คำพิพาทษาของซาตาน

-

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.37 น.

  2 ตอน
  6 วิจารณ์
  5,357 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) จุดเริ่มตน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ตี๊ดตี๊ด...ตี๊ดตี๊ด...."ไม่ต้องโทรมาอีก ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง" นี่เป็นข้อความสุดท้ายที่เธอส่งมาให้ฉันอ่านก่อนนอน ฉันอ่านข้อความนี้กลับไปกลับมาหลายรอบ และถามตัวเองว่า "นี่เหรอคือการตอบแทนให้กับคนที่ช่วยเหลือเธอเมื่อวันก่อน" 

          เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

          "จะเก็บเงินไว้ไปศัลยกรรมที่เกาหลี ไปกรีดตาให้ตี๋ ไม่ต้องไปสงสัย ไปกรีดผิวให้ขาว ให้เด่งให้โดนใจ จะทำให้เธอละลายละลายต่อหน้าฉัน" เสียงริงโทนโทรศัพท์ฉันดังขึ้น ฉันหยิบขึ้นมาดู ไม่มีชื่อบนหน้าจอ "ใครว๊ะ?" 
"ฮัลโหล" ฉันรับสาย
"ฮัลโหลเธอ นี่พี่นะ..." อ่ะ!!! เสียงนี่มัน....พี่แว่นนี่ ฉันอึ่งไป 2 วินาที
"ค่ะ..พรือมั่งเธอ?"
"ม้าย..ไม่พรือ อยู่ไหนอ่ะ?"
"อยู่บ้าน?" ถามแปลกๆ
"ม้ายพี่ว่าจะชวนเธอไปหาไรกินหน่อยอ่ะ พอดีพึ่งกลับมาอยู่บ้าน"
"อ่อ...ค่ะ ได้สิ..." ฉนรับปากไป คนกำลังหิวพอดี
"เธอจะขับรถออกมาหรือจะให้เข้าไปรับ?" 
"เข้ามารับกะได้ ขี้เกียจขับรถออกไปแล้ว" ฉันตอบกัลับไปพร้อมทั้งบอกทางบ้านฉันไป 

          10 นาทีผ่านไป รถเก๋งมีบรอนเงิน มาจอดที่หน้าบ้าน "จะเก็บเงินไว้ไปศัลยกรรมที่เกาหลี ไปกรีดตาให้ตี๋ ไม่ต้องไปสงสัย ไปกรีดผิวให้ขาว ให้เด่งให้โดนใจ จะทำให้เธอละลายละลายต่อหน้าฉัน" เสียงริงโทนโทรศัพท์ฉันดังขึ้นอีกครั้ง
"ฮัลโหลค่ะ" ฉันรับสาย
"นี่เธอ ฉันอยู่หน้าบ้านเธอนี่"
"ค่ะ...ค่ะ...ค่ะ...แป๊ปนึ่งนะ" ฉันวางสาย แล้วเดินออกไปขึ้นรถ "แทนที่จะลงมาจากรถ กลับโทรมาเนี้ยนะ...ให้เกียรติฉันมากเลยค่ะ" ฉันคิดในใจ แล้วถามออกไปว่า
"กินไรอ่ะ?"
"เธอออยากกินไรอ่ะ" เขาถามกลับมา
"ฮืม...ไรกะได้ กินได้เพแหล่ะ" ฉันตอบกลับไป
"ไปกิน MK ไปกะนั้น" เขาชวนฉัน
"ที่โบินสันเหรอ? ก็ได้" สิ้นเสียงฉันเขาก็ออกรถมุ่งหน้าไปห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัดฉัน

          ภายในรถ เราคุยกันไป ถามสาราทุกข์ สุขดิบกันไปตามประสาคนเคยคบกัน (ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นเราคบกันแบบไหน (มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน)) ซึ่งในขณะนี้เอง ฉันมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเขาเหมือนกัน ฉันสับสนไปหมดเลยว่าเขาจะกลับมาทำไม ในเมื่อเขาก็ได้เลือกทางเดินของตัวเองไปแล้ว โดยการหายเงียบไป ไปมีแฟนใหม่ ฉันรู้...ใช่...และเขาเองก็รู้ว่า...ฉันรู้

          ณ ลานจอดรถ ภายในห้าง เราทั้งคู่ลงจากรถ และเดินเข้าไปยังในห้าง ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากตอนที่เรายังคบกันอยู่เลย นั่นก็คือ เราเดินข้างหน้า และฉันก็ยังคงเดินตามข้างหลังเขา โดยที่เขาไม่สนใจข้างหลังเขาเลย ฉันยังคงมองเขาเห็นเหมือนเดิม แต่เขา...ไม่เคยหันมามองฉันเลย "เฮ้ย!!!" ฉันถอนหายใจ พร้อมๆกับส่ายศีรษะ ไม่รู้จะมาด้วยกันทำไม

          หน้าร้าน MK ฉันมองเห็นเขาหยุดเดินและหันมามองที่ฉัน พร้อมกับชี้นิ้วเข้าไปในร้าน แสดงให้ฉันเห็นว่า "คนเต็ม" เฮ้ย!!! โล่งไปที อยากกลับบ้านแล้ว
"เอาไงเธอ?...คนเต็มอ่ะ" เขาหันมาถามฉัน
"ฮืม...ต้องรอคิว...คิวยาวด้วยอ่ะ" ฉันตอบกลับไป
"งั้นไปกิน KFC กะได้" เรทั้งคู่เดินถัดจากร้าน MK เป็นนิดนึง แต่แล้ว
"เต็มเหมือนกัน" ฉันบอกเขา
"งั้นซื้อเราเป็ดย่างกลับไปกินดีกว่า" เขาเอ่ยขึ้น
"ฮืม...กะได้นะ" ฉันตอบกลับไปอย่างไม่สนใจอะไรมากนัก ซึ่งเขาเองก็สังเกตเห็น
"งั้นซื้อ KFC ไปนั่งกินในกะพังกะได้ ใกล้บ้านเธอด้วย" เขาชวนฉัน เอาจริงเหรอนี่ ที่นั่นนะมีแต่คนรู้จักฉันนะย๊ะ
"ฮืมๆ เดี๋ยวน้องไปซื้อให้ กินไรหล่ะ?" ฉันถาม
"พี่เอาเบอร์เกอร์กับทูน่าคอร์นสลัด เธอกินไรก็ซื้อมานะ" เขายื่นเงินมาให้ฉัน 200 บาท จะพอเหรอ แค่ที่คุณสั่งมาอ่ะ มันก็หมดแร๊ะ แต่ฉันก็หยิบเงินมา
"เธอเลี้ยงเป็ดย่างพี่นะ" เขาเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับส่งรอยยิ้มมาที่ฉัน 
"ฮืม..."ฉันได้แต่พยักหน้า และอมยิ้มกลับไป "ให้มันได้อย่างนี้สิ...."ฉันคิดในใจ แล้วเดินออกจากไปที่ร้าน KFC และสั่งเบอร์เกอร์ ทูน่า ไก่ป๊อป เฟรนฟราย และไก่วิงแซ่บ 
"ออกตังค์เองอีกแล้ว" ฉันบ่นพึมพ่ำ เมื่อได้ของเสร็จแล้ว ฉันเดินกลับไปหาเขา และยื่นเงิน 1000 บาทให้เขา เพื่อเอาไปจ่ายค่าเป็ดย่างที่สั่ง เขายิ้มพร้อมทั้งพูดออกมาว่า "ไอย๊ะ!!! มีตังค์นะ" ฉันได้แต่ยิ้ม และยักคิวข้างซ้ายให้

          ณ สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ เขาขับรถเวียนหาที่นั่งแบบสบายๆ ส่วนฉันได้แต่มองไปรอบๆ และภาวนาอย่าเจอใครที่รู้จักเลย เขาเลือกจอดรถที่ศาลาประดิษฐ์สถานพระพุทธรูป บริเวณทางออกสวน เราหิ้วของลงจากรถ และเดินเข้าไปนั่ง เราเปิดไก่กินกัน
"เธอย้ายของกลับมาอยู่บ้นแล้วเหรอ?" ฉันถามเขา
"ม้ายทีอ่ะ เดี๋ยวที่บ้านเขาขึ้นไปย้าย สิ้นเดือนนี้อ่ะ"
"อ่อ..ค่ะ แล้วพี่คืนห้องไปแล้วยัง?"
"ม้ายที ไซอ่ะ?"
"ม้ายพอดีน้องของกาญเค้าไปเรียนที่ภูเก็ต ยังหาหอไม่ได้ที ถ้างั้นห้องเธอกะให้น้องกาญอยู่ต่อเลยนะ" 
"ฮืม...กะได้"
"งั้นเดี๋ยวค่ามัดจำห้อง น้องจะคืนให้พี่ไปเลย ส่วนค่าห้องเดือนหน้าน้องจะจ่ายเองเลยนะ เพราะพี่ย้ายสิ้นเดือนนี้ใชหรือ?"
"ฮืม..ได้"
"ค่ามัดจำห้องเท่าไหร่แล้วอ่ะ 1000 หรือ 1500 แล้วนะ?" ฉันถามเขาด้วยความลังเลใจ
"1500 ไม่ใช่เหรอ? เขาตอบกลับมา
"1000 เดียวพอนะ" ฉันต่อรองกับเขา
"ฮืม..ได้"
"โอเค...งั้นพี่เอากุญแจห้องมาให้ด้วยนะ ขอบคุณมาก" ฉันส่งยิ้มไปให้ และเขาเองก็พยักหน้าและยิ้มกลับมาเหมือนกัน

          เรานั่งเล่นกันได้พักนึง ฉันก็เริ่มรู้ว่า เขาอยากกลับบ้านแล้ว เขาลุกลี้ลุกล้น บอกให้ฉันรีบกินให้หมด เขาต้องกลับไปรับน้าอีก จะกลับก็บอกมาเถอะ ฉันไม่ได้ว่าไรสักหน่อย 

          และแล้วเราก็เก็บสำภาระทุกอย่างใส่ถุง และเดินขึ้นรถไป เขาขับรถวนมาส่งฉันที่บ้าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พ่อฉันเดินเข้าร้านพอดี (ที่บ้านเป็นร้านขายของชำ) 
"ลงไปทักพ่อกะแม่ก่อนม้ายเธอ?" ฉันถามเขา
"ไม่ดีกว่า พี่รีบไปรับน้าหล่าว" เขาตอบมา
"ฮืม...ขับรถดีดีนะ" ฉันลงจากรถ พร้อมกับปิดประตูรถ เขาออกรถไปจากหน้าบ้านฉัน พร้อมกับที่ฉันหันหลังให้เขา 
"ใครอ่ะกาญ?" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นมา อ่อ...แม่ฉันเอง
"พี่แว่น" ฉันตอบกลับไปแบบไม่เต็มใจนัก และเดินขึ้นห้องไป
"ทำไมไม่ลงมาทักพ่อกับแม่ฉันก่อนนะ นี่เห็นคนบ้านนี้ไม่มีตัวตนเหรอไงเนี้ย????" ฉันได้แต่บ่นในใจ รู้สึกหงุดหงิดมากมาย ทำไมเขาทำนิสัยแบบนี้นะ แค่ลงมาสวัสดี มันจะเป็นไรไป ฉันรู้สึกแย่มาก ยิ่งฉันได้ยินแม่ถามว่า "ใครอ่ะ" โอ้ย!!!! ไม่รู้จะตอบแม่ยังไงดี ขอโทษนะค่ะแม่

          ครั้งนี้ มันเป็นเหมือนกับว่าฉันได้เจอกันกับซาตาน คนที่ได้ชื่อว่าเคยคบกัน "มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน" มาก่อน ฉันทำใจได้แล้ว แต่ครั้งนี้เขากลับมา...ก็แค่กลับมา...แล้วเดี๋ยวเขาก็กลับไป...สินะ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา