วัดหัวใจ ลั่นไกปืน
เขียนโดย KaiChoeng
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.11 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 00.26 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) เส้นทางดงกระสุน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"หินเข้ามาใกล้ๆแม่ซิลูก" หญิงชราอายุสี่สิบกว่าๆเรียกลูกชายเพื่อจะสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสิ้นลมหายใจจากโลกนี้ไป
"หินเอากล่องนี้ไปนะลูก เมื่อลูกเรียนจบแล้วแกะกล่องนี้ดูนะลูก มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่แม่จะให้ได้ "
แม่ของหินเป็นโรคร้าย รักษาตัวมานานนับปี แม่ของหินเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ยาเทวดาทั้งหลายไม่อาจจะเยื้อชีวิตแม่ของหินให้ทันอยู่วันที่หินประสบความสำเร็จได้
หินเรียนจบ เป็นวันที่หินประสบความสำเร็จ แต่มันช่างน่าหดหู่เสียเหลือเกิน หินไม่มีญาติที่ไหนนอกจากแม่คนเดียว ก็จะมีแต่เพื่อนสนิทไอ้ดำคนเดียวที่มาแสดงความยินดีและถ่ายรูปให้หิน ดำเป็นเพื่อนต่างคณะ ดำเรียนอยู่นิเทศฯ ดำอยากเป็นผู้สร้างภาพยนต์ แต่หินเรียนอักษรฯ เพราะหินชอบอ่านหนังสือและมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน
"นายเพิ่งย้ายมาหรอ ถ้านายจะเล่นที่นี้ นายจะต้องเอาลูกแก้วมาให้เราเพื่อเป็นการคุ้มครอง"
"เราไม่มีหรอก เราขอยืมนายไม่ได้หรอ"
"ไม่ได้เว้ย ตุ๊บ!" เด็กน้อยต่างถิ่นโดนผลักล้มลงกับพื้น
"ถ้าอยากเล่นนายก็ต้องมีลูกแก้วมา ฮ่าๆ" เด็กตัวอ้วนและเด็กคนอื่นต่าง หัวเราะใส่เด็กที่ล้มลงกับพื้น เด็กตัวเล็กกว่าได้แต่มองหน้า ก่อนจะกำดินเหวี่ยงใส่เด็กๆที่ยืนหัวเราะเยาะเค้า
"เห้ย! รุมมัน" เด็กน้อยผู้ต่างถิ่นถอยหนีไปไหนไม่ได้แล้วนอกจากสู้เท่านั้น
"ไอ้อ้วนหยุดนะ ไม่งั้นเราฟ้องครูแน่ ครู ครูครับครู มีคนถูกรังแก ครูครับครู"
"เห้ย พวกเราไปเว้ยเดียวครูมา"
"เป็นไงบ้างนาย นายเพิ่งย้ายมาใหม่หรอ คราวหน้าคราวหลังอย่าไปยุ้งกับพวกไอ้อ้วนอีกละ"
"เราชื่อดำ แล้วนายละ......."
"เราหิน ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบใจนายมาก"
...................................
"เออ ไอ้หินนี่เอ็งเรียนจบแล้ว ต่อไปจะทำอะไรต่อว่ะ"
"ยังไม่รู้เลย ตอนแรกก็ว่าจะไปสมัครงานที่สำนักพิมพ์ที่เคยฝึกงานว่ะ แต่พอแกะกล่องนี้แล้ว ข้าคงต้องหยุดไว้ก่อน"
"กล่องที่เอ็งบอกว่า แม่เอ็งให้ก่อนที่ท่านจะเสียหรอว่ะ"
"เออ มันมีจดหมายสำหรับข้าอยู่แผ่นเดียว แต่อีกเป็นปึกของใครไม่รู้ว่ะ"
"ไหน เอาจดหมาของเอ็งมาสิ ข้าจะอ่านให้ฟัง" ฉึบ!
ถึงหินลูกรัก
แม่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของลูก ลูกคงจะเรียนจบและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่แม่จะขอร้องลูกอะไรสักอย่างหนึ่ง ลูกคงเห็นแผนที่ในกล่องนี้แล้ว ขอให้ลูกช่วยตามหา คนที่ชื่อไก และนำจดหมายที่เป็นปึกๆนี่มอบให้เค้าแทนแม่ด้วย
รักลูก แม่ปราง
"ใครว่ะคนที่ชื่อไกนี่ แล้วไหนแผนที่อะไรเอามาให้ข้าดูหน่อยไอ้หิน"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ อาจจะเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับแม่ข้า"
"พ่อเอ็งละมั่ง เห้ย!แต่เอ็งบอกว่าพ่อเอ็งเสียตั้งแต่เอ็งเป็นเด็กๆแล้วไม่ใช้หรอ เอ็งบอกว่า พ่อเอ็งเป็นทหารไปรบ แล้วเสียชีวิตในสนามรบไม่ใช่หรอว่ะ"
"เออ แม่ข้าก็เล่าให้ข้าฟังเหมือนข้าเล่าให้เอ็งฟังนั้นแหละ"
"หิน ข้าดูแผนที่นี้แล้ว มันดอกจันตรงชื่อหมู่บ้านนี่ว่ะ ส่วนที่เหลือก็เป็นภาพภูเขาน้ำตกกับเมืองรอบๆ เหมือนแผนที่คาวบอยล่าขุมทรัพย์ เลยฮ่าๆ ชื่อหมูบ้านที่ดอกจันไว้ ก็ ....ชื่อบ้านลั่นไก!"
.....................................
"ลุงๆ ไอ้บ้านลั่่นไกนี่มันอีกไกลมั้ยครับ"
"ก็อีกไม่ไกลแค่ต้องผ่านเมืองปืนผา เมืองจันทร์ฉาย กับเมืองฟ้าลั่น แต่ละเมืองก็ข้ามเขาเมืองละลูกเท่านั้นเองแหละหนุ่ม"
"ไอ้ดำเอ็งจะมาให้ลำบากลำบนทำไมว่ะ ข้ามาคนเดียวได้"
"เออไม่เป็นไร ข้ามาเพื่อจะได้อะไรดีๆกับไปทำหนังสั้นส่งอาจารย์ จะได้จบๆ อยู่บ้านก็น่าเบื่อสู้มาหาประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่.............ดีกว่า"
ทั้งสองเดินทางจนมาถึงเมืองจันทร์ฉาย ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว รถโดยสารที่นี้ไม่โดยสารตอนกลางคืนโดยอ้างว่า มันจะเกิดอันตราย คนแถวนี้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่ออกเดินทางหลังตะวันตกดิน
หินและดำเดินหาที่พัก ที่นี้ก็ไม่ชนบทสักเท่าไหร่อาจจะดูกึ่งเมืองด้วยซ้ำ จะไม่มีก็แค่ร้านสะดวกซื้อเท่านั้น ทั้งสองได้พักที่โรงแรม จันทร์ฉายโมเต็ล เป็นโรงแรมไม้สองชั้น สไตล์คาวบอยอย่างไหนอย่างนั้นเลยทีเดียว ทั้งสองอ่อนล้าจากการเดินทางอย่างมาก แต่ดำสังเกตุเห็นว่าตรงข้ามกับโรงแรม มีบาร์เล็กๆอยู่ จึงชวนกันออกไปหาอะไรดื่มก่อนเข้านอน
หินและดำเก็บข้าวของแล้วเดินลงมาชั้นล่างของโรงแรม
"ไง ไอ้หนุ่มจะออกไปเที่ยวกันหรอ พรุ่งนี้รถออกแต่เช้านะบอกไว้ก่อน "
ชายแก่วัยห้าสิบผมยาวปะบ่า หนวดเครารุงรัง รูปร่างกำยำ สวมหมวกฟาง ยิ้มให้เหมือนแมวที่ขโมยปลาย่างสำเร็จ มันเหมือนรอยยิ้มที่แฝงเลศนัย
ทั้งเมืองก็มีรถโดยสารของตาแก่เนี่ยอยู่คนเดียวที่วิ่งอยู่
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ยันไม่ทันจะก้าวขาออกจากโรงแรม ทั้งสองต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นคนไล่ยิงกันผ่านต่อหน้าต่อตาไป หินและดำ ถอยกรูเข้ามาในตัวโรงแรมแล้วหลบข้างเคาท์เตอร์อย่างสุดชีวิต
ปัง! ปัง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! "เห้ย "ลุงนี่มันอะไรกันเนี่ย โทรแจ้งตำรวจเร็วลุง คนยิงกันเห็นมั้ย"
"ฮ่าๆ "
"ลุงหัวเราะอะไรละ ทำไมไม่โทรแจ้งตำรวจ นี่มันยิงกันหน้าโรงแรมแล้ว"
"เรื่องปกตินา ไอ้หนุ่ม บ้านเมืองแถวนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ ที่นี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อนไอ้หนุ่มเอ้ย เอ็งพากันมาผิดที่แล้วละ ฮ่าๆ แต่จะหันหลังกลับก็ไม่ทันแล้วละฮ่าๆ เพราะ รถข้ายังวิ่งไม่สุดสาย"
"โธ่! ไอ้ทิดหิน เอ็งพาข้ามาดงตะกั่วแล้ว ไม่น่าเลยกู" หน้าดำซีดเผือก
"ก็ ไหนเมื่อกี้ยังพูดอยากมาอยู่เลย ป่ะขึ้นไปนอนกันดีกว่าข้าว่า ขืนอยู่ตรงนี้ตายแน่ๆ พรุ่งนี้ไปอีกเมืองคงไม่มีอะไรละมั่ง"
"ไปนอนเถอะ ไม่มีอะไรแล้วแหละข้าว่า" ปัง! ปัง! "ฮ่าๆๆ มันยังไม่หยุดกันอีก"ชายแก่พูดพลางหัวเราะพลาง
..............................................
หินและดำตื่นแต่เช้าล้างหน้าล้างตา อาจจะผวาอยู่บ้างในเรื่องเมื่อคืน แต่ทั้งสองก็หลับเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง ทางโรงแรมถึงจะดูโทรมๆไปหน่อยแต่ก็มีบริการทีดีเยี่ยม หินและดำทานอาหารที่โรงแรมก่อนออกเดินทาง "ไง! ไอ้หนุ่มหลับสบายมั้ย ฮ่าๆ เราจะออกเดินทางแล้วไปแวะพักกลางวันกันที่เมืองหน้านะ"
ฟ้าลั่น
"ลุงนี่มันชื่อเมืองหรอ โหดูชื่อซะ ฟ้าลั่น ดูน่ากลั้ว น่ากลัว เนาะไอ้หิน เอิ้กๆ"
"ไอ้บ้านที่เอ็งจะไปมันอยู่ที่เมืองนี้แหละ สายรถข้าสิ้นสุดแค่นี้แหละ ที่เหลือเอ็งหาทางไปเองละกัน ไม่ไกลหรอก อีกสามสิบสี่สิบโล"
"อ้าวลุง ไหนว่าแค่พักไง ไหงส่งแค่นี้ละ"ดำทำหน้าไม่พอใจ
"เอาน่าไอ้ดำ เมืองนี้ก็น่าเดินเที่ยวดู เท่าไหร่ครับลุงค่าเดินทาง"
"ข้าเอาแค่พันเดียวพอ ไอ้หนุ่มข้ามีเรื่องจะเตือนหน่อย อย่าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าละ เมืองนี้ต่างจากเมืองที่เอ็งพักมากนะ ฮ่าๆ" ชายแก่ยิ้มเหมือนเคย
เมืองฟ้าลั่น เป็นเมืองการค้าที่สำคัญมีทุกอย่างเลยก็ว่าได้ สากกะเบือยันเรือรบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเมืองปืนผา หรือจันทร์ฉายหรือเมืองต่างๆ ต่างพากันมาทำค้าขายที่เมืองฟ้าลั่น เพราะดูจากแผนที่ของแม่หินแล้วจะพบว่าเมืองฟ้าลั่นอยู่ใจกลางของเมืองทั้งหมด แต่แผนที่ไม่ได้บอกชื่อเมืองที่เหลือเอาไว้อีกสองเมือง
"หินๆเอ็งดูนั้นดิ โห ดอกไม้งามมักอยู่ในป่าลึก โธ่ๆงามแต้ งามหว่า เดียวข้ามานะหิน ขอหน่อยละกันเพื่อฟลุ๊ค"
"เห้ย! ระวังตัวด้วยนะโว้ยไอ้ดำ เดียวข้ารออยู่ร้านกาแฟนั้นนะ"
...........................
"หิน หนีเร็ววุย โหไม่ทันแล้ว มันมาแย้ววววววววว"
"ไอ้หน้าขาวเมื่อกี้อยู่ไหนว่ะ อ้าวหลบอยู่หลังไอ้หน้าจืดนี้นิเอง เห้ยลุกขึ้นมา"
ชายฉกรรจ์สามถึงสี่คนยืนล้อมโต๊ะที่หินนั่งอยู่ ดูท่าทางเอาเรื่องแต่หินยัง งงๆ อยู่กับเรื่องที่ดำวิ่งกระหืดกระหอบมา
"มีอะไรหรอครับพี่" ปัก!เข้าให้ เต็มๆหน้าของหิน กำปั้นลอยมาจากทางไหนไม่รู้ หินยิ่งงงเข้าไปใหญ่
แต่พอจังหวะนั้น ไม่ต้องงงอะไรแล้ว ทั้งสองคน หินและดำตายเป็นตายยังไงก็หนีไม่พ้นแล้ว สู้กับอีกสี่คนอย่างสุดชีวิต ตะลุมบอลกันอยู่สักพัก โป้ง! โป้ง! เสียงปืนดังขึ้นฟ้าสองนัด ทั้งหกคนที่ตะลุมบอลกันอยู่รวมทั้งคนเชียร์ชะงักเงียบกริบกันหมด
"พวกเอ็งเล่นรุมกันอย่างนี้ไม่แฟร์นี่หว่า แน่จริงไปเจอกันที่ถนนหมาหอนดิว่ะ" ชายวัยกลางคนแต่งตัวดูดี สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีดำ กางเกงยีนขามาสีน้ำเงิน สวมหมวกคาวบวย พูดพร้อมเก็บปืน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ