ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยแก้ปัญหาคางแบบใดได้บ้าง ?

-

เขียนโดย admin_beautypost

วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 15.02 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  72 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2568 15.09 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า

แชร์เรื่องเล่า Share Share Share

 

1) ฉีดฟิลเลอร์คาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉีดฟิลเลอร์คาง

เคยรู้สึกไม่มั่นใจกับรูปหน้าของตัวเองไหม? โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูป มุมไหนๆ ก็ดูไม่สวย เพราะคางสั้น หรือเล็กเกินไป? หรือบางคนอาจกำลังมองหาวิธีปรับโครงหน้าให้ดูเรียว สวย มีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

วันนี้เรามีทางออกดีๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ "การฉีดฟิลเลอร์คาง" ทรีตเมนต์ยอดฮิตที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยข้อดีที่เห็นผลไว ไม่ต้องพักฟื้นนาน และปรับแต่งได้ตามต้องการ ทำให้หลายคนเลือกวิธีนี้เป็นตัวช่วยในการเสริมความมั่นใจ

มาทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์คางให้มากขึ้น ทั้งข้อดี ข้อควรระวัง พร้อมไขข้อสงสัยที่หลายคนกังวลเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

 


 

ทำความรู้จัก การฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การใช้สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อปรับรูปทรงของคาง ปรับใบหน้าให้มีความสมดุล คางยาวขึ้นหรือมีรูปทรงที่เรียวสวยมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

นอกจากนี้ฟิลเลอร์คางยังช่วยแก้ปัญหาคางบุ๋ม คางสั้น หรือคางเบี้ยวที่ไม่สมส่วนให้มีรูปทรงที่เหมาะสมขึ้นได้

หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน จากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ

 


 

การฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางแบบใดได้บ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยอะไร

ฉีดฟิลเลอร์คางเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม ช่วยให้ใบหน้ามีความสมมาตร อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาคางที่ไม่สวยได้อีกด้วย

 

คางสั้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูกลมแล้ว ยังทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมดุลอีกด้วย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยเข้าไปเติมเต็มคางให้มีความเรียวยาวมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ามีความสมดุล และสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

 

คางตัด

คางตัดเป็นลักษณะของคางที่ไม่มีปลายคางที่เรียว แต่ปลายคางกลับขนานเป็นระนาบเดียวกันกับพื้น ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ส่งผลให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ

สำหรับใครที่คางตัดมาก ๆ ก็จะทำให้ใบหน้าดูเหมือนผู้ชาย ไม่มีความอ่อนหวาน ซึ่งฟิลเลอร์คางจะช่วยเข้าไปเติมเต็มคาง ทำให้ปลายคางชัดมากขึ้น

 

คางบุ๋ม

คางบุ๋มเป็นลักษณะคางที่มีรอยพับตรงกลาง ทำให้คางเหมือนแยกออกเป็นสองฝั่ง ผิวบริเวณคางไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น ถือว่าเป็นลักษณะคางที่ไม่สวยงาม ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมดุล

ฟิลเลอร์คางจะช่วยเข้าไปเติมเต็มบริเวณคางที่บุ๋มให้กลับมาเรียบเนียน ดูสวยและเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้สมดุลขึ้นได้ด้วย

 

คางเบี้ยว

ปัญหาคางเบี้ยวเป็นรูปแบบของคางที่ผิดรูป คางไม่อยู่กึ่งกลางของใบหน้า ทำให้ใบหน้าไม่มีความสมดุล ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางช่วยปรับรูปคางให้กลับมาเท่ากันและสวยขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 


 

ฟิลเลอร์คางช่วยเรื่องใดบ้าง ?

  • ปรับสัดส่วนใบหน้าให้สมดุล สวยงาม
  • เสริมคางให้ยาวขึ้น ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
  • แก้ไขความไม่สมมาตรของคาง
  • ทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจในการถ่ายรูป โดยเฉพาะการถ่ายด้านข้าง

 


 

การฉีด Filler คางเหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีคางสั้น เล็ก หรือถอยร่น
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาคางไม่สมมาตร
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขรูปคางโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่มีเวลาพักฟื้น

 


 

ฟิลเลอร์คางใช้กี่ CC ?

การใช้ฟิลเลอร์คางแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับปัญหาของรูปคางและผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 1 cc และอาจใช้เพิ่มขึ้นถึง 2-3 cc ขึ้นอยู่กับลักษณะคางของแต่ละคน

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกปริมาณฟิลเลอร์คางให้มีความเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ

 


 

ฟิลเลอร์คางมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์คาง ข้อดี

ข้อดี

  • เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด : คางจะดูยาวขึ้นและเรียวขึ้นทันทีหลังการฉีด
  • ไม่ต้องพักฟื้น : สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
  • ปรับรูปทรงคางได้ตามต้องการ : หากต้องการคางยาวมากขึ้นหรือมีรูปทรงที่เรียวสวยขึ้น สามารถเติมฟิลเลอร์ได้เพิ่มเติม
  • ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : หากฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติและไม่ผิดรูป

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร : ฟิลเลอร์คางจะค่อยๆ สลายไปตามเวลาภายใน 1-2 ปี
  • อาจเกิดผลข้างเคียง : อาการบวม หรือผิดรูปได้หากการฉีดไม่ถูกต้องหรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

 


 

การดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์คางเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำหัตถการออกมาดีที่สุด และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีการฟื้นตัวที่รวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

 

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง : ก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทำหัตถการนี้อย่างละเอียด และทำความเข้าใจกับผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมทั้งประโยชน์และข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน : ควรเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ
  • งดการใช้ยา : ควรหยุดใช้ยาแอสไพริน ยา NSAIDs วิตามิน E หรือวิตามินที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เลือดหยุดช้าลง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเลือดออกง่าย
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ : ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาผิดปกติหรือทำให้เลือดออกง่าย
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา : หากคุณเคยมีประวัติการแพ้ยาหรือสารต่าง ๆ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • สวมเสื้อผ้าที่สะดวก : ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่สบายและไม่รัดแน่นในบริเวณคาง ซึ่งจะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นไปอย่างสะดวกและคล่องตัว
  • งดทำทรีตเมนต์อื่น ๆ : หากมีการทำทรีตเมนต์ใบหน้าหรือการรักษาผิวหน้าอื่น ๆ ควรงดการทำทรีตเมนต์ดังกล่าว 1-2 วันก่อนการฉีดฟิลเลอร์

 

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ห้ามนวดหรือกดทับบริเวณคาง : หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดทับบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือเกิดการอักเสบได้
  • ห้ามเท้าคาง : การเท้าคางอาจทำให้เกิดแรงกดทับที่บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ซึ่งอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ไม่คงรูปและผิดรูปได้
  • งดการออกกำลังกายหนัก ๆ : ควรงดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนและเหงื่อออกมาก เช่น ซาวน่า วิ่ง หรือยกน้ำหนัก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่และเกิดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงความร้อน : หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน เช่น การทำเลเซอร์ หรือการเข้าซาวน่า อย่างน้อย 1 เดือนหลังจากการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ห้ามนอนคว่ำหน้า : หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ทำให้คางไม่สมดุล
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ : การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อาจทำให้การฟื้นตัวช้าลง และทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์คางไม่นานหรือสั้นลง
  • งดทำทรีตเมนต์ใบหน้า : หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรงดการทำทรีตเมนต์ใบหน้าต่าง ๆ เช่น นวดหน้าแรง ๆ หรือการทำเลเซอร์ในช่วง 14 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ : ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ไม่สะอาดหรืออาหารที่อาจทำให้เกิดการอักเสบได้ เช่น อาหารดิบหรืออาหารที่มีรสจัด

 


 

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางให้ดูยาวขึ้นหรือเรียวสวยขึ้น โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและไม่ต้องพักฟื้น ฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยวและช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจทำการฉีด Filler คางควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าคุณเหมาะสมกับการทำหัตถการนี้หรือไม่

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องเล่าเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องเล่าเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา