ผีกะที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
เขียนโดย ทอแสงตะวัน
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.17 น.
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15.31 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
7) “สายใยสุดท้าย"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“สายใยสุดท้าย
❖ 1. เมืองที่ไม่มีเงา…มันเงียบเกินไป
หลังศึกใหญ่ผ่านไป หลายคนคิดว่า ผีกะสูญสิ้นแล้ว
แต่จันทร์หอมรู้… ความเงียบที่มากเกินไป มักซ่อนบางอย่างไว้
เธอยังคงเฝ้ากล่องตะเคียนใบหนึ่งที่ได้จากวัดร้าง —
กล่องที่ไม่มีใครเปิดได้อีกเลย
แต่เธอรู้ว่า…วิญญาณของกาย ยังอยู่ข้างในนั้น
เธอเดินไปเปิดกล่องทุกวัน พูดเหมือนเขาฟังอยู่:
> “เจ้าไม่ใช่ผี กาย…เจ้าเป็นเพียงคนที่โลกไม่ให้อภัย
และบางที…ข้าก็อาจเป็นเหมือนเจ้า”
---
❖ 2. คืนสุดท้ายของเงา
คืนหนึ่ง ฝนตกหนัก ฟ้าผ่าต้นโพธิ์หลังวัด
กล่องตะเคียนเปิดเองเป็นครั้งแรก
กายยืนอยู่ที่นั่น —
ไม่ใช่ผีกะ ไม่ใช่คน…แต่คือเงาใส ๆ ที่มีดวงตาเศร้า
เขามองจันทร์หอม และพูดเพียงว่า:
> “ข้าบ่ได้อยากฆ่าใคร...ข้าแค่ไม่อยากให้คนดีตายเงียบ”
เธอยื่นมือออกไปแต่จับเขาไม่ได้
แต่เขากลับยิ้ม…เป็นรอยยิ้มสุดท้ายในชีวิตวิญญาณ
แล้ว “อีฝ้าย” ก็ปรากฏขึ้น ข้างเขา
เธอพูดว่า:
> “พอเต๊อะกาย…บาปของเรา ข้าจะรับไว้เอง
บ่ต้องมีผีกะอีกต่อไปแล้ว”
---
❖ 3. จุดจบของผีกะ
ณ ลานวัดเก่า ขณะพระพุทธรูปแตกเล็กน้อยจากฟ้าผ่า
สองวิญญาณ — กายและฝ้าย — ยืนจับมือกัน
ก่อนจะจางหายไปในแสงแรกของวันใหม่
---
❖ 4. เช้าวันใหม่ที่ไม่มีผี...แต่ยังมีเงา
ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ในบางคืน
ถ้าใครเดินผ่านลานวัดร้าง จะได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ ว่า:
> “ผีกะบ่ได้ฆ่าคน...
คนต่างหาก ที่ฆ่ากันเอง แล้วโยนบาปให้ผี”
---
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ