ผิวไหม้แดด ป้องกันอย่างไรดี ? รู้ไว้ไม่ต้องเสี่ยงผิวแสบร้อน

ผิวไหม้แดด

“ ผิวไหม้แดด ” เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเจอเมื่อเผชิญกับแสงแดดจัด ไม่ว่าจะเป็น หน้าไหม้ ตัวไหม้ หรือบางคนอาจรู้สึกแสบและระคายเคืองผิว แล้วเราจะมีวิธีไหนที่ช่วยป้องกันผิวไหม้จากแดดได้บ้างล่ะ ?

ในบทความนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผิวไหม้แดด คืออะไร ? ลักษณะอาการเป็นอย่างไร ? พร้อมบอกเคล็ดลับป้องกันผิวไหม้แดดด้วยวิธีง่าย ๆ ติดตามอ่านได้เลยที่นี่

คลิกอ่านหัวข้อ ผิวไหม้แดด

• ผิวไหม้แดด คืออะไร ?
• ลักษณะอาการผิวไหม้แดด เป็นอย่างไร ?
• ผิวไหม้แดด แบ่งเป็นกี่ระดับ ?
• แนวทางป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดด
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด ปกปิดผิวจากแสงแดด
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน
  • ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
• ผิวไหม้แดด ใช้เวลาฟื้นฟูผิวนานไหม ?
• ผิวไหม้แดด ควรพบแพทย์หรือไม่ ?
• สรุปเรื่องผิวไหม้แดด แสบร้อนผิว

ผิวไหม้แดด คืออะไร ?

ผิวไหม้แดด (Sunburn) คือ ภาวะที่ผิวหนังถูกทำลายจากการโดนรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดในปริมาณมากและเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการปกป้องหรือใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม

อาการที่เกิดขึ้นจากการโดนแดดอาจเริ่มตั้งแต่ หน้าไหม้แดด ไปจนถึง ผิวไหม้จากแดดที่รุนแรง ซึ่งทำให้เกิดความไม่สบายผิว แสบผิวจากแดด และอาจทิ้งรอยดำหรือฝ้า-กระ ในระยะยาวได้

ลักษณะอาการผิวไหม้แดด เป็นอย่างไร ?

หลังจากที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดจัดเป็นเวลานาน อาการผิวไหม้ ผิวเบิร์นแดด อาจปรากฏขึ้นทันทีหรือเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 1-3 วันหลังจากการโดนแดด โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการผิวไหม้แดดได้ง่ายและรุนแรงกว่าคนทั่วไป

ลักษณะอาการของผิวไหม้แดด จะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการผิวไหม้แดดมักจะมีผิวแดง ระคายเคือง แสบร้อน และผิวแห้งมากกว่าปกติ บางรายอาจมีอาการบวมร่วมด้วย และอาจเกิดตุ่มน้ำใส ๆ บริเวณที่ผิวถูกแดดเผา ซึ่งทำให้รู้สึกคันและไม่สบายผิว

ในระยะต่อมา ผิวหนังที่ถูกทำลายจะเริ่มลอกออก ซึ่งเป็นกระบวนการฟื้นฟูและการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของร่างกาย การลอกของผิวหนังนี้เป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหาย และเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้น

ผิวไหม้แดด แบ่งเป็นกี่ระดับ ?

ปัญหาผิวไหม้แดด สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ ตามความรุนแรงของอาการ ดังนี้

• ผิวไหม้แดด ระดับเล็กน้อย : เป็นอาการผิวไหม้แดดในระยะเริ่มต้น ที่ผิวหนังจะมีอาการแดงจากการถูกแสงแดดโดยตรง บางรายอาจรู้สึกแสบเล็กน้อยหรือรู้สึกตึงที่ผิว เมื่อผ่านไปประมาณ 3-7 วัน ผิวบริเวณดังกล่าวจะเริ่มลอกออกมา เป็นผลจากการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ถูกทำลาย เพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้น

ผิวไหม้แดดจะแสบร้อน คัน และมีรอยแดงชัดเจน

• ผิวไหม้แดด ระดับปานกลาง : ระดับนี้จะมีอาการแสบ คัน และเจ็บที่ผิวมากขึ้นเมื่อสัมผัส ผิวหนังอาจบวมและมีรอยแดงที่ชัดเจน บางคนอาจมีอาการหน้าไหม้หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายไหม้ เช่น ขาและแขน เนื่องจากชั้นผิวหนังถูกทำร้ายมากกว่าเดิม การฟื้นฟูของผิวไหม้แดดระดับนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
• ผิวไหม้แดด ระดับรุนแรง : สำหรับระดับนี้ ผิวหนังจะมีอาการแดงเข้มและรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก มักจะเกิดตุ่มน้ำใสและมีอาการคันร่วมด้วย การฟื้นฟูของผิวไหม้แดดรุนแรงอาจใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ และในระหว่างช่วงนี้ หากอาการแสบหรือปวดรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยด่วน เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

แนวทางป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดด

หากจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอก และไม่อยากมีอาการผิวไหม้แดด มีวิธีง่าย ๆ ในการป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดด ดังนี้

สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด ปกปิดผิวจากแสงแดด

ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายอย่างมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว จะช่วยลดการสัมผัสกับรังสี UV ที่เป็นอันตรายได้ในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้การสวมหมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแสบผิว หน้าไหม้แดด หรือผิวคล้ำได้อีกด้วย

หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน

ในแสงแดดมีรังสี UV ที่สามารถทำร้ายผิวได้ จึงไม่ควรอยู่ท่ามกลางแสงแดดนานจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ให้มากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่แสงแดดจัด รังสี UV จะมีความเข้มข้นสูงที่สุด

การพักในที่ร่มหรือหาที่หลบแดดจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด ผิวไหม้แดดรุนแรง และลดปัญหาผิวเสื่อมสภาพจากแดดได้

ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด

การทาครีมกันแดดทุกวันเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าอยากป้องกันผิวไม่ให้โดนแสงแดดทำร้าย เพื่อให้ได้ผลดี ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะกับกิจกรรมที่จะทำในแต่ละวัน

และควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 15-30 นาที หากต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ ก็ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการแสบผิวจากแดดได้ และยังช่วยให้ไม่มีปัญหาผิวเสียจากแสงแดดอีกด้วย

ผิวไหม้แดด ใช้เวลาฟื้นฟูผิวนานไหม ?

ระยะเวลาที่ผิวฟื้นฟูจากอาการผิวไหม้แดดนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และวิธีการดูแลผิวที่ถูกต้อง ในกรณีของผิวไหม้แดดระดับเล็กน้อย หากดูแลผิวอย่างดีด้วยการทาครีมบำรุง และดื่มน้ำมาก ๆ อาการจะเริ่มดีขึ้นในช่วงประมาณ 3-7 วัน

ส่วนกรณีของผิวไหม้แดดระดับปานกลางถึงรุนแรง อาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 1-2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการรักษาและการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละคน แต่หากมีอาการผิวไหม้แดดรุนแรงกว่าปกติ แนะนำให้รีบเข้ารับการรักษากับแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ

ผิวไหม้แดด ควรพบแพทย์หรือไม่ ?

หากมีอาการผิวไหม้แดดรุนแรง เช่น ผิวลอกเป็นแผ่นใหญ่ มีตุ่มหนอง มีแผลพุพอง มีไข้ขึ้นสูง รู้สึกหนาวสั่น หรือมีอาการแสบร้อนเจ็บปวดที่ผิวรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุด

เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำที่ถูกต้อง เพราะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อ ซึ่งถ้าได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างทันท่วงที ไม่ปล่อยทิ้งไว้ จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาผิวหนังในระยะยาว

สรุปเรื่องผิวไหม้แดด แสบร้อนผิว

ผิวไหม้แดดเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน หากไม่ได้ปกป้องผิวก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดด ซึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันง่าย ๆ และได้ผล คือ การสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จะช่วยลดปัญหาผิวไหม้แดดได้ ทั้งนี้ หากใครไม่ได้ป้องกันผิวก่อนเจอแดด และเกิดอาการผิวไหม้แดดรุนแรงกว่าปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/sunburn/