบแย่ กลัวแม่ลออจะเป็นอะไรไป”

                เธอผลุนผลันผลักร่างชายออกจากตัว “เจ้าคุณอย่ามาถูกตัวอิฉันเลยเจ้าค่ะ มันไม่ดี จะถูกเอาไปนินทาเอาได้”

                เขากระแอมไอเบาๆและเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง “พี่ไม่ทันดู เผลอปล่อยลออตกบันไดไปได้”

                เธอค้างกึก พร้อมกับฉุกคิดบางอย่างที่เลือนรางขึ้นมาได้ “เมื่อกี้อิฉันฝัน... ฝันว่าตกบันได”

                “หือ แล้วอะไรต่อ มีไหม”

                เธอเงยหน้าขึ้นมองบุรุษตรงหน้าเชื่องช้า และดูน่าสะพรึงกลัวสำหรับคนมอง

                “ลออใช้ปิ่นแทงทะลุหน้าอกเจ้าคุณจนตาย...”

                แล้วลออก็จะทำเพราะลออฝันจะเป็นลูกเพียงคนเดียวของแม่เรไร!

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา