ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? หลังฉีดมีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ต้องรู้ ? ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด ?
เขียนโดย GUEST1676279945
วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14.10 น.
แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 14.26 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ริ้วรอยใต้ตา เบ้าตาลึก ตาโหลที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นตำแหน่งที่หลายคนอาจมีความกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ดีไหม ? มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? ถึงขั้นตาบอดได้จริงหรือ ? มีผลข้างเคียงไหม ? และควรเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
หลายคนอาจมีความกังวลกันอยู่ว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เป็นอันตรายค่ะ โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า Hyaluronic acid (HA) ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกาย สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ และมีความปลอดภัยสูง
ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ยังคงเป็นบริเวณที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่ค่อนข้างบอบบางและมีเส้นเลือดสำคัญ ทำให้การฉีดฟิลเลอรในตำแห่งนี้ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อป้องกันไม้ให้เกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตามมาค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ? ตาบอดได้จริงไหม ?
ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ มีดังนี้
อาการบวม รอยแดงจากเข็ม
หลังฉีดฟิลเลอร์จะสามารถพบรอยแดงจากเข็มฟิลเลอร์ ซึ่งจะหายไปได้เองประมาณ 2 - 3 วัน และเนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ส่งผลให้หลังฉีดอาจเกิดอาการบวมฟิลเลอร์ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลงประมาณ 5 - 7 วันหลังฉีด
ใต้ตาเป็นก้อนบวม ไหลย้อย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากได้จากหลายสาเหตุ เช่น ใช้ฟิลเลอร์ปลอม แพทย์ไม่มีความประสบการณ์ เลือกรุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหา และใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
ปัญหานี้สามารถแแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic acid (HA) เท่านั้น หากใช้ฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว ต้องทำการขูดออกหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก
ผิวหนังเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ
ผลข้างเคียงนี้จะพบได้ในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์ในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความสะอาด มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างการทำหัตถการ หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลาอาจทำให้เกิดเป็นฟิลเลอร์เน่าได้
ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด
ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดแล้วทำให้ตาบอด สามารถเกิดขึ้นได้จริงค่ะ ส่วนใหญ่จะเกิดจากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ไม่แม่นยำในกายวิภาคบนใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์แล้วเข้าไปอุดตันเส้นเลือด หลังฉีดส่งผลให้ตาพร่ามัว มองไม่ชัด และถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันเวลาอาจทำให้ถึงขั้นตาบอดได้ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วตาบอด มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะหากมีการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดจริง แพทย์จะสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของสีผิวได้เลยว่ามีความผิดปกติ และสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ค่ะ
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ Hyaluronic acid
- ผู้ที่แพ้ยาชา เนื่องจากปัจจุบันฟิลเลอร์หลายรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชาอยู่
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณรอบดวงตา
- ผู้ที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด
ผู้ที่มีประวัติการแพ้หรือกำลังมีภาวะตามข้างต้น ยังไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ
วิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หลังฉีด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการเบื้องต้น และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ได้รับความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการในแง่บวก โดยสามารถดูได้จาก social media หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, Google, Pantip
- งดรับประทานยา แอสไพริน, NSAIDs, วิตามินประเภทต่าง ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะพบอาการบวมได้เป็นปกติ จึงมีข้อแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ให้อาการบวมยุบได้เร็ว ฟิลเลอร์เข้าที่ไวและอยู่ได้นาน ดังนี้ค่ะ
- งดการสัมผัส แกะ เกา ขยี้บริเวณรอบดวงตา
- งดการทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 วันหลังฉีด
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ครบถ้วน เพื่อลดอาการบวมช้ำและป้องกันการติดเชื้อ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 1.5 - 2 ลิตร
- งดออกกำลังกายหนัก กิจกรรมที่ทำให้ร่างกายได้รับความร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด
- งดการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ร้อนทุกประเภทอย่างน้อย 1 เดือน
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัย ?
-
คลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน
เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สภาพแวดล้อมดี ไม่คับแคบเกินไป ได้มาตรฐานความสะอาด ปลอดเชื้อ เครื่องมือการทำหัตถการมีความสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ
-
แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
คลินิกมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพที่ได้รับจากแพทย์สภาประจำอยู่คลินิก สามารถประเมินถึงปัญหา ให้คำแนะนำ และวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หลังฉีด
-
ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ผ่านการรับรองจากอย.ไทย
ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้ที่เป็นสาร HA เท่านั้น ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย โดยแต่ละยี่ห้อจะมีวิธีการเช็กที่ต่างกันไป ก่อนฉีดควรตรวจสอบก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้แพทย์ควรทำการแกะกล่องใหม่ต่อหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์ และสามารถขอกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่ใช้ และใครเป็นผู้ฉีด ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไม่อันตรายถ้าหากฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ทั้งนี้ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน ถ้าหากไม่ได้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์ปลอมก็จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตราย และผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลก่อนทำ และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ตามมาได้ค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ