กามเทพน้อยสื่อรัก ตอน วุ่นรักคุณอา

6.8

เขียนโดย ณัทนที

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.39 น.

  5 ตอน
  5 วิจารณ์
  11.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 02.00 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

5) ไปเที่ยวทะเลกัน (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                เวลาผ่านไปหลายเดือน ลูกนัทโตขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มคลานได้แล้ว ความสัมพันธ์ของพิมพ์กานต์และณภนต์ก็ดีขึ้น ณภนต์มาที่ร้านเป็นประจำจนเป็นหนึ่งในสมาชิกของร้าน วันไหนไม่ได้มากินข้าวที่ร้านวันนั้นณภนต์รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง เช่นเดียวกับพิมพ์กานต์ ดังนั้นณภนต์จึงให้สัญญากับตัวเองว่าถ้าเขาไม่ติดงานจริง ๆ เขาจะต้องมาให้คุณหลานและคุณม๊าเห็นหน้า ถ้ามาไม่ได้ก็ต้องโทรมาให้ได้ยินเสียงตลอด เวลาณภนต์ต้องไปถ่ายภาพต่างจังหวัดพิมพ์กานต์ก็จะทำขนม คุกกี้จัดไว้ให้ณภนต์เสมอ ลูกค้าหนุ่ม ๆ ขาประจำของร้านต่างคิดว่าณภนต์เป็นแฟนของพิมพ์กานต์เพราะช่วงหลัง ๆ ณภนต์จะนั่งอุ้มลูกนัทอยู่โซฟาหลังเคาน์เตอร์และเวลาที่ลูกค้าพูดจาหวาน ๆ หรือส่งสายตาหยาดเยิ้มใส่พิมพ์กานต์ก็จะโดนรังสีอำมหิตจากณภนต์ที่นั่งอยู่ด้านหลังเสมอ ลูกค้าเหล่านั้นจึงไม่กล้าทำตัวเจ้าชู้คิดจะจีบเจ้าของร้านอีก ตาลและตองพนักงานในร้านต่างพากันยิ้มชอบใจ เพราะณภนต์กับพิมพ์กานต์ดูเหมาะสมกันที่สุด

                “นี่คุณ ทำงานทุกวัน ๆ แบบนี้ไม่อยากไปเที่ยวพักผ่อนบ้างหรอ” ณภนต์ถามขณะมองพิมพ์กานต์จดบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่

                “ก็อยากไปนะ แต่จะปล่อยให้ตาลกับตองดูร้านเองก็คงไม่ไหวหรอก” พิมพ์กานต์ตอบโดยที่ยังคงก้มหน้าอยู่กับสมุดบัญชี

                “ผมว่าเราไปเที่ยวกันมั้ย ไปกันหมดร้านนี่แหละ ปิดร้านพักผ่อนสักสามสี่วัน” ณภนต์เสนอ

                “แล้วจะไปไหนล่ะ สามสี่วันต้องค้างคืน ไหนจะค่ารถ ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าอยู่ โหแพงแน่เลย” พิพม์กานต์จินตนาการรายจ่ายต่าง ๆ แล้วสยอง

                “จะไปยากอะไร พ่อกับแม่ผมมีบ้านพักอยู่ที่หัวหินเรื่องที่พักสบาย ส่วนเรื่องเดินทางเดี๋ยวผมเอารถคันใหญ่ที่บ้านมานั่งได้หกคน ส่วนเรื่องอาหารก็ไม่ต้องห่วงที่บ้านพักมีคนดูแล และถ้าเราอยากกินอะไรเดี๋ยวสั่งไว้ชาวประมงเขาก็เอามาส่งให้เองแหละ”

                “ง่ายขนาดนั้นเชียว?” พิมพ์กานต์ละมือจากสมุดบัญชีหันมาถามณภนต์อย่างสงสัย

                “ใช่ พอดีบ้านผมได้สัมปทานน้ำตรงสะพานปลาน่ะ ชาวประมงเขาก็ชอบเอาของทะเลมาให้บ่อย ๆ”

                “เราจะไปเที่ยวทะเลกันหรอค่ะ คุณกานต์คุณณภนต์” ตาลที่ได้ยินสองคนคุยกันถามแทรกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

                “ใช่ รอแต่เจ้านายตาลตัดสินใจนี่แหละ” ณภนต์ตอบ

                “ไปเถอะค่ะคุณกานต์ ตองยังไม่เคยเห็นทะเลเลยนะคะ ตองอยากไปเล่นน้ำทะเล” ตองที่ถูพื้นอยู่ใกล้ ๆ รีบเข้ามาอ้อนเจ้านาย

                “แต่ว่า....”พิมพ์กานต์กำลังจะแย้ง

                “ไม่ต้องแต่หรอก คุณจะเป็นเจ้านายใจร้ายไม่ยอมให้ลูกน้องได้พักบ้างเลยหรอ อีกอย่างจะได้พาลูกนัทไปเล่นทรายด้วย เด็ก ๆ เนี้ยอยู่กับธรรมชาติเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงไง เนอะลูกนัทเนอะ” ณภนต์พูดขัดขึ้นแล้วก็พยักหน้าเอ่อออกับลูกนัทที่อยู่ในอ้อมแขน

                พิมพ์กานต์ยังคงครุ่นคิด แต่ก็เจอสายตาอ้อนวอนของลูกน้องทั้งสอง พอหันไปทางณภนต์เขาก็พยักหน้าหงึก ๆ ส่วนลูกนัทก็อ้อแอ้ ๆ ทำตาใส

                “ก็ได้ ๆ”

                “เย้ ๆ พี่กานต์ใจดีที่สุดเลย” ตาลกับตองพูดพร้อมกันเสียงดังแล้วกระโดดกอดกัน ทำให้ลูกนัทหัวเราะกับท่าทางของทั้งสอง

                เมื่อถึงวันเดินทาง ณภนต์มารับพิมพ์กานต์ ลูกนัท ตาล ตอง แต่เช้า ตาลและตองต่างตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรก ส่วนพิมพ์กานต์เธอยังคงทำหน้าที่คุณม๊าที่ดีเสมอ คือจัดกการของทุกอย่างสำหรับลูกนัทและตัวเอง รวมไปถึงอาหารเช้าในรถด้วย วันนี้พิมพ์กานต์ทำแซนวิชแฮมและแซนวิชไข่มาสองกล่อง เธอส่งกล่องนึงให้สองสาวที่นั่งด้านหลัง ส่วนเธอทำหน้าที่ป้อนสารถี ทั้งณภนต์และพิมพ์กานต์ต่างชินกับการป้อนอาหารกันบนรถ เพราะเวลาที่ไปไหนด้วยกันตอนเช้าเธอก็มักจะป้อนเขาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สองสาวด้านหลังกลับตื่นเต้น และพากันเขินอายเพราะไม่เคยเห็นพิมพ์กานต์กับณภนต์ทำอะไรสวีท ๆ แบบนี้มาก่อน ในร้านทั้งสองก็แค่หยอกล้อกันไปมาไม่เคยได้ถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนี้ พิมพ์กานต์รู้สึกเหมือนถูกจ้องเธอจึงหันมา

                “มีอะไรหรอ แซนวิชไม่อร่อยรึไง” พิมพ์กานต์ถามตาลกับตอง ทำให้ณภนต์มองสองสาวผ่านกระจกมองหลัง

                “เอ่อ...ป่าวค่ะเพียงแต่ตอง ตองกลัวเมารถน่ะค่ะ” ตองตอบตะกุกตะกักในขณะที่ตาลก็เอ่อออตามไปด้วย

                “อ้อ ฉันมียาแก้เมานะกินแซนวิชรองท้องก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยกินยา” พิมพ์กานต์บอก

                “ค่ะ” ตองตอบยิ้ม ๆ

                พิมพ์กานต์จึงหันมาป้อนแซนวิชณภนต์ต่อ

                “เอาแฮมบ้างซิคุณ” ณภนต์บอก

                “คุณก็กินอันนี้ให้หมดก่อนซิ กินหมดเป็นอัน ๆ ไป” พิมพ์กานต์บอกเสียงดุนิด ๆ

                “ไม่เอาอ่ะ ผมอยากกินแฮม ผมเป็นคนขับรถนะคุณตามใจผมบ้างซิ” ณภนต์ว่าอ้อน ๆ

                “อ่ะ ๆ เรื่องมากจริง เมื่อก่อนไม่เห้นเป็นแบบนี้เลย ทำไมเดี๋ยวนี้ทั้งพูดมากทั้งเรื่องมากแบบนี้นะ” พิมพ์กานต์บ่นแต่ก็เปลี่ยนแซนวิชให้ณภนต์

                “ก็เพราะคุณนั่นแหละทำให้ผมเคยตัว” ณภนต์ตอบก่อนจะอ้าปากงับแซนวิช

                จริงอย่างที่พิมพ์กานต์ว่า ณภนต์คนก่อนเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูด อาจเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เจอผู้คนมากนัก เขาเลยกลายเป็นคนพูดน้อย แต่จริง ๆ แล้วเขาเองก็อยากมีใครสักคนไว้ค่อยปรับทุกข์รึแบ่งปันควาสุขบ้างเพียงแต่ความคิดนั้นมันหลบซ่อนอยู่ในใจลึก ๆ จนเมื่อเขาได้มีโอกาสมาดูแลลูกนัทและได้รู้จักพิมพ์กานต์เขาถึงได้รู้ว่าการอยู่ร่วมกับคนอื่นมันมีความสุขมากมายขนาดไหน

                เที่ยงกว่า ๆ รถของณภนต์ก็มาจอดที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ตอนนี้พวกเขาเดินทางมาถึงหัวหินแล้วณภนต์เลยตัดสินใจว่าจะพาทุกคนกินข้าว และเดินเล่นในเมืองก่อนแล้วค่อยเข้าบ้าน เขาโทรสั่งป้านอมกับลุงสมไว้แล้วว่าให้จัดเตรียมบ้านพร้อมทั้งอาหารให้เรียบร้อย ทุกคนเข้ามาในร้านโดยที่ณภนต์ใส่เป้แบกเด็กไว้ข้างหน้าโดยมีลูกนัทนั่งหันหน้าออก พิมพ์กานต์ถือตะกร้าของใช้เด็กตามมา และตาลกับตองที่ดูตื่นเต้นเมื่อได้เห็นทะเล

                “สั่งเลยนะ เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” ณภนต์บอกขณะที่จัดที่นั่งให้ลูกนัทนั่งที่นั่งสำหรับเด็ก

                “คุณณภนต์ใจดีจังเลย งั้นตาลไม่เกรงใจนะคะ” ตาลบอกยิ้ม ๆ

                เมื่อสั่งอาหารได้สักพัก อาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ มีทั้งกุ้งเผา ปูอบวุ้นเส้น ยำไข่แมงดาทะเล ปลาหมึกผัดพริกไทดำ ต้มยำปลากะพง กุ้งแช่น้ำปลา ปูผัดผงกะหรี่ ส่วนลูกนัทพิมพ์กานต์ได้เตรียมอาหารของเด็กมาให้แล้วและก็ได้แกะกุ้งเผาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ลูกนัทได้ทานด้วย ทุกคนทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน ทานไปคุยไป จากตอนแรกที่ตาลกับตองกลัวณภนต์เพราะณภนต์ดูนิ่งและดุ กลายเป็นว่าคุยกันถูกคอสนุกสนาน สองสาวถามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก อาหารทะเลต่าง ๆ จากณภนต์ ส่วนชายหนุ่มก็อารมณ์ดีตอบทุกคำถามอย่างละเอียด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแน่ ๆ สาวนพืมพ์กานต์ก็ร่วมวงสนทนาบ้าง หันไปดูแลลูกนัทบ้าง ณภนต์ห็นดังนั้นก็เลยแกกุ้งเผาใส่จานให้พิมพ์กานต์ และยังตักอาหารอีกหลายอย่างให้ด้วย

                “พอแล้ว คุณตักให้ฉันเยอะแล้ว” พิมพ์กานต์บอก

                “ก็ผมไม่เห็นคุณกินเลยนิ มัวแต่สนใจลูกนัทผมกลัวคุณกินไม่ทันตองกับตาล” ณภนต์บอกก่อนจะชี้มือไปทางสองสาวที่กำลังนั่งแกะปูกับกุ้งอย่างเมามัน

                “อ้อ อาหารที่นี่อร่อยนะดูท่าสองคนนั้นจะชอบ” พิมพ์กานต์บอกยิ้ม ๆ

                “อร่อยซิ เพราะฉะนั้นคุณรีบ ๆ กินเลย เดี๋ยวหมดจะหาว่าผมไม่เตือน”

                “ค่ะ ๆ เดี๋ยวป้อนลูกนัทเสร็จฉันจะกินล่ะ คุณตักให้ฉันเยอะแยะฉันได้กินแน่ ๆ” พิมพ์กานต์บอกณภนต์ยิ้ม ๆ แล้วหันไปป้อนข้าวลูกนัทต่อณภนต์ยิ้มตอบแล้วก็หยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดปากให้ลูกนัทก่อนจะหันไปทานอาหารต่อ แต่ก็ยังตักนู้นนี่ใส่จานให้พิมพ์กานต์เหมือนเดิม ตาลกับตองแม้จะเมามันกับอาหารตรงหน้าแค่ไหนก็ยังแอบสังเกตสองหนุ่มสาว พวกเธอสองคนรู้สึกได้ถึงความรักความห่วงใยที่หนุ่มสาวคู่นี้มีให้กัน

                อาหารเที่ยงผ่านไป ณภนต์พามาเที่ยวที่เพลินวาน เขาทำหน้าที่แบกเป้เด็กโดยมีลูกนัทนั่งหันหน้าออกไปเหมือนเดิมแต่รอบนี้เขาหยิบกล้องถ่ายรูปมาด้วย ตองกับตาลเดินเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน เจอมุมไหนสวยก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ส่วนพิมพ์กานต์กับณภนต์เดินกันช้า ๆ โดยที่ณภนต์หยุดถ่ายรูปวิวบ้าง ถ่ายรูปพิมพ์กานต์บ้าง บางทีก็ให้พิมพ์กานต์อุ้มลูกนัทเพื่อถ่ายรูปคู่คุณม๊ากับลูกนัทบ้าง ตองกับตาลเห็นสองคนผลัดกันถ่ายรูปไปมาก็เลยขออาสาถ่ายให้ โดยให้ณภนต์ไปยืนข้างพิมพ์กานต์กับลูกนัท เหมือนเป็นภาพครอบครัว เมื่อเดินเล่นกันเสร็จลูกนัทดูท่าจะเหนื่อย ร้องไห้งอแงใหญ่ ณภนต์เลยพาทุกคนไปที่บ้านพัก

                บ้านพักของณภนต์เป็นบ้านปูนสองชั้น ชั้นล่างมีระเบียบที่ยืนออกไปและมีบันไดทีสามารถเดินลงไปทีชายหาดได้ ส่วนด้านบนเป็นห้องนอน มีทั้งหมดสี่ห้อง คือห้องของพ่อกับแม่เขา ห้องพี่ชาย ห้องของเขาและห้องนอนแขก ป้านอมจัดห้องนอนของณภนต์และห้องนอนแขกไว้ให้ เพราะห้องของคุณท่านทั้งสองและห้องของคุณณดลนั้นมีเจ้าของถ้าเจ้าของห้องไม่อนุญาตก็พักไม่ได้ ตาลกับตองพักห้องนอนแขกส่วนพิมพ์กานต์ณภนต์และลูกนัทพักห้องณภนต์ พิมพ์กานต์ไม่มีปัญหาเพราะเคยพักกับณภนต์มาก่อนแล้ว เธอไว้ใจเขา และอีกอย่างพักฟรีก็ไม่อยากจะรบกวนเจ้าของบ้านมากกว่านี้ เมื่อมาถึงลูกนัทก็หลับสนิท ป้านอมรับอาสาดูแลลูกนัทเอง ป้าจัดการปูฟูกเล็ก ๆ ให้ลูกนัทนอนที่ห้องโถง ส่วนคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกันไปเก็บของใช้ส่วนตัว พิมพ์กานต์เมื่อเก้บของเสร็จก็เดินออกมารับลมตรงระเบียง

                “เป็นไงคุณ ที่นี่สวยมั้ย” ณภนต์ถามขณะเดินมาหยุดข้าง ๆ พิมพ์กานต์

                “สวยค่ะ ฉันไม่ได้มาทะเลนานมากเลยนะคุณรู้มั้ย” พิมพ์กานต์บอก

                “หรอ แล้วมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ล่ะ”

                “ตอนเรียนปีสามมั้งค่ะ มากับฟ้า” พิมพ์กานต์ตอบเสียงแผ่ว เธอกำลังคิดถึงเพื่อนรักของเธอ แม่ของลูกนัท ทั้งสองคนสนิทกันมากตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ตอนนี้เพื่อนของเธอหายไปเพื่อตามหาพ่อของลูกนัท พี่ชายของณภนต์

                “พี่ชายคุณติดต่อมาบ้างมั้ยค่ะ” พิมพ์กานต์ถาม

                “ไม่เลย ผมเคยโทรไปแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ผมว่าพ่อกับแม่น่าจะรู้ว่าพี่อยู่ไหน แต่ตอนนี้พ่อกับแม่ไปทัวร์ยุโรปยังไม่กลับ ผมก้ติดต่อใครไม่ได้เลย” ณภนต์พูดแล้วก็ถอนใจ พี่ชายเขาเป็นคนเจ้าชู้และไม่ชอบการผูกมัด เขายังคิดไม่ออกเลยว่านภาจะตามพี่ชายเขากลับมาได้อย่างไร ส่วนพ่อกับแม่ตั้งแต่กิจการโรงแรมมั่นคงและเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งสองก็ออกไปเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง จะประชุมทีก็ออนไลน์มาข้ามประเทศ

                “ไม่รู้ป่านนี้สองคนนั้นจะเป็นไงบ้างนะคะ”

                “อย่าคิดมากน่า นี่เรามาพักผ่อนกันนะ คุณอย่ามาทำหน้าหงอยแบบนี้ซิ”

                พิมพ์กานต์หันมายิ้มให้ณภนต์และเธอก็ได้รับรอยยิ้มของชายหนุ่มตอบกลับมาเช่นกัน ทั้งสองยืนมองทะเล มองคลื่นอย่างเงียบ ๆ พิมพ์กานต์แอบหวั่นไหวเล็ก ๆ กับรอยยิ้มและความเอาใจใส่ของณภนต์ ส่วนณภนต์เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นพิมพ์กานต์ยิ้ม

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา