ของขวัญของพ่อ
เขียนโดย มุเมะโนไทสะ
วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 07.07 น.
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 11.43 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) ของขวัญที่แสนวิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
''คุณ''พ่อ''กับคุณแม่จะไปไหนหรือครับ?'' ลูกชายตัวน้อยที่เดินลงมาจากบรรไดพร้อม
กับตุ๊กตาหมีสีนํ้าตาลอ่อนกับขยี้ตาง่วงหาวนอนเหมือนกับไปอดหลับที่ไหนกําลังมองพวกเราสองคน
ที่ใส่ชุดสบายๆกันและเตรียมกระติกนํ้าและกล่องข้าวกันก่อนที่ผมจะหันไปมองทางที่รักแล้วพวกเรา
พูดพร้อมกัน
''ไปเที่ยวสวนสนุกกันยังไงละครับ/คะ/ คุณลูก'' พวกเรายิ้มออกมาทั้งสองคนจงตุ๊กตาของลูกตกลงมาแล้วทําตาโตใส่กับใบหน้าของวัยเด็กที่ตกตะลึงก่อนจะทําหน้าดีใจแถมทําหน้ามุ้ยใส่พวกเราด้วย
''อะ ..เอ๋??!! สะ..ส..สวนสนุก! ทะ...ท..ทําไมไม่ปลุกผมละ!! '' ลูกชายตัวน้อยเข้ามาทุบ
เข่าผมและทําสีหน้าไม่พอใจที่ไม่ยอมปลุกอีกให้ตื่นแต่เช้า
''เอ๋ -------- ''พ่อ''ขอโทษ เอ้า รีบไปอาบนํ้าซะ พ่อกับแม่อาจจะไปก่อนก็ได้นะครับ '' ผมพูดเชิงขู่จงลูกวิ่งถอดกางเกงเข้าห้องนํ้าภาพในตอนนี้ของผมนี้มันน่าดีใจที่เราได้ใช่เวลาไปด้วย
กันกับลูกของพวกเราด้วย
''ว่าแต่คุณคะ? ไม่ได้ลืมแล้วใช่ไหม?'' ที่รักพูดพลางเก็บกระติกนํ้าอันเล็กของลูกกับข้าว
กล่อง
''ครับๆ ผมไม่ลืมหรอก '' ผมหยิบกุญแจขึ้นมาพร้อมกับหอมแก้มที่รักในท่าที่ที่พวกเรายังเป็น
แฟนกันอยู่ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตารอคุณลูกชายตัวน้อยของพวกเราอาบนํ้าให้เสร็จ
-------------------------------------------------------------------------------------
ในช่วงกลางวันร้อนๆที่เกือบจะเอาผมเป็นลมเพราะอากาศที่ร้อนยังกับนํา ไก่ดิบมาตากไว้ก็คงสุกเลยละมั้งในขนาดที่แม่จอมพลังหรือสุดที่รักของผมให้ลูกชาย ขี่คออย่างสนุกหมุนติ้วไปมาหลังจากที่พวกเขาพึ้งผ่านรถลอยฟ้า จากสวนสนุกที่ผมขอผ่านเพราะผมไม่ชอบอะไรที่สูงๆนั้นซะด้วย ถ้านับได้ว่าพวกเขาเล่นไปกี่ครั้งนี้น่าจะ 3 ครั้ง...คนหรืออะไรฟะเนี้ย ...?!
''ว่าแต่ไปอันไหนดีต่อละ แม่จะพาไปทั้งหมดเลย !'' ที่รักหัวเราะออกมาด้วยความร่าเริงแบบเด็กๆ
''อืม ..... บ้านผีสิงดีไหมฮะ!'' ลูกชายพูดพร้อมกับกอดหัวสุดที่รักของ
''บ้านผีสิง! ไปต่อกันเลย!'' ผมดึงความกล้าออกมาจากตัวเองก่อนจะลาภทั้งคู่ไปบ้านผีสิงที่จะได้กล้าโชว์ลูกบ้างและภรรยาของผมก็โดนลาภไปด้วย
[ผ่านไปสัก 1 ชั้วโมง]
''ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย''เสียงร้องโหยหวนดังออกมาในบ้านผีสิง ใช่นั้นคือเสียง
ของผมนั้นเองและผมก็โดนสุดที่รักลาภ
''อะไรของคุณกันน่ะ! มะกี้นี้ความกล้าของคุณที่ลาภฉันกับคุณลูกไปหายไปไหนหมด!'' ที่รักของผมบ่นพร้อมกับเผยรอยยิ้มขี้แกล้ง ใช่ ไอ้ตอนที่ผมเข้าไปในบ้านผีสิงผมกลัวความมืดและผี
ด้วยตอนนั้นผมนึกว่าจะเป็นของหลอกเด็กแบบสมัยก่อน แต่พอมาเจอพวกสร้างสยองแขนขาดเนื้อ
สดๆที่ไหลออกมากับหัวขาดที่ตกแล้วผมก็เผลอจับก่อนจะส่งเสียงกริ๊ดเป็นตุ๋ดแต๋วแตกไปเลย
ลูกชายกับภรรยาไม่ได้ส่งเสียงแต่ก็แกล้งผมด้วยการเอาผมปิดหน้าแล้วอุ้มลูกยังกับผีแม่นาคพร้อม
ร้องออกมา
''พี่มากขาาาา ...'' เสียงแบบนั้นมันคล้ายๆหนังสักอย่างที่ผมเคยไปดูกับเพื่อนๆแล้วยังหลอน
อยู่ตอนนั้นผมก็ยังกลัวอยู่เลยจงกระทั้งผมถึงกับเข่าอ่อนอยู่หน้าบ้านผีสิงนี้พร้อมเงยหน้ามองภรรยา
กับลูกที่มองผมเหมือนกลายเป็นเด็กสุดในบ้านแล้ว
''พ่อ'' นี้''อ่อน''จังเลยนะฮะแม่'' คําพูดของลูกเหมือนปักหัวใจผมตรงๆเป๊ะกระทันหันโดยที่
คนเป็นแม่ที่อุ้มอยู่ถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา
''นั้นน่ะสิเนอะ''พ่อ''เขาก็''อ่อน''นี้หน่า'' ภรรยาพูดเข้าข้างลูกพร้อมแลบลิ้นใส่หน้าผม
''พอเลย ! พอเลย! กลับบ้านกันได้แล้วไป!'' ผมโมโหออกมาเพราะโดนดูถูกที่เข้าบ้านผีสิง
แค่หนึ่งชั้วโมงวิ่งหนีออกมาคนแรกก่อนที่ภรรยาและลูกชายตัวน้อยจะยอมทําตามคําสั่งของผมแล้ว
หัวเราะร่าเริงกันกลับบ้านโดยมีแค่คนผมคนเดียวที่ได้แต่หงุดหงิดที่โดนพวกเขาดูถูกในขนาดที่พวก
เราเดินกลับบ้านอยู่นั้นลูกชายก็เอ๊ะใจถาม
''พ่อ''ฮะ? ทําไมคุณ''พ่อ''และคุณ''แม่'' ถึงพาผมไปเที่ยวละครับ? ''
ลูกชายตัวน้อยพูดออกมา
''ผมนึกสงสัยไม่ได้ เพราะทุกวันคุณ''พ่อ''และคุณ''แม่''ก็ติดงานอยู่ตลอด แถมพาผมไปเที่ยวแบบนี้ ไม่กลัวคนในงานเขาจะว่าหรือครับ?'' ลูกตัวเล็กคนนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่เป็น
ห่วงเราทั้งสองก่อนที่ดวงอาทิตย์ไกล้จะเริ่มมืดลงแล้วผมกับภรรยาที่ฟังคําพูดของลูกก็วางลงบน
เก้าอี้บนสาธาราณะพร้อมนั่งลงทั้งสองข้างโดยที่ลูกชายตัวน้อยนั่งอยู่ตรงกลางในขนาดที่พวกเรานั่ง
ซ้ายขวาแล้วคอยๆเริ่มบทพูดสนธนา''พ่อแม่''และ''ลูก''
''กี่ปีแล้วเหรอคะที่พวกเราไม่ได้มาที่นี้?'' ภรรยาพูดกับผมในขนาดที่มองพระอาทิตย์ไกล้
ตกดิน
''นั้นน่ะสิน้า ... กี่ปีแล้วนะ ... '' ผมพูดออกมาเสียงยาวนิดหนึ่ง มันทําให้พวกเราเริ่มพูดคุยกัน
ก่อนที่ลูกชายตัวน้อยเริ่มฟังคําพูดของพวกเราที่พูดคุยกัน
''สิ่งที่''พ่อ''กับแม่พาลูกมาที่นี้เพราะพวกเราอยากใช่เวลาในวันที่สําคัญนั้นที่ผ่านไปให้เป็น''ของขวัญ''ของลูกละนะ'' ผมพูดออกมาพร้อมลูบหัวเจ้าตัวน้อยที่ฟังคําตอบของผมที่เขาพึ้ง
ถามมะกี้
''แม่เคยจําคําพูดของลูกได้เลยนะตอนเด็กๆน่ะ ลูกน่ะอยากไปสวนสนุกมาก'' ภรรยาของ
ผมก็จับมือผมที่ลูบหัวอย่างเอ็นดูเหมือนกัน
''พวกเราอยากจะทําสิ่งดีๆให้''ของขวัญ''แก่ลูกของพวกเราละนะ'' พอพูดเช่นนั้นพวกเรา
ก็ยิ้มออกมายกเว้นลูกชายตัวน้อยที่รู้สึกอาจจะอบอุ่นจากมือของพวกเราหรือเปล่านะที่ลูบหัวเขาทั้ง
สองข้างลูกชายตัวน้อยก้มหน้าก้มตาก่อนที่เขาจะลุกแล้วเดินสองสามก้าวก่อนจะหันหน้าไปมอง
พวกเราในขนาดที่นั่งอยู่ก็รู้สึกแปลกใจที่ใบหน้านั้นมีนํ้าตาไหลออกมาพร้อมกับกําหมัดก่อนพุ่งกอด
เข้าใส่พวกเรา
''สุขสันต์วันพ่อและวันแม่ฮะ!! รักพ่อและรักแม่มากที่สุดเลย...!!''
ลูกชายตัวน้อยกอดพวกเราทั้งสองคนที่เกือบจะเซล้มลงแต่ก็รับแรงกอดของลูกเอาไว้ได้ทันก่อนที่
ผมกับภรรยาจะหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกดีใจพร้อมกับความอบอุ่นในของขวัญที่ลํ้าค่าที่สุดของ
พวกเราที่อยู่ตรงนี้ ใช่แล้ว
''ครอบครัวยังไงละ''
นั้นคือของขวัญที่ลํ้าค่าและหาที่เปรียบไม่ได้ ...
สําหรับ วันพ่อ หรือ วันแม่ นั้น มันไม่สําคัญเท่าที่เราบอก''รัก'' คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ถ้าเป็นวันสําคัญ
เราก็ควรรีบบอกมาซะว่า''ผมรักพ่อ'' และ''ผมรักแม่'' ละนะ
ที่พวกเราได้ใช่ชีวิตอยู่ร่วมกันนี้น่ะ ผมรู้สึกสิ่งที่สําคัญแล้ว
''ของขวัญที่แสนวิเศษ''
------------------------------------------------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ