ดับตะวัน [ ncเนื้อหานิยายมีคำรุนแรง และคำหยาบ] 18+
เขียนโดย claymask
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.31 น.
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556 20.36 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ-ดับตะวัน-
ถึงจูน เพื่อนรัก มันกระดากๆ ชอบกลว่ะ ที่กูต้องขึ้นต้นอย่างนี้ทุกครั้งที่เขียนจดหมายมายืมตังค์มึง แต่กูสัญญา ว่านี่เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายแล้ว และนี่สำคัญนะ มึงฟังให้ดีๆ ฉบับนี้กูไม่ได้เขียนมายืมตังค์มึงว่ะ
มึงจะดีใจไหมที่ได้ยิน ให้กูเดานะ มึงแม่ง คงไม่รู้สึกเหี้ยอะไรเหมือนเคย กูนึกหน้ามึงออกเลย หน้าตามึงอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยความการุณซึ่งในความคิดกู หน้าตาแบบนั้นของมึงนั่นแหล่ะ ที่กูรับไม่ได้ มึงไม่ไปบวชเสียเลยล่ะ ไอ้เหี้ย มึงเคยปฏิเสธคนบ้างไหม มึงเคยเห็นความเลวในจิตใจคนบ้างไหม?
เข้าเรื่องกันซักที ที่กูบอกว่าเป็นจดหมายฉบับสุดท้าย เพราะกูกำลังจะตาย ไม่ในรูปแบบใดก็แบบนึง ไม่ในวันใดก็วันนึง เร็วๆนี้แหล่ะ สาเหตุน่ะหรือ ก็เพราะการคงอยู่ของมึงไง โอ้เพื่อนรัก อ่านแล้วอย่าสะเทือนใจ เพียงแต่กูรู้สึกเลวมากเกินไป จนกระทั่งกูรู้สึกว่ากูสูงส่งมากเกินไป สำหรับคนอย่างมึง กูไม่แน่ใจว่า กูมีความรู้สึกเลว ก่อน หรือหลัง ความรู้สึกสูงส่ง เพียงแต่แน่ชัดมาก ว่า เป็นเพราะการคงอยู่ของมึง
เรารู้จักกันตั้งแต่มัธยมต้น กูนักเรียนทุน จากการคัดเลือกนักฟุตบอลโรงเรียน ส่วนมึง ได้ทุนเรียนดี มึงมันห้องคิง ส่วนกู มันพวกห้องท้ายๆ เมื่อถึงตอน ม3. มึงกับกูก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกัน มันอยู่ระหว่างกลางของห้องคิง และห้องท้าย เป็นมึงเรียนห่วย หรือกูมีกลยุทธการลอกที่ดีขึ้น ไม่แน่ชัด แม่มึงเสียใจมากนะ ที่มึงมาคบกับกู ที่มึงริบุหรี่ เหล้าและกัญชา มึงน่าจะหาที่ซ่อนให้ดีกว่านี้นะ ช่างมันเถอะ จะว่าอะไรมึงได้ ขนาดกู แอบชักว่าวในห้องน้ำ แม่ยังเปิดประตูมาไม่รู้อีท่าไหน เจอะเข้าจนได้ นวลนางที่มึงใช้ความกล้าไปซื้อมาเล่มนั้นเลยโดนยึดตามระเบียบ นางแบบสวยเสียด้วย เสียดายว่ะ มึงสารภาพมาเถอะกูไม่ว่าอะไร หน้ากลางของเล่มนั้น มึงฉีกไปใช่ไหม?
กูเคยคุยกับแม่มึงนะ ตอนที่แม่มึงยังไม่เกลียดกูมากเท่าไหร่น่ะ ว่าตอนเด็กมึงพูดออกเสียงได้นะ คำแรกที่มึงพูด แม่มึงบอกว่า 'ป๊า' หรือ 'ป่ะป๊า' สักอย่างนี่แหล่ะ พอห้าขวบ เสียงมึงไม่ออกจากปากเลย ยังดีที่มึงยังฟังได้นะ ไม่งั้นคงไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน และกูคงหาสาเหตุของการตายให้ตัวเองไม่ได้ จะให้กูบอกอะไรอย่างนึงไหม จริงๆแล้วกูรู้ว่ะ วันที่มึงเริ่มพูดไม่ได้ เป็นวันที่พ่อมึง กับแม่มึง ทะเลากันรุนแรงมาก แรกๆมึงก็ร้องเสียงดังเลยเชียวล่ะ แต่เมื่อ การทะเลาะมันมาถึงขั้นแตกหัก มึงเงียบอย่างน่าใจหาย จนกลายเป็นพูดไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้ อร เป็นคนบอกกูเอง อย่าหาว่ากูเสือกเลยนะ เพียงแต่ชีวิตคู่ระหว่างพ่อมึง กับ แม่มึง มันก็ดูจะเข้ากันไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว พ่อมึง ฟังคาราวาน เป็นศิลปินจ๋า ไว้ผมยาว ตอนนั้น พ่อมึงยังไม่มีชื่อเสียงเลย อุดมการณ์ลอยคว้างกลางอากาศ ส่วนแม่มึง นักธุรกิจหญิง ผู้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว พูดได้สี่ภาษา แม่มึงฟัง ซินาตร้า แม่มึงซื้อบ้านใหญ่ และสร้างสตูดิโอ ให้พ่อมึง เขียนรูปไว้ด้วย แม่มึงทำทุกอย่าง ทำรวดเร็ว จนบางครั้ง พ่อของมึงทำอะไรก็ไม่ทันใจ ตามอารมณ์ศิลปินนั่นแหล่ะ ในสายตาพ่อมึง คงคิดว่า แม่มึงจะรีบอะไรนักหนา ส่วนในสายตาแม่มึงก็คงคิดว่า ทำไมพ่อมึง ไม่ไปหางานทำให้มันเป็นกิจจะลักษณะ มาช่วยจุนเจือบ้าน วันแตกหักมาถึงเพราะวันนั้นมึงป่วย แต่พ่อมึง ไปสอนวาดรูปบ้านอื่น กลับบ้านดึกดื่น ไม่มีคนพามึงไปหาหมอ มึงคงจำไม่ได้หรอก แต่ อร บอกกูเอง อรคุยกับแม่มึง แล้วเอามาบอกกู หย่ากันในไม่กี่วัน แม่มึงให้เงินพ่อมึงไปหาซื้อบ้านอยู่ใหม่ กูชอบต้นไม้ที่บ้านใหม่ของพ่อมึงนะ มันดูเหมือนป่าดี ดูรกๆ ครึ้มๆ บ้านใหญ่ที่แม่มึงปลูก ก็สวยดีว่ะ เป็นระเบียบ สะอาด สะท้อนบุคลิกของแม่มึง ออกมาซะเด่นชัด แต่กูไม่ชอบว่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน
มึงยังจำได้ไหม ตอน ม.3 ที่ทางโรงเรียนเขาจะเริ่มเก็บเงินค่าเทอมมึงแล้วน่ะ เพราะผลการเรียนมึงตกต่ำ หมดสิทธิ์เป็นนักเรียนทุน บ้านใหญ่ที่แม่มึงเอาไปค้ำประกัน มาทำธุรกิจกับแฟนใหม่ ที่เกาะและดูดแม่มึงกินอย่างตะกละตะกราม สุดท้ายก็ติดหนี้และจวนจะหมดตัว สวนทางกับพ่อมึง ที่เริ่มมีชื่อเสียงกับการวาดรูปแนวๆศาสนา ด้วยสไตล์ อิมเพรสชั่นนิสต์ แหม หยั่งกะหนังน้ำเน่าแน่ะ มึงยังจำได้ไหม ว่าใคร ที่หาทางช่วยมึง ใครที่เป็นคนค้นพบสิ่งที่มีอยู่ในตัวมึง กูนี่ไง ไอ้เหี้ยจูน มึงระลึกถึงคุณงามความดีกูบ้างนะ เพราะเดี๋ยวกูก็จะตายแล้ว จะว่าไปมึงวิ่งเร็วอยู่แล้ว มึงเป็นนักวิ่งมาตั้งแต่ประถม เพียงแต่เมื่อกูคะยั้นคะยอให้มึงได้รู้จักฟุตบอล มึงหยั่งกะปลาได้น้ำ มึงเริ่มช้ากว่าคนอื่นคือ ม 1. พอขึ้น ม 3. มึงก็เริ่มยิงลูกโทษแดกตังค์ รุ่นพี่ ม.ปลายได้แล้ว
เพื่อนๆในห้องไม่ค่อยชอบมึงเท่าไหร่ แต่มึงก็รู้ มึงจะรู้สึกบ้างไหม ว่ามึงเป็นตัวแปลกแยกในสังคม มึงได้แต่ยิ้มรับตอนโดนเพื่อนกลั่นแกล้ง และล้อว่า ไอ้ใบ้ ในสมุดพกมึง คุณครูจะเขียนกำกับตัวบรรจงว่า เป็นเด็กเรียบร้อยตั้งใจเรียน ดีนะที่ไม่แดกดันมึงว่า เป็นเด็กไม่ค่อยพูด สมุดพกมึง เปลี่ยนไปตอน ม3 แถมอาจารย์ใส่ชื่อกูลงไปในสมุดพกมึงด้วย ภูมิใจชิบหาย ที่ครูบอกว่า โดดเรียนบ่อย เกเรและชอบรวมหัวกับนาย อัศวิน
กูขอบอกมึงอีกครั้ง ซึ่งกูบอกมึงไปไม่รู้กี่ร้อยครั้งแล้ว ว่ามึงน่ะ มีพรสวรรค์ อาจจะมาจากพ่อมึง หรืออาจจะมาจากแม่มึง หรือมาจากตัวมึง อันนี้กูไม่รู้ได้ ครั้งแรกที่กูรู้สึกได้ก็ตอนที่มึง ยิงลูกฟุตบอลเบอร์สาม ยี่ห้อ เปเล่ จากหลังสนามบาส มึงเดาะบอลขึ้นมาใช้วิธียิงแบบลูกย้อย กูมองเห็น วิถีของลูก ค่อยๆ ย้อยโค้ง ลงตรงโกล์เก้าอี้ม้าหิน ที่อยู่อีกฟากของสนามบาส ลงตรงกลางโกล์เป๊ะๆ ซึ่งรูและความห่างของโกล์แคบนิดเดียว มึงยิงจังหวะเดียว ให้เข้าโกล์ไปได้อย่างไร วันนั้นทั้งวันกูพยายามเฝ้าถามมึง กูรู้มึงเข้าใจ แต่มึงพูดไม่ได้ กูถึงกับหยิบกระดาษให้มึงเขียนบรรยายมันออกมาถึงวิธีการเล็ง หรือจังหวะ หรือสายตา อะไรก็แล้วแต่ เพียงแต่ให้มึงอธิบายมันออกมา มึงเขียนมาสั้นๆ เหมือนกวนตีนกู เพียงแต่คนหลายๆคนประเภทเดียวกับมึง คงเข้าใจได้ มึงจำได้ไหมว่ามึงเขียนว่าอะไร
-กูรู้สึก ว่ากูทำได้- ไอ้เหี้ย มึงเขียนมาอย่างนี้ จะให้กูทำยังไง มึงจะบอกว่ามึงเหนือชั้นกว่ากูมากใช่ไหม กูรู้มึงไม่คิดอย่างนั้น มึงบอกความจริง แต่กูไม่ชอบวิธีตอบอย่างนี้ มันทำให้มึงอยู่ไกลจากกูเกินไป มึงเข้าใจกูไหม หลายๆครั้งที่มึงทำให้กูและใครหลายๆคนทึ่ง ทั้งเรื่องการยิงลูกโทษกินตังค์รุ่นพี่ ซึ่งภายหลัง ก็กลายมาเป็นการพนันว่า มึงจะยิงลูกโทษเข้าสามเหลี่ยมได้ติดต่อกันกี่ลูก กูซ้อมเล่นกับมึงบ่อยๆ ตอนนั้นกูบ้าซึบาสะ การ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง กูให้มึงวางบอลโด่งๆ น้ำหนักพอดีตีน แล้วกูก็จะกระโดดตีลังกายิง เราซ้อมกันหลายหน จนทำได้บ่อยเหมือนขนม ประกายตาเวลามึงเห็นกูกระโดดตีลังกา แล้วซัดเต็มตีนนี่ กูรู้สึกดีมากเพราะมันทำให้กูรู้สึกว่ายังอยู่เหนือกว่ามึงอีกหลายขุม แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย
ในงานแข่งกีฬาสี เป็นการเปิดตัวของมึงอย่างดี เพื่อนๆในทีมไม่มีใครชอบมึงหรอก ไม่ค่อยมีใครส่งบอลให้มึงด้วย ทั้งๆที่ อาจอง ระดมพรรค นักบอลไทยบราซิล ที่อยู่สีเดียวกับมึง จะยอมรับมึงก็ตาม ทุกคนยกย่อง อาจอง ส่งบอลให้มัน แล้วทุกอย่างจะดีเอง ส่งบอลให้อาจอง แล้วเราจะชนะ มึงติดทีมเพราะคำขอร้องจาก อาจอง มันก็เห็นเหมือนกูนั่นแหล่ะ มึงมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ต่างจากชาวบ้านเขา
อาจเป็นเพราะมึงได้มีเวลาคุยกับตัวเองมากกว่าคนอื่น มึงคุยกับลูกบอลได้นานกว่าคนอื่น กูยังจำได้ อาจอง ส่งบอลให้มึงตั้งแต่ครึ่งสนาม นักบอลฝั่งตรงข้ามกรูกันเข้ามาจัดการกับมึง ราวกับโกรธแค้นมานานปี มึงยกบอลหลบหนึ่งคนที่เข้ามาด้านข้าง พร้อมเดาะข้ามหัว คนที่กำลังเข้ามาด้านหน้า ผ่านครึ่งสนามมานิดเดียว มึงตัดสินใจยิงจังหวะเดียวเลย เวลาในตอนนั้นหยุดนิ่ง โกล์ฝั่งตรงข้าม แม่งก็นักบอลโรงเรียน กว่าจะรู้ตัว บอลก็เข้าไปตุงตาข่าย มึงบอกกูภายหลังว่า เห็นโกล์ออกมานิดนึง และก็เหมือนเดิม -กูรู้สึก ว่ากูทำได้- มึงเพิ่มคำอธิบายเข้ามาอีกนิดว่า รู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่ง ได้ยินแต่เสียงลมหายใจของตัวเอง รู้สึกว่าคู่ต่อสู้ที่เข้ามาสกัด เคลื่อนไหวช้า มึงบอกอีกว่า ไม่ใช่ทุกทีที่จะรู้สึกอย่างนี้ มึงก็หาคำอธิบายไม่ได้ว่า มันเกิดขึ้นได้ยังไง
มึงรู้ไหม ตอนที่มึงเขียนอธิบาย ไอ้ อาจอง มันนั่งฟังอยู่ด้วย มันผงกหัวว่าเข้าใจมันบอกมึงอีกว่า มันก็เคยเป็นและมีบ่อยครั้งด้วยที่ร่างกายขยับไปเองก่อนที่จะมีโอกาสคิด การขยับไปเองส่วนใหญ่จะถูกไปเสียทุกอย่างในห้วงเวลานั้น อาจเป็น สัญชาติญาณก็เป็นได้ ไอ้เหี้ย มึงสองตัวคุยกันในเรื่องที่กูเอื้อมไปไม่ถึง กูไม่เคยมีห้วงเวลาหยุดนิ่งอย่างพวกมึง กูยอมรับว่ากูอิจฉามึงขึ้นมามากทีเดียวในตอนนั้น แต่มันก็ไม่มากเพียงพอที่จะทำให้กูเกลียดมึงหรอกเพื่อน
โค้ชก๊อกเห็นแววมึงจากแมทช์นั้นแต่มึงยังไม่ได้ทุนหรอก เรื่องมันหลังจากนั้น โค้ชก๊อกเป็นโค้ชที่ดี แต่ไม่ใช่โค้ชที่เก่ง มึงคงเข้าใจที่กูพูดนะ แกมีความเป็นพ่อ และ แม่อยู่ในคนเดียวกัน ถามว่าแกขัดเกลามึงไหม กูตอบได้เลยว่าไม่ใช่ แกพูดน้อย และแกมองมึงดูห่างๆ พยายามให้มึงเติบโตตามธรรมชาติ เท่าที่กูเคยเห็นแกโกรธมากสุดก็ตอนที่ ไอ้เบียร์ กินเหล้าบนรถ ก่อนการแข่งจะเริ่มนั่นแหล่ะ แมทช์แรกสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ มึงเปิดตัวดีมากจากการเป็นตัวสำรอง ทัวร์นาเมนท์ที่น้ำอัดลมชื่อดังเป็นสปอนเซอร์ ลงเป็นตัวสำรอง แต่ยิงไปสองประตู สำหรับตำแหน่งปีกถือว่าไม่เลวเลย หลังจากนั้นไม่นาน มึงก็ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์หน้า ลงเล่นคู่กับกูโดยมี อาจอง สนับสนุนอยู่หลังศูนย์หน้า ตอนนั้นม4. มีแค่เราสามคนที่เป็นตัวจริงและนี่แหล่ะ ทำให้รุ่นพี่ ม.5 ม.6. หมั่นไส้มึง ทำไมมึงไม่เคยสังเกตเลยหรือ ว่า กู และ อาจอง ไม่ได้โดนรังเกียจ มึงยิ้ม ทำตัวเงียบเหงา สุภาพ และดูไม่เข้าพวกกันกับทีมเอาเสียเลย มึงไม่มีการเล่นหัว ไม่มีการล้อชื่อพ่อและแม่ ความสนิทสนมในทีมถูกบรรยากาศจากมึงทำให้มีรอยแยก ทั้งๆที่มึงก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่มึงส่องประกายมาก จนทำให้เพื่อนรุ่นพี่ที่เคยอยู่ในตำแหน่งศูนย์หน้ามาก่อน ต้องหลุดออกไป นั่นเป็นที่มาของบรรยากาศอึมครึมในทีม ซึ่งโค้ชก๊อกก็รับรู้ได้
อร เดินเข้ามาในชีวิตกูและมึงแล้ว ราวกับ อรใส่จิตวิญญาณให้มึงกับกู เป็นโซ่ที่เกี่ยวกระหวัดกูกับมึงให้มันแนบแน่นยิ่งขึ้น ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเอาเสียเลย ก่อนหน้าที่จะเจอ อร มึงไปบ้านพ่อบ่อยๆ มึงไม่ชอบแฟนใหม่แม่ มึงพากูไปบ่อยๆ บางทีมึงก็ไปนั่งดูพ่อลงสี นั่งมองได้เป็นวันๆ พ่อมึงเริ่มมีคนพูดถึงว่าเป็นศิลปินใหญ่ เป็นอาจารย์มีลูกศิษย์ลูกหา ตามมาเรียนด้วยที่บ้าน แต่เมื่อพ่อมึงแก่ตัวลง มึงเริ่มจะสังเกตุแล้วว่า การตัดเส้นพ่อมึงไม่เฉียบคมเช่นเดิม จนต้องใช้วิธีร่างเส้นบางๆ และให้ลูกศิษย์มาตัดเส้นให้ และมุ่งสู่วิถี สีน้ำ กับ อิมเพรสชั่นนิสต์
เวลานั้นโค้ชก๊อกกำลังเสียใจกับการจากไปของ อาจอง เมื่อมันถูกซื้อไปจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในการดึงตัวนักบอลเก่งๆไปร่วมทีม ซึ่งกูว่า อาจอง มันก็ตัดสินใจถูก ตำแหน่งที่ว่างอยู่ของมัน จะเป็นใครแทนที่ได้ถ้าไม่ใช่มึง เป็นอีกแมทช์ที่มึงทำได้ดี แม้จะเสมอ ในนัดนั้นมึง จ่ายลูกที่ไม่มีใครคิดถึง ในจังหวะที่ไม่น่าจ่าย ในเวลาที่ไม่เหมาะสม แต่มึงก็จ่ายหลุดมาได้ และก็เป็นกูที่ตามมันทัน ส่วนอีกลูก จังหวะสวนกลับ มึงลากตั้งแต่หลังครึ่งสนามคนเดียว มึงมั่นใจในฝีเท้ามาก สนามแฉะ คอนโทรลลูกลำบาก มึงหลบไปคนแรก กูวิ่งอยู่อีกฟาก รอมึงส่ง มึงก็ยังไม่ส่ง มึงหลบไปอีกคน โค้ชของอีกฝั่งตะโกนบอกลูกทีมแล้ว ว่ามึงไปเองแน่ ให้สกัดมึง เป็นอีกครั้งใช่ไหม ที่มึงได้ยินแต่เสียงหายใจของตัวเอง เป็นอีกครั้งใช่ไหมทีมึง รู้สึกว่าคู่แข่งขยับตัวช้าซะเหลือเกิน มึงหลบผู้รักษาประตูในที่สุด และยิงในมุมที่แคบจนมันเข้าประตู ฝนตกแล้วในตอนนั้น กูยืนหยุดมองมึงนิ่ง ทุกคนในทีมยืนมองมึงนิ่ง ไม่มีเสียงดีใจจากเพื่อนร่วมทีม มึงพยายามวิ่งเข้ามาหากูเพื่อหาคนร่วมสุข เสียใจว่ะเพื่อน ในตอนนั้น นักฟุตบอลในสนามทุกคน มองมึงเป็นตัวประหลาดกันไปหมด มึงคงรู้สึกได้ถึงความตะลึงของกู โค้ชก๊อกยืนกอดอกมองมึงอย่างพินิจ
หลังจากแมทช์นั้น เป็นครั้งแรกที่โค้ชก๊อก พูดชมคนในทีม แกบอกว่ามึง มีพัฒนาการมากกว่า สุมิตร รุ่นพี่ ม6. ที่กูคิดว่าเก่งสุดในทีม ตอนนั้น แกพูดว่า แมทช์ที่ผ่านมามึงช่วยทีมได้เยอะ มึงรู้ไหมจากคำพูดโค้ชวันนั้น ทำให้นกที่ชื่อว่าริษยาบินมาทำรังบนหัวกู แทนที่มันจะบินผ่านวนไป
สำหรับเด็กเรียบร้อยอย่างอร แล้ว กูกับมึงคงเป็นสิ่งที่กระตุ้นเร่งเร้า อร อย่างประหลาด สำหรับเด็กสาวที่ ขาว ตัวเล็ก การเรียนในห้องเรียนคงน่าเบื่อเกินไป อร ชอบมึงนะ เขาชอบมองดูมึงเวลาที่มึงเล่นบอล แม้กระทั่งเวลามึงนั่งเหม่อ แต่มึงอย่าลืมนะ สำหรับเรื่องผู้หญิง มึงก็สำนึกบุญคุณกูไว้ด้วย ซ่องประตูน้ำพระอินทร์ที่กูพามึงซ้อนท้ายไปฟันหญิงน่ะ วันนั้นมึงซัดไปสี่คน คนแรกกูเลือกให้มึงเอง สาวใส่แว่น ในบ้านสีครีม กะหรี่ชอบมึงนะ แปลกดี คงเป็นเพราะมึงไม่ถามชื่อ ไม่ถามอายุ ไม่ถามเหตุผลที่พวกเธอมาทำงาน หล่อนคงบริการมึงอย่างดี ความเงียบบางครั้งก็เป็นสเน่ห์นะ กูอยากรู้ว่าครั้งแรกของมึง มึงเห็นความต่างระหว่างชักว่าวกับ การสมสู่สังวาสบางหรือไม่ อยากเห็นหน้ามึงตอนเสร็จจังว่ะ แม่งคงทุเรศน่าดู
อร กับมึงเป็นแฟนกันแล้ว ด้วยการจัดการของกู จริงๆ อร กับกูก็คุยกันดีนะ แถมกูยังทำระยำกับมึงไว้ซะด้วย กูนอนกับ อร เสียแล้วว่ะ ตอนที่เริงรักกัน อร บอกยังไงรู้ไหม บอกว่าให้กูพูด ให้กูส่งเสียง ให้กูร้องหรือบอกอะไรก็ได้ น่าเศร้าเนอะ มึงพูดไม่ได้นี่หว่า ตอนที่กูนอนกับอรนี่ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่มีเลยนะ ล่อกันล้วนๆ พอเอากันเสร็จ อร ก็เริ่มแล้ว น้ำตาไหล บอกว่ารู้สึกผิด ไอ้เหี้ย นี่มันกระหรี่สมบูรณ์แบบจริงๆ น่าเอาไปเล่นละครว่ะ มึงว่าไหม ตอนเอากันนี่ ร้องเสียว ร้องเอาอีก พอแดกอิ่มแล้วเสือกเล่นละครให้กูดูอีก คิดไปก็สนุกดีว่ะ
เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากแมชท์นั้นนั่นแหล่ะ ที่มึงถูกใบแดงไล่ออกน่ะ เราครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งเยอะ มึงยิงนำไปเช่นเคย จนกูรู้สึกหมั่นไส้ อากาศวันนั้นมันดี และดูจะเป็นใจให้มึงอย่างมาก เพื่อนร่วมทีมเริ่มให้ความนับถือมึง โค้ชเชื่อใจมึง มึงเล่นด้วยความสนุก เหมือนตอนที่มึงมองพ่อมึงลงสีผ้าใบเลย มึงยิ้มไม่หุบ มองสีสันในนั้น จนมาถึงจังหวะหน้าโกล์ มึงถูกรุมสองดักหน้า มึงงัดลูกข้ามมาอีกข้าง ซึ่งมันเป็นลูกที่กูกับมึงซ้อมแล้วซ้อมอีกตั้งหลายหน ลูกลอยเหนือหัวกู ตอนกูหันหลังให้โกล์พอดิบพอดี ใช่มันเป็นจังหวะที่ต้องตีลังกายิง มึงรู้ไหม ในจังหวะนั้น กูอึ้งว่ะ ทึ่งในพรสวรรค์ของมึงจนทำอะไรไม่ถูก หรือไม่ก็รู้สึกอิจฉามึงจนทนไม่ไหวแล้ว กูยินนิ่งมอง และพยายามกระโดดเล็กๆ พอให้รู้ว่าพยายามเล่นลูกแล้วนะ เป็นอีกครั้งที่โค้ชก๊อกออกมาโวยวาย ด่ามึง ว่าทำไมไม่เล่นง่ายๆ ส่งให้เพื่อนด้านหลังก็มีตัวสอดมายิง มึงยืนนิ่งชั่วครู่ มองมาทางกูพยายามจะถาม แต่กูหลบตามึง คู่แข่งได้ลูกในแดนตัวเอง มึงนึกอะไรวะ มึงวิ่งไปเตะเขาเฉยเลย ใบแดง ตั้งแต่ต้นครึ่งแรก แมทช์นั้นทีมเราแพ้ มึงหนีกลับบ้านไปก่อนเลย
ตั้งแต่นั้นมากูรู้สึกถึงระยะห่าง ระหว่างกูกับมึง เพียงแต่มีอร เป็นจุดเชื่อม มึงหลบไปบ้านพ่ออีกครั้ง ในระหว่างนั้น อร ไม่สบาย กูไปเยี่ยมที่หอ ถามหามึง แต่มึงไม่อยู่ ให้ตายเถอะ ในตอนนั้น ผู้หญิงที่เรียบร้อยอย่างอร ไรขนอ่อนที่โผล่มาตามซอกคอ กลิ่นหอมจากโคโลญจน์ราคาถูก อร ร้องและคราง บิดตัว เหมือนกับกระหรี่ดัดจริต เป็นวันแรกที่กูรู้สึกว่ากูเป็นผู้ชนะ กูครอบครองสิ่งของอันศักสิทธิ์ กูบรรลุแล้วซึ่งอำนาจ -อย่าบอก จูนนะ- ไอ้เหี้ยมึงได้ยินไหม น้ำตาหญิงร้องระล่ำระลัก อย่าบอกจูนนะ นี่คือชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ
โค้ชกักตัวมึงไว้ คล้ายการทำโทษ ไม่ปล่อยให้ลงสนาม จนกระทั่งกูเจ็บนั่นแหล่ะ โค้ชทำท่าจะเปลี่ยนตัวคนอื่น ที่ไม่ใช่มึง มึงลุกขึ้นมา จ้องตาโค้ช ยืนนิ่งเงียบรอคอยการพิพากษาอย่างใจจดจ่อ โค้ชก๊อกพูดมาแค่คำเดียว -เป็นครั้งแรก ที่กูได้ยินเสียงมึงพูดว่ะ ไอ้จูน- มันเป็นการกลับมาที่สวยงาม พรมสีแดงโรยไว้ด้วยดอกกุหลาบทั่วสนาม นักเตะในสนามตะโกนเอ่ยชื่อมึงราวกับการสถาปนาตัวเอง ครองราชในสนามฟุตบอล ดอกไม้หันมายิ้มให้มึง พระจันทร์และพระอาทิตย์ แข่งกันส่องแสงมายังมึงโดยเฉพาะ ไอ้เหี้ย มึงวิเศษมาจากไหนวะ มึงจะรู้ไหมว่า กูได้แอบทำลาย ความสว่างของมึงไปทีละนิด กูคือเงาจากมุมโลก กูคือหนอนเน่าเฟะ กูคือยมฑูต ที่มึงยังคงให้ความสนิทแบบห่างๆ
วันที่มึง เอ็นฉีกที่เข่านั่นน่ะ ไม่ใช่อุบัติเหตุนะ กูตั้งใจเลยเชียวแหล่ะ ตั้งใจเข้าผิดจังหวะเนียนมาก แม้จะเป็นการเตะแดกตังค์สนุกๆทั่วไป มึงไม่ว่ากูซักคำ มึงพูดไม่ได้นี่เนอะ กูรู้มึงเสียใจ แสงมึงค่อยๆดับไปทีละดวง ทั้งๆที่มึงทดสอบผ่านแล้วกับ สโมสร ในดวงใจมึง อนาคตมึงหายไปแล้วเพราะกู กูไม่แคร์หรอกที่บอกมึงในจดหมายนี้ เพราะกูกำลังจะตาย มึงฆ่ากูให้ตายอีกครั้งไม่ได้แล้ว
ดีใจกับมึงด้วย ที่ได้แต่งงาน เป็นฝั่งเป็นฝา เพียงแต่มึงจงสำเหนียกไว้นะ ว่ากูเอาเมียมึงแล้ว อร เลือกแต่งงานกับมึงก็จริง แต่กูก็ได้ อร ลับหลังมึง หลายต่อหลายครั้ง เอาในท่าที่มึงอาจจะนึกไม่ถึง ถ่มถุยถ้อยคำลบหลู่ศาสดาที่มึงไม่เคยได้ยิน เอาอีก เอาอีก แรงๆ อรเคยพูดคำประเภทนี้กับมึงบ้างไหม กูเคยนอนคุยกับอรนะ ว่าทำไม หมาแมว หมู ช้าง ควาย มันเอากันอยู่ท่าเดียว มันไม่เบื่อบ้างหรือ มนุษย์แม่งเป็นสัตว์ที่เชี่ยวชาญการเอาจริงๆ
แต่อร ก็เลือกที่จะแต่งงานกับมึง อรคงรู้สึกได้ว่ากูคือสัตว์ในร่างคน มันเร้าใจตอนเริ่ม ผู้หญิงพอโตขึ้นแล้วเริ่มน่าเบื่อว่ะ มองความมั่นคงทางครอบครัวมาเป็นอันดับต้นๆ กูอยากได้ อร สาวเรียบร้อยแอบเงี่ยนคนนั้นกลับคืนมาจัง ไอ้เหี้ยเอ๊ย กูไม่อยากเชื่อเสียงตัวเองเลยว่ะ กูคุกเข่าร้องไห้ ขอร้องให้อร อย่าทิ้งกูไป ร้องไห้อย่างหมา กูบอกว่ากูยอมทำอะไรก็ได้ กูอยากแต่งงานกับอร จนอร มองหน้ากูและบอกด้วยความแน่วแน่แล้วว่า อร เลือกมึง และจะแต่งงานกับมึงว่ะ กูร้องไห้จนน้ำตาแห้ง และบอกกับ อรว่า ก็ได้ถ้า อรตัดสินใจอย่างนั้น เพียงแต่ก่อนที่จะไป กูอยากได้อรครั้งสุดท้าย แล้วกูจะไม่พูดอีกเลย
กูเงียบ ตอนที่เรานอนด้วยกันครั้งสุดท้าย กูอยากรู้ว่า มึงมีความสุขไหม ตอนที่มึงไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ อรก็เงียบ มันเป็นการนอนด้วยกันที่แปลกประหลาด แต่ของกูก็โด่นะ น้ำอรก็แฉะ เพียงแต่ไม่พูดกัน จ้องตากันเฉยๆ กูอ่านแววตาอรไม่ออก กูหายใจแผ่ว พยายามหยุดไม่ให้เสียงมันเล็ดรอดมาตามลำคอ กูคิดว่ากูเป็นมึง ในเวลานั้น กูเป็นใบ้ และกูเงี่ยน
อีกไม่ช้ากูรู้ว่ากูใกล้จะเสร็จแล้ว กูเร่งจนหอบ อร นอนนิ่ง จ้องตากูไม่ห่าง อรหลุดจากการเป็น ทาสแห่งกามของกูโดยสิ้นเชิง น้ำรักพุ่งฉีดจากท่ออย่างเงียบเหงา อร เอาทิชชู่มาเช็ดตามตัว กูเสร็จข้างนอก และอรก็เข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ จูน กูร้องไห้ว่ะ หลังจากการเอาเสร็จ กูหาสาเหตุไม่ได้ อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหล มันเป็นเซ็กซ์ครั้งที่บัดซบที่สุด และก็ตราตรึงที่สุดในชีวิตกู
มึงจบในมหาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงทั้งๆที่มึง เอนท์ติด มหาลัยรัฐ แม่มึงอยากให้มึงได้เรียนธุรกิจที่ทางมหาลัยนี้มีชื่อเสียง จบมามึงก็ช่วยธุรกิจแม่ จนกลับมาดีเหมือนเดิม แม่มึงวางใจให้มึงบริหารเลยเชียว แฟนใหม่แม่มึงจากไปแล้ว ปล่อยให้มึงและแม่ แก้หนี้ที่ท่วมหัว กูดีใจกับมึงด้วย แต่มึงไม่เล่าเรื่องพ่อมึงให้กูฟังเลยนะ กูก็เหมือนเคย ติดยาจนหลอน เงินไม่พอแดก เขียนจดหมายขอเงินมึงอยู่เนืองๆ งานที่ทำก็ถูกไล่ออกเสียจนชิน
เมื่อมึงอ่านจดหมายฉบับสุดท้ายของกูจบ มึงอาจสงสัยว่ากูตายจริงรึปล่าว มึงอาจจะอยากรู้ว่ากูตายจริงหรือปล่าว มึงรู้ที่อยู่กูนี่ มันก็จ่าหน้าซองไว้นั่นแหล่ะ เพียงแต่ อร คงไม่ยอมให้มึงมาหากู มันเจ็บปวดว่ะ อย่างที่บอก กูพยายามแล้ว ทำทุกวิถีทางแล้ว แต่มึงก็เติบโต แข็งแกร่งขึ้นทุกครั้ง จนกูรู้สึกว่ามึงโตจนบดบังต้นไม้เล็กๆอย่างกู และ อร กูโดนมึงกลืนกิน อรโดนมึงกลืนกิน ต่างกันที่ อร ทนแรงต้านมึงไม่ไหว แม้กูจะพยายามฉุดรั้งเอาไว้แล้วก็ตาม แต่กูนี่ ดูกูซะ ไอ้เหี้ยจูน กูหลุดพ้นพันธนาการทั้งปวงจากมึง ในตอนนี้ กูสะใจจริงๆ มึงไม่มีตัวตนในห้วงสำนึกกูอีกแล้ว และถ้ามึงมาถึงเพื่อที่จะเคาะประตูบ้านกู แน่นอน กูก็จะเดินออกไปต้อนรับมึง เปิดประตูพินอบพิเทา โค้งให้มึงเหมือนมึงเป็นเจ้านาย แต่คนนั้นไม่ใช่กูหรอกนะ เพราะกูได้ตายไปแล้ว และกูก็จะชงกาแฟให้มึง จัดที่ทางให้สะอาด นั่งจิบกาแฟบนโต๊ะสีขาวน้ำนม แต่คนนั้นไม่ใช่กูหรอกนะ เพราะกูตายไปแล้ว กูจะพูดในสิ่งที่มึงอยากได้ยิน ถ้อยคำที่หวานหู แกล้งคุยเรื่องความหลังตอนเล่นบอลที่สุขสมใจมึง แต่คนนั้นไม่ใช่กูหรอกนะ ไอ้สัตว์ เพราะกูตายไปแล้ว
มึงจะทำหน้าอย่างไรนะ เมื่อมึงอ่านจดหมายนี้จบ กูอยากให้มึง แสดงอารมณ์ออกมาบ้างเหมือนวันที่มึงโดนใบแดง เหมือนวันที่มึงยืนขึ้นให้โค้ชก๊อกเลือกตัว กูอยากได้ยินเสียงมึงในตอนนั้นบ้างจัง มึงดูมีความเป็นมนุษย์ดีในตอนนั้น ส่วนตอนนี้ สำหรับกูมึงก็คือคนที่ตายไปแล้วนั่นแหล่ะ เหมือนกับกู หัวเราะซิวะจูน หัวเราะให้กับความตายที่มาเยือน อยู่กับมัน สังวาสมันให้ถึงแก่น มึงได้ยินไหม เราตายไปแล้ว ตายไปตั้งแต่วันที่มึงหยุดร้อง ตายไปตั้งแต่วันที่มึงส่องประกาย ตายไปตั้งแต่ที่วันที่พ่อมึงเริ่มลากเส้นด้วยสายตาพร่าเลือน ตายไปตั้งแต่กูได้เสียกับ อร!!!!
เรามาร่วมกันร้องเพลงกันเถิดเพื่อน เพลงสวดส่งวิญญาณสุดท้าย กูว่าเสียงมึงคงจะเพราะน่าดู แล้วเจอกันที่นั่นนะ กูล่ะคาดหวังฉิบหายที่จะได้ยินเสียงมึง
ลาก่อน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ