พรุ่งนี้...ไม่มีเรา
เขียนโดย ตัวกลม
วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.27 น.
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 19.01 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) Time stands still.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงฟ้าร้องคำราม สายฝนไหลลงหน้าต่าง ลมพายุที่โหมกระหน่ำทำให้ไฟฟ้าในบ้านหลังนี้ดับสนิท เหลือเพียงแสงจากเทียนเล่มน้อยที่คอยให้แสงอยู่รำไร มือของใครคนนึงกำลังโอบกอดอีกคน ทำให้ความหนาวที่เข้าครอบงำจางหายไปหมดสิ้น มีเพียงความอบอุ่นจากอ้อมกอดนั้น ค่ำคืนอันแสนเปล่าเปลี่ยวนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หมู่เมฆฝนเริ่มจางหาย ท้องฟ้าเริ่มสดใส แสงแห่งรังสิมันต์ทอดมาเป็นเนืองๆ ชายหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆ เหลือบมองดูสาวคนรักที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของเขา ในเวลานี้เธอเองก็ยังดูสวยไม่สร่าง เส้นผมสีดำยาวสลวย ใบหน้าอันเอิบอิ่ม ริมฝีปากแดงเป็นกระจับ แม้เขาจะแต่งงานกับเธอมาได้ปีกว่าแล้ว แต่เธอก็ยังคงงามเหมือนวันแรกที่เขาเจอ เขาได้แต่ภาวนาให้ทุกๆเช้า เขาตื่นมาพบกับภาพนี้
บ้านของเขาเป็นบ้านไม้ขนาดกลาง ถูกสร้างขึ้นอยู่ท่ามกลางป่าเขา บริเวณหน้าบ้านมีสวนหย่อมเล็กๆไว้สำหรับเป็นมุมพักผ่อน ด้านข้างถูกขนาบไปด้วยต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่คอยให้ร่มเงาและความชุ่มชื้น เมื่อเดินตรงเข้าไปในบ้านจะพบกับห้องนั่งเล่นเล็กๆกะทัดรัด ทางด้านซ้ายเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ส่วนทางด้านขวาจะเป็นส่วนของห้องครัว การจัดตกแต่งเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่มีความพิเศษตรงที่ตลอดทางเดินนั้นจะประดับไว้ด้วยกรอบรูป ซึ่งเป็นรูปของภรรยาเขานั่นเอง โดยทุกรูปเขาจะเป็นคนถ่ายมันเองทุกครั้ง เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มเหล่านั้นของภรรยา
'คุณ ตื่นแล้วหรอคะ'หญิงคนรักถามอย่างอ่อนโยน
'ผมตื่นนานแล้ว เห็นคุณกำลังหลับสบาย ผมเลยไม่ได้ปลุกน่ะ' เขาตอบเธอ
'แล้วพรุ่งนี้คุณเลิกงานกี่โมงคะ' เธอถามเขาด้วยรอยยิ้ม
'คงจะไม่เย็นมาก ผมไม่ลืมสัญญาแน่นอน… สัญญาที่เราจะไปเที่ยวด้วยกัน'
'ดีจังเลยนะคะ คุณคงทำงานเหนื่อยมากเลยใช่ไหม'
'ผมไม่เหนื่อยหรอกนะ เพราะผมรู้ว่าผมทำเพื่อใคร' คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มบางๆให้เขา
ในวันถัดมา สามีตื่นออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนภรรยาก็วิ่งวุ่นอยู่กับการเตรียมตัวและงานบ้าน วันนี้เธอแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ สวมใส่เดรสยาวสีขาวลายลูกไม้สีชมพูอ่อน เธอเตรียมตัวอยู่นานจนถึงเวลาที่สามีเลิกงาน ทั้งสองพากันนั่งรถไปยังสถานที่นั้น…สถานที่แห่งความหลังของพวกเขา หลังจากนั่งรถอยู่เกือบสองชั่วโมง ก็เห็นหาดทรายสีขาวอยู่ตรงหน้า เสียงเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบฝั่ง ลมทะเลยามเย็นอันสดชื่น เกาะแห่งนี้มีผู้คนไม่พลุกพล่านนัก ทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น พวกเขาจอดรถไว้บริเวณข้างชายหาด
'คิดถึงวันนั้นนะคะ' หญิงสาวจับมือชายหนุ่มแน่น เพียงแค่คำพูดเท่านี้ก็สามารถสื่อสารความรู้สึกที่มีได้อย่างดี
'ผมเองก็ไม่เคยลืมนะ แสงอาทิตย์ยามเย็นของที่นี้สวยจับใจจริงๆ'
'แล้วที่ทำงานเป็นยังไงบ้างคะ ช่วงนี้ดูคุณยุ่งๆนะ'
'อื้ม พอดีมีปัญหานิดหน่อยนะ' เขาตอบเธอเสียงเรียบ
'คุณมีอะไรจะบอกฉันไหมคะ ฉันยินดีที่จะรับฟังนะ'
'ช่างเถอะ เรามาถ่ายรูปกันดีกว่านะ' ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที เขาหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา ตั้งท่าจะถ่ายรูปภรรยาของเขา หญิงสาวได้แต่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
'ไม่ว่าผมจะถ่ายรูปให้คุณกี่ครั้ง คุณก็ยิ้มให้แบบนี้ตลอดเลยนะ' ชายหนุ่มบอกกับเธอ
'แล้วคุณจะให้ฉันยิ้มแบบไหนล่ะคะ' เธอถามเขากลับ
'ก็ยิ้มกว้างๆเห็นฟันเยอะๆไง' เขาหัวเราะร่าเมื่อเห็นเธอทำท่ายิ้มแบบนั้น
'คุณแกล้งฉันอีกแล้วนะคะ' เธอเบ้ปากใส่เขา
'ฮ่าๆๆ ก็ดูคุณทำหน้าเข้าสิ'
บรรยากาศยามเย็นช่างดูรื่นรมย์ แสงรังสิมันต์สาดส่องเปลี่ยนสีของน้ำทะเลให้กลายเป็นสีทองอร่ามเป็นประกายระยิบระยับ ทั้งสองยังคงนั่งอยู่ข้างๆกันที่ริมชายหาดจวบจนค่ำ ในเวลาอันเงียบสงัดนี้มีเพียงเสียงสายน้ำและสายลมเท่านั้น จนกระทั่งหญิงสาวเริ่มพูดขึ้น
'คุณยังคงเหมือนเดิมเลยนะ' เธอมองดูใบหน้าของชายหนุ่มอย่างพินิจ
'เหมือนเดิมยังไง ในทางที่ไม่ดีหรือป่าว ฮ่าๆ' เขาถามอย่างสงสัย
'คุณน่ะ มักจะรักษาสัญญาเสมอเลยนะ แม้กระทั่งกับคนธรรมดาอย่างฉัน'
'......................'
'ฉันอยากอยู่กับคุณไปนานๆจัง ถึงจะอีกแค่หนึ่งวัน หรือหนึ่งชั่วโมง' ชายหนุ่มก็ยังคงเงียบ
'นี่ฉันพูดอะไรผิดหรอคะ'
'ป่าวหรอก ผมเพียงแต่สงสัยว่าทำไมคุณพูดจาจริงจังขนาดนี้'
'ฮ่าๆ งั้นหรอคะ ฉันก็พูดไปเรื่อยน่ะ แต่มันคือความจริงนะ'
วันเวลาผ่านไป ในตอนนี้ผู้เป็นสามีมีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานมากขึ้น ทำให้มีภาระที่จะต้องรับผิดชอบอย่างหนัก บางวันถึงกับต้องนอนที่ทำงาน ด้วยภาระทั้งหมดทำให้เขากับภรรยาเริ่มห่างเหินกัน สิ่งต่างๆที่เขาสัญญาไว้กับภรรยา เขาเองก็เริ่มจะรักษาไว้ไม่ได้เสียแล้ว ส่วนตัวของภรรยาเอง แม้เธอจะทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ด้วยสีหน้าท่าทางอาการเหน็ดเหนื่อยของสามี ก็ทำให้เธอไม่กล้าจะทวงถามอะไรทั้งสิ้น เธอมีเพียงแค่รอยยิ้มแบบเดิมเท่านั้นที่มอบให้กับเขา แต่ละวันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันสำคัญต่างๆได้ผ่านพ้นไปอย่างปกติเหมือนเป็นเพียงแค่วันๆนึงเท่านั้น ไม่มีงานฉลองอะไรอีกต่อไป จนกระทั่งวันนั้นมาถึง...วันครบรอบแต่งงาน
'คุณคะ พรุ่งนี้วันครบรอบ เราไปที่เดิมกันไหมคะ' เธอถามสามีที่กำลังยุ่งอยู่กับงานเอกสารด้วยความตื่นเต้น
'อื้ม พรุ่งนี้ผมต้องไปประชุม คิดว่ากลับดึกนะ ไม่ทันหรอก' เขายังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า
'พักบ้างเถอะค่ะ คุณจะทำงานหนักไปตั้งมากมายเพื่ออะไรกัน' คำพูดนั้นทำให้สามีเงยหน้าขึ้นมามองทันที
'ผมก็ทำเพื่อความสุขของเราไม่ใช่หรอ'
'สำหรับคุณ ความสุขของเราคืออะไรงั้นหรือคะ' เธอถามเขา
'คุณต้องการจะสื่ออะไร ช่วยเข้าใจผมหน่อยได้ไหม' เขาเริ่มมีน้ำเสียงหงุดหงิด
'ฉันเพียงแต่อยากให้คุณพักผ่อนก็เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คุณโกรธ'
'ผมบอกคุณไปกี่ครั้งแล้วว่าผมทำเพื่อใคร ที่ผมทำให้คุณทุกวันนี้มันไม่พอใช่ไหม'
'ฉันรู้ดีค่ะว่าคุณทำเพื่อฉัน แต่ฉันคิดว่ามันมีอะไรที่สำคัญกว่านั้น'
'อะไรสำคัญกว่างั้นหรอ ที่ผมทำมันไม่มีความหมายเลยงั้นสิ'
'ไม่ใช่นะคะ คุณมีความหมายสำหรับฉันเสมอ' หญิงสาวตอบด้วยเสียงสั่นครือ
'ฉันเพียงแต่คิดว่า เมื่อก่อนเราเคยมีความสุขมากกว่านี้ แม้เราจะต้องลำบากกันสักหน่อย ฉันก็ยังรู้สึกดี แต่ตอนนี้เรามีพร้อมหมดทุกอย่าง ยกเว้นเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกัน คุณคิดว่ามันเป็นชีวิตที่ดีแล้วจริงๆหรือคะ'
'เอาล่ะ คุณออกไปก่อนเถอะ ผมจะต้องจัดการกับงานทั้งหมดให้เสร็จในคืนนี้นะ ยังไงปีหน้าค่อยไปก็แล้วกัน ไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียวหรอก ช่วยเข้าใจผมด้วยนะ'
นับวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มจะระหองระแหงมากขึ้น ความคิดทัศนคติของทั้งคู่ก็เริ่มจะไปกันไม่ได้ทำให้มักมีปากเสียงกันอยู่ตลอด ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ผ่านๆมา ทั้งคู่ไม่ได้มีการฉลองเช่นเมื่อก่อน ไม่ได้ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ชายทะเลด้วยกันอีกแล้ว คำสัญญาที่ใครคนนึงเคยบอกไว้ ตอนนี้ก็ได้เลือนหายไปหมด แม้อีกคนจะทวงถามถึง ก็ได้รับเพียงคำตอบที่ว่า 'ไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียว วันหน้าก็ยังมี ไว้ก่อนล่ะกัน' คำตอบนี้ถูกพูดขึ้นในวันพิเศษของทุกปี...ราวกับว่าคนพูดได้ลืมความรู้สึกดีๆในวันนั้นไปแล้ว
จนกระทั่งวันครบรอบของปีนี้ สามีหยุดพักงานของเขาทั้งหมด และเขาก็เตรียมตัวไปฉลองกับภรรยาที่เดิมซึ่งไม่ได้ไปมาหลายปีมากแล้ว เขาเตรียมกล้องถ่ายรูปไปด้วยเหมือนทุกครั้ง เป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มของสาวคนรักผ่านเลนส์กล้อง เขาสวมเสื้อเชิตสีน้ำเงินที่ภรรยาซื้อให้ และขับรถมุ่งหน้าที่ยังสถานที่แห่งนั้นทันที
'เราไม่ได้ผ่านมาทางนี้นานแล้ว ดูสิเปลี่ยนไปมากเลยนะ ผมแทบจำไม่ได้เลย'
'วันนี้ผมใส่เสื้อเชิ้ตที่คุณซื้อให้ด้วยนะ ถึงออกจะแปลกตาไปหน่อยก็เถอะ'
'อีกแปบเดียวก็จะถึงแล้ว เดี๋ยวผมจะถ่ายรูปให้คุณเหมือนเคย ยิ้มหวานๆเลยนะ'
'..................................................'
'นั่นไงล่ะ ที่พิเศษของพวกเรา ยังคงสวยเหมือนเดิมเลยคุณว่าไหม'
เขาหาที่จอดรถบริเวณใกล้ๆและลงจากรถเดินตรงมายังที่นั่งใต้ต้นไม้ ที่ๆเมื่อหลายปีที่แล้วเขามานั่งพิงไหล่อยู่กับภรรยา เขานึกถึงภาพบรรยากาศความสุขในวันนั้น มันทำให้เขารู้สึกเสียดายวันเวลาที่ผ่านๆมา ในมือของเขาตอนนี้...ไม่มีมือของภรรยามากุมมือไว้อีกต่อไป หากมีเพียงแต่รูปของภรรยาที่ใส่กรอบสีดำเท่านั้น เขาประคองรูปของภรรยาวางบนเบาะหน้าข้างคนขับมาอย่างดี เพื่อที่จะได้พาภรรยาของเขายังที่แห่งนี้ มาเห็นแสงสุดท้ายในวันพิเศษด้วยกัน ความรู้สึกของเขายังคงเหมือนเดิมต่างกันเพียงแค่วันนี้เขาไม่อาจจะใช้สายตามองเห็นว่าเธออยู่ที่ไหน เขากอดรูปของภรรยาไว้แน่น พร้อมกับพูดคำสุดท้ายฝากไปกับสายลม ด้วยหวังเพียงว่าภรรยาของเขาจะได้ยิน
'ตอนนี้ผมรู้แล้ว คำตอบของคำถามที่คุณเคยถามผมว่าอะไรคือความสุขของเรา...แน่นอนมันคือช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่การมีเงินทองมากมายหรือการได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากเพื่อนร่วมงาน หากแต่เป็นการใช้ชีวิตธรรมดาๆอยู่ร่วมกับคนที่เรารัก ผมมัวแต่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ความรักของเราดีขึ้น แต่ผมลืมไปว่าความรักไม่ใช่สิ่งของ แท้จริงไม่จำเป็นต้องค้นหาอะไรที่ดีที่สุดเลย เพราะความรักเป็นความรู้สึกที่พิเศษอยู่แล้วในตัวของมันเอง ผมมักบอกกับคุณเสมอว่าไว้วันอื่นก็ได้ ไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียว ตอนนี้ผมไม่เชื่อกับคำพูดเหล่านั้นอีกแล้ว ทุกๆวันที่ค่ามากเกินกว่าจะปล่อยให้ผ่านพ้นไป ถ้าผมรู้ว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้าย ผมจะไม่พูดแบบนั้นออกไป คุณรู้ดีว่าผมชอบรูปถ่ายของคุณทุกรูป แต่รู้อะไรไหม ผมไม่ชอบรูปที่ผมถืออยู่นี่เลย ถ้าเลือกได้ผมอยากให้คุณอยู่ข้างๆผมมากกว่า นี่เป็นสัญญาสุดท้ายที่ผมอยากจะรักษาไว้มากที่สุด ผมพาคุณมาถึงแล้วนะที่รัก ผมรักคุณเสมอ'
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ