ฝรั่งจ๋ามาหารัก
เขียนโดย มะมาย
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 16.15 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ข้าวเหนียวหมูปิ๊ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรถทัวร์ชะลอความเร็วเพื่อจอดส่งผู้โดยสารที่สถานี คลองมะม่วง เมื่อรถจอดนิ่งสนิทผู้คนบนรถต่างก็เริ่มทยอยกันเดินลงมาจากทางลงทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เหลือเพียงแต่หนุ่มฝรั่งผิวขาวรูปร่างสันทัดซึ่งมองผิวเผินเขาก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับชายไทย เพียงแต่เขามีผมสีน้ำตาลทองอันเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น
คนขับรถฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่คะเขินเมื่อมิสเตอร์แฟรงค์หยิบกล้องถ่ายรูปที่ห้อยคออยู่ขึ้นมาโฟกัสไปที่เขา
“ซวย-มาก”
มิสเตอร์แฟรงค์กล่าวพลางยกนิ้วโป้ง มันเป็นหนึ่งในคำไทยไม่กี่คำที่เขาสามารถพูดได้
“สวยครับไม่ใช่ซวย” คนขับรถหัวเราะลั่น
หลังจากนั้นมิสเตอร์แฟรงค์จึงลงมาจากรถและเดินไปยังที่พักผู้โดยสารหลังเก่าที่อยู่หน้าตลาดชุมชนเพื่อยืนรอคนของ สวนฝัน ซึ่งเป็นโฮมสเตย์ที่เขาจองเอาไว้มารับ ระหว่างที่รอเขาไม่ลืมที่จะถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบเก็บเอาไว้ เด็กชายคนหนึ่งก็เป็นที่สะดุดตาเพราะทรงผมประหลาดที่มีเพียงผมที่ปล่อยยาวไว้ตรงกลางศีรษะเท่านั้น เด็กชายสวมเสื้อยืดตัวบางสีขาวกับกางเกงสีกากีตัวเก่าที่มีรอยปะอยู่หลายแห่งกำลังถือถาดข้าวเหนียวหมูปิ้งเดินเร่ขายให้กับผู้โดยสารบริเวณนั้น มิสเตอร์แฟรงค์นั่งชันเข่าลงข้างหนึ่งและจับโฟกัสกล้องไปยังเด็กชายที่ยืนหันซ้ายแลขวา เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นมิสเตอร์แฟรงค์ก้มมองภาพที่ถ่ายเอาไว้เมื่อกี๊ พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเด็กผมจุกในภาพมายืนอยู่ตรงหน้า
“ไอ้ฝรั่ง เห็นมองอยู่นานแล้วจะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหรอ”
เด็กผมจุกเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ามอมแมม มิสเตอร์แฟรงค์มองก้อนสีขาวที่อยู่ในถุงและหมูเสียบไม้ในถาดที่เด็กชายถืออยู่แล้วเอ่ยถาม
“อา-รอย-มาย?”
เด็กชายผมจุกพยายามจับใจความในสิ่งที่เขาได้ยินมาแล้วสรุปให้กับตัวเอง
“เออ ทั้งหมดนี่ร้อยนึง”
ว่าแล้วจึงหยิบเอาข้าวเหนียวที่เหลืออยู่สองถุงกับหมูปิ้งอีกสองไม้ใส่รวมกันในถุงหูหิ้วที่เตรียมไว้และส่งมันให้มิสเตอร์แฟรงค์ เขารับมาและดึงหมูปิ้งในถุงออกมาแล้วอ้าปากใช้ฟันกัดรูดเนื้อหมูทั้งไม้เข้าปาก
“อา-รอย-มาก”
เด็กชายมองหน้า เขายืนรออยู่ “เงินล่ะ จ่ายมาหนึ่งร้อยบาท”
มิสเตอร์แฟรงค์นึกขึ้นได้จึงล้วงมือควักเงินในกระเป๋ากางเกงออกมาเขายื่นแบงค์ร้อยให้ เด็กชายรับมาอย่างว่องไว วันนี้ถือเป็นความโชกดีของเขาที่ข้าวเหนียวเพียงสองถุงกับหมูปิ้งแค่สองไม้ทำเงินให้กับเขาได้ตั้งหนึ่งร้อยบาท หันหลังจะเดินกลับทว่าพบกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนขวางเอาไว้ ที่แท้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ ศรัญญา ซึ่งทั้งสองคนรู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว
“อ้าวพี่รันจะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหรอ พี่มาช้านิดเดียวเองจุกเพิ่งขายถุงสุดท้ายให้กับไอ้ฝรั่งคนนั้นไป”
“ข้าไม่ได้มาซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งของเองหรอก” ศรัญญากล่าวเสียงเรียบ
“งั้นจุกไปก่อนล่ะ กำลังรีบ”
คล้อยหลังจุกยิ้มกว้างและมองสิ่งที่กำอยู่ในมืออย่างเบิกบาน ทว่าออกเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ศรัญญากลับดึงเสื้อเขาเอาไว้
“มีอะไรอีกพี่รัน”
“ข้าวเหนียว 2 ถุง กับหมูปิ้งอีก 2 ไม้ มันเท่าไหร่กันวะ” เธอถาม
“20สิพี่ถามทำไม” คิ้วของจุกขมวดเข้าหากัน
“ดี งั้นเองทอนข้ามา 80” ศรัญญากวักมือ
“เงินทอนอะไรกันพี่รัน” จุกเฉไฉแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ก็เงินทอนของฝรั่งที่ยืนอยู่หลังเองไงอย่านึกว่าข้าไม่รู้นะเว้ยว่าเองโกงเขาน่ะ”
“โถ่ ไอ้ฝรั่งมันรวยจะตายไป มันไม่สนใจกับเงินขี้ปะติ๋วแค่80บาทหรอก”
“แต่ข้าสน เองคิดหรอว่าข้าไม่รู้ว่าเองจะเอานี่ไปทำอะไร พ่อเองไม่อยู่เฉยแน่ถ้ารู้ว่าเองขัดคำสั่งไปเล่นไก่ที่ท้ายสวยอีก” ศรัญญาขู่ จุกเปลี่ยนใจขึ้นมาซะง่ายๆเพราะถ้าเกิดพ่อรู้ขึ้นมาเขาต้องโดนบ่นจนหูชาอีกแน่ ดีไม่ดีเขาอาจโดนตีจนขาลาย
“มัวยืนอยู่ทำไมวะ จะไปไหนก็ไปสิ”
จุกเดินคอตกกลับไปอย่างเสียดายเมื่อถูกศรัญญาไล่
“นี่เงินของคุณ”
ศรัญญายื่นแบงค์ยี่สิบสี่ใบให้ทว่ามิสเตอร์แฟรงค์ไม่เข้าใจเธอจึงเป็นฝ่ายยัดเงินทั้งหมดนั้นใส่ไว้ในมือของเขาแทน แล้วพูดต่อ “ฉันชื่อศรัญญาค่ะ มาจากสวนฝันมารับคุณไปที่พัก”
มิสเตอร์แฟรงค์ฟังภาษาไทยไม่ออกแต่ก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นลายที่สกรีนบนเสื้อสีบานเย็นที่ศรัญญาใส่มา
“สวัสดีครับ”
เขายกมือไหว้อย่างสวยงาม ศรัญญารีบโบกไม้โบกมือ
“ไม่ต้องไหว้ฉันหรอกค่ะ คุณน่าจะอายุมากกว่า แถมเป็นแขกของฉันอีกตั้งหาก”
เธอบอกอย่างเกรงใจ ส่วนมิสเตอร์แฟรงค์ก็เอาแต่ยิ้มเพราะฟังไม่ออก
“ตามฉันมาค่ะ”
ศรัญญาออกเดินนำโดยมีมิสเตอร์แฟรงค์เดินตามไม่ห่าง เธอบอกให้เขาไปรอที่รถส่วนเธอจะแยกไปซื้อของในตลาดทว่าตรงที่เธอชี้ไปมีรถจอดอยู่สองคันนั่นคือรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างและรถกระบะสองแถว และมิสเตอร์แฟรงค์ก็เลือกอย่างที่สอง เขาไม่ลังเลที่จะเปิดประตูด้านข้างคนขับและเดินขึ้นไปนั่งอย่างไม่ได้คิดอะไร ศรัญญาหายไปราวห้านาทีจึงกลับมาและพบว่ามิสเตอร์แฟรงหายไปเสียแล้ว เธอกวาดตามองหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ ศรัญญาจึงตัดสินใจจะไปตามหาเขาในตลาดแต่พอเดินผ่านรถกระบะที่จอดอยู่ข้างกันหางตาเหลือบเห็นผมสีน้ำตาลทองกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น เธอหยุดเดินและหันไปมองที่แท้มิสเตอร์แฟรงค์หลบมานั่งอยู่ข้างบนนี้เอง ศรัญญาเคาะกระจกเรียก มิสเตอร์แฟรงค์เมื่อเห็นเป็นศรัญญาก็เลื่อนกระจกลง
“คุณมาทำอะไรบนนนี้คะ รีบลงมาเร็วเข้า”
มิสเตอร์แฟรงค์ทำหน้าเอ๋ออ๋า ศรัญญาจึงเป็นฝ่ายเปิดประตูและดึงเขาออกมาจากรถทันที
“มี-เหลือง-หรอ-รันย่า” เขาวิตกนิดหน่อยที่เห็นเธอรีบเร่ง
“ตอนนี้ไม่ค่ะ แต่ต่อไปอาจมี คุณขึ้นรถผิดคัน รถคันนี้ไม่ใช่ของฉัน”
มิสเตอร์แฟรงค์ส่ายหน้าไม่เข้าใจ ว่าแล้วศรัญญาจึงเดินนำเขาไปยังรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างของเธอ
“คันนี้ตั้งหากรถของฉัน ส่วนคันนั้นที่คุณนั่งไม่ใช่ของฉันค่ะ”
เธอพยายามอธิบายแล้วขยายความต่อด้วยการเปิดประเป๋าสะพายหยิบกุญแจรถขึ้นมา
“My key My car” เธอบอกพลางชี้ไปที่กุญแจและชี้มาที่รถ
มิสเตอร์แฟรงค์หัวเราะออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองขึ้นรถผิดคัน ศรัญญาเสียบกุญแจรถ สตาร์ทอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่ยอมติด เห็นทีเธอต้องขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์แฟรงค์เสียแล้วล่ะ
“คุณเข็นแบบนี้นะ”
เธอสอนซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี
ในที่สุดรถก็กลับมาติดอีกครั้งแต่ก็เล่นทำเอาคนเข็นเหงื่อตกกันเลยทีเดียว เดินทางราวสิบนาทีก็มาถึงสวนฝันโฮมสเตย์ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นอยู่ติดริมคลอง ชาวบ้านละแวกนี้ยึดอาชีพทำสวนมะม่วงเป็นหลักดังนั้นเราจึงพบเห็นต้นมะม่วงได้อย่าง่ายดายโดยเฉพาะริมคลองแบบนี้
หลังจากที่มิสเตอร์แฟรงค์จัดข้าวของเสร็จเขาก็ลงมาจากห้องเพื่อเดินเล่นและถ่ายรูป จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ศาลาริมน้ำซึ่งศรัญญาเองก็กำลังยุ่งๆอยู่กับเรือของเธอเช่นกัน
“ทาม-อา-ราย-รันย่า” มิสเตอร์แฟรงค์ทัก
“ปะเรือค่ะ ฉันว่าจะไปดูสวยซะหน่อยGo to garden น่ะคะ” เธอขยาย
“ผม-ปาย-กาบ-รันย่า-ดาย-ไม้”
“By old boat นะคะ” เธอบอกอย่างยิ้มแย้ม
มิสเตอร์แฟรงค์ใช้เวลาที่ศรัญญาซ่อมเรืออยู่ถ่ายภาพเธอกับเรือเก็บเอาไว้
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ
ถ้าชอบวอนวิจารณ์เป็นกำลังใจให้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ