ONE FOR ALL

9.3

เขียนโดย jundee

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 22.42 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  15 วิจารณ์
  7,434 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          "ผมเหนื่อยครับ  รู้สึกหิวด้วย  แต่ด้วยหน้าที่  ที่ได้รับมอบมายังไม่เสร็จสมบูรณ์  ผมต้องทน"

           งานที่ได้รับมอบมา  ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับหน่วยของผม แต่มันเป็นหน้าที่  ที่ไม่อาจปฎิเสธได้  อีกอย่าง  แม้ไม่มีการขอร้องมา  ผมเชื่อว่า  "พวกผม" ต้องช่วยอยู่ดี

           น้ำท่วมครับ  พวกผมอยู่ในทิศทางของสายน้ำจังๆ  แต่เพราะต้องเฝ้าสังเกตุการณ์  ทำให้พวกผมห่างจากจุดอันตรายไปได้อย่างหวุดหวิด  แต่ชาวบ้านสิครับ  จมน้ำเพียงแค่ไม่ถึงสิบห้านาที  เป็นสิบห้านาทีที่ต้องเอาตัวรอดจากอุทกภัยในครั้งนี้ เป็นสิบห้านาที  ของชีวิตและทรัพย์สิน   แค่เสียงน้ำที่ไหลบ่ามาปนความมืดมิดของแสงอาทิตย์ก็ทำเอาขวัญเสียแล้ว  ขนาดผมเป็นทหาร  ผมยังรู้สึกอดเกรงกลัวต่อภัยธรรมชาติไม่ได้   ผู้ร้ายแค่ยิงกันก็จบ  แต่กับภัยเช่นนี้  เราจะยิงปืนสู้ก็ป่วยการ 

            เช้านี้ผมได้รับคำสั่งโดยตรงจากต้นสังกัด   ให้ช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นการเร่งด่วนและช่วยชาวบ้านทุกอย่างที่พอจะช่วยได้   ผมสั่งหน่วยงานของผมขนเสบียงกรังทุกอย่างเท่าที่เราจะใส่เรือยางลำเล็กไป    ออกวาดลำเรือไปเรื่อยๆ  ตามทางน้ำที่เอ่อท่วมมา  ผ่านทั้งโคลนตมที่เรือไม่สามารถเข้าไปได้จนต้องช่วยกันแบกในบางคราวจากระยะทางไม่ต่ำกว่า10กิโลเมตรเป็นช่วงๆ   ผมรู้สึกอ่อนแรงครับ  และรู้ว่าทหารทุกนายที่ร่วมมาด้วยกันต่างก็เหน็ดเหนื่อยและหิวโหยเช่นเดียวกันกันกับผม    

             จากครอบครัวแรกที่เราได้ช่วย  จนมาถึงครอบครัวที่สองและสามตามลำดับ  เสบียงที่ขนมาด้วยความจำกัดเริ่มร่อยหรอ  แต่พวกผมก้อยังคงวาดเรือไปเรื่อยๆไม่สิ้นหวังที่จะพบชาวบ้านที่ยังรอด   พื้นที่  ที่พวกผมมาเป็นพื้นที่สีแดงครับ  เป็นที่ๆพวกผมต้องเฝ้าระวังในยามปกติ  แต่ยามนี้  พวกผมต้องเฝ้าหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร

            "เฮ้ยๆทางซ้ายๆ แวะๆเร็วๆ"  ผมสั่งเมื่อกล้องในมือของผมทำหน้าที่บันทึกเหตุการณ์ส่งให้เห็นภาพผู้เฒ่าชายหญิงสองคนที่นั่งอยู่บนหลังคากระท่อมเกือบพังไม่พังแหล่อย่างน่าเวทนา

            "เอาข้าวกับน้ำไว้กินก่อนนะยาย  มีกันกี่คน?"  ผมถามพลางส่งข้าวที่หุงสุกใส่ถุงกับไข่ต้ม6ฟองส่งให้ 

            "สามคน  "  แกตอบห้วนๆแบบพื้นบ้านที่ไม่คุ้นกับภาษากลางและพอฟังออก

             "คนที่สามล่ะอยู่ไหน?"  ผมถามออกไป

        ก่อนยายเฒ่าจะตอบผม  ผมก็เหลือบเห็นเด็กหนุ่มรุ่นๆคนนึงว่ายน้ำมาทางเรือเราที่จอดอยู่  พลางเกาะขอบเรือรับห่อข้าวส่งไปทางผู้เฒ่าทั้งสอง  ไม่กล่าวอะไร  แต่สายตาสิ  เหมือนบอกให้ผมหยุดแค่นี้   ผู้เฒ่าทั้งสองที่นั่งตัวสั่นงันงกมองตามสายตานั้น  พลางส่ายหน้าช้าๆเหมือนไม่ได้ตั้งใจมาทางผม..ดั่งจะบอกผมว่า  โค้งน้ำข้างหน้าอย่าไปนะ.  อย่าไปเลยพ่อคุณ  พากันกลับเถอะ  มันอันตรายเกินไป  แม้ผมจะรู้ว่า  ข้างหน้าอาจจะมีกองโจรสุ่มอยู่  แต่ผมก็ยังต้องไปดูครับ  เพราะอาจมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ   เขาคงไม่ทำร้ายคนที่กำลังไปช่วยเขาแน่ๆ   แต่เพื่อความปลอดภัยของทหารที่มาด้วย  ผมสั่งให้ออกจากเรือทุกนาย 

           .......ผมรู้สึกเหนื่อยครับ  หิวด้วย   ..และอยากนอนจัง...ผมอยากกลับบ้านเหลือเกิน...  ผมทำงานเสร็จหรือยัง?...

              ที่บริเวณวัดเล็กๆ  ต่างจังหวัดทางภาคอีสานแห่งหนึ่ง  ที่หน้าเมรุ  มีผู้คนมากมายมาแสดงความเสียใจกับผู้ล่วงลับ  ท่ามกลางงานศพอันสมศักดิ์ศรีและพีธีการที่ได้รับพระราชทานเพลิงฯ  มีพลทหารคนหนึ่งยืนพูดอะไรที่ คลุมเคลือปนเสียงสะอื้นของลูกผู้ชายว่า

         "ผู้กอง  ท่านห้ามพวกผม ....  ผู้กองคงทราบแล้วว่า...หากเราเข้าไปจุดนั้น...เพื่อเอาข้าวไปให้เขา...เขาจะยิงเราทั้งหมด...ผู้กอง  ไปคนเดียว  ..เอาคำสั่งมาบังคับให้เรารอด..."

                ผมได้ยินครับ  ผมอยากนอนแล้วจริงๆ. 

     คุณล่ะทานข้าวกันหรือยังครับ?  ..เดี๋ยวนะครับ  จะมีคนมาช่วย...รอเดี๋ยวนะครับ  ใจเย็นๆ  ไม่ต้องกลัว...เดี๋ยวมีคนมาช่วยครับ.

            

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา