CHESS:พลิกกระดานเทพ
เขียนโดย TKFD
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) ตอนที่ 10.1 ติดเชื่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากเดินออกมาไกลพอสมควร อากิก็หยุดฝีเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า
"อากิ:ทุกคนฉันว่าเราออกมาไกลแล้ว พักสักหน่อยเถอะ"
คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงของอากิหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นว่าเขากำลังเอามือกุมท้อง สีหน้าซีดเผือกและท่าทางอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
โจเซฟขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาลีน่า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"โจเซฟ:ลีน่าลุงฝากก่อไฟทีน่ะ"
"ลีน่า:ได้ค่ะ"
ลีน่าตอบรับก่อนจะเริ่มเตรียมก่อไฟตามที่ได้รับมอบหมาย
"โจเซฟ:เมิ่งซินฝากดูอาการของอากิที"
"เมิ่งซิน:...ก็ได้"
เมิ่งซินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
หลังจากโจเซฟแบ่งหน้าทีให้ทุกคน พวกเขาก็ทำตามทันทีโดยที่ลีน่าเอาคบเพลิงออกมาและว่างซุ้มกันเพื่อให้เป็นกองไฟ ส่วนโจเซฟก็ค่อยๆว่างคริสให้นอนลง ทางด้านอากิก็จะนั้งลงแต่เมิ่งก็มาจับแขนอากิไว้และพูดว่า
"เมิ่งซิน:อย่าพึงนั้งตรงนี้ มันไกลกองไฟเกินไป ไปนั่งตรงนู้นเถอะ"
"อากิ:..."
'อากิ:ขี้เกียดเดินไปจัง แผลก็เจ็บ'
[อลิส:ดิฉันแนะนำให้ทำตามที่เมิ่งซินบอกคะ เพราะอุณหภูมิร่างกายของท่านกำลังลดลงค่ะ]
"อากิ:...ก็ได้ ไปกันเถอะ"
ในตอนแรกนั้นอากิเลือกที่จะไม่ไปตามที่เมิ่งซินบอกเพราะเหนื่อยล้าและเจ็บแผล แต่พออลิสพูดอากิก็ทำตามทันทีโดยที่ไม่ถามอะไร
พออากินั้งลงข้างกองไฟเมิ่งซินก็พูดต่อทันทีว่า
"เมิ่งซิน:ที่นี้ช่วยนอนลงด้วยเดี่ยวฉันดูแผลให้"
"อากิ:..."
[อลิส:นอนเถอะคะท่านอากิ เพราะการนั้งอาจทำให้แผลเกิดการกดทับนั้นอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บก็ได้นะค่ะ]
อากิที่ได้ยินอย่างนั้นก็นอนลง พอนอนความเจ็บก็ลดลงบ้าง ส่วนทางด้านเมิ่งซินพอเห็นอากินอนก็ค่อยๆเริ่มแกะผ้าพันแผลและดูแผลของอากิ
'เมิ่งซิน:ถ้ายังเป็นคนปกติที่ไม่มีหน้าต่างค่าสถานะคงตายไปแล้วแน่ๆกับแผลขนาดนี้'
แผลที่เมิ่งซินเห็นคือมีรูอยู่ตรงท้องของอากิ ซึ่งถ้าสังเกตุดีๆก็อาจเห็นข้างในได้เพราะแผลยังไม่ปิดสนิท แต่เลือดก็หยุดไปแล้วเพราะผลของโพชั่นส่วนเมิ่งซินที่เห็นก็เอาผ้าเดิมปิดไว้ก่อนจะลุกขึ้นไปหาลีน่าและพูดว่า
"เมิ่งซิน:ลีน่าพี่ฝากเอาผ้าต้มน้ำร้อนและก็เอาพึงไฟให้แห้งที่นะ"
"ลีน่า:ได้ค่ะ"
"เมิ่งซิน:อ้อใช่เกือบลืม ก่อนจะจับผ้าไปตากล้างมือด้วยน้ำอุ่นด้วยนะเพราะเราต้องการความสะอาดมากๆ"
"ลีน่า:ได้ค่ะ แต่พี่ช่วยไปเอาน้ำกับพี่อากิให้หน่อยนะค่ะ"
"เมิ่งซิน:ได้สิ"
แล้วเมิ่งซินก็เดินไปหาอากิ
"เมิ่งซิน:อากิของถังน้ำไปใช่หน่อย"
เมิ่งซินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน อากิที่ได้ยินก็ถึงกับมองหน้าเมิ่งซินก่อนจะเอามาให้ทั้ง 3 ถังก่อนจะพูดว่า
"อากิ:ขอละครั้งหน้าช่วยพูดแบบปกติได้ไหม พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้นมันรู้สึกแปลกๆ"
"เมิ่งซิน:ทำไมเหรอ นายไม่ชอบแบบนี้เหรอ~ เมี้ยว~"
อากิที่ได้ยินเมิ่งซินทำเสียงแบบนั้นก็ถึงดับลักคิ้วและทำหน้างงๆ เมิ่งซินที่เห็นอากิทำหน้าแบบนั้นก็ขำเบาๆก่อนจะเก็บถังน้ำและเดินจากไป
"เมิ่งซิน:หึหึหึ นายทำหน้าแบบนั้นก็ตลกดีน่ะ"
*"อากิ:อลิสนี้ฉันโดนเวทย์มนต์ดีบัฟอยู่เหรอ"*
[อลิส:ไม่คะ ท่านไม่ได้โดนอะเลยทั้งสิ้นค่ะ]
*"อากิ:แล้วเมื่อกี้มัน..."*
[อลิส:ท่านเมิ่งซินคงจะเห็นท่านอากิซึมๆเลยอยากทำให้ท่านตื่นตัวมั้งค่ะ]
*"อากิ:ตื่นจริงแหละขนลุกไปทั้งตัวเลย"*
[อลิส:ฮ่าฮ่าฮ่า แบบนี้ถือว่าได้ผลพอตัวเลยนะค่ะ]
*"อากิ:เฮ้อ..."*
จากนั้นอากิก็ได้แต่นอนหันดูสิ่งรอบๆตัวเพราะไม่อยากลุก อลิสที่เห็นเลยหาเรื่องคุยกับอากิ
[อลิส:อ้อใช่มีสกิลความชำนาญเพิ่มด้วยจะฟังไหมค่ะท่านอากิ]
*"อากิ:เอาสิ"*
[อลิส:ความชำนาญสกิลเร่งเพิ่มขึ้น F->F เมื่อใช้งานจะเร่งความเร็วการขยับของร่างกายขึ้น 10%>15% เป็นเวลา 5>6 วิ คูลดาวน์ 30>40 วิ ใช้มานา 50>100 ต่อครั้ง]
*"อากิ:โฮ่ แบบนี้ก็ขยับตัวได้เร็วขึ้นใช่ไหม"*
[อลิส:โดยร่วมก็นับว่าดีขึ้นค่ะ แต่ก็มีข้อเสียตรงมันคูลดาวน์เพิ่มเป็น 40 วินี้แหละค่ะ]
*"อากิ:แต่ระยะเวลาการแสดงผลมันก็เพิ่มขึ้นอยู่น่ะ ถึงว่าแลกๆกันไป"*
[อลิส:ก็จริงค่ะ]
[อลิส:อ๋อใช้ มาคุยเรื่องนั้นกันค่อไหมค่ะ]
*"อากิ:คุยเรื่องอะไรกันต่อหรอ"*
[อลิส:ก็เรื่องที่ว่าทำไมเป็นไปได้ยากที่ท่านอากิจะได้สกิลตาเหยี่ยวของลีน่าไงค่ะ]
*"อากิ:อ้อเรื่องนี้เอง มันยังไงงั้นหรอ"*
[อลิส:ที่เป็นไปได้ยากเพราะมันเป็นสกิลประจำอาชีพ ซึ่งท่านไม่มีสิทธิ์ได้เพราะท่านอากิไม่มีอาชีพนั้นเอง]
'อากิ:ก็จริงที่เราไม่มีอาชีพ...แต่ทำไทคนอื่นๆมีล่ะ พวกเขาไปได้มายังไง...ค่อยถามล่ะกัน แต่ก่อนหน้านั้นอลิสพูดว่าเป็นไปได้ยากแต่ไม่ใช่ว่า...'
*"อากิ:...เมื่อกี้เธอบอกว่าเป็นไปได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม"*
[อลิส:ใช้ค่ะ]
*"อากิ:งั้นทางที่ยากคือยังไง"*
[อลิส:ก็ต้องทำตามนี้ค่ะ อย่างแรกท่านต้องหาห้องสมบัติ อย่างที่สองท่านต้องเปิดหีบสมบัติ อย่างที่สามท่านต้องสุ้มให้ได้ใบสุ้มสกิล อย่างที่สี่ท่านต้องสุ่มให้ได้สกิลตาเหยี่ยวค่ะ]
*"อากิ:...มันไม่ได้เรียกว่ายากแล้วแบบนี้มันเรียกว่าเป็นไปได้ยากเลยไม่ใช่รึไง!"*
[อลิส:โอกาสก็ไม่ใช่ศูนย์นิค่ะ]
*"อากิ:...จะพูดไงดีว่ะ"*
[อลิส:พูดว่ายอมแพ้ค่ะ]
*"อากิ:ใครจะไปพูดกัน!"*
อากิและอลิสก็พูดหยอกล้อกันไป ส่วนทางด้านเมิ่งซินและลีน่าก็ช่วยกันต้มผ้า แต่ระหว่างที่ต้มผ้าลีน่าก็ถามเมิ่งซินว่า
"ลีน่า:จะว่าไปแล้ว...หนูก็มีเรื่องหนึ่งที่สงสัยเกี่ยวกับพี่มานานแล้วแต่หนูยังไม่ได้ถามเลยค่ะ"
"เมิ่งซิน:เรื่องอะไรละ หืม"
"ลีน่า:พี่ไปเรียนรู้การปฐมพยาบาลมาจากไหนค่ะ"
"เมิ่งซิน:จะว่าไงดีล่ะ...คงต้องเรียกว่าเป็นผลพลอยได้จากการแบกเป้เที่ยวละมั้ง"
"ลีน่า:ยังไงค่ะ?"
ลีน่าที่ได้ยินก็เอียงคอสงสัย เมิ่งซินที่เห็นก็อมยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดต่อ
"เมิ่งซิน:ก็การแบกเป้เที่ยวมันต้องไปหลายๆสถานที่และการไปที่ต่างๆก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นพี่เลยไปเข้าคลาสเรียนเรื่องการปฐมพยาบาลตั้งแต่แผลเล็กน้อยจนไปถึงแผลสาหัสไว้ เพื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ไงล่ะ"
ลีน่าที่ได้ยินก็ทำตาลุกวาว
"ลีน่า:งั้นพี่ช่วยสอนหนูในการปฐมพยาบาลหน่อยได้ไหมค่ะ"
"เมิ่งซิน:..."
'เมิ่งซิน:ฉันกำลังคิดเลยว่าปาตี้เราคนที่ปฐมพยาบาลเป็นมีน้อยเกินไป การสอนลีน่าเพื่อเป็นตัวสำรองเพื่อในกรณีที่ฉันและอากิบาดเจ็บคู่และไม่มีใครสามารถรักษาได้อย่างน้อยก็มีลีน่าเธอก็น่าจะช่วยได้ เป็นความคิดที่ดีเลย'
ในระหว่างที่เมิ่งซินกำลังคิด ลีน่าก็พูดด้วยน้ำออดอ้อน
"ลีน่า:สอนหนูหน่อยน่าพี่ค่า~"
'เมิ่งซิน:ว้าย ดูเธอทำเสียงสิน่ารักจริงๆ'
"เมิ่งซิน:ได้พี่จะสอนเอง แต่อย่างแรกมาช่วยกันเตรียมผ้าก่อนนะ"
"ลีน่า:ค่า"
แล้วลีน่ากับเมิ่งก็ช่วยกันต้มผัาแล้วก็นำไปผึ่งไฟจนแห้งก่อนจะล้างมือด้วยน้ำอุ่น และไปหาอากิพอทั้งคู่เดินมาหาก็พบว่าอากินั้นหลับไปแล้ว
"ลีน่า:เหมือน...พี่อากิจะหลับไปแล้วนะค่ะ"
"เมิ่งซิน:เขาน่าจะเหนื่อยจากอาการเสียเลือดนะเลยเผลอหลับไป"
"ลีน่า:งั้น...เราควรปล่อยให้พี่อากินอนไปก่อนไหมค่ะ"
"เมิ่งซิน:ไม่เราจะทำแผลให้เขาตอนหลับนี้แหละ"
"ลีน่า:ทำไมละค่ะ"
"เมิ่งซิน:เพราะตอนที่คนเราหลับเราไม่รับรู้ถึงความเจ็บนั้นทำให้เราปฐมพยาบาลง่ายขึ้นเพราะพวกเขาจะไม่ดิ้น"
"ลีน่า:อ้อ เป็นแบบนี้นี่เองหนูเข้าใจแล้วค่ะ"
หลังจากได้ยินแบบนั้นลีน่าก็เริ่มดูสิ่งที่เมิ่งซินทำ
"เมิ่งซิน:เอาอย่างแรก มาลองเรียนรู้และดูแผลจริงๆกันเลย"
'เมิ่งซิน:ฉันต้องให้เธอคุ้นเคยกับแผลสดๆ เธอจะได้ไม่ความกลัวต่อแผลพวกนี้'
เมิ่งซินเปิดแผลของอากิออก ลีน่าที่เห็นก็หันหน้าก่อนจะค่อยๆหันมาดูก็เห็นแผลของอากิที่เป็นรูและเห็นเข้าไปข้างในเล็กน้อย ลีน่าที่แบบนั้นก็มีอาการพะอืดพะอมเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้หันหนีไปเลย
เมิ่งซินที่เห็นว่าลีน่ากำลังพยายามอยู่ก็รอจนเธอมองตรงๆได้ พอเห็นว่าลีน่ามองได้แล้วเมิ่งซินก็เริ่มสอนต่อ
"เมิ่งซิน:เอาละหลังจากจากนี้เราก็สังดูแผลกัน มาดูว่าแผลร้ายแรงแค่ไหนและอันตรายขนาดไหน ลองมองดูและพูดสิ่งที่เห็นสิ"
ลีน่ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองแผลของอากิอย่างระมัดระวัง
"ลีน่า:หนูเห็น 2 แผลเป็นลอยเหมือนโดนแท่งขนาดแผลไม่ใหญ่มาก แต่เหมือจะลึกค่ะ"
"เมิ่งซิน:แล้วหนูคิดว่าต้องทำยังไง"
ลีน่าเงียบไปเล็กน้อย ก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยังมีความลังเล
"ลีน่า:เออ...ต้องพันแผลไหมค่ะ"
เมิ่งซินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายต่อ
"เมิ่งซิน:ถ้าเป็นแผลอื่นๆเราอาจจะทำแค่นั้น แต่ถ้าแผลลึกแบบนี้และไกลกันสิ่งแรกที่ต้องทำคือเอาผ้ารองแบบนี้...ก่อนจะพันแผลด้วยผ้าแบบนี้"
เมิ่งซินทำให้ลีน่าดูก่อนจะถามเธอว่า
"เมิ่งซิน:หนูคิดว่าทำไมถึงต้องเอาผ้ารองก่อนค่อยพันแผล"
ลีน่าก้มหน้าลงแล้วขบคิด ก่อนจะตอบเสียงเบาๆ
"ลีน่า:...ไม่รู้ค่ะ"
เมิ่งซินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะตอบอย่างใจเย็น
"เมิ่งซิน:เพราะบาดแผลของอากินั้นลึก มันเลยง่ายต่อการติดเชื่อการที่เอาผ้ารองแบบนี้ก็เพื่อป้องการติดเชื่อเพราะงั้นแผลที่ลึกๆควรที่จะ..."
ลีน่าทบทวนคำพูดของเมิ่งซินอย่างตั้งใจ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างมั่นใจ
"ลีน่า:ควรที่จะเอาผ้ารองก่อนพันใช่ไหมค่ะ!"
เมิ่งซินยิ้มและลูบหัวของลีน่าเบาๆ
"เมิ่งซิน:ใช่แล้วจ้าคนเก่ง"
ลีน่าที่ได้รับคำชมก็มีถ้ามีความตั้งใจมากขึ้น เมิ่งซินที่เห็นเลยพูดว่า
"เมิ่งซิน:ในเมื่อรู้แล้วก็ลองทำอีกแผลดูนะ"
ลีน่าที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจนักเลยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนระทวย
"ลีน่า:จะให้หนูทำจริงๆเหรอค่ะ"
เมิ่งซินพยักหน้าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"เมิ่งซิน:ใช่จ้ะ หนูทำได้แน่นอน"
ลีน่าซูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริ่มวางผ้าบนแผลและค่อยๆ เอาผ้าอีกผืนมาพันจนหมด เมื่อทำเสร็จเธอก็ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก
เมิ่งซินที่เห็นก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเข้าไปพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เมิ่งซิน:เก่งมากๆเลยจ้ะ"
ลีน่าหันมามองเมิ่งซินพร้อมกับรอยยิ้ม
"ลีน่า:ฮิฮิ หนูทำได้แล้วค่ะ"
หลังจากทำแผลเสร็จทั้งคู่ก็เดินออกมาและปล่อยให้อากิพักผ่อน พอเดินออกมาแล้วลีน่าก็พูดขึ้นว่า
"ลีน่า:งั้นหนูขอไปทำอาหารก่อนนะคะ เพราะถ้าพี่อากิตื่นขึ้นมาคงหิวมากแน่ๆ"
"เมิ่งซิน:อืม ไปทำเถอะจ้ะ"
ลีน่าพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไปพร้อมกับเอาหมอตักน้ำจากถังของอากิ ก่อนที่จะเอาเหล็ก 3 ขาออกมาและตั้งหมอต้มซุป
'เมิ่งซิน:ฉันคงต้องไปดูอาการของคริสหน่อยฉันยังไม่รู้เลยเขาเป็นอะไร'
เมิ่งซินเดินมาหาโจเซฟที่ดูแลคริสอยู่
"เมิ่งซิน:เขาเป็นไงบ้าง"
โจเซฟยักไหล่เล็กน้อยและหันไปมองคริสที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ที่พื้น
"โจเซฟ:ก็ไม่มีไข้หรืออะไร แต่ตรงหัวนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะอากิเป็นคนทำไว้ ฉันก็ไม่อยากแกะมันออก"
เมิ่งซินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและมั่นคง
"เมิ่งซิน:...งั้นเดี่ยวฉันดูแลต่อเอง"
"โจเซฟ:ฝากด้วยล่ะ"
แล้วโจเซฟก็เดินจากไปและช่วยลีน่าทำอาหาร ส่วนเมิ่งซินแกะผ้าที่พันรอบหัวของคริสออกมาอย่างช้าๆ เธอสังเกตเห็นทันทีว่าผ้าที่ใช้พันนั้นเปียกและเย็น
'เมิ่งซิน:หืม? อากิเอาผ้าเปียกๆเย็นๆมาพันทำไม'
เมิ่งซินได้แต่สงสัย ก่อนที่จะเริ่มเข้าใจทันทีว่าอากิทำแบบนี้เพราะอะไร และมันมีเหตุผลที่เธอไม่ทันสังเกตตั้งแต่แรก
'เมิ่งซิน:อ้อ ฉันเข้าใจแล้วหัวของเขามันโนนี่เอง แต่มันไม่มีน้ำแข็งเลยใช่ผ้าเย็นๆพันแทน ฉันคงต้องทำแบบอากิ'
เมิ่งซินลุกขึ้นและเดินไปยังถังน้ำ ก่อนที่จะชุบน้ำด้วยผ้าผืนใหม่และพันไว้ที่หัวของคริส เหมือนที่อากิทำไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นก็ปล่อยให้เขานอนต่อไป
ผ่านไปสองชั่วโมง คริสค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะครางออกมาเบาๆ
"คริส:อืม...โอ้ย! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมปวดหัวจัง..."
ลีน่าที่อยู่ใกล้และได้ยินเสียงของคริสก็รีบเข้าไปดูเขาทันที
"ลีน่า:ในที่สุดนายก็ตื่น! เป็นยังไงบ้าง? ยังเจ็บหัวมากไหม?"
"คริส:ก็ยังเจ็บอยู่ แต่ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน?"
"ลีน่า:อยู่ระหว่างทางกลับห้องพักนะ"
"คริส:อยู่ระหว่างทางกลับ...แล้วทำไมเราไม่กลับกันเลยละ"
"ลีน่า:ตอนแรกก็ว่าจะทำแบบนั้นกันแต่พี่อากิเขาเหนื่อยก่อนนะ"
"คริส:ห๊า! พี่อากิเนี่ยนะเหนื่อยเกิดอะไรขึ้นกับพี่เขาเหรอ"
"ลีน่า:เออ...พี่เขาบาดเจ็บจากการโดนก็อบลินแท่งน่ะ เราเลยหยุดพักผ่อนที่นี่ชั่วคราว"
'คริส:เออใช่ พวกเรากำลังสู้กับก็อบลินอยู่นิ...แต่มันเกิดอะไรขึ้นบ้างละทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได่เลย..'
คริสพยายามนึกย้อนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันใดนั้นเองอาการปวดหัวรุนแรงก็รุงแรงขึ้จน เขารีบยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมากุมขมับและร้องครวญครางออกมาอย่างเจ็บปวด ลีน่าที่เห็นอาการของเขาก็รีบถามทันที
"คริส:อ็ากกก!"
"ลีน่า:เกิดอะไรขึ้น!? นายเป็นอะไรไป!? เจ็บหัวเหรอ!?"
"คริส:มะ...มัน...ปวดที่หัว... อ๊ากกก!"
ลีน่าที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคริสก็เกิดอาการตื่นตระหนก ก่อนจะรีบหันไปทางเมิ่งซินและตะโกนเรียกให้เธอมาช่วย
!"ลีน่า:พี่คะ! คริสเขาเป็นอะไรไม่รู้! ช่วยมาดูหน่อย!"
"!
เมิ่งซินที่ได้ยินเสียงเรียก รีบพุ่งตัวเข้ามาทันที เมื่อมาถึง เธอเห็นคริสนอนคดตัวอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างกุมหัวแน่น พร้อมกับเสียงร้องครวญครางจากความเจ็บปวด
"เมิ่งซิน:ลีน่า! เกิดอะไรขึ้น!?"
เมิ่งซินถามเสียงดัง แต่ลีน่าที่กำลังตื่นตระหนกอยู่แล้ว พอได้ยินน้ำเสียงจริงจังของเมิ่งซินก็ยิ่งลนลานขึ้นไปอีก เธอพยายามจะตอบ แต่คำพูดกลับติดขัด พูดกระตุกกระตักแทบจับใจความไม่ได้
"ลีน่า:มะ-เมื่อกี้เขา...หนะ-หนูเลย..."
''เมิ่งซิน:เมื่อกี้ฉันเผลอขึ้นเสียงดังเกินไป มันยิ่งทำให้เธอยิ่งตกใจมากกว่าเดิม... ฉันต้องทำให้เธอใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยถามว่าเกิดอะไรขึ้น'
เมิ่งซินเอามือแตะใบหน้าของลีน่าเบาๆ สัมผัสที่อ่อนโยนที่ส่งผ่านปลายนิ้วทำให้ลีน่าชะงักไปเล็กน้อย
"เมิ่งซิน:ขอโทษนะ พี่เผลอขึ้นเสียงดังไปหน่อย...พี่ขอโทษ"
เมื่อเพิ่งซินสัมผัสเธอเบาๆพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลีน่าก็ดูจะสงบลงเล็กน้อย ลีน่าค่อยๆซูดลมหายใจเข้า จนลมหายใจของเธอที่เคยติดขัดเริ่มกลับมาเป็นจังหวะปกติ เมิ่งซินที่เห็นแบบนั้นก็ใช้โอกาสนี้ค่อย ๆเอ่ยถาม
"เมิ่งซิน:ตอนนี้ใจเย็นขึ้นแล้วใช่ไหม? งั้นบอกพี่ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น"
ลีน่ามองหน้าเมิ่งซิน ราวกับต้องการความมั่นใจอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แล้วเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ระหว่างเธอกับคริสให้เมิ่งซินฟัง
ส่วนเมิ่งซินตั้งใจฟังอย่างละเอียด ท่าทางของเธอจริงจังแต่สงบ รอจนลีน่าพูดจบ ก่อนจะวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดในใจ
'เมิ่งซิน:'จากที่ลีน่าเล่า... คริสคงพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติ และนั่นอาจทำให้เขาปวดหัวจากการนึก...ถ้ายังปล่อยให้เขาพยายามนึกอยู่อาการอาจแย่ลง...''
เมิ่งซินเงียบไปสักแปปเพื่อคิดว่าจะทำยังไงต่อ
'เมิ่งซิน:ฉันต้องดึงความสนใจของเขา และให้เขาหยุดคิด'
เมิ่งซินรีบเข้าไปหาคริสและจับหน้าเขาหันมาหาตัวเอง เมื่อเขาหันมาก็เห็นน้ำตาที่ไหลเต็มหน้าของเขา
'เมิ่งซิน:เขาคงปวดมากแน่ๆ ถึงได้มีน้ำตาไหลขนาดนี้'
"เมิ่งซิน:เฮ้! เฮ้ มองหน้าฉัน! คริส!"
"คริส:อ็าก!"
เมิ่งซินเห็นว่าแค่การเรียกชื่อคงไม่พอเมิ่งซินเลยเริ่มเขย่าตัวเขาและตบหน้าเบาๆ เพื่อเรียกความสนใจของเขาให้มาที่ตัวเอง
"แปะๆๆๆ"
"เมิ่งซิน:คริส! มองหน้าฉัน มองหน้าฉัน!"
ดูเหมือนจะได้ผล คริสค่อยๆ ลืมตาขึ้นและมองมาที่เมิ่งซิน
"เมิ่งซิน:ดี! ดีมาก! ตอนนี้แค่มองหน้าฉัน หยุดคิดแค่จ้องมาที่ฉัน"
คริสพยักหน้าช้าๆ และเริ่มทำตามที่เมิ่งซินบอก เขาค่อยๆ เลิกคิดถึงเรื่องต่างๆ และเริ่มจ้องหน้าของเมิ่งซินอย่างตั้งใจ
"เมิ่งซิน:โอเค มองไว้ มองไว้ เดี่ยวทุกอย่างจะดีขึ้น ดี~ ดี~~~"
หลังจากนั้นคริสก็เริ่มหลับตาลงและหลับไป
"เมิ่งซิน:หูล~"
เมิ่งซินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก รู้สึกคลายความกังวลที่เครียดตลอดเวลานี้ ลีน่าที่เห็นจึงเดินเข้ามาถามด้วยความกังวล
"ลีน่า:คริสเขาเป็นอะไรคะพี่"
"เมิ่งซิน:...บอกตามตรงพี่ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากการคาดเดาคงเป็นผลจากอาการบาดเจ็บที่หัวของเขา"
[อลิส:งั้นเหรอคะ...]
ลีน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้า เมิ่งซินที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสาร เลยตัดสินใจพูดให้กำลังใจ
"เมิ่งซิน:เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นแหละ แค่ต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อย"
"ลีน่า:ใช่ เขาแค่ต้องใช้เวลา"
"เมิ่งซิน:งั้นเราไปหามื้ออร่อยๆ ทานกันเถอะ กินเยอะๆ จะได้มีแรงปกป้องคริสและอากิ"
"ลีน่า:หนูเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ"
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปที่โจเซฟที่กำลังตักอาหารอยู่ เขาก้มหน้าอยู่กับการตักอาหารไปพลางๆ ขณะที่ทั้งสองเข้าใกล้ เขาก็ยิ้มให้พวกเธอแล้วพูดขึ้น
"โจเซฟ:เอ้านี้ซุปได้ที่พอดีเลย"
"ลีน่า:ขอบคุณค่ะ"
พอได้ถ้วยซุปทั้งคู่ก็นั้งลงข้างกองไฟและนั้งกินซุปกัน กินไปได้ซักพักโจเซฟก็ถามว่า
"โจเซฟ:คริสเป็นไงบ้าง"
"เมิ่งซิน:...ก็ดีขึ้นมาแล้ว...แหละมั้ง"
โจเซฟหันไปมองคริสที่และทำหน้างงๆก่อนจะหะนมาพูดกับเมิ่งซินว่า
"โจเซฟ:หมายความว่าไง?"
"เมิ่งซิน:ก็ตามที่พูดไปนั้นแหละ..."
เมิ่งซินถอนหายใจเบาๆและทำสีหน้าไม่ได้ดูมั่นใจเท่าไหร่นัก
"โจเซฟ:เธอ!"
เสียงเข้มของโจเซฟดังขึ้นจนทำให้บรรยากาศรอบกองไฟชะงัก เมิ่งซินหันขวับมามองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
"เมิ่งซิน:อย่ามาขึ้นเสียงนะ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง ฉันทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น แถมฉันก็ไม่ใช่หมอด้วย เลิกถามนั้นถามนี่สักทีเถอะ!"
เธอพูดจบก็ถอนหายใจแรง ราวกับพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง บรรยากาศรอบๆ เงียบลงทันที
"ลีน่า:พี่คะ ลุงคะ ใจเย็นๆกันก่อนนะคะ"
ลีน่าพยายามเข้ามาห้าม โจเซฟที่ได้ยินแบบนั้นก็กำมือแน่นก่อนจะหลับตาลง
'โจเซฟ:ฉันไม่น่าเผลอขึ้นเสียงเลย...ฉันน่าจะใจเย็นกว่านี้และคิดให้รอบคอบ เมิ่งซินเองก็คงกดดันมากอยู่แล้ว...ฉันต้องขอโทษเธอ'
"โจเซฟ:ฉันขอโทษที่พูดไปแบบนั้น...ขอโทษนะ"
เมิ่งซินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
"เมิ่งซิน:ไม่เป็นไร...ฉันก็ขอโทษเหมือนกันสำหรับเมื่อกี้ ฉัน...แค่คิดอะไรมากเกินไปหน่อย"
หลังจากทั้งคู่พูดขอโทษกัน บรรยากาศรอบกองไฟก็ดูจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
"อากิ:น้ำ ฉันขอน้ำที"
ทุกคนชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบหันไปทางต้นเสียง และพบว่าอากิเป็นคนพูดขึ้นมา ดวงตาของเขาเปิดขึ้นเพียงเล็กน้อย เสียงที่เปล่งออกมาแหบพร่าและแผ่วเบาราวกับใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่พูดออกมา
ลีน่าลุกขึ้นแทบจะทันที เธอเปิดช่องเก็บของ หยิบถ้วยออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบไปตักน้ำและกลับมาหาอากิในเวลาไม่นาน
"ลีน่า:พี่คะ นี่น้ำค่ะ"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งดีใจและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน แต่เมื่อเห็นอากิพยายามจะลุกขึ้นมารับน้ำ ร่างกายของเขากลับไม่มีแรงพอที่จะยกตัวขึ้นได้ แขนของเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะตกลงไปแนบพื้นอีกครั้ง
"ลีน่า:พี่อากิพี่ไม่ต้องลุกค่ะเดี๋ยวหนูเอาให้กิน"
ลีน่าที่เห็นแบบนั้นรีบขยับเข้ามาประคองทันที ดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อยด้วยความกังวล
'ลีน่า:ทำไมหัวพี่เขาร้อนขนาดนี้...หลังจากพี่เขากินน้ำเสร็จฉันต้องดูไข้พี่เขาหน่อยแล้ว'
หลังจากกินไป 4-5 อึกอากิก็พูดขึ้นมาว่า
"อากิ:พอแล้ว"
อากิพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและอ่อนเพลียมากจนลีน่ารู้สึกเหมือนเขาเกือบจะไม่มีแรงอีกแล้ว ดวงตาของเขาลืมขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะหลับลงไปอีก
ลีน่าที่ได้ยินแบบนั้นค่อยๆ วางหัวของอากิลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะรีบเอามือแตะที่หน้าผากของเขา
'ลีน่า:ร้อนมาก! ฉันต้องเรียกพี่เมิ่งซิน'
ลีน่าหันไปหาเมิ่งซิน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลจนแทบไม่สามารถกลั้นความรีบร้อนในน้ำเสียงได้
"ลีน่า:พี่คะ พี่อากิเขามีไข้ตัวร้อนมากๆ มาดูหน่อยค่ะ!"
เธอพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหันกลับมาดูอากิอีกครั้งอย่างไม่วางใจ
ส่วนเมิ่งซินที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้ามาดูทันที
'เมิ่งซิน:ตัวเขาร้อนมากๆ มันร้อนกว่าไข้ปกติอีกเขาเป็นอะไรไป...'
"เมิ่งซิน:...อย่าบอกนะว่า!!"
เมิ่งซินเปิดแผลของอากิดูทันทีก่อนจะเห็นว่าแผลมันบวมและมีสีแดง
"เมิ่งซิน:แม่งเอ้ย ความกังกลของฉันมันเกิดขึ้นจนได้"
เมิ่งซินสบถคำหยาบออกมาจนโจเซฟที่อยู่ไกลต้องวิ่งเข้ามาดู
"โจเซฟ:เกิดอะไรขึ้น"
เมิ่งซินทำหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงครียดและรวดเร็ว
"เมิ่งซิน:แผลของอากิติดเชื่อ"
โจเซฟที่ได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าเคร่งเครียดทันที เขาหันไปมองลีน่าที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ขณะสีหน้าของลีน่าก็แสดงออกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"โจเซฟ:แล้วเราควรทำยังไงดี"
เมิ่งซินเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอจับจ้องที่อากิที่นอนหมดสติอยู่ สีหน้าของเธอเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกัดฟันแน่นและพูดออกมา
"เมิ่งซิน:...เราคงต้องพาอากิกลับห้องพักและให้พวกนายดูแลเขาไว้ ส่วนฉันจะวิ่งกลับไปที่แคมป์เพื่อขอดอกลิลลี่ขาว"
"โจเซฟ:ถึงจะกลับไป แต่เธอแน่ใจเหรอว่ามาร์คเขาจะให้ดอกลิลลี่ขาวกับเธอ"
โจเซฟถามพลางขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เพราะพวกเขารู้ดีว่ามาร์คไม่ใช่คนที่ยอมให้ของมีค่าไปง่ายๆ
ส่วนเมิ่งซินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เมิ่งซิน:...ฉันจะใช้ตำแหน่งถ้ำแร่ที่เราเจอเพื่อแลกกับดอกลิลลี่ขาว"
คำพูดของเธอทำให้โจเซฟชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าของเขาดูไม่เห็นด้วยนัก แต่เขาก็รู้ว่านี่อาจเป็นทางเดียวที่พวกเขามี
โจเซฟเงียบไปสักพักเพื่อคิดทบทวนเรื่องที่ค้างคาในใจ
'โจเซฟ:มันจะคุ้มจริงๆหรือเปล่า...ถ้าเอาข้อมูลที่มีจะใช้แลกดอกลิลลี่ขาวเพื่อรักษาอากิ? แต่แผนที่เราจะขอสิทธิพิเศษในแคมป์ล่ะ...ฉันควรจะแลกมันไหม?'
โจเซฟขบคิดอย่างหนัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความลังเล
"โจเซฟ:...เราจะแลกเพื่ออากิจริงๆงั้นเหรอ"
หลังจากโจเซฟพูดแบบนั้นทุกคนก็เงียบไปเลย จนลีน่าที่ทนไม่ไหวก็พูดว่า
"ลีน่า:ทำไมคุณลุงพูดแบบนั้นล่ะคะ รู้ไหมว่าที่พี่อากิเป็นแบบนี้ เพราะเขาช่วยทุกคน! ตอนที่ทุกคนมีอาการแปลกๆและนิ่งไป พี่อากิก็เป็นคนช่วยทุกคนๆไว้ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บหนักมากแท้ๆ"
โจเซฟนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมา
"โจเซฟ:ลุงรู้...แต่"
"ลีน่า:แต่อะไรคะ? รู้ไหมว่าถ้าไม่มีพี่อากิ ลุงคงตายไปแล้ว! ตอนนั้นมีก็อบลินปีนขึ้นหลังลุงและเกือบจะใช้กริชแทงคอลุงแล้ว แต่พี่อากิก็ช่วยไว้ได้ทัน ส่วนพี่เมิ่งซินก็นอนอยู่กับพื้นและได้แต่นอนนิ่งให้ก็อบลินฉีกเสื้อผ้า ส่วนคริส...ถ้าไม่ได้พี่อากิก็คงอาการหนักกว่านี้ไปแล้ว เพราะก็อบลินลุ้มตีเขาหนักมาก แต่พี่อากิก็ช่วยไว้ได้"
ลีน่าที่เห็นทุกๆ อย่างก็พูดระบายทุกสิ่งที่เห็นในเหตุการณ์นั้นให้เมิ่งซินและโจเซฟฟัง พอโจเซฟที่ได้ยินก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่ในความเงียบนั้นกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ก็อบลิน:กี้!!"
(มันอยู่นี้!!)
ทุกคนที่ได้ยินเสียงนั้นหันไปดูอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นก็เห็นก็อบลินตัวหนึ่งยืนอยู่ในมุมมืดของทางเดิน ดวงตาของมันทอประกายแสงสีฟ้าอ่อนๆออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันน่าขยะแขยงที่แย้มออกมา
จากผู้แต่ง
ขอตัดจบแบบละครไทย ไว้เจอกันตอนหน้าคัฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ