ของขวัญของพ่อ

6.6

เขียนโดย มุเมะโนไทสะ

วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 07.07 น.

  3 ตอน
  19 วิจารณ์
  9,260 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 11.43 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) ของขวัญที่แสนวิเศษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     ''คุณ''พ่อ''กับคุณแม่จะไปไหนหรือครับ?''  ลูกชายตัวน้อยที่เดินลงมาจากบรรไดพร้อม

กับตุ๊กตาหมีสีนํ้าตาลอ่อนกับขยี้ตาง่วงหาวนอนเหมือนกับไปอดหลับที่ไหนกําลังมองพวกเราสองคน

ที่ใส่ชุดสบายๆกันและเตรียมกระติกนํ้าและกล่องข้าวกันก่อนที่ผมจะหันไปมองทางที่รักแล้วพวกเรา

พูดพร้อมกัน 

 

   ''ไปเที่ยวสวนสนุกกันยังไงละครับ/คะ/ คุณลูก''   พวกเรายิ้มออกมาทั้งสองคนจงตุ๊กตาของลูกตกลงมาแล้วทําตาโตใส่กับใบหน้าของวัยเด็กที่ตกตะลึงก่อนจะทําหน้าดีใจแถมทําหน้ามุ้ยใส่พวกเราด้วย 

 

   ''อะ ..เอ๋??!! สะ..ส..สวนสนุก! ทะ...ท..ทําไมไม่ปลุกผมละ!! '' ลูกชายตัวน้อยเข้ามาทุบ

เข่าผมและทําสีหน้าไม่พอใจที่ไม่ยอมปลุกอีกให้ตื่นแต่เช้า

 

 

  ''เอ๋ -------- ''พ่อ''ขอโทษ เอ้า รีบไปอาบนํ้าซะ พ่อกับแม่อาจจะไปก่อนก็ได้นะครับ '' ผมพูดเชิงขู่จงลูกวิ่งถอดกางเกงเข้าห้องนํ้าภาพในตอนนี้ของผมนี้มันน่าดีใจที่เราได้ใช่เวลาไปด้วย

กันกับลูกของพวกเราด้วย

 

  ''ว่าแต่คุณคะ? ไม่ได้ลืมแล้วใช่ไหม?''  ที่รักพูดพลางเก็บกระติกนํ้าอันเล็กของลูกกับข้าว

กล่อง

 

  ''ครับๆ ผมไม่ลืมหรอก '' ผมหยิบกุญแจขึ้นมาพร้อมกับหอมแก้มที่รักในท่าที่ที่พวกเรายังเป็น

แฟนกันอยู่ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตารอคุณลูกชายตัวน้อยของพวกเราอาบนํ้าให้เสร็จ

 

-------------------------------------------------------------------------------------

 

   ในช่วงกลางวันร้อนๆที่เกือบจะเอาผมเป็นลมเพราะอากาศที่ร้อนยังกับนํา  ไก่ดิบมาตากไว้ก็คงสุกเลยละมั้งในขนาดที่แม่จอมพลังหรือสุดที่รักของผมให้ลูกชาย  ขี่คออย่างสนุกหมุนติ้วไปมาหลังจากที่พวกเขาพึ้งผ่านรถลอยฟ้า  จากสวนสนุกที่ผมขอผ่านเพราะผมไม่ชอบอะไรที่สูงๆนั้นซะด้วย  ถ้านับได้ว่าพวกเขาเล่นไปกี่ครั้งนี้น่าจะ 3 ครั้ง...คนหรืออะไรฟะเนี้ย ...?!

 

   ''ว่าแต่ไปอันไหนดีต่อละ แม่จะพาไปทั้งหมดเลย !'' ที่รักหัวเราะออกมาด้วยความร่าเริงแบบเด็กๆ

 

   ''อืม ..... บ้านผีสิงดีไหมฮะ!'' ลูกชายพูดพร้อมกับกอดหัวสุดที่รักของ 

 

   ''บ้านผีสิง! ไปต่อกันเลย!'' ผมดึงความกล้าออกมาจากตัวเองก่อนจะลาภทั้งคู่ไปบ้านผีสิงที่จะได้กล้าโชว์ลูกบ้างและภรรยาของผมก็โดนลาภไปด้วย

 

 

[ผ่านไปสัก 1 ชั้วโมง]

 

  ''ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย''เสียงร้องโหยหวนดังออกมาในบ้านผีสิง ใช่นั้นคือเสียง

ของผมนั้นเองและผมก็โดนสุดที่รักลาภ

 

 

  ''อะไรของคุณกันน่ะ! มะกี้นี้ความกล้าของคุณที่ลาภฉันกับคุณลูกไปหายไปไหนหมด!'' ที่รักของผมบ่นพร้อมกับเผยรอยยิ้มขี้แกล้ง ใช่ ไอ้ตอนที่ผมเข้าไปในบ้านผีสิงผมกลัวความมืดและผี

ด้วยตอนนั้นผมนึกว่าจะเป็นของหลอกเด็กแบบสมัยก่อน แต่พอมาเจอพวกสร้างสยองแขนขาดเนื้อ

สดๆที่ไหลออกมากับหัวขาดที่ตกแล้วผมก็เผลอจับก่อนจะส่งเสียงกริ๊ดเป็นตุ๋ดแต๋วแตกไปเลย

ลูกชายกับภรรยาไม่ได้ส่งเสียงแต่ก็แกล้งผมด้วยการเอาผมปิดหน้าแล้วอุ้มลูกยังกับผีแม่นาคพร้อม

ร้องออกมา

 

 

  ''พี่มากขาาาา ...''  เสียงแบบนั้นมันคล้ายๆหนังสักอย่างที่ผมเคยไปดูกับเพื่อนๆแล้วยังหลอน

อยู่ตอนนั้นผมก็ยังกลัวอยู่เลยจงกระทั้งผมถึงกับเข่าอ่อนอยู่หน้าบ้านผีสิงนี้พร้อมเงยหน้ามองภรรยา

กับลูกที่มองผมเหมือนกลายเป็นเด็กสุดในบ้านแล้ว

 

 

  ''พ่อ'' นี้''อ่อน''จังเลยนะฮะแม่'' คําพูดของลูกเหมือนปักหัวใจผมตรงๆเป๊ะกระทันหันโดยที่

คนเป็นแม่ที่อุ้มอยู่ถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา 

 

 

  ''นั้นน่ะสิเนอะ''พ่อ''เขาก็''อ่อน''นี้หน่า'' ภรรยาพูดเข้าข้างลูกพร้อมแลบลิ้นใส่หน้าผม

 

  ''พอเลย ! พอเลย! กลับบ้านกันได้แล้วไป!'' ผมโมโหออกมาเพราะโดนดูถูกที่เข้าบ้านผีสิง

แค่หนึ่งชั้วโมงวิ่งหนีออกมาคนแรกก่อนที่ภรรยาและลูกชายตัวน้อยจะยอมทําตามคําสั่งของผมแล้ว

หัวเราะร่าเริงกันกลับบ้านโดยมีแค่คนผมคนเดียวที่ได้แต่หงุดหงิดที่โดนพวกเขาดูถูกในขนาดที่พวก

เราเดินกลับบ้านอยู่นั้นลูกชายก็เอ๊ะใจถาม

 

 

 

  ''พ่อ''ฮะ? ทําไมคุณ''พ่อ''และคุณ''แม่'' ถึงพาผมไปเที่ยวละครับ? ''

ลูกชายตัวน้อยพูดออกมา

 

 

  ''ผมนึกสงสัยไม่ได้ เพราะทุกวันคุณ''พ่อ''และคุณ''แม่''ก็ติดงานอยู่ตลอด แถมพาผมไปเที่ยวแบบนี้  ไม่กลัวคนในงานเขาจะว่าหรือครับ?'' ลูกตัวเล็กคนนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่เป็น

ห่วงเราทั้งสองก่อนที่ดวงอาทิตย์ไกล้จะเริ่มมืดลงแล้วผมกับภรรยาที่ฟังคําพูดของลูกก็วางลงบน

เก้าอี้บนสาธาราณะพร้อมนั่งลงทั้งสองข้างโดยที่ลูกชายตัวน้อยนั่งอยู่ตรงกลางในขนาดที่พวกเรานั่ง

ซ้ายขวาแล้วคอยๆเริ่มบทพูดสนธนา''พ่อแม่''และ''ลูก'' 

 

 

  ''กี่ปีแล้วเหรอคะที่พวกเราไม่ได้มาที่นี้?'' ภรรยาพูดกับผมในขนาดที่มองพระอาทิตย์ไกล้

ตกดิน

 

 

  ''นั้นน่ะสิน้า ... กี่ปีแล้วนะ ... '' ผมพูดออกมาเสียงยาวนิดหนึ่ง มันทําให้พวกเราเริ่มพูดคุยกัน

ก่อนที่ลูกชายตัวน้อยเริ่มฟังคําพูดของพวกเราที่พูดคุยกัน

 

 

  ''สิ่งที่''พ่อ''กับแม่พาลูกมาที่นี้เพราะพวกเราอยากใช่เวลาในวันที่สําคัญนั้นที่ผ่านไปให้เป็น''ของขวัญ''ของลูกละนะ'' ผมพูดออกมาพร้อมลูบหัวเจ้าตัวน้อยที่ฟังคําตอบของผมที่เขาพึ้ง

ถามมะกี้ 

 

 

  ''แม่เคยจําคําพูดของลูกได้เลยนะตอนเด็กๆน่ะ ลูกน่ะอยากไปสวนสนุกมาก'' ภรรยาของ

ผมก็จับมือผมที่ลูบหัวอย่างเอ็นดูเหมือนกัน 

 

 

  ''พวกเราอยากจะทําสิ่งดีๆให้''ของขวัญ''แก่ลูกของพวกเราละนะ''  พอพูดเช่นนั้นพวกเรา

ก็ยิ้มออกมายกเว้นลูกชายตัวน้อยที่รู้สึกอาจจะอบอุ่นจากมือของพวกเราหรือเปล่านะที่ลูบหัวเขาทั้ง

สองข้างลูกชายตัวน้อยก้มหน้าก้มตาก่อนที่เขาจะลุกแล้วเดินสองสามก้าวก่อนจะหันหน้าไปมอง

พวกเราในขนาดที่นั่งอยู่ก็รู้สึกแปลกใจที่ใบหน้านั้นมีนํ้าตาไหลออกมาพร้อมกับกําหมัดก่อนพุ่งกอด

เข้าใส่พวกเรา 

 

 

   ''สุขสันต์วันพ่อและวันแม่ฮะ!! รักพ่อและรักแม่มากที่สุดเลย...!!''  

 

 

ลูกชายตัวน้อยกอดพวกเราทั้งสองคนที่เกือบจะเซล้มลงแต่ก็รับแรงกอดของลูกเอาไว้ได้ทันก่อนที่

ผมกับภรรยาจะหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกดีใจพร้อมกับความอบอุ่นในของขวัญที่ลํ้าค่าที่สุดของ

พวกเราที่อยู่ตรงนี้ ใช่แล้ว 

 

 

 ''ครอบครัวยังไงละ''

 

 

นั้นคือของขวัญที่ลํ้าค่าและหาที่เปรียบไม่ได้ ...

 

สําหรับ วันพ่อ หรือ วันแม่ นั้น มันไม่สําคัญเท่าที่เราบอก''รัก'' คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ถ้าเป็นวันสําคัญ

เราก็ควรรีบบอกมาซะว่า''ผมรักพ่อ'' และ''ผมรักแม่'' ละนะ 

 

ที่พวกเราได้ใช่ชีวิตอยู่ร่วมกันนี้น่ะ ผมรู้สึกสิ่งที่สําคัญแล้ว 

 

''ของขวัญที่แสนวิเศษ''

 

------------------------------------------------------------------------------------

 

 

 

  

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา