บาปสี่กำ(กรรม)
เขียนโดย แพรวลา
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.37 น.
แก้ไขเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 23.40 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) บาปสี่กำ(กรรม)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันหนึ่ง ณ ท้องทุ่งกว้างเบื้องหลังมองเห็นภูเขาสูง วางเรียงรายอยู่ลิบๆ สิ่งมีชีวิต
บางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ
เจ้าแพะนั่นเอง!! ดูเหมือนว่ามันคงจะ ผ่านร้อนผ่านหนาว มาหลายชั่วอายุแพะแล้ว.....
แพะแก่ว่างั้นเถอะหนวดเครารุงรังเชียว
มันกำลังเดินก้มหน้าคอตก ส่งเสียงร้อง แบ๊ะ!! แบ๊ะ!! คล้ายจะระบายความในใจ และ
ประกาศให้โลกได้รับรู้ น้ำเสียงฟังดูแหบพร่า ไม่บริสุทธิ์สดใสเฉกเช่นอากาศเช้านี้เอาซะเลย
แปลเป็นภาษาแพะได้ความว่า>>>>>
"ทำไมพวกมนุษย์ถึงได้ใจร้ายกับข้านัก ข้าไม่ได้ทำความผิดแต่อย่างใด ทำไมถึงชอบ
ใส่ร้ายข้าและโยนความผิดให้ข้าอยู่เรื่อยเลย ข้าไม่เคยมีโอกาสได้พูด หรือแม้แต่ได้อธิบายความ
จริงเลยสักครั้ง ข้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็น "แพะรับบาป"!! ........"
" เฮ้อ!! ชีวิตข้ามันช่างน่าเศร้าซะจริงๆเลย ข้ารู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์อีกต่อไปแล้ว"......
ทันใดนั้นเอง อาการเคลื่อนไหวตัวบิดขี้เกียจ ประกอบกับการส่งเสียงร้อง ฟู่!! ฟู่!!
คล้ายถอนหายใจ หรือรู้สึกรำคาญ จากการถูกรบกวนการนอนเสียเต็มประดา
เจ้างูตาใส!! มันกำลังนอนขดตัวสงบนิ่งอยู่บริเวณใกล้ๆนั่นเอง
"โอ้เจ้าแพะผู้น่าสงสาร วันนี้เจ้ามีบาปติดตัวอีกแล้วเหรอ" งูตาใสร้องถามด้วยความเบื่อ
หน่ายเสมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไปหรือเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
"ทำไมเจ้าถึงถามข้าแบบนั้นเล่าเจ้างู" แพะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปนเศร้า มันไม่ใช่ครั้ง
แรกหรอกนะที่ข้าได้ยินมา ยังมีแพะอีกหลายตัว ที่ตกเป็นจำเลยของพวกมนุษย์ หรือจำเลยของ
สังคมเฉกเช่นเดียวกับเจ้านั่นแหละ เจ้างูคิดในใจ
"ข้ารู้พวกแพะอย่างเจ้าไม่ได้ทำความผิดอะไรหรอก อย่าเศร้าไปเลย โลกนี้น่าอยู่จะตาย
ถึงข้าจะเป็นงูตัวเล็กๆข้าก็เข้าใจเจ้านะ" งูตาใสกล่าว เจ้าแพะเริ่มรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้างหลัง
จากได้คุยกับงูตาใส
"เจ้างูเอ๋ย ข้าล่ะอยากเป็นงูเหมือนอย่างเจ้าบ้าง เลื้อยไปไหนมาไหนก็ได้ เข้าป่า ขึ้นเขา
อยู่บนต้นไม้ เจ้าคงมีความสุขมาก.... มากกว่าข้า" เจ้างูตาใสเมื่อได้ฟังดังนั้น เริ่มมีสีหน้าหม่น
หมองลงทันที
"เจ้าอิจฉาชีวิตงูตัวเล็กๆอย่างข้าเหรอ ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริง ข้าก็มีความสุขดีหรอกแต่นี่
เฮ้อ!! >>>>> เจ้างูตาใสลอบถอนใจ เหมือนแบกภูเขาเอาไว้ทั้งลูก
"เจ้าแพะ จริงๆแล้วข้าก็มีความทุกข์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเจ้าหรอกนะ" สีหน้าเจ้าแพะ เต็ม
ไปด้วยคำถาม
"เจ้าน่ะเหรอมีความทุกข์เหมือนข้า ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะมีความทุกข์อะไรนี่"
"เจ้าแพะ เจ้าจะรู้อะไร ข้าก็ตกเป็นงูที่มีบาปติดตัว เหมือนเจ้านั่นแหละ ข้าก็รู้สึกแย่
เหมือนกันเวลาถูกพวกมนุษย์กล่าวหา"
"ก็พวกมนุษย์แย่ๆน่ะสิ ชอบเอาข้าไปอยู่บนหัวอยู่เรื่อย ข้ารู้สึกอับอาย ทั้งๆที่ข้าน่ะรัก
สงบ ไม่อยากเจอหน้าใคร บางครั้งก็ชอบตอกย้ำว่า ข้าเป็นพวกลิ้นสองแฉก แล้วข้าผิดตรงไหนที่
มีลิ้นเป็นแบบนั้น"
ข้าไม่ได้ไปเลียใครเขา เหมือนพวกมนุษย์เสียหน่อย ข้าเป็นงูตาใสนะ ตาใสก็แสดง
ว่าข้าใสซื่อ ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ก็ข้าคืองูตัวเล็กๆน่ะสิ ถ้าเป็นอะนาคอนดาก็ว่าไปอย่าง เจ้างูบ่น
กับตัวเอง
หลังจากทั้งคู่ปรับทุกข์กันอยูู่พักใหญ่ เจ้าแพะจึงชักชวนเจ้างูตาใส ไปขอคำปรึกษาจาก
ควายเฒ่าซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เผื่อว่าบางทีควายเฒ่าอาจมีทางออกดีๆให้ได้ ว่าแล้วทั้งคู่จึงพากัน
ออกเดินทางไปหาควายเฒ่า
ขณะนั้นเอง ควายเฒ่าซึ่งกำลังเล็มหญ้าอ่อนอย่างสงบ ภายหลังตรากตรำทำงานมาอย่าง
หนักทั้งสองร้องทักควายเฒ่าด้วยความยินดี ควายเฒ่าหันมาแสยะยิ้มรับ เหมือนไม่ใยดีนัก เอ่ย
วาจาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้ารึ"
งูตาใสร้องบอก "พวกเรามีปัญหาทุกข์ใจ เจ้าแพะไม่อยากตกเป็น แพะรับบาป ส่วนข้าไม่
อยากถูกกล่าวหาอย่างเสียๆหายๆ" ควายเฒ่าได้ยินดังนั้น พยักหน้าอย่างเนือยๆ รับรู้ถึงปัญหาของ
ทั้งสอง
"นั่นเหรอปัญหาของพวกเจ้า เจ้าแพะเอ๋ย ข้าคงหาทางออกให้เจ้าไม่ได้หรอก เจ้าลอง
คิดดูให้ดีๆ ตราบใดที่ยังมีพวกมนุษย์ใจร้ายอยู่บนโลกนี้ ต่อให้เจ้าลาโลกนี้ไปแล้ว ลูกหลาน เห
ลนโหลนแพะของเจ้า ก็ยังตกเป็นแพะรับบาปอยู่ดี เจ้าว่าจริงไหมล่ะ"
เจ้าแพะได้ฟังดังนั้นก็คล้อยตาม นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นมากมายในอดีต เกี่ยว
กับบรรพบุรุษชาวแพะ ที่ไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ จึงต้องตกเป็นแพะรับบาป
มานักต่อนักแล้ว บางตัวถูกจับขังลืมไปเลยก็มี
"ใช่แล้วต่อให้ข้าตายไปวันนี้ หรือพรุ่งนี้ แพะรุ่นหลังของข้าก็ยังคงตกเป็นแพะรับบาปอยู่ดี
ถ้ายังงั้นข้าก็ตายไม่ได้สินะ ข้าห้ามตาย ข้าจะมีชิวิตอยู่ต่อไปเพื่อพิสูจน์ความจริง และ
เพื่อลบล้างมลทินให้กับชนแพะรุ่นหลังของข้า" แม้ว่าไม่รู้เมื่อไหร่มันจะล้างหมดก็ตาม เจ้าแพะมี
น้ำเสียงและสีหน้าดูเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก
"ส่วนเจ้างูข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้เช่นกัน ถ้าเจ้าไม่อยากถูกกล่าวหาอย่างเสียๆหายๆ เจ้าก็
ควรไปบอกพวกมนุษย์ให้สงบปากสงบคำเอาไว้ให้มากๆ เก็บอาการไว้บ้างก็ดี" เจ้างูพยักหน้า
หงึกๆคิดในใจ ดีล่ะถ้าบอกไม่ได้ ทีนี้ล่ะ ข้าจะฉกให้เลย
ควายเฒ่าถอนใจ ว่าแล้วก็หันไปเล็มหญ้าอ่อนต่อ โดยไม่ได้สนใจ เจ้างูกับเจ้าแพะอีก
ต่อไปแล้วทั้งคู่ก็เอ่ยขอบคุณควายเฒ่า ก่อนจะแยกย้ายกันจากไป คล้อยหลังทั้งคู่ควายเฒ่าครุ่น
คิดอย่างหนัก ขอบใจพวกเจ้าที่เห็นว่าข้ายังมีความคิดดีๆอยู่บ้าง
"ดูอย่างพวกมนุษย์สิ ก็ชอบโยนบาปให้ข้าเหมือนกันนั่นแหละ แถมหาว่าข้าโง่เขลาเบา
ปัญญาอีก คนอื่นโง่เกี่ยวอะไรกับข้า เอะอะก็ไล่ข้า ให้ไปไถนา ไถนา ข้าต้องทำงานหนักตลอด
เวลาเพื่อให้ทุกคนมีข้าวกิน มันไม่ยุติธรรมกับข้าเลย ข้าจะบอกให้เดี๋ยวนี้ลูกหลานรุ่นหลังของข้า
ได้เข้าเรียนกันสูงๆแล้ว เข้าวงการต่างๆโด่งดังกันไปก็เยอะ"
"เฮ้อ เราต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทัั้งนั้นแหละไม่ว่าใคร พวกมนุษย์จะรู้ไหมนะ ว่าได้
สร้าง ความเดือดร้อนให้พวกสัตว์ทั้งหลายอย่างข้า ข้าล่ะอยากให้พวกมนุษย์ใจร้ายหายไปจาก
โลกนี้ซะจริงๆ ชอบโยนบาปให้พวกข้า พวกข้าพูดไม่ได้ ไม่มีปากมีเสียง เลยต้องมารับกรรมของ
พวกมนุษย์ ช่างเถอะข้าปล่อยวางมันไปนานแล้ว..."
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สัจธรรมข้อนี้คงเหมาะกับข้าจริงๆนั่นแหละ "
"แต่ถึงยังไงข้าก็ยังโชคดีอยู่บ้าง เพราะถ้าวันไหนที่ข้าแก่เฒ่าลงไป ข้าเหน็ดเหนื่อย ข้า
ก็ยังมีเจ้าเอี้ยงมันคอยเลี้ยงดูข้า หรือถ้าข้าแอบไปขโมยกินข้าวของพวกมนุษย์เข้าล่ะก็ หึๆๆๆ เจ้า
เอี้ยงมันก็คงถูกจับขังกรงจนหัวโตแน่ๆ"
"ข้าไม่ไได้โง่นะ แค่เจ้าเอี้ยงมันรับบาปแทนข้าเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆๆ"
ว่าแล้วควายเฒ่าก็หันไไปเล็มหญ้าอ่อนอย่่างสบายใจต่อ
แต่เอ๊ะ!!! อะไรมันหยดลงตรงหัวข้า.... เหม็น อิ๋บอ๋าย...
"เฮ้ย!!!! เจ้าเอี้ยงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ "
<<<<< ฮึ่ม!!!! ไอ้ควายเอ้ย!! >>>>
ระวังนะเดี๋ยวนี้กรรมมันติดจรวดแล้ว.........
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ