กรุณาอ่านให้จบ

-

เขียนโดย Worry

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.04 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  3 วิจารณ์
  3,869 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557 10.09 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) กรุณาอ่านให้จบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กรุณาอ่านให้จบ

 

ผมค่อยๆนั่งลงบนม้านั่งข้างป้ายรถประจำทาง หลังจากที่วิ่งตะบึงมาสุดฝีเท้า แต่รถคันที่ผมจะขึ้นก็พุ่งทะยานหายไปในสายฝน ทิ้งไว้เพียงควันสีเทาจากท่อไอเสียปริมาณเล็กน้อยก่อนจะจางหายไปกับอากาศธาตุ

 

“บ้าเอ๊ย!”

 

ผมสบถอย่าอารมณ์เสียก่อนจะถอนหายใจยาวๆ เพราะไม่รู้ว่าคันต่อไปจะมาเมื่อไหร่ พลางเหลือบไปเห็นที่นั่งว่างอยู่มีหนังสือเล่มหนึ่งวางเอาไว้ หนังสือสีเหลืองสดใส ผมมองซ้ายมองขวา ดูเหมือนว่าเจ้าของจะขึ้นรถไปโดยลืมหยิบไปด้วย ด้วยความเซ็งที่ตกรถประจำทางประกอบกับไม่มีอะไรทำ ผมจึงหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาพลิกดูพลางๆ

 

แต่แล้วผมก็พบว่าไม่สามารถอ่านได้ เพราะเนื้อหากว่าครึ่งในหนังสือถูกฉีกกระชากทำลายไปเสียส่วนใหญ่ มีบ้างที่เป็นคำหยาบโลนซึ่งไม่คู่ควรแกการเอ่ยถึง ผมมองหนังสือเล่มนั้นงงๆก่อนจะวางไว้ที่เดิม ขณะนั้นเองมีเสียงไซเรนดังแข่งกับเสียงฝน ไฟกระพริบสีแดงสลับน้ำเงินดังผ่านหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคงไม่แปลกอะไรหากในวันที่ฝนตกหนักแบบนี้จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น

 

สุดท้ายผมก็ยอมแพ้ที่จะไปทำงานในสภาพนี้ ที่แย่กว่านั้นคือหลังจากนั้นหัวหน้าที่ทำงานผมโทรมาและคาดโทษผมที่ไม่ไปทำงานทั้งๆที่วันนี้มีประชุม

 

ผมเดินขาลากกลับห้องเช่าด้วยอารมณ์เซ็งๆ เมื่อเข้ามาในห้องแล้วสิ่งแรกที่ทำให้ผมต้องประหลาดใจมากคือ กลางโต๊ะกินข้าวผมมีหนังสือปกสีแดงเล่มหนึ่งวางอยู่ ผมวางกระเป๋าเอกสารลงก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาพลิกอ่าน

 

ไม่มีบอกว่าเป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ไหน ไม่มีบอกว่าใครเป็นคนแต่ง มีเพียงแค่คำแนะนำสั้นๆได้ใจความว่า

 

‘เมื่อเริ่มอ่านแล้ว ควรอ่านให้จบ’

 

ผมกะขนาดเล่มแล้วคิดว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงอ่านจบจึงเริ่มอ่านหน้าแรก เพียงแค่หน้าแรกเท่านั้น ก็ทำให้ผมเริ่มโมโหเมื่อคำแรกที่ปรากฏคือคำสาปแช่งบุพการีของคนอ่าน ซึ่งแสดงออกมาเป็นตัวอักษร ผมพยายามทำใจเย็นก่อนจะพลิกไปหน้าสองและสามตามลำดับไปเรื่อยๆ จนเมื่ออ่านไปได้ครึ่งเล่ม

 

สิ่งที่ผมทำก็คือฉีกกระชากหน้าหนังสือพวกนั้นขาดเป็นริ้วๆ เนื่องจากเนื้อหาในนั้นมีแต่คำปรามาส ด่าทอ คำที่ทำให้ผมรู้สึกอยากจะชกหน้าคนเขียนหนังสือแล้วนี้ซักหลายๆหมัด เพื่อระบายความโกรธ

 

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆรอบๆตัวผมก็มืดลงทันตาเห็น มองไปรอบตัวก็ปรากฏแต่กำแพงสีดำแดงไม่คุ้นตา บรรยากาศแปลกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้

 

“อีกคนแล้วเหรอ”

 

เสียงแหบพล่าเหมือนคนคอแห้งดังขึ้น ผมมองไปตามเสียงก็พบบางอย่างที่เป็นเงาสีดำรูปร่างคล้ายมนุษย์ผู้ชายหัวล้าน มองมาที่ผม ดวงตาที่ดุดัน กับริมฝีปากแสยะยิ้มนั่นทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอามากๆ นอกจากนั้นผมไม่เห็นลักษณะทางกายภาพอื่นๆของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นจมูก โครงหน้า ใบหู และอื่นๆ เพราะทั้งตัวเขาราวกับถูกฉาบด้วยสีดำและกำเนิดมาจากความมืด

 

“มะ หมายความว่ายังไงที่ว่าอีกคน แล้วนายเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

 

ผมรัวคำถามเป็นชุด พร้อมคิดในแง่ดีว่านี่คงเป็นฝันร้ายที่เหมือนจริงสุดๆตั้งแต่ผมเกิดมา

 

“นั่นไม่สำคัญหรอก ฉันขอถามแค่ข้อเดียว นายอยากออกไปจากที่นี่มั้ย?”

 

เงานั่นถามผมกลับ ผมมองไปรอบๆ ก่อนจะหยิกแก้มตัวเอง เมื่อแน่ใจว่า ผมไม่ได้ฝันไปแน่ๆ ผมจึงมองเงานั้นก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ

 

“ข้างหลังนายมีประตู พอออกไปนายก็กลับไปได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขข้อเดียว กลับไปอ่านหนังสือเล่มนั้นให้จบซะ”

 

พูดจบเงานั่นก็หายไป ผมหันหลังกลับก็พบประตูตามที่เงานั่นบอก เมื่อเปิดประตูออกไปแสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาในห้องจนผมมองไม่เห็นอะไรอีก

 

รู้สึกตัวอีกที่ผมก็ลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆตัวอีกครั้ง พบว่าผมอยู่ในห้องตัวเอง ในขณะที่ข้างนอกยังฝนตกอยู่ ขณะที่กำลังคิดว่าฝันเมื่อครู่ประหลาดมาก ผมก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนั้นอีกครั้ง ผมลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในครัวและหยิบมีดทำครัวติดมือมาด้วย เมื่อกลับมาที่โต๊ะกินข้าว ผมก็ง้างมีดในมือขึ้นแทงไปกลางหนังสือเล่มนั้นเต็มแรง

 

“เก็บไปให้ญาติแกอ่านเองเถอะ!!!”

 

ผมพูดอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะหันหลังเตรียมไปทำอย่างอื่น แต่แล้วผมก็รู้สึกปวดที่กลางท้องอย่างมากจนต้องเอามือกุมท้องเอาไว้ เมื่อก้มลงไปมองท้องตัวเอง ผมก็พบว่ามีเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงและมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ

 

ขณะที่ผมยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เงานั่นก็ปรากฏตัวอีกครั้งเบื้องหน้าผม ผมในสภาพนั่งคุกเข่าเอามือกุมท้องค่อยๆเงยหน้ามองเงานั่นอีกครั้ง

 

“ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะว่าให้นายอ่านหนังสือเล่มนั้นอีกรอบ”

 

หลังจากประโยคนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเพราะเลือดที่ทะลักออกมาจากท้องของผมเอง

 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ตำรวจก็เข้าตรวจห้องผมเพราะเจ้าของห้องเช่าไปแจ้งว่ามีศพอยู่ในห้องเช่า สภาพศพของผมคือนอนตายข้างๆโต๊ะกินข้าว มือทั้งสองข้างกุมมีดในมือซึ่งตำรวจสันนิฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีร่องรอยการงัดแงะหรือต่อสู้ขัดขืน

 

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะอ่านมันให้จบ ไอ้หนังสือเฮงซวยนั่น แต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว วิญญาณผมต้องถูกพันธะนาการไว้กับเงานั้นตลอดกาล . . .

 

[จบ]

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา