แสงสว่างที่พ่อให้

7.1

เขียนโดย ployvver

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 06.38 น.

  1 ตอน
  17 วิจารณ์
  4,929 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.13 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) แสงสว่างที่พ่อให้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทนำ

...แสงสว่างที่พ่อให้...

 

          "แม่ฮะ วันนี้คุณครูที่โรงเรียนเล่าเรื่องของคุณลุงคนหนึ่งให้ฟังด้วยล่ะครับ ^ ^" เด็กชายวัย 4 ขวบพูดขึ้น ขณะที่จับมือผู้เป็นแม่เดินออกจากประตูโรงเรียน

 

          "เหรอจ๊ะ ^ ^ เล่าให้แม่ฟังได้ไหมเอ่ย? หืมม~ เด็กดีของแม่" หญิงวัยกลางคนกล่าวพลางฉุดลูกชายขึ้นมาอุ้มด้วยความเอ็นดู

          "คิกๆ ได้สิฮะ แต่แม่ต้องสัญญานะครับว่าจะไม่เล่าให้พ่อฟังน่ะ" 

          "ทำไมล่ะจ๊ะ ^^"

          ผู้เป็นแม่ถาม ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ก็รู้สึกใจสั่นอยากจะร้องไห้ขึ้นมา 'เป็นเพราะอะไรกันนะ!?' เธอคิด แล้วกลืนก้อนสะอื้นลงคอ

          "เปล่าหรอกฮะ ผมแค่กลัวว่าพ่อจะทำเหมือนคุณลุงคนนั้น นะฮะ! แม่สัญญานะ"

          "จ่ะๆ แม่สัญญา ทีนี้เล่าให้แม่ฟังได้หรือยัง"

          "คุณแม่ตั้งใจฟังนะฮะ คือว่า...."

 

         ........ณ บ้านไม้หลังเล็กๆ หลังหนึ่ง มีพ่อลูกอาศัยอยู่ด้วยกันที่นั่น 

ผู้เป็นพ่อนั้นอายุ 44 ส่วนลูกสาวอายุเพียง 15 ปี 

 

          "พลอยใสลูกจะไปไหนน่ะ ม่ะ! เดี๋ยวพ่อช่วย" ชายชราพูดแล้วเข้าไปพยุง เมื่อเห็นลูกสาวของตนลุกจากเตียง

          ภาพที่เขาเห็นคือเด็กสาวสมวัยกำลังลุกจากเตียง แววตาแน่นิ่งทอดมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย โดยที่สองมือของเธอควานไปมากลางอากาศ

          ถูกแล้ว! เธอคนนี้มีสายตาที่มืดสนิทหรือก็คืิอคนที่ตาบอดนั่นเอง

          "ปล่อยนะ! ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!!" พลอยใสตวาดลั่น พร้อมกับปัดมือเหี่ยวย่นที่หวังดีออก

          "พลอยใสลูก พ่อขอโทษ" คนเป็นพ่อกล่าวออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ ถึงแม้ลูกของตนจะแสดงกริยาแบบนั้นออกมา แต่เขาก็ไม่โกรธเธอเลยแม้เแต่น้อย กลับกัน เขากับรู้สึกผิดและเจ็บปวดซะมากกว่า

          "ไม่! ฉันเกลียดพ่อ พ่อทำให้ฉันต้องตาบอด แล้วยังทำให้แม่ต้องตายไปอีก ฮื่อๆๆๆ ออกไป! อย่ามายุ่งกับฉัน ฮึกๆๆ" เธอตวาดอีกครั้ง ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาช้าๆ ถึงแม้เธอจะพยายามกลั้นมันไว้แล้ว แต่ท้ายที่สุดมันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

          "พ่อขอโทษๆ ยกโทษให้พ่อนะ" ชายชราพูดพึมพำเสียงสั่น แล้วสวมกอดลูกอย่างรู้สึกผิด 

          ใช่แล้วเขาคือคนที่พรากแสงสว่างของพลอยใส และชีวิตของภรรยาเอง เขาคือคนที่พรากทุกอย่างของเด็กคนนี้เมื่อสี่ปีก่อนเอง

           ถึงนั่นจะเป็นเพราะอุบัติเหตุ แต่เขาก็คือคนที่ทำลายความร่าเริงแจ่มใสของเธอเอง

พอคิดถึงตรงนี้ทีไร เขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจขึ้นมา 

           "ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันแล้วเอาแสงของฉันคืนมา เอาแม่ฉันคืนมา ฮื่อๆๆ" ร่างบางพูดแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอพยายามที่จะเพ่งมองไปข้างหน้า เพื่อค้นหาแสงสว่างที่อาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อดวงตาทั้งสองข้างนี้ไม่อาจใช้การได้อีก จนกว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาใหม่

            ซึ่งนั่นก็เป็นไปไม่ได้อีก เพราะการผ่าตัดเปลี่ยนตานั้น จำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนมาก และฐานะของเธอกับพ่อในตอนนี้ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้หรอก ไม่มีทางเลย....

            "พ่อขอโทษ ก็ได้ๆ พ่อจะคืนมันให้หนู" ชายชราพูดหนักแน่นแล้วกระชับวงแขน ราวกับกลัวว่าลูกรักของตนจะสลายไปเมื่อเขาคลายกอด

             ตลอดสี่ปีที่ผ่ามา เขารู้ดีว่าพลอยใสต้องทุกข์ทรมาณแค่ไหนกับการต้องเสียตาและแม่ไป ถึงแม้เขาจะรักเธอแค่ไหน แต่เขาก็ทำอะไรได้ไม่มาก นอกเสียจากการทำงานหาเงินก้อนใหญ่พอที่จะผ่าตัดเปลี่ยนให้ลูกรัก ถึงจะต้องลำบากมากแค่ไหนก็ตาม

            และแล้วความพยายามตลอดสี่ปีของเขาก็บรรลุ เมื่อเขาสามารถเก็บเงินได้พอที่จะรักษาพลอยใสแล้ว ความพยายามของเขาสำเร็จแล้ว..

            "ฮึกๆ อย่ามาล้อเล่นนะ! คนอย่างพ่อจะทำอะไรได้!? คนที่พรากทุกอย่างจากฉันไปน่ะจะทำอะไรได้!!!! กรี๊ดดดด!" ร่างเล็กกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจนในที่สุดเธอก็หมดสติ แล้วทิ้งน้ำหนักตัวที่อ้อมแขนอบอุ่นของผู้เป็นพ่ออย่างไม่รู้สึกตัว

            "พลอยใส!! อย่าเป็นอะไรนะลูก" เขาร้องลั่น แล้วรีบพาแก้วตาดวงใจไปโรงพยาบาล

            หัวใจของผู้เป็นพ่อเต้นตูมตามด้วยความร้อนใจและกังวน จนเมื่อเธอถึงมือหมอ ชายชราถึงเบาใจไปได้ครึ่งหนึ่ง 

            แต่แล้วความสบายใจก็อยู่กับผู้เป็นพ่อได่ไม่นาน เมื่อคุณหมอเรียกเขาไปอธิบายถึงอาการของพลอยใส 

            "เพราะอาการช็อกของเธอส่งผลกับโสนประสาทตาทำให้มีการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เธอจึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนตาตอนนี้ มิฉะนั้นเธอจะไม่มีโอกาสกลับไปมองเห็นได้อีกครั้งเลย"

            "หมอครับผมมีเงินครับ หมอต้องช่วยลูกผมนะ" คนเป็นพ่อโพล่งขึ้นอย่างรีบร้อน

            "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นั่นหรอกครับ คือตอนนี้ทางโรงพยาบาลไม่มีตาที่สามารถเข้ากันได้กับคนไข้เลย หมอเสียใจด้วยจริงๆ ครับ ขอตัว" ว่าแล้วชายชุดขาวสะอาดก็เดินผละจากไป ทิ้งไว้แค่ชายชราที่เข่าทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรงเท่านั้น

            "หมอครับ...!?" และก่อนที่หมอจะเดินไปไหนไกล เขาก็เรียกหมอเอาไว้ ใช้สายตาอันมุ่งมั่นสบตาหมอเอาไว้ "แล้วถ้าเป็นตาของผมล่ะ ได้ไหม...!?" 

 

     [หกเดือนผ่านไป]

          ในห้องพักฟื้นห้องหนึ่งมีเด็กหญิงอายุ 15 ปี นั่งอยู่บนเตียงขนาดพอดีตัว ที่ตาของเธอมีผ้าพันแผลสีขาวสะอาดพันรอบหัว นั่นคือผลจากการผ่าตัดตาเมื่อหกเดือนก่อน และวันนี้คือวันที่หมอจะแกะผ้าพันออก แน่นอนว่าพลอยใสดีใจและลุ้นกับเรื่องนี้มาก

          "พี่จะแกะออกแล้วนะคะ" พยาบาลกล่าวใจดีแล้วค่อยๆ แกะผ้าพันแผลออกช้าๆ อย่างเบามือ "ทีนี้น้องพลอยใสค่อยๆ ลืมตานะคะ แล้วบอกพี่ด้วยว่าเห็นอะไรบ้าง" 

          พลอยใสพยักหน้าหงึกๆ ใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น เธอทำตามคำของพยาบาลสาว แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ

และเมื่อเปลือกตาของเธอเปิดกว้าง เด็กสาวก็กระพริบตาถี่เพื่อปรับสายตา แสงสว่างสีนวนก็เข้ามาระทบม่านตาของเธอทันที

          "พลอยใส! น้องพลอยใส บอกพี่หน่อยสิ ว่าเห็นอะไรหรือเปล่า!?" พยาบาลสาวสะกิด! เมื่อเห็นว่าร่างเล็กของพลอยใสนิ่งงัน จะมีก็เพียงแต่น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เธอเดาไม่ถูกจริงๆ ว่าตอนนี่กำลังเด็กนี่มองเห็นอะไร?

          "ฮึกๆ หนูเห็น... หนูเห็นแสงค่ะ" ร่างเล็กพูดออกมาพร้อมน้ำตา 

          แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ..? คำพูดประโยคเดียวของเธอนั้นสร้างความดีใจให้บุคคลหลายคยเลยทีเดียว และแน่นอน.. ว่าหนึ่งในนั้นคือพ่อของเธอที่อยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้

 

[สามวันผ่านไป] 

          "พี่คะ เมื่อไหร่พลอยจะได้เจอพ่อกับคนที่บริจากตาให้พลอยสักทีล่ะคะ" พลอยใสเอ่ยถามอย่างข้องใจ เมื่อสองสามวันมานี้เธอไม่เห็นหน้าของผู้เป็นพ่อเธอเลย และนั่นทำให้เธอรู้สึกกังวนใจแปลกๆ 

          'พ่อไปไหนกันแน่ แล้วทำไมเขาถึงไม่มาเยี่ยมฉันเลย หรือว่าตอนนี้พ่อเกลียดฉันไปแล้ว' คำถามมากมายเอ่อล้นออกมาจากความคิดของพลอยใส 

          แต่ทุกครั้งที่เธอถามออกไปมักจะได้แต่ความว่างเปล่ากลับมาเท่านั้น นั่นก็เพราะคนถูกถามเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเธอตลอด และมักมีข้ออ้างเล็กๆ น้อยๆ มาอ้างเพื่อหนีจากการตอบคำถามของเธอทุกครั้ง

          และครั้งนี้ก็เช่นกัน....

          "เอ่อ... คือ คือว่า พี่มีนัดตรวจคนไข้น่ะค่ะ ขอตัวนะคะ" พยาบาลเฉไฉไม่สบตาร่างเล็ก

          "พี่คะ พ่อพลอยเป็นอะไร ได้โปรดเถอะค่ะ บอกพลอยที" 

          "คือ.. คือว่า อ่ะหมอมาพอดี" พยาบาลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหมอหนุ่มใจดีเดินเข้ามา

          "หมอคะ พ่อฉันอยู่ไหนเหรอคะ"

          "ฉันคิดว่าเธอควรจะอ่านนี่" ว่าแล้วเขาก็ยื่นซองจดหมายสีขาวให้คนไข้ "หมอขอตัวนะ" แล้วเขาก็เดินจากไปพร้อมกับพยาบาล แต่เขาไม่ได้ไปไหนไกลเพียงแค่ยืนหลบอยู่หลังประตูเท่านั้น

          พลอยใสเมื่อรู้ว่าจดหมายเป็นของพ่อ เธอจึงรีบแกะออกอ่านทันที ในนั้นคือลายมือของพ่อเธอที่ไม่ได้เห็นมานานถึงสี่ปี

 

          ถึงพลอยใสลูกรัก

               ตอนนี้ลูกคงกำลังอ่านจดหมายของพ่อด้วยตาของลูกเองแล้วนะ พ่อดีใจด้วยกับแสงสว่างที่ลูกได้รับอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ได้อยู่ดีใจกับลูก แต่ลูกจงรู้ไว้ว่าพ่อรักลูกที่สุด พ่อขอให้ลูกใช้ตาที่ได้มาอย่างที่ลูกต้องการ และสุดท้ายนี้...

               ลูกจงรักษาตาของพ่อคู่นั่นไว้ให้ดี และขอให้ตาของพ่อได้อยู่กับลูกจวาระสุดท้าย

 

                         ............ ด้วยรัก จากพ่อ

 

           เมื่อเธออ่านจบบทความ น้ำตาแห่งความเสียใจก็หยดลงบนกระดาษทันที 

           "อะไรกัน นี่ตาของพ่องั้นเหรอ?!

ทำไมล่ะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ หนูไม่ได้ต้องการแบบนี้สักหน่อย!! ทำไมพ่อต้องตาย ทำไมวันที่หนูมองเห็นถึงไม่เห็นใครเลย ฮื่อๆๆ ทำไม!!!" พลอยใสพร่ำพรรณากับตัวเองเหมือนคนบ้า ท่ามกลางเสียงสะอื้นของตน

 

 

           "รู้อย่างนี้... รู้อย่างนี้หนูไม่เอาดีกว่า พ่อหนูขอโทษ หนูไม่เอาแล้ว~ หนูไม่อยากได้มันแล้ว...ฮื่อๆๆๆ" 

         ......................

            "หมอคะ เป็นแบบนี้จะดีจริงๆ เหรอที่ให้เด็กคนนั้นเข้าใจว่าพ่อของตัวเองตายไปแล้วน่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากห้องด้านใน ในใจเธอก็อยากเข้าไปปลอบ หากไม่ติดว่าคุณหมอห้ามเอาไว้

 

          "ดีแล้วล่ะ ก็มันเป็นการตัดสินใจของคนเป็นพ่อนี่นา~"

          "แต่ว่า..เธอน่าสงสารนะคะ"

          "ก็รู้เหตุผลของคุณลุงคนนั้นนี่น่า~" หมอพูดดักแล้วเดินผละออกไป

 

                       'ถ้าแกตื่นขึ้นมา ช่วยบอกแกด้วยนะครับว่าผมตายไปแล้ว ผมไม่อยากให้แกลำบากเพราะผม เพราะตาแกตาบอดอย่างผม! เพราะงั้นขอร้องล่ะ?' 

 

          จู่ๆ คำพูดของชายชราก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา ใช่แล้ว เขาคือพ่อของพลอยใสนั่นเอง.......

          พ่อที่รักลูกเท่าชีวิต...

           พ่อที่ให้แสงสว่างกับลูกอีกครั้ง...

          พ่อที่แม้ตัวเองจะต้องอยู่ในโลกอันมืดมิดก็ยอม ...

          ยอมเพื่อที่ลูกคนเดียวของตนจะได้กลับมาทอดสายตามองแสงสว่างอีกครั้ง...

          และตลอดไป ...

...................................................................

 

           "แม่ฮะ! เป็นอะไรไปฮะ" เด้กชายวัยสี่ขวบเอ่ยถามเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ร้องไห้ หลังจากที่เขาล่าเรื่องจบ

           "เปล่าจ่ะ! กลับบ้านกันเถอะ ^ ^" ผู้เป็นแม่ปฏิเสธแล้วปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ

แล้วสองแม่ลูกก็เดินจูงมือกันเดินไปที่รถที่มีผู้เป็นพ่อที่จอดไว้อยู่

           "นี่คุณเป็นอะไรน่ะ ผมเห็นร้องไห้ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ" คนเป็นสามีถามเพราะความเป็นห่วง และตอนนี้เจ้าตัวป่วนนอนหลับไปแล้วด้วย

           "ฮึกๆ เปล่าค่ะ ฉันแค่คิดถึงพ่อเท่านั่นเอง"

           "อะไรกัน.. คุณนี่ก็ขี้แยเป็นเหมือนกันนี่น่า~ พลอยใส..." ว่าแล้วเขาก็หันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ

           "ขอบคุณนะคะพ่อ ที่ให้แสงสว่างกับหนู..." เธอพึมพำแล้วเปลือกตาลง

 

 

..............................................................

จบแล้วค่ะ ฝากวิจารณ์กันเยอะๆ ด้วยนะคะ ^ ^

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา