ไฮยาลูรอน หัวใจสำคัญของการบำรุงผิว คืนความชุ่มชื้น ฟื้นความอ่อนวัย

“ไฮยาลูรอน” เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ไฮยาลูรอนกลายเป็นสารที่นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ชะลอความแก่แล้ว ยังเป็นสารที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายอีกด้วย ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไฮยาลูรอนมาไว้ให้แล้ว ไปดูกันได้เลย

ไฮยาลูรอน คืออะไร ?

ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid : HA) เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่เพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี โดยเฉพาะที่ข้อต่อ ข้อเข่า 

ในทางการแพทย์ปัจจุบันได้มีการพัฒนากรดไฮยาลูรอนสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทนและเสริมสารนี้ให้กับร่างกาย โดยมีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำได้ดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้น และป้องกันริ้วรอยให้กับผิวหนัง เช่น ริ้วรอยร่องแก้มและบริเวณรอบดวงตา รวมถึงมีการนำมาใช้ในการรักษาโรคข้อต่าง ๆ อีกด้วย

กระบวนการทำงานของไฮยาลูรอน

กรดไฮยาลูรอนิคอยู่ในกลุ่มสารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ (Polymer) สามารถเชื่อมและจับกับโมเลกุลน้ำ และเพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยไฮยาลูรอนทำหน้าที่คอยยึดประสานคอลลาเจนและอิลาสตินไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิว ผม เล็บ เส้นเอ็น กระดูก และเนื้อเยื่ออื่น ๆ 

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่ม Aquaporin-3 ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการไหลเวียนของน้ำสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและควบคุมการยืดหยุ่นของผิวได้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของไฮยาลูรอน

• ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวหนัง ทำให้ผิวไม่แห้ง เรียบเนียน มีความยืดหยุ่น
• ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนัง และทำให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
• ช่วยเพิ่มการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิว ในส่วนที่ไม่ได้ติดต่อกับเส้นเลือดโดยตรง
• ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ และกรองรังสี UV ที่ทำร้ายผิว
• ช่วยลดอาการปวดข้อ ลดการอักเสบ ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
• ยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ ต้อกระจก
• เป็นส่วนประกอบในครีม เจล โลชั่น แชมพู ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
• เป็นส่วนผสมของยาหยอดตา ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง
• ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้

ไฮยาลูรอนนำมาใช้อะไรได้บ้าง ?

กรดไฮยาลูรอนถูกนำมาใช้ในหลายรูปแบบ ทั้งทา กิน ฉีด ซึ่งช่วยในเรื่องความสวยความงามเป็นหลัก เน้นงานผิว นอกจากนี้ช่วยบรรเทาและรักษาโรคบางชนิดได้

• ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ครีมบำรุง เซรั่ม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
• หัตถการฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดเติมเต็มผิวในหลายตำแหน่งให้ดูเต่งตึง ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
• ทางการแพทย์ ในการฉีดรักษาและป้องกันโรคบางชนิด เช่น ข้อเข่าเสื่อม ต้อกระจก แผลในปาก
• ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินบำรุงผิว ช่วยในเรื่องผิวพรรณ มีปริมาณความเข้นข้นของไฮยาลูรอนแตกต่างกันไป

ใครเหมาะกับการใช้ไฮยาลูรอน ?

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนสังเคราะห์ ทั้งครีมบำรุง ฟิลเลอร์ และอาหารเสริม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวดังต่อไปนี้

• ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
• มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อย
• มีร่องลึก และส่วนที่เนื้อยุบลงจากอายุที่มากขึ้น
• เสริมคาง หน้าผาก ขมับด้วยฟิลเลอร์โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ต้องการชะลอวัย ชะลอการเกิดริ้วรอย และคงความอ่อนเยาว์ของผิว 

ไฮยาลูรอนอันตรายไหม ?

เนื่องจากร่างกายมนุษย์สามารถสร้างไฮยาลูรอนได้เองตามธรรมชาติ จึงถือว่าเป็นสารที่ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย 

อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณไฮยาลูรอนในร่างกายจะลดลง ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง เหี่ยวย่น และมีริ้วรอย ต่อมาเมื่อมีการผลิตไฮยาลูรอนสังเคราะห์ เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิวและลดริ้วรอย โดยไฮยาลูรอนสังเคราะห์ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ปัจจุบันจึงนิยมนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในวงการความงามและทางการแพทย์

สรุป 

ไฮยาลูรอน เป็นสารจำเป็นที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่จะลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงมีการคิดค้นผลิตไฮยาลูรอนสังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยและได้รับรองจากอย. มาใช้เสริมทดแทนผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น ทา กิน และฉีด เพื่อแก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอย ร่องลึก และฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีขึ้น