ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอย และถุงใต้ตา เพื่อใบหน้าที่สดใส
เขียนโดย GUEST1676279945
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11.49 น.
แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567 11.52 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอย และถุงใต้ตา เพื่อใบหน้าที่สดใส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มผิวเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและถุงใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ และถุงใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าได้
สำหรับใครที่อยากทราบว่าฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดกี่ CC ? ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแพงไหม ? ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? และเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยสูงสุด ไปติดตามอ่านพร้อมกันได้เลย
สารบัญ
- ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไร ?
- ขั้นตอนและกระบวนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
- การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- การเลือกคลินิกและแพทย์สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ราคาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?
- ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือที่เรียกกันว่า "Dermal Filler" คือการเติมเต็มบริเวณใต้ตาที่มีการยุบตัวหรือรอยลึกให้ตื้นขึ้น เพื่อช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ และสดใสมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้กับผิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไร ?
- ลดถุงใต้ตา แก้ปัญหาถุงใต้ตาที่ทำให้ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย
- ลดริ้วรอยใต้ตา ร่องลึกใต้ตา และร่องน้ำตา ทำให้ดูสดใสขึ้น
- แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ทำให้ตาดูเต็มขึ้น
- แก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูสว่างขึ้น
ขั้นตอนและกระบวนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปรึกษาหมอ : เริ่มจากการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาและเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคุณ
- เตรียมตัวก่อนฉีด : ก่อนการฉีด สามารถแต่งหน้าได้ แต่จะต้องทำความสะอาดบริเวณใต้ตาในจุดที่จะฉีด
- แปะยาชา : แพทย์จะทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์และรอให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที เพื่อให้คุณรู้สึกสบายและไม่เจ็บระหว่างการฉีด
- การฉีดฟิลเลอร์ : แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างระมัดระวัง โดยฉีดในท่านั่งหรือนอนเอียงศีรษะระดับหัวอยู่สูงกว่าหัวใจเล็กน้อย เพื่อลดการเกิดรอยช้ำ
- หลังการฉีด : หลังจากฉีดเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีดเพื่อให้ผลลัพธ์คงทนและสวยงาม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยลดอาการบวมช้ำ และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาการบวมและแดง อาจเกิดอาการบวมและแดงในช่วงแรก เป็นอาการปกติที่มักหายได้เองภายใน 1-2 วัน
- อาการช้ำ การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้เกิดจุดช้ำ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินหรือยาลดการแข็งตัวของเลือดทั้งก่อนและฉีด
- อาการแพ้หรือการติดเชื้อ แม้จะพบได้น้อย แต่การฉีดฟิลเลอร์สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้หรือการติดเชื้อได้ ควรแจ้งแพทย์หากมีประวัติการแพ้สารฮยาลูรอนิกแอซิด
- ในช่วง 1-3 วันแรก หากมีการนวด หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการได้
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ฟิลเลอร์ใต้ตาจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และการดูแลหลังการฉีด
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย นี่คือข้อห้ามที่ควรปฏิบัติตาม
- สามารถแต่งหน้าได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่ควรระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีแรงๆ
- ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ โดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที ขณะล้างไม่ควรขัดหรือถูหน้า ควรล้างหน้าด้วยความเบาและไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างสูง
- อยู่ในอากาศเย็น ๆ จะช่วยลดอาการบวมลงได้เร็วขึ้น
- อาจปวดระบมตามรอยเข็ม สามารถกินยาแก้ปวดที่แพทย์แนะนำได้
- หลีกเลี่ยงการทาครีมหรือเซรั่มบริเวณรอยเข็มในคืนแรกหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหน้า การอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนบนใบหน้าอย่างน้อย 14 วัน
การเลือกคลินิกและแพทย์สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วหลายครั้ง และมีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
- คลินิกควรมีมาตรฐานและใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือองค์กรวิชาชีพ
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ และมีคุณภาพสูง
- แพทย์ควรให้คำปรึกษาที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับกระบวนการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงความเสี่ยงและการดูแลหลังการฉีด
- ค่าใช้จ่ายควรสมเหตุสมผลกับบริการและคุณภาพที่ได้รับ
- ควรมีการติดตามผลหลังการฉีดเพื่อประเมินผลลัพธ์และดูแลอาการที่อาจเกิดขึ้น
ราคาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ราคาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และคลินิกที่เลือก โดยทั่วไปจะมีราคาตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น แนะนำให้สอบถามข้อมูลราคากับคลินิกนั้น ๆ เพื่อจะได้เตรียมงบประมาณได้ถูกต้อง
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
ผู้ที่มีปัญหาใต้ตา
- ใต้ตาคล้ำที่ทำให้ดูเหนื่อยล้า
- ถุงใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่
- เบ้าตาลึก ทำให้ดูเหมือนตาโหล
- มีริ้วรอยใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส
ผู้ที่ต้องการลดอายุ
- อยากดูเด็กลง ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- มีความเป็นธรรมชาติ ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติไม่แปลกตา
ผู้ที่ต้องการเห็นผลรวดเร็ว
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เจ็บ เพราะก่อนฉีดทางคลินิกจะมีการแปะยาชา และในฟิลเลอร์บางตัวจะมียาชาผสมอยู่แล้ว จึงช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วสามารถทำกิจกรรมปกติได้ไหม ?
สามารถทำกิจกรรมได้ปกติ แต่ควรเลี่ยงนวด กด ถูใบหน้าแรง ๆ และงดการอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนบนใบหน้าอย่างน้อย 14 วัน เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเห็นผลทันทีไหม ?
เห็นผลทันทีประมาณ 80% และจะเห็นผลเต็มที่ ฟิลเลอร์เข้ารูปใน 7-14 วัน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกยอดนิยมที่ใครหลายคนเลือกทำเป็นอย่างแรก ๆ เพราะเป็นหัตถการที่ช่วยให้ใต้ตาดูดีขึ้น ใบหน้าดูสดใส และอ่อนเยาว์ขึ้นทันทีหลังฉีด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาแบบเร่งด่วน แต่ควรเลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ และฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและดีที่สุด
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ