ต้อนรับเทศกาล

7.5

เขียนโดย อันตัง

วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 02.32 น.

  1 ตอน
  4 วิจารณ์
  4,319 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เทศกาลจากลา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    "สวัสดีปีใหม่ค่ะ สนใจเลือกของขวัญ เชิญด้านนี้เลยนะคะ" เสียงพนักงานสาวคนหนึ่งพูดจาคล่องปรือเร็วเป็นจรวด เพราะความจำเป็นในหน้าที่ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม อ่อนโยนของเธอก็ช่วยเรียกผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแวะเข้ามาดูสินค้าภายในร้าน

 

   "ต้องการรับสินค้าประเภทไหนดีค่ะ" พนักงานสาวหันมาถามคุณตาคนหนึ่งที่ยื่นมองซ้ายมองขวายังไม่รู้จะเลือกของขวัญอะไรให้หลานของตนดี คุณตาได้ยินเสียงเอื้อไมตรี ก็ยิ้มให้แล้วบอกกับพนักงาน

 

   "พอดีตาจะหาของขวัญให้หลาน"

 

   "เอ่อ คุณตาค่ะหลานคุณตาเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะค่ะ" พนักงานเข้ามาถามคุณตาใกล้ๆ เพื่อที่จะช่วยแนะนำสินค้า

 

  "เด็กผู้หญิงนะจ๊ะหนู" คุณตาตอบพนักงาน

 

  "ส่วนใหญ่เด็กผู้หญิงมักจะชอบตุ๊กตานะคะ" พนักงานเสนอ

 

  "ที่บ้าน หลานสาวตามีพวกตุ๊กตาเป็นตัวๆ เยอะ" คุณตาบอกเล่าให้พนักงานฟัง

 

   "คงหมายถึงพวกตุ๊กตาบาร์บี้ใช่ไหมค่ะ"

 

  "นั่นแหละๆ อะไรบี้ๆนี่แหละ" คุณตาพูด เพิ่งนึกออกว่าเคยได้ยินหลานสาวเรียกเหมือนที่พนักงานกำลังพูด

 

   "งั้นเชิญคุณตาด้านนี้เลยค่ะ" หญิงสาวนำคุณตาเดินไปยังจุดที่มีตุ๊กตาจำพวกบาร์บี้ขาย พอถึงพนักงานก็ชี้แนะนำตัวสินค้าให้คุณตาฟัง รอสักครู่จึงเอ่ยถามคุณตา

 

  "คุณตาจะรับแบบไหนดีค่ะ"

 

  "ตาเลือกไม่ถูกหรอก หนูช่วยเลือกให้ตาหน่อยได้ไหม" เพราะตุ๊กตามีเยอะมาก หลากหลายแบบทำให้คุณตาเลือกจนตาลาย

 

  "ได้สิค่ะ ถ้าคุณตาให้หนูช่วย" พนักงานยิ้มหวานตอบคุณตา

 

  "เลือกเถอะ หนูเป็นผู้หญิงเหมือนกันต้องช่วยตาได้มากแน่" คุณตาพูดด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พนักงานมองสินค้าที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกแบบที่คิดว่าหลานของคุณตาชอบ

 

  "ตัวนี้ค่ะ เป็นตัวที่น่ารักที่สุด" พนักงานหยิบมาให้คุณตาดู คุณตารับมาพิจารณาแล้วยื่นกลับคืนให้พนักงาน 

  "ตาเอาตัวนี้แหละ" คุณตาตัดสินใจเลือกเลยเพราะคิดว่าผู้หญิงเหมือนกันย่อมเลือกได้ถูดใจกว่า

 

  "คุณตารับสินค้าตัวนี้นะคะ เดี๋ยวรอสักครู่ หนูจะไปหอของขวัญให้" พนักงานบอกคุณตา เมื่อเห็นคุณตาพยักหน้าจึงรีบเดินไปยังจุดรับห่อของขวัญ เพื่อที่จะห่อของขวัญ เมื่อเธอหล่อเสร็จก็ยื่นให้คุณตา

 

  "เดี๋ยวคุณตาไปจ่ายเงินที่ข้างหน้าได้เลยนะคะ"

 

  "ขอบใจมากนะหนู" คุณตาส่งยิ้มให้พนักงานอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เดินไปยังจุดที่จ่ายเงินสินค้า พนักงานเมื่อช่วยเหลือคุณตาเสร็จแล้วก็ไปทำหน้าที่ต่อ

 

  "เป็นไงบ้างบูล" เสียงเพื่อนเอ่ยทัก เมื่อเห็นเพื่อนมาประจำที่

 

   "อืมก็ดี วายมานานแล้วเหรอ" หญิงสาวหันไปถามเพื่อนบ้าง

 

   "จ๊ะ มาสักเดี๋ยวแล้ว" วายตอบ

 

  "ลูกค้าเข้า" บูลเห็นลูกค้าเข้าก็รีบไปต้อนรับทันที วายเห็นมาอีกหลายคนจึงเข้าไปช่วย เพราะมีสองสาวช่วยกันเรียกลูกค้า จึงทำให้ยอดของร้านสูงขึ้นมาก ทั้งคู่จึงได้รับรางวัลให้ไปพักผ่อนโรงแรมแห่งหนึ่งเป็นเวลาสองวันสามคืน

 

  "สุดยอดเลย" วายเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น

 

  "ไปด้วยกันไหมล่ะ" บูลหันมาถามเพื่อน 

 

  "ไปสิ" วายตอบหน้าบานยิ้มไม่ยอมหุบ

 

  "งั้นก็รีบทำงานให้เสร็จจะได้ไปเตรียมเก็บของ" บูลบอกเพื่อน ทั้งสองคนตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนกระทั่งหมดเวรของทั้งคู่

 

  "แล้วเจอกันที่รถนะ" วายหันมาบอกเพื่อนสาวที่กำลังเก็บของเตรียมกลับอยู่

 

  "จ้า" บูลหันมาตอบเพื่อน

 

  "อย่าสายล่ะบูล" วายตะโกนมาเตือนอีกครั้งแล้วขี่รถคู่ใจรีบบึ้งกลับบ้านทันที

 

  และเมื่อถึงเวลานัดหมาย วายก็ต้องร้อนใจเมื่อบูลยังไม่มาสักที โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย ได้ยินแต่เสียงฝากข้อความ ขณะกระวนกระวายอยู่นั้นก็หันไปเห็นเพื่อนสาววิ่งมาพอดี

 

  "มาแล้วเหรอ ช้าจัง" วายบ่น

 

  "ขอโทษจ้า พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย" บูลตอบ

 

  "มีอะไรเหรอ" วายถามด้วยความอยากรู้ แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ คนขับรถก็มาเรียกขึ้นรถซะก่อน วายจึงเดินนำบูลไปที่รถ

 

  ตลอดการเดินทางวายคุยกับบูลมาตลอด และก็มักเห็นว่าคนขับรถหันมามองบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไร

 

  "เอ๊ะ นั่นรถติดอะไร" วายเห็นรถอีกฝั่งของถนนติดเป็นทางยาวก็นึกสงสัยแต่ก็ไม่ทันไรก็ตอบเอง

 

  "สงสัยจะมีอุบัติเหตุ" หญิงสาวพูดแล้วก็หันมาคุยกับบูลเรื่องอื่นต่อ ทั้งคู่คุยกันมาตลอดทางจนกระทั่งถึงที่พัก คนขับรถก็เปิดประตูให้หญิงสาวทั้งสองลง แต่ไม่ทันที่บูลจะลง คนขับรถก็ปิดประตู

 

  "เดี๋ยวก่อนสิ เพื่อนฉันยังไม่ได้ลงมาเลย" วายหันมาบอกคนขับรถ และกำลังจะพูดต่อบูลก็มาสะกิดข้างๆ ทำให้วายตกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ช่วนบูลยกของเข้าที่พัก ปล่อยให้คนขับรถยืนงงอยู่คนเดี๋ยว

 

  "สวัสดีค่ะ" เสียงใสๆ ของประชาสัมพันธ์ทักทายแขก

 

  "สวัสดีค่ะ ที่โทรมายืนยันเมื่อวาน" วายเอ่ยบอกกับพนักงาน

 

  "สองท่านใช่ไหมค่ะ" พนักงานถามเพื่อต้องการยืนยัน

 

  "ใช่ค่ะ" วายตอบ

 

  "รอสักครู่นะคะ" พนักงานทำการคีย์ข้อมูล เมื่อพบว่าข้อมูลถูกต้อง ก็จัดแจงเตรียมคีย์การ์ดให้แก่แขก

 

  "นี่ค่ะ ห้อง 204 นะคะ"

 

  "ค่ะ" วายรับมาแล้วหันมาชวนบูลเดินออกไป โดยไม่รู้เลยว่า พนักงานที่ต้อนรับพูดอะไร

 

  "บอกมาสองแต่นี่เห็นคนเดียวเอง" พนักงานที่ต้อนรับพูดกับพนักงานหน้าเคาว์เตอร์ 

 

  "นั่นนะสิ แต่คงตามทีหลังมั้ง" พนักงานหน้าเคาว์เตอร์พูด

 

  "แต่แปลกนะฉันเห็นเขายืนคุยคนเดียวตั้งนาน" พนักงานต้อนรับพูดด้วยความสงสีย

 

  "คิดมากหน่าไปทำงานได้แล้ว" พนักงานหน้าเคาว์เตอร์เห็นว่าเพื่อนพูดจาไร้สาระจึงบอกให้ไปทำงาน พนักงานต้อนรับจึงเดินกลับไปทำหน้าที่

 

  "บูลนอนแล้วเหรอ" วายเห็นเพื่อนมาถึงห้องก็เงียบไป พอเดินเข้ามาดูที่เตียงก็เห็นเพื่อนนอนหลับ ตัวเองจึงหันมานอนบ้าง

 

   เช้า อากาศแจ่มใส แสงแดดอ่อนๆ สาดส่งผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้วายที่กำลังนอนหลับสบายเป็นต้องตื่น หลังจากทำธุระเสร็จก็เดินเข้ามาดูเพื่อน ก็พบว่าที่นอนถูกพับเก็บเรียบร้อยแล้ว

 

  "ไปไหนแต่เช้านะ" วายบ่น พลางเดินออกมาเดินดูอะไรเรื่อยเปื่อย เดินดูของฝากมากมายหลายแห่ง เดินก็ตั้งหลายที่ยังไม่เจอเพื่อนสีกที จึงเดินเข้ามาถามที่เคาว์เตอร์

 

  "ขอโทษนะคะ เห็นเพื่อนที่มาพร้อมกันบ้างไหมค่ะ"

 

 "เอ่อ ไม่เห็นนะคะ" พนักงานตอบอย่างสุภาพ

 

  "ขอบคุณค่ะ" เมื่อถามแล้วไม่ได้อะไรหญิงสาวจึงเดินขึ้นห้องพักไป หวังจะเจอเพื่อนกลับมาแล้วอยู่บนห้อง แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นเพื่อนมาสักที วายรออยู่หลายชั่วโมงสั่งอาหารมาทานแล้วก็ไม่เห็นเพื่อนสาวมาสักที จึงเดินไปนอนเล่นที่ชานหน้าระเบียงและเผลอหล้บไป นานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงว่าลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบเพื่อนสาวนั่งอยู่ข้างๆ

 

   "บูลหายไฟไหนมา" วายถามเพื่อน้ำเสียงงอนๆ บูลได้ยินรีบง้อทันที

 

  "พอดีอากาศมันร้อนบูลไปหาที่เย็นๆ พักมา"

 

  "แล้วก็ไม่บอกปล่อยให้รอ" วายบ่นต่อ

 

  "ขอโทษจ๊ะ" บูลขอโทษเพื่อน วายเห็นว่าเพื่อนมาแล้ว จึงชวนออกไปทานอาหารเย็น เพราะเห็นฟ้าเริ่มมืดแล้ว

 

  ทั้งคู่ทานอาหารเย็นที่โรงแรม เสร็จก็พากันเดินเที่ยวชมข้าวของในตอนกลางคืน เนื่องจากมีตลาดนัดตอนกลางคืนมาตั้งขายใกล้ๆ โรงแรม ทั้งคู่เดินเลือกนู้นเลือกนี่ สุดท้ายก็มีแต่วายที่ซื้อของกลับ

 

  "บูลจะไปนอนแล้วเหรอ" วายถามเมื่อถึงห้องก็เห็นเพื่อนเดินแยกออกไป

 

  "จ้า" บูลหันมายิ้มบอกเพื่อน

 

  "งั้นก็ฝันดีนะ" วายพูด

 

  "ฝันดีจ๊ะ" บูลบอกแล้วเดินหายเข้าอีกห้องนึงไป

 

   ตอนเช้าวันต่อมา วายตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเพื่อนเหมือนเดิม แต่เจอของขวัญชิ้นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ พอเห็นลายมือก็รู้ว่าเป็นของบูล

 

   "หายไปไหนอีกแล้วหน่า" วายบ่นพยายามเดินตามหา ถามพนักงานโรงแรมแต่ก็ไม่มีใครเห็น

 

  "ยายนี่ไปไหนของเขา" เมื่อเดินหาจนเมื่อย วายก็เลิกตามหา เพราะเห็นว่าเพื่อนไม่ใช่เด็กพอถึงเวลาก็คงกลับมาเอง และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวายเข้าห้องพักในตอนเย็นก็พบเพื่อนสาวนั่งอยู่ในห้อง

 

  "บูลนี่ ทำตัวเหมือนผีเลย" วายเดินบ่นมานั่งใกล้ๆ เพื่อน แต่บูลเอาแต่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร  เพราะความเดินหาเพื่อนเหนื่อยมาทั้งวัน วายจึงนั่งหลับอยู่ที่โซฟา

 

  บูลมองเพื่อนที่หลับเศร้าๆ สายตาเหม่อลอย น้ำตาคลอเบ้าและค่อยๆ ไหลริน โดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ค นั่งมองเพื่อนที่หลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น เมื่อเห็นเพื่อนขยับตัวคล้ายกับหนาวจึงเดินไปหยิบผ้าห่มห่มให้ พลางหันมองเพื่อนเหมือนต้องการดูให้เต็มตาอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

 

  เช้า วายตื่นแต่เช้า ขยับตัวก็เห็นผ้าห่มมาห่มให้ก็ยิ้มขันในความน่ารักของเพื่อน หญิงสาวขยับลุกเก็บผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แล้วมานั่งลงเก็บกระเป๋า พอเก็บเสร็จก็คิดจะไปเรียกเพื่อน มองชะโงกเข้าไปในห้องทุกอย่างดูเรียบร้อย วายมองแล้วส่ายหน้า คิดว่าเพื่อนสาวคงจะเก็บของลงไปรอที่รถเรียบร้อยแล้ว เพราะวันนี้ครบกำหนดที่จะต้องกลับ วายตรวจดูของทุกอย่าง เมื่อเห็นว่าไม่ได้หลงลืมอะไรจึงขนของลงมาที่รถ

 

  "เห็นเพื่อนที่มาด้วยไหมค่ะ" หญิงสาวเดินมาถามคนขับรถ

 

  "ไม่เห็นเลยนะครับ" คนขับรถตอบ

 

  "ไม่เห็นจริงเหรอ นี่ก็ได้เวลาแล้ว ทำไมไม่มีของเพื่อนเลยล่ะ" วายบ่นอย่างแปลกใจ เธอจำได้ว่าเพื่อนที่กระเป๋าอยู่ใบนึง ถ้าลงมาก่อนก็น่าจะมี หรือว่าไปรอตรงอื่น

 

  "เดี๋ยวขับวนรอบโรงแรมให้หน่อยนะคะ" วายหันมาบอกคนขับรถ เขาพยักหน้าให้หญิงสาวช่วยเข็นของขึ้นรถ และขับรถตามที่หญิงสาวบอก แต่ก็ไม่พบใครเลย

 

  "ผมว่าเสียเวลามากแล้วกลับก่อนดีไหมครับ" คนขับหันมาถาม พลางทำหน้าสงสัยว่าหญิงสาวให้เขาวนหาใคร 

 

  "กลับก่อนก็ได้ค่ะ" เมื่อเห็นว่าเสียเวลาจริงๆ และก็ไม่เพื่อนเลย โทรไปก็ไม่รับสาย หญิงสาวจึงจำใจต้องกลับ

 

  "ไปไหนของเขานะ" แต่ก็ยังไม่วายบ่น ไม่นานนักหญิงสาวก็กลับมาถึงบ้าน พอลงจากรถยังไม่ทันไปเก็บของ เพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา

 

  "วาย" เพื่อนเรียกเสียงหลง

 

  "มีอะไรเหรอ หน้าตื่นเชียว" วายถามตลกๆ แต่อีกฝ่ายทำหน้าจริงจังจนวายชักสีหน้าด้วยความสงสัย พลางถาม

 

  "มีอะไรเหรอ" อีกฝ่ายเหมือนกำลังตัดสินใจจะพูดอะไรบ้างอย่าง อ้ำอึ้งจนวายเริ่มหงุดหงิด

 

 "มีอะไรก็ว่ามาสิ"

 

  "คือ บูลนะ..." อีกฝ่ายไม่ยอมพูดจนวายรำคาญ เดินเข้าห้อง เอาของเก็บแล้วเดินไปที่ทำงานเลย อีกฝ่ายเดินตามอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด วายเห็นยิ่งหงุดหงิด เลยไม่คิดจะถามอะไร

 

  "สวัสดีค่ะ สวัสดีต้อนรับปีใหม่จ้า" วายเดินมาใกล้ที่ทำงานก็ได้ยืนเสียงหวานๆที่คุ้นหู ก็เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

 

  "แอบกลับมาก็ไม่บอก" วายเดินดุ่มๆ เข้าไปยืนหลังเพื่อน พลางออกเสียงทัก

 

  "บูล"  

 

  "วายเรียกใครนะ" เพื่อนๆ ที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นได้ยินเอ่ยถาม

 

  "ก็เรียกบูลนี่ไง" วานชี้ไปทางที่บูลยืนอยู่ ทุกคนได้ยินถึงกลับอึ้ง ขนลุกไปตามๆ กัน วายมองทุกคนแล้วหันมามองบูลเห็นเพื่อนยิ้มแห้งๆ ก็งง

 

  "มีเรื่องอะไรกัน" วายหันมาถามทุกคนอย่างต้องการคำตอบ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด

 

  "บูล มันเรื่องอะไร" บูลไม่ตอบ วายเห็นเหมือนเพื่อนสาวจะร้องไห้ก็นึกว่าถูกแกล้ง

 

  "ใครทำอะไรบูล" วายหันมาถามเพื่อนๆ ที่ตอนนี้หน้าซีดไปตามๆ กัน ทุกคนพากันส่ายหน้า วายเริ่มร้อนใจรู้สึกถึงความผิดปกติ ก็บังเอิญมีคุณตาคนหนึ่งเดินจูงหลานพูดบางอย่างผ่านไป

 

  "พี่เค้าไม่น่าอายุสั้นเลย หนูรู้ไหมว่าตุ๊กตาตัวนี้พี่เค้าเลือกให้เลยนะ"

 

  "หรือค่ะคุณตา น่าสงสารพี่สาวจังเลย" หลานตัวน้อยพูด

 

  "ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนอย่างนี้แหละหลาน เกิดแก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ"

  

  "ค่ะ" วายมองสองตาหลานงงๆ

 

  "นี่มันเรื่องอะไร" วายพยายามจะถามทุกคนพากันเงียบ จนเจ้าของร้านมาพูดเอง วายจึงเริ่มเข้าใจ

 

  "วาย ทำใจนะ คือ บูลเค้าไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว" สิ้นเสียงคำพูดของเจ้าของร้านวายมองเห็นว่าเพื่อนสาวน้ำตาไหลเป็นทาง ยิ้มให้เธอน้อยๆ วายมองอย่างไม่เชื่อสายตาเธอไม่เชื่อ เจ้าของร้านจึงชี้ให้บูลไปห้องข้างๆ

 

  ที่ห้องข้างๆ ผู้คนทยอยเดินเข้าเดินออก ทุกคนล้วนแต่ใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ พอวายเดินเลยเข้าไปข้างในอีก ก็พบกับกรอบรูปของคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี บัดนี้วายเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว 

 

  "ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม" ถึงจะรู้แต่หญิงสาวก็หันไปถามเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นแววตาเศร้าสร้อยของทุกคนแล้ว ตัวเองก็เริ่มที่จะระงับอารมณ์ไม่อยู่

 

  "บูลเกิดอุบัติเหตุขณะจะไปพักผ่อนกับวาย" เสียงเจ้าของร้านอธิบายอยู่ไม่ไกล

 

  "จริงหรือ" เธอพูดเบาๆ หันมาทางบูล หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบ

 

  "งั้นที่ผ่านมาก็ไม่มีบูลแล้วนะสิ" วายถามเหมือนคนละเมอ

 

  "บูลขอโทษ ขอโทษ" วายได้ยินเสียงเพื่อนร้องไห้เบาๆ พลางขอโทษไม่จบ วายทรุดลงกับพื้น บูลขยับมาข้างหน้าพยายามจะจับมือวายแต่ก็ทำได้แค่ผ่านเลย

 

  "บูลคงต้องไปแล้ว" เธอบอกเพื่อนน้ำตานองหน้า วายสะอื้นสุดแรง หากแต่พยายามระงับ เพราะคิดได้ว่า เพื่อนคงเป็นห่วงเธอจึงมาให้เธอเห็น

 

  "วายจะทำบุญไปให้นะ" เมื่อไม่รู้จะพูดยังไงกับเพื่อน นึกได้แค่นั้นจึงพูดไป บูลยิ้มเธอรู้ว่าเพื่อนคงเสียใจ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ถึงจะเสียใจแค่ไหน แต่คนที่อยู่ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป

 

  "ดูแลตัวเองนะวาย อย่าโทษตัวเอง" บูลพูดขณะที่ร่างกายเริ่มมองเห็นจางๆ วายขยับจะกอดเพื่อนก็ถูกบูลห้ามไว้

 

  "อย่าเลย วายต้องอยู่ต่อนะ บูลจะอยู่ในใจวายเสมอ" บูลพูดได้เพียงเท่านั้น ร่างกายก็ค่อยๆ จางหายจนมองไม่เห็นในที่สุด

 

  "บูล บูลลลลลลลลล" วายร้องเรียกหา ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างสะเทือนใจ วายเข้าไปกอดรูปเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ฉลองเทศกาลแห่งการจากลา

 

       

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา