CHESS:พลิกกระดานเทพ
เขียนโดย TKFD
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
42) ตอนที่ 13.1 ปัญหาก็หมดไป ปัญหาใหม่ก็เข้ามา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมิ่งซินวิ่งมาตามทางเดิมที่เคยผ่านมา เสียงฝีเท้ากระทบพื้นก้องสะท้อนเบาๆในทางเดินอันเงียบสงัด ทว่าไม่นานนัก ดวงตาของเธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งอยู่เบื้องหน้า—ก้อนกลมสีขาวที่กำลังขยับไปมาอย่างแผ่วเบา ดูดุ๊กดิ๊กแปลกตา
'เมิ่งซิน:…นั่นมันคืออะไร?'
เธอชะลอฝีเท้าลงทันทีสัญชาตญาณบอกให้เธอระวังตัว และค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้เจ้านั่นด้วยจังหวะช้าๆ แต่ก่อนจะได้เข้าใกล้มากกว่านี้ มันก็หันขวับกลับมาทันที
'เมิ่งซิน:มันหันมา!'
เธอสะดุ้งเล็กน้อย และรีบตั้งท่าเตรียมรับการโจมตี แต่เมื่อได้เห็นหน้าของมันอย่างถนัด เมิ่งซินกลับต้องชะงักเล็กน้อย
"เมิ่งซิน:…นั่นมัน... กระต่าย?"
เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสับสน เพราะไม่เคยเห็นสัตว์แบบนี้มาก่อนเลยในที่แห่งนี้ เธอเพ่งมองมันชัดๆ อีกครั้ง เจ้ากระต่ายจ้องกลับมาด้วยดวงตาดำกลมเล็กเช่นกัน ทั้งคู่ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย
จนมีสิ่งหนึ่งก็สะดุดสายตาของเมิ่งซิน
'เมิ่งซิน:กระต่าย… มีเขา?'
ในตอนที่เมิ่งซินกำลังเพ่งมองมัน เจ้ากระต่ายตัวนั้นซึ่งยังคงจ้องกลับมาก็ขยับปากเหมือนกำลังเคี้ยวอะไรบางอย่าง เมิ่งซินหรี่ตามองปากของมันทันที—และเห็นชัดว่าเลือดไหลเปรอะออกมาตรงมุมปากนั่นเอง
เธอเบิกตากว้าง ก่อนจะรีบเบนสายตามองเลยไปทางด้านหลังของมัน และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้ต้องกลืนน้ำลายฝืดคอ—ศพก็อบลินนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น และมีกระต่ายตัวอื่นๆ อีกหลายตัวยืนล้อมศพนั้นอยู่... และกำลังกินศพนั้นอย่างจริงจัง!
'เมิ่งซิน:พวกมันกำลังกินศพก็อบลิน มันไม่ใช่กระต่ายปกติ! มันเป็นมอนสเตอร์'
เมิ่งซินรีบคว้าอาวุธออกมาในทันที ตั้งท่าระวังภัยใส่เจ้ากระต่ายตรงหน้า ดวงตาเธอแน่นิ่ง เงียบและเฉียบคม เจ้ากระต่ายเองก็เปลี่ยนท่าทีทันทีเช่นกัน ร่างเล็กนั้นก้มตัวลงต่ำ ตั้งท่าเตรียมพุ่งเข้าหาเธอ
แล้วในจังหวะนั้น เขาของมัน... ก็ยืดยาวขึ้นและดูแหลมคมเอามากๆ ส่วนความยาวของเขาแทบจะยาวถึงครึ่งของตัวมันไปแล้ว
'เมิ่งซิน:อะไรเนี่ย ทำไมเขามันยาวขึ้นได้!'
ทั้งคู่ต่างจ้องกันอย่างไม่กะพริบตา บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบเหมือนเวลาหยุดลง แต่ไม่นานนัก ก็มีเสียงดังขึ้น
"แจ็บๆ ซวก ซวบ ฉีก กรุบๆ"
จากด้านหลังก็ดังขึ้นเรื่อยๆ—เสียงเขี้ยวที่แทรกเนื้อหนัง กลืนกินเศษเนื้อ เสียงการย่ำยีซากศพอย่างไม่ไว้หน้าอะไรทั้งสิ้น
จนในที่สุด เจ้ากระต่ายที่จ้องเมิ่งซินอยู่ก็ลดเขาลง และหันหลังกลับไปเข้าร่วมวงกินกับพรรคพวกของมันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความสนใจของมันหายไปในพริบตา
เมิ่งซินที่เห็นภาพนั้นตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย ภาพที่เห็นมันน่าขยะแขยงเกินจะทน
"เมิ่งซิน:อุก!"
'เมิ่งซิน:ทำไมเจ้าพวกตัวเล็กพวกนี้มันกินได้น่าเกียจขนาดนี้เนี่ย'
เมิ่งซินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกขนลุกวาบจากภาพที่เห็น เธอจับตามองพวกมันอย่างระมัดระวัง แต่เจ้ากระต่ายกลับยังคงกินศพก็อบลินอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ
'เมิ่งซิน:ฉันยืนดูพวกมันสักพัก ทั้งลองส่งเสียง ขยับให้เกิดการเคลื่อนไหว แต่พวกมันก็ไม่สนใจและกินอย่างเดียวเลย ฉันจะลองเดินผ่านไปเลยดีไหม...'
เสียงกัดแทะยังคงดังเรื่อยๆ จนเธอสังเกตว่าศพก็อบลินที่พวกมันรุมกินไปนั้นถูกแทะจนเหลือเพียงครึ่งตัวแล้ว
'เมิ่งซิน:ต้องรีบตัดสินใจแล้ว ถ้ามันกินหมด มันอาจหันมาหาฉันแทน'
เมิ่งซินกัดฟันแน่น สายตากวาดมองอย่างประเมิน ก่อนจะตัดสินใจจากสิ่งที่สังเกตได้
"เมิ่งซิน:ตราบใดที่พวกมันยังคงกินอยู่ พวกมันแทบไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างเลย ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามองฉันด้วยซ้ำ ฉันอาจจะผ่านพวกมันไปได้"
หลังจากการสังเกตมานานเมิ่งซินก็เห็นว่าตอนมันกินอยู่นั้น เมิ่งซินราวกับว่าหายไปจากโลกของพวกมันในช่วงเวลานั้น เมื่อสังเกตได้ดังนั้น เมิ่งซินก็ตัดสินใจเดินเลี่ยงทันที เธอเดินชิดกำแพงอีกด้าน ที่อยู่ห่างจากฝูงกระต่ายเพียงราว 3-4 เมตร หัวใจเธอเต้นระรัว แต่ฝีเท้ากลับมั่นคง
และก็เป็นจริง พวกมันไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมอง
เธอเดินผ่านพวกมันมาได้อย่างง่ายดาย ราวกับเป็นอากาศธาตุ
'เมิ่งซิน:เฮ้อ~ ผ่านมาได้แล้ว ตอนเดินไปใกล้ๆ แล้วเห็นพวกมันกิน... ความน่ารักของกระต่ายที่เคยเห็น หายไปหมดเลย'
หลังจากผ่านเจ้ากระต่ายประหลาดมาได้ เมิ่งซินก็ออกวิ่งต่อทันที ทว่าเส้นทางที่คุ้นเคยกลับแปลกตาไปหมด
ทุกสิ่งที่ผ่านสายตาเธอ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ มอนสเตอร์ หรือพืชพรรณ ล้วนดูแปลกแยกกว่าที่เคยเห็น
"เมิ่งซิน:มันแปลกเกินไปแล้ว... ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทั้งพืช ทั้งสัตว์ มอนสเตอร์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลย"
แม้ความสงสัยจะกัดกินจิตใจ แต่เธอก็ไม่มีเวลาหยุดคิดมาก เมิ่งซินค่อยๆลดความเร็วลง แล้วออกวิ่งเรื่อยๆแบบไม่พักแทน เพราะเธอไม่ไว้ใจสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปนี้เลย
ตลอดเส้นทาง 27 ชั่วโมง ทั้งการต่อสู้ระหว่างทางและความเหนื่อยล้าจากการวิ่งต่อเนื่องก็ทำให้เธอแทบทรุด
แต่ในที่สุด... เธอก็มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องพัก
เธอยืนอยู่อย่างนั้นสักพัก สูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง แล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไป
เธอหวังว่าจะได้ยินเสียงต้อนรับ หรือเสียงของใครบางคนเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจ
แต่สิ่งที่ดังออกมาเป็นเสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแทน...
"ลีน่า:หือ... ฮือ~~"
เสียงนั้นแทงลึกเข้าไปในใจเมิ่งซินทันที เธอผลักประตูเปิดออกเต็มที่แล้วรีบพุ่งเข้าไปในห้อง
ภาพที่เห็นคือ ลีน่าที่นั่งร้องไห้อย่างไม่หยุด คริสพยายามปลอบเธออย่างอ่อนล้า ส่วนโจเซฟยืนนิ่ง สีหน้าเครียดจัด
!"เมิ่งซิน:เกิดอะไรขึ้น!"!
เสียงตะโกนของเมิ่งซินดังลั่น ทั้งห้องสะดุ้งแล้วหันขวับมาทางเธอ ลีน่าที่เห็นเมิ่งซินยืนอยู่ตรงนั้นก็ร้องไห้เสียงดังขึ้น ก่อนจะรีบลุกพรวดแล้ววิ่งมากอดเธอแน่น
"ลีน่า:พี่คะ!! ฮือ~~!"
เมิ่งซินอ้าแขนรับกอดจากลีน่าก่อนจะชะโงกหน้าดูใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของอีกฝ่าย
เธอใช้นิ้วเกลี่ยหยดน้ำตาเบาๆ พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เมิ่งซิน:บอกพี่ได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น... ทำไมถึงร้องไห้แบบนี้ล่ะ"
"ลีน่า:ฮือ~~"
เด็กสาวเอาแต่สะอื้น ไม่ยอมพูดอะไร เมิ่งซินจึงลูบศีรษะเธอช้าๆ อย่างพยายามปลอบใจให้ใจเย็นลง
ขณะนั้นเอง โจเซฟก็เดินเข้ามาหาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"โจเซฟ:อากิ... เขากำลังแย่ ตอนนี้เขาอาจจะทนไม่ไหวแล้ว"
"เมิ่งซิน:ทนไม่ไหว...? แต่... นี่ยังไม่ถึง 7 วันไม่ใช่เหรอ?"
"โจเซฟ:เรื่องมันยาว แต่ช่างมันก่อน... ตอนนี้ เธอไปดูอาการเขาหน่อยได้ไหม"
"เมิ่งซิน:ดะ... ได้"
เมิ่งซินรีบเดินเข้าไปหาอากิทันที
แค่เห็นจากภายนอก เธอก็รู้แล้วว่าอาการของอากิไม่ดีเลย... หายใจช้าและลึกอย่างผิดปกติ
แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น คือครึ่งลำตัวของเขาเต็มไปด้วยเส้นสีดำคล้ายเส้นเลือดที่ลุกลามอยู่ใต้ผิว
เมิ่งซินรีบตรวจดูให้แน่ใจ แล้วก็พบว่าเส้นดำเหล่านั้นแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างของเขา
ภายในเส้นดำยังแซมด้วยเส้นม่วงจางๆ เหมือนบางอย่างกำลังกัดกินจากด้านใน
เธอขมวดคิ้วแน่น แล้วหันไปถามด้วยความสับสน
"เมิ่งซิน:มันเกิดอะไรขึ้น... แล้วทำไมแผลถึงดูเหมือนหายดีขนาดนี้ล่ะ?"
"โจเซฟ:ต้องย้อนกลับไปตอนวันที่สาม หลังจากเราแยกกับเธอ... วันนั้น อากิเริ่มมีอาการแปลกๆ — ทั้งชักกระตุก หมดสติ หลับยาวไม่ยอมตื่น แผลก็เริ่มมีน้ำหนอง..."
"เมิ่งซิน:วันที่สี่ แผลเริ่มเน่า... มีกลิ่น... และอากิก็ไม่ลืมตาอีกเลย เราทั้งสามช่วยกันดูแลเท่าที่ทำไหว แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน อาการเขาก็ไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลงเรื่อยๆ... จนสุดท้ายเราก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา..."
เมิ่งซินตั้งใจฟังทุกคำ เงียบจนได้ยินเสียงหายใจ
"โจเซฟ:เราคิดว่า ถ้าเลเวลอัพ — อาจรักษาได้หมด เราก็เลยช่วยกันจับอาวุธใส่มือเขา แล้วหามอนสเตอร์มาให้เขาฆ่า... ใช้เวลาทั้งวันที่สี่กับห้า และในที่สุด... อากิก็เลเวลอัพ แผลทั้งหมดหายไปในทันที ตอนนั้นเราดีใจมาก คิดว่าเขาคงจะปลอดภัยแล้ว... แต่ไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง... เรารู้เลยว่าเราคิดผิด เพราะแม้แผลภายนอกจะหายแล้ว... แต่สิ่งที่อยู่ข้างในกลับไม่ได้รับการรักษาเลย เส้นดำๆ พวกนั้น... ที่เคยล้อมรอบแผล มันเริ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งวัน... ก็กลายเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ"
เมิ่งซินที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหลุบตาลงครุ่นคิดอย่างหนัก
'เมิ่งซิน:พวกเขาพยายามกันอย่างสุดกำลังแล้ว... พยายามทุกทางที่ทำได้ ในขณะที่ฉัน... อยู่อย่างสบาย... กินของดีๆ นอนบนเตียงดีๆ ดูซีรีส์อย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่พวกเขา... กลับต้องต่อสู้ ทนเหนื่อย ทนล้า เพื่อช่วยอากิ...'
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในใจเธออย่างรุนแรง เมิ่งซินหลับตาลงต่ำอย่างสำนึก ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
แววตาของเธอในตอนนี้แน่วแน่กว่าเดิม
"เมิ่งซิน:เอาล่ะ... ในเมื่อฉันกลับมาแล้ว งั้นเรามาช่วยอากิกันเถอะ"
ทั้งสามคนที่ยืนฟังถึงกับหันขวับมามองเธออย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
"โจเซฟ:ชะ-ช่วยอากิ? เธอทำได้เหรอ... อาการเขาแย่มากเลยนะ!"
"คริส:ทะ-ทำได้เหรอครับ... พี่เขาแย่ขนาดนี้แล้วนะ..."
"ลีน่า:พี่... ฮือ... ช่วย... พี่อากิได้จริงๆ ใช่ไหม... ฮืออือ..."
เสียงทั้งสามเต็มไปด้วยความหวังที่เปราะบาง เหมือนพวกเขากำลังควานหาความหวังสุดท้ายในความสิ้นหวัง
เพราะเมิ่งซินคือคนที่หายไปเพื่อไปตามหาวิธีรักษา
เมิ่งซินมองหน้าทุกคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
"เมิ่งซิน:แน่นอน!"
เธอพูดพร้อมหยิบขวดโพชั่นของเหลวใสสะอาดที่สะท้อนแสงระยิบระยับออกมา
ทันทีที่เห็น ทั้งสามก็อุทานออกมาพร้อมกัน
"คริส:มันคืออะไรครับ"
"โจเซฟ:มันคืออะไร"
"ลีน่า:มันคืออะไรคะพี่?"
เมิ่งซินยกขวดยกขึ้นเล็กน้อย แล้วยิ้มบางๆ พร้อมตอบ
"เมิ่งซิน:มันคือโพชั่นชำระล้างระดับสูง"
"โจเซฟ:โพชั่นชำระล้าง? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย..."
"คริส:ใช่ครับ... ผมก็ไม่เคยเลย..."
"ลีน่า:มัน... มันทำอะไรได้เหรอคะพี่?"
"เมิ่งซิน:มันใช้รักษาโรค"
"ลีน่า:งะ-งั้น... งั้นมันก็ช่วยพี่อากิได้สิคะ!"
"เมิ่งซิน:ใช่"
ลีน่าที่ได้ยินแบบนั้นก็ฮึบ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกอย่างเด็ดขาด
เมิ่งซินยิ้มเล็กน้อย แล้วหันมาสั่ง
"เมิ่งซิน:มาช่วยฉันพยุงเขาขึ้นที — เราต้องป้อนโพชั่นนี้ให้เขา"
ทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
พวกเขารีบช่วยกันยกตัวอากิให้เอนขึ้น แล้วประคองศีรษะเขาเบาๆ
เมิ่งซินเปิดฝาขวดโพชั่นช้าๆ จากนั้นก็เทของเหลวสีใสลงไปในปากของอากิอย่างระมัดระวัง
ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งห้อง ทุกคนรอคอยผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ
[อลิส:ท่านดื่มโพชั่นชำระล้างแรงค์ A 300 มิลิลิต ทำการชำระล้างโรคภัยและค่าสถานผิดปกติทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
สกิลดูดซับทำงาน ตึด!!! สกิลความชำนาญต่ำเกินไปจะทำการเก็บส่วนหนึ่งของโพชั่นไว้ที่กระเพาะที่ 2
ท่านติดสถานะ "พิษอ่อนแอ ขั้นที่ 3" – ร่างกายติดสถานอ่อนแอ่ กำลังชำระล้าง
ติดเชื้อ ขั้นที่ 6" – การติดเชื้อถูกชะลอจากพิษเล็กน้อย เชื้อกำลังกัดกินร่างกาย กำลังชำระล้าง
ค่าสเตตัสทั้งหมดลดลงชั่วคราว 45% กำลังชำระล้าง
และค่าพลังพื้นฐานลดลง 400 หน่วย กำลังชำระล้าง
STR ติดลบ 364.25 ท่านติดสถานไม่มีกำลัง ไม่สามารถขยับร่างกายได้ ชั่วคราว
AIG ติดลบ 364.25 ท่านติดสถานการณ์ไร้การเคลื่อนไหว ท่านไม่สามรถเคลื่อนไหวได้ ชั่วคราว
INT ติดลบ 350 ท่านติดสถานไรสติ ท่านจะหลับและไม่รู้สึกตัว ชั่วคราว
MANA ติดลบ 176.7 ท่านติดสถานไรมานา ไม่สามารถใช้มานาได้ ชั่วคราว
VIT ติดลบ 375.5 ท่านติดสถานะหมดแรงต้าน ท่านไม่สามารถรับน้ำหนักใดๆได้เลย ชั่วคราว
DEX ติดลบ 375.5 ท่านติดสถานไร้สัมผัส ท่านสูญประสาทสัมผัสทั้ง 6 ชั่วคราว
ท่านรับพิษเป็นเวลานานได้รับสกิล ต้านทานพิษ(F-⁽ᴮ⁾) สกิลแบบแอคทีฟ เมื่อเปิดใช่งานจะช่วยให้ท่านต้านทานพิษ 4%
ท่านได้รับสกิล เพิ่มภูมิคุ้มกัน(F-⁽ᶜ⁾) สกิลแบบพาร์สสีฟ ช่วยให้ท่านต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ได้เพิ่ม 4%
ท่านเลเวลอัพ 29>30 HP เพิ่มขึ้น 20 หน่วย มานา เพิ่มขึ้น 10 หน่วย ได้รับพอย 4 หน่วยรักษาบาดแผลทั้งหมดที่ได้รับและฟื้นฟูมานาจนเต็ม]
[อลิส:ในที่สุด... ท่านเมิ่งซินก็กลับมา แถมยังได้โพชั่นชำระล้างระดับสูงมาอีก... เธอไปหามาจากที่ไหนกัน? ของแบบนี้… ไม่ใช่อะไรที่หาง่ายเลย…]
หลังจากป้อนโพชั่นไปได้เพียงครู่เดียว สีหน้าของอากิก็เริ่มเปลี่ยนไป
จากซีดเซียวไร้สติ…กลับมีเลือดฝาดบางๆ ปรากฏบนใบหน้า
ร่างกายของเขาค่อยๆ คลายความเกร็ง
ทุกคนที่มองอยู่ต่างถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
"ลีน่า:พี่ดูสิคะ! ดูพี่อากิสิ!"
ลีน่าเบิกตากว้าง พูดด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความยินดีอย่างแท้จริง
ทุกคนต่างมองตามสายตาของเธอ และเห็นเส้นดำๆ ที่เคยลุกลามไปทั่วร่างของอากิ… เริ่มหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เหลือเพียงบริเวณหน้าท้องเท่านั้น
*"เมิ่งซิน: ขอบคุณ...จิมมี่..."*
เสียงของเมิ่งซินเบามาก... เธอพึมพำชื่อเพื่อนคนหนึ่งที่ช่วยเธอทำโพชั่น ก่อนที่ร่างกายจะทรุดฮวบลงอย่างไม่ทันตั้งตัว
"คริส:พี่! พี่!!"
"ลีน่า:ปะ-เป็นอะไรคะ?! พี่คะ พี่เป็นอะไร!"
ทั้งสองรีบคว้าเมิ่งซินไว้ทันที
โจเซฟที่เห็นรีบเข้ามาช่วยพยุง ก่อนจะค่อยๆ วางเธอลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล
"ลีน่า:คะ-คุณลุง เราจะทำยังไงดีคะ! พี่เขาหลับไปแล้ว!"
"โจเซฟ:เอ่อ..."
'โจเซฟ:อยู่ๆ ก็ล้มไปแบบนี้... เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?'
ในขณะที่สองคนกำลังลนลาน คริสก็พูดขึ้นมาเบาๆ
"คริส:หรือว่า... พี่เขาแค่หลับเฉยๆ?"
โจเซฟได้ยินก็โน้มตัวลง ตรวจดูจังหวะการหายใจของเมิ่งซิน
"โจเซฟ:อืม... หายใจเร็วหน่อย แต่สม่ำเสมอ น่าจะใช่ เธอคงแค่หมดแรงน่ะ..."
"โจเซฟ:คงวิ่งมาตลอดทางเลยล่ะถึงเป็นแบบนี้"
ลีน่าที่ได้ยินก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ลีน่า:เฮ้อ~~~ นึกว่ามีอะไร... ใจหายหมดเลย..."
หลังจากนั้น ทุกคนก็ช่วยกันยกเมิ่งซินไปนอนพักที่เตียงใกล้ๆ อย่างระมัดระวัง
จากนั้นก็หันกลับไปมองอาการของอากิอีกครั้ง
ตอนนี้... เขากลับมาหายใจปกติ ร่างกายดูสงบ
เส้นดำที่เคยลุกลาม... บัดนี้หายไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงร่องรอยสุดท้ายบริเวณหน้าท้องเท่านั้น แต่สำหรับพวกเขา... แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเรียกมันว่า "ปาฏิหาริย์" ได้แล้ว
"คริส:ดูสิ เส้นดำๆ พวกนั้นหายไปเกือบหมดเลย"
"ลีน่า:แบบนี้คือหายแล้วใช่ไหม!"
"คริส:ใช่ พี่เขาคงหายแล้วล่ะ อีกไม่นานก็คงตื่นขึ้นมาเอง"
"ลีน่า:งั้นเรามาทำสตูรอพี่เขาตื่นไหม!"
"คริส:ได้สิ!"
"ลีน่า:ฉันจำได้ว่าตอนที่ออกไปล่า... ได้กระต่ายมาตั้งหลายตัวใช่ไหม?"
"คริส:ได้มาตั้ง 5 ตัว"
"ลีน่า:อืม~~~ งั้นย่าง 3 ตัว แล้วก็ทำสตูอีก 2 ตัวนะ"
"คริส:ตามนั้นเลย!"
ทั้งคู่แยกตัวออกไปเตรียมอาหารอย่างกระตือรือร้น ในขณะที่โจเซฟยังคงยืนอยู่ข้างเตียงอากิ เฝ้ามองเขาเงียบๆ
'โจเซฟ:โชคดีจริงๆ... ที่เมิ่งซินกลับมาทัน แถมยังพกโพชั่นระดับสูงแบบนี้มาด้วย... ถึงจะไม่รู้ว่าเธอไปเอามาจากไหน... แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะไม่ถามก็แล้วกัน'
ในขณะที่เขากำลังคิดอะไรเงียบๆ อยู่นั้นคริสก็เดินกลับมา
"คริส:ลุงพอมีเกลือกับพริกไทยเหลือไหม?"
"โป๊ก!"
"คริส:โอ๊ย!"
"โจเซฟ:ใครให้เรียกฉันว่าแบบนั่นกันฟะ!"
"คริส:ก็... แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ?"
"โจเซฟ:เรียก 'ลุง' ก็พอ ไม่ต้องเติม 'คุณ' แบบลีน่า!"
พูดจบ โจเซฟก็ยกมือขึ้นเหมือนจะเขกหัวซ้ำ คริสรีบยกมือขึ้นกันไว้... แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาค่อยๆ ลดมือลง แล้วมองหน้าโจเซฟ ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายยื่นถุงเครื่องปรุงมาให้
"โจเซฟ:เอ้า เอาไปใช้"
"คริส:ขอบคุณครับ!"
คริสวิ่งกลับไปหาลีน่าพร้อมของที่ต้องการ
"โจเซฟ:ใช้ประหยัดหน่อยล่ะ!"
"ลีน่า:ได้เลยค่า~"
เมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย โจเซฟจึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เวลาผ่านไปนานกว่าชั่วโมง…
แล้วจู่ๆ ร่างของอากิก็กระตุกเล็กน้อย
[อลิส:ท่านอากิ! ท่านอากิ! ในที่สุด... ท่านก็ตื่น!]
เสียงของอลิสดังขึ้นด้วยความดีใจล้นเหลือ อากิที่เพิ่งได้สติกะพริบตาถี่ๆ อย่างสับสน ก่อนจะพึมพำออกมาเสียงเบา
"อากิ:ขออีก... ห้านาที..."
"โจเซฟ:ถ้านอนต่ออีกหน่อย นายจะเป็นอัมพาตแน่ๆ"
อากิเบิกตาขึ้นช้าๆ แล้วหันไปมองเสียงที่คุ้นเคย
"อากิ:โจเซฟเหรอ... มีอะไรหรือเปล่า?"
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แล้วเกาหัวเบาๆ อย่างมึนๆ
"โจเซฟ:นายเพิ่งตื่นก็คงงงอยู่ ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นก่อน แล้วค่อยคุยกัน"
"อากิ:ฮ้าววว~~ ก็ได้..."
อากิลุกขึ้นช้าๆ แต่ในตอนนั้นเองเขาก็นึกบ้างอย่างได้
"อากิ:หือ! แผลมัน!"
"โจเซฟ:เมิ่งซินเธอกลับมาพร้อมยารักษาและช่วยนายไว้ได้ ตอนนี้เธอนอนอยู่ที่เตียงด้วยความเหนื่อยล้า"
"อากิ:ฉัน...หายแล้วเหรอ"
"โจเซฟ:อืม"
อากิที่ได้ยินแบบนั้นก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือบอกลีน่าเกี่ยวกำลังวิธีดูแลคนชักก่อนจะหลับไป
"อากิ:เกิดอะไรขึ้น?"
"โจเซฟ:เรื่องมันยาวค่อยคุยกัน ไปทำตัวให้สดชื่นหายจากอาการง่วงเถอะ"
อากิที่ได้ยินแบบนั้นเลยเดินไปทางห้องน้ำในขณะเดียวกัน ลีน่าและคริสก็รีบเดินกลับมาหาโจเซฟ
"ลีน่า:พี่เขาเป็นยังไงบ้างคะ?"
"โจเซฟ:ก็ดูเหมือนจะปกติแล้วนะ... แต่ยังเบลอๆ อยู่นิดหน่อย"
"คริส:หรือว่าจะเป็นผลจากอาการชักครับ?"
"โจเซฟ:อืม... อาจจะมีส่วนก็ได้..."
เสียงสนทนาจากด้านนอกยังคงดังแว่วเข้ามาในขณะที่อากิเดินเข้าห้องน้ำอย่างเงียบงัน เขาถอดกางเกงด้วยท่าทางเหนื่อยล้า ก่อนจะยืนใต้ท่อและเปิดให้น้ำมันไหลพรั่งพรูลงมาจากท่อกับจะชะล้างทุกความเหนื่อยล้าออกไป
"อากิ:ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย"
[อลิส:6 วัน 22 ชั่วโมง 45 นาที 59 วิค่ะ]
อากิเหลือบมองไอน้ำรอบตัวอย่างครุ่นคิด กลิ่นอับเล็กๆ ที่ลอยออกจากตัวทำให้เขาขมวดคิ้ว
"อากิ:เกือบอาทิตย์หนึ่งเลยแฮะ... ตัวฉันมีกลิ่นไหม"
[อลิส:ถ้าตอบว่าไม่ก็คงจะไม่จริง แต่ก็เข้าใจได้จากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่ทำให้อาบไม่ได้ การมีกลิ่นก็ไม่แปลกค่ะ]
คำตอบของอลิสทำให้อากิเงียบไปเล็กน้อย สายตาของเขาดูเหมือนคนที่พยายามทำใจยอมรับความจริงบางอย่าง
"อากิ:สรุปคือฉันมีกลิ่น?"
[อลิส:...ใช่ค่ะ]
เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าไปรับสายน้ำอีกครั้ง
"อากิ:... แล้วตอนฉันหลับมีอะไรเกิดขึ้นบ้างไหม"
[อลิส:มี 2 หัวข้อเล็ก และก็ 1 เรื่องใหญ่ค่ะ]
อากิชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบ ความเงียบครู่หนึ่งแทรกตัวเข้ามาระหว่างพวกเขาก่อนที่เสียงของเขาจะดังขึ้นอีกครั้ง
"อากิ:... ขอฟังเรื่องเล็กก่อนแล้วกัน"
[อลิส:เรื่องแรกก็... ท่านเลเวลอัพค่ะ ส่วนเรื่อ—]
"อากิ:เดี๋ยวๆ เลเวลอัพนี่หมายความว่ายังไง ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย จะเลเวลอัพได้ยังไง"
[อลิส:เรื่องมันเกิดตอนที่ท่านอากิสลบไปแล้วค่ะ ตอนนั้นอาการท่านแย่มาก แผลมีอาการเน่าเสีย มีน้ำหนองพร้อมกับกลิ่นที่เริ่มแรง พวกลีน่าและโจเซฟก็ไม่รู้จะทำยังไงกัน อาการของท่านอากิก็แย่ลงเรื่อยๆ... จนคริสมีความคิดหนึ่งขึ้นมา ว่าตอนที่เลเวลอัพ... ร่างกายจะได้รับการฟื้นฟู พวกเขาเลยออกไปจับมอนสเตอร์มา แล้วเอามาให้ท่านฆ่าจนเลเวลอัพค่ะ กว่าเลเวลท่านจะอัพ... ใช้เวลาเกือบ 2 วันเลยค่ะ]
อากิเงียบไป น้ำจากท่อยังคงไหลริน แต่ความรู้สึกภายในกลับคล้ายถูกถาโถมด้วยคลื่นบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก
"อากิ:พวกเขาพยายามกันมากๆ เลยสินะ..."
[อลิส:พยายามสุดแรงเท่าที่มีเลยค่ะ]
อากิเหลือบมองฝ่ามือตัวเองเบาๆ ก่อนจะกำหมัดแน่น ในน้ำเสียงของเขามีทั้งความรู้สึกผิด ปนกับคำมั่นสัญญาเงียบๆ ที่ไม่ต้องเปล่งถ้อยคำออกมา
"อากิ:...แบบนี้ต้องดูแลพวกเขาดีๆ แล้วล่ะ"
[อลิส:ไม่ใช่ดีๆ ค่ะ แต่... “ดีที่สุด” ต่างหากค่ะ]
เขายิ้มมุมปากบางๆ ดวงตานิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยประกายบางอย่างที่จุดขึ้นมาอีกครั้ง
"อากิ:อืม..."
[อลิส:ส่วนเรื่องที่สอง... ท่านได้รับสกิลใหม่มา 2 สกิลค่ะ]
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อากิก็ยกมือขึ้นเปิดหน้าต่างแจ้งเตือนย้อนหลัง พลางมองข้อความที่ปรากฏขึ้นช้าๆ
"อากิ:ว้าว... เป็นสกิลที่ดีมากๆ เลยนะ"
[อลิส:ดิฉันก็คิดว่ามันเป็นสกิลที่ยอดเยี่ยมค่ะ แต่...]
"อากิ:แต่?"
[อลิส:แต่มันเพิ่มความชำนาญได้ยากมากเลยค่ะ]
"อากิ:หมายความว่ายังไง?"
[อลิส:ถ้าท่านอยากให้สองสกิลนี้พัฒนา... ท่านจำเป็นต้องเอาพิษหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้สกิลเริ่มทำงานและเรียนรู้ค่ะ]
"อากิ:ก็ไม่น่ายากนี่... แค่หาพิษมาใส่ตัวเอง แล้วค่อยๆ พัฒนาไป"
[อลิส:นั่นแหละปัญหาค่ะ ท่านไม่สามารถใช้พิษอ่อนๆ หรือโรคเบาๆ ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อเร่งการเติบโตของสกิลได้ ท่านต้องใช้พิษที่รุนแรงขึ้น... เรื่อยๆ และรุนแรงยิ่งขึ้น จนถึงระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อท่าน... และคนรอบข้างค่ะ]
"อากิ:เดี๋ยวนะ เป็นอันตรายต่อตัวเองนี่พอเข้าใจ... แต่คนรอบข้างล่ะ? ยังไง?"
[อลิส:งั้นขอยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆนะคะ สมมุติว่า... เป็นสกิลเพิ่มภูมิคุ้มกัน—ท่านต้องติดเชื้อโรคเพื่อให้สกิลทำงานใช่ไหมคะ]
"อากิ:ใช่"
[อลิส:แต่ทันทีที่ท่านติดเชื้อ ท่านก็จะกลายเป็นพาหะ ถึงท่านจะต้านมันได้ แต่กว่าที่ร่างกายจะคุมมันได้สมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลา ระหว่างนั้นท่านอาจแพร่เชื้อไปยังคนอื่นๆ ได้... ซึ่งคนเหล่านั้นไม่มีสกิลต้านโรค ไม่มียารักษา แล้วคิดดูสิคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น...]
"อากิ:..."
[อลิส:สำหรับสกิลต้านพิษ ก็คล้ายกันค่ะ... มัน ‘ต้าน’ ได้ แต่มันไม่ได้ ‘กำจัด’ พิษ พิษที่เข้าสู่ร่างกายท่าน... มันจะยังคงอยู่ที่นั่น รอวันปะทุออกมา]
อากิพยักหน้าเบาๆ ดวงตาครุ่นคิด
[อลิส:ร่างกายของท่านก็จะกลายเป็นถังเก็บสารพิษดีๆ นี่เอง ทุกการกระทำ ทุกสิ่งที่ท่านสัมผัส... มีโอกาสจะปนเปื้อนโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ระวัง อาจเกิดหายนะได้]
"อากิ:..."
[อลิส:แต่นั่นคือ ‘ข้อเสีย’ ที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าจัดการดีๆ มันก็ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นปัญหา และในทางกลับกัน—ข้อดีของมันก็ชัดเจน... ท่านจะต้านพิษและโรคร้ายได้โดยไม่ต้องพึ่งยารักษา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในโลกที่ยาขาดแคลนแบบนี้ค่ะ]
'อากิ:ถึงข้อเสียจะฟังดูน่ากลัว... แต่ประโยชน์ของมันก็ใช่ว่าจะมองข้ามได้ ถ้าจัดการดีๆ แบบที่อลิสว่า... มันก็ยังน่าใช้'
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ
"อากิ:งั้นฝากอลิสจัดการดูแลสกิลสองอันนี้เป็นพิเศษหน่อย ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็นปัญหาอย่างที่ว่า"
[อลิส:รับทราบค่ะ]
[อลิส:ทำการดำเนินการจัดลำดับความสำคัญของ ‘เพิ่มภูมิคุ้มกัน’ และ ‘ต้านพิษ’ ให้เป็นกลุ่มเฝ้าระวังขั้นสูงสุดแล้วค่ะ]
"อากิ:ดี งั้น... เรื่องใหญ่ที่ว่า...?"
[อลิส:มีการอัปเดตระบบที่ 01.04 ค่ะ เมื่อ 2 วันก่อน และ เป็นการอัปเดตใหญ่ระดับเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเลยด้วย จะฟังตอนนี้เลยไหมคะ?]
"อากิ:...ไม่ ฉันขออาบน้ำก่อน ค่อยว่ากัน"
[อลิส:รับทราบค่ะ]
จากผู้แต่ง
ที่ลงช้าเพราะไม่ได้แต่งตั้ง 4 วันเลยนะอาทิตย์นี้ ส่วนเหตุผลคือมีงานบวชคนรู้จักและไปช่วยเขาคัฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ