ปลูกผมถาวร เลือกวิธีไหนดี ช่วยกู้ผมบางให้หนาอีกครั้ง

เลือกวิธีปลูกผมแบบไหน ให้ตรงกับความต้องการ

ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่ได้กระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่กระทบต่อสภาพจิตใจ ทำลายความมั่นใจ และทำลายบุคลิกภาพของคนอยู่ไม่น้อย

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้หลายคนพยายามมองหาวิธีที่จะเข้ามาช่วยหยุดยั้งปัญหา ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังได้รับความนิยม เห็นผล และคุ้มค่า คงเป็น ปลูกผม ที่หลายคนต่างคอนเฟิร์มว่าได้ผลดีจริง และการปลูกผมยังช่วยให้ผมคงอยู่ได้อย่างถาวรอีกด้วย โดยรูปแบบการปลูกผมถาวรที่ได้รับความนิยม จะมีให้เลือก 2 แบบ คือวิธีปลูกผม FUE และ FUT มีจุดประสงค์เดียวกันคือการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณหนึ่งมายังบริเวณหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรการปลูกผมทั้งสองแบบก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันว่าการปลูกผมแบบไหนน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณ

ปลูกผม FUE กับ FUT ต่างกันยังไง?

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Excision)

เป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์ผล โดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมา ทำให้ไม่มีแผลเป็นเป็นแนวยาวเหมือนการปลูกผมทั่วไป โดยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้หัวเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.8 – 1.2 มม. ในการเจาะลงไปในกอผมและลึกลงไปถึงรากผม จากนั้นแต่ละกอผมก็จะถูกดึงขึ้นมาจากหนังศีรษะ แล้วนำไปปักลงตรงบริเวณที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน เป็นมาตรฐานการปลูกผมที่นิยมทั่วโลก ช่วยให้ผมดูเรียงสวยเป็นธรรมชาติ ไร้รอยแผลเป็น และไม่เสียเวลาพักฟื้นนาน เพียงไม่กี่วันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้การ ปลูกผมแบบ FUE ยังสามารถนำขนบริเวณอื่น ๆ เช่น หนวด เครา ขนแขน ขนหน้าอก ฯลฯ มาปลูกที่ศีรษะได้ด้วย (ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขน)

การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplant)

เป็นการย้ายเซลล์รากผมด้วยการตัดหนังศีรษะเป็นชิ้นยาว ๆ จากบริเวณท้ายทอย (เป็นจุดที่รากผมแข็งแรงและแทบไม่มีการหลุดร่วงของเส้นผม) จากนั้นก็จะเย็บขอบแผลเข้าด้วยกัน โดยวิธีการผ่าตัดนี้ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ยาสลบจะใช้เพียงแค่ยาชา แต่การฉีดยาชาจะฉีดเฉพาะบริเวณที่ทำการปลูกย้ายเซลล์รากผมเท่านั้น สามารถทำได้ครั้งละมาก ๆ เช่น เกิน 2,500 กราฟขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้าง แต่ข้อเสียคือจะทิ้งรอยแผลเป็นขนาดยาวเอาไว้ จะต้องไว้ผมยาวจึงจะสามารถปิดรอยแผลบริเวณดังกล่าวได้

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม ทำอย่างไร?

หากมีโรคประจำตัวและยาที่รับประทานเป็นประจำ จะต้องแจ้งให้แพทย์ประจำตัวทราบก่อนเข้ารับการปลูกผม รวมไปถึงประวัติการแพ้ยา

1. หยุดการรับประทานยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
3. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการปลูกผม อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
4. รับประทานอาหารเช้าได้ตามปกติ แต่เน้นที่อาหารเบา ๆ ไม่อิ่มมากเกินไป
5. สระผมให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ งดใช้เจลหรือสเปรย์ตัดแต่งทรงผม
6. สวมใส่เสื้อเชิ้ตที่มีประดุมหน้า หรือเสื้อคอกว้าง เพื่อลดการสัมผัสแผลเมื่อต้องถอดออก

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีปลูกผมถาวรที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละวิธีจะมีขั้นตอนการปลูกผม ผลลัพธ์ รอยแผลเป็น และราคาที่แตกต่างกันออกไป หากใครที่สนใจเข้ารับการปลูกผมก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดของคลินิก แพทย์ผู้ดำเนินการ อุปกรณ์ที่ใช้ และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยเสมอ เพื่อให้การปลูกผมของคุณได้ผลลัพธ์ตามต้องการและมีความปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง

บทความจาก theskin.co.th