ศิรญา

-

เขียนโดย ศิรญา

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12.41 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  565 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ศิรญา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่3 รุ่งอรุณ

.

          ศิรญาลืมตาตื่นขึ้นมาเช้านี้ด้วยแรงปลุกจากนาฬิกา บอกเวลาหกนาฬิกาสามสิบนาที ศิรญางัวเงียง่วงเหงาหาวนอน ความคิดกร้านโลกของเธอเริ่มไขลานทำงาน ทำไมเช้านี้เธอถึงยังมีชีวิตอยู่กันนะ??? ความปรารถนาอันน้อยนิดในการใช้ชีวิตของเธอเป็นศูนย์ แต่เธอจำเป็นต้องใช้ชีวิตต่อตราบใดที่เธอยังลืมตาตื่นขึ้นในทุกๆเช้า ศิรญาเริ่มต้นกิจวัตรประจำวันด้วยการชงกาแฟดำคั่วเข้มรสชาติขมปี๋แต่จืดจางกว่าชีวิตเธอ เธอยกแก้วกระเบื้องบรรจุกาแฟกระดกเข้าปากกลืนลงอย่างลื่นคอ “อ่า...”เธอเปล่งเสียงออกมาหลังกลืนกาแฟลงคอทำตาหยีหน้าเบี้ยวย่นจมูกแบนๆเพราะเธอชงกาแฟเข้มกว่าปกติ ศิรญามองเข้าไปในกระจกเงาที่มีฝ้าจางๆเกาะอยู่จับตัวรวมกันอย่างหนาแน่นแสดงให้เห็นว่าได้รับการทำความสะอาดเมื่อนานมาแล้วและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้รับการทำความสะอาด เธอยิ้มยิงฟันสีเหลืองอร่ามใส่คนในกระจก เธอดื่มกาแฟหนักมากจนฟันเธอเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ศิรญาใช้แปรงสีฟันขัดๆถูๆฟันพยายามขัดคราบฟันสีเหลืองเหล่านั้นออกให้ได้มากที่สุดเพราะเธอสังเกตเห็นว่านับวันสีฟันของเธอยิ่งเหลืองเข้มขึ้นวันละนิด... เสร็จกิจช่วงเช้าในห้องน้ำแล้ว ศิรญาจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าหวีผมเผ้าที่รุงรังให้เรียบแปล้ ผัดหน้าทาแป้งลวกๆให้เสร็จสรรพพอเป็นพิธีให้คนที่สบตาเธอทราบว่า เช้านี้เธอได้ล้างหน้ามาแล้ว .... 

          ศิรญาเป็นพนักงานออฟฟิศจืดๆคนหนึ่งเธอมีตำแหน่งที่เหมาะกับเธอนั่นคือตำแหน่ง “เสมียน” หรืออีกชื่อที่เรียกกันเล่นๆว่า “จับฉ่าย” ซึ่งน่าจะพอเห็นภาพได้ชัดเจนกว่า เธอเข้ารับงานนี้ด้วยใบสมัครที่มีผลการเรียนดีเด่นแนบมาด้วย แต่โชคไม่ได้เข้าข้างเธอ ต่อให้เธอจะมีเกรดเฉลี่ยสะสมจนล้นหน้ากระดาษ ถ้าเธอไม่ได้มีเส้นสายโยงใยให้เกาะเกี่ยวเธอก็เป็นได้แค่เพียงแค่จับฉ่ายเท่านั้น เธอผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วและเธอจำเป็นต้องทำงานที่นี่ เธอคิดว่ามีเหตุผลมากพอและหนักแน่นพอให้ยืนหยัดลำแข้ง ณ ที่แห่งนี้ที่ซึ่งเธอโดนปฏิบัติอย่างหมาจนตรอกโดนเอาเปรียบทุกช่องทางศษเงินเดือนอันน้อยนิดกลับสวนทางกับภาระงาน ศิรญากำลังกระทำในสิ่งที่เธอคิดว่ามีเหตุและผลเพียงพอต่อให้ต้องโดนเอาเปรียบก็ตาม

          เธอเป็นคนปกติคนหนึ่งที่เกลียดการเริ่มต้นใหม่บ่อยๆ เธอกลัวความไม่มั่นคง เธอไม่กล้าลองเสี่ยง เธอยึดติดอยู่กับพื้นที่สบายใจใช้ชีวิตให้หมดวันไปแบบเลื่อนลอย เธอกำลังหลอกตัวเองโดยสมบูรณ์ นี่คือศิรญาในวัย23ปี...ศิรญากำลังรับคำสั่งจากหัวหน้าเธออยู่ซึ่งเธอไม่เพียงแต่รับคำสั่งจากหัวหน้าเท่านั้นเธอยังรับคำสั่งเพิ่มเติมจากเพื่อนร่วมงานอีกด้วยบางครั้งคำสั่งชนกันบางครั้งคำสั่งขัดแย้งกัน แต่ศิรญาสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการใช้ไหวพริบปฏิภาณของเธอ เธอรู้สึกดีที่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้และเธอรู้สึกมีประโยชน์ ถึงแม้ว่าสายตาคนนอกที่มองเข้ามาแล้วเห็นว่าเธอกำลังโดนเอาเปรียบบางคนถึงขั้นว่าเธอนั้นโง่เง่าเต่าตุ่นเสียเลยทีเดียว “ศิรญาเอ๋ย...” ทุกคนที่มองมาต่างรู้สึกเวทนาเด็กสาวหลงทางคนนี้ “มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้นะ” “ทนดูไม่ได้แต่ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน” ทุกสายตาที่มองมาที่ศิรญามีเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจออกมาผ่านทางสายตาแม้ไม่ได้เอ่ยวาจาออกไป

          ศิรญาก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานและทำงาน บางครั้งเธอนั่งเหม่อลอยมองนาฬิกาบนผนังนับถอยหลังรอเวลาเลิกงานเธอชอบนอนโง่ๆบนเตียงของเธอที่สุดแล้ว เสาบ้านที่มีหลังคามุงเศษกระเบื้องบางแผ่นแตกร้าวบางแผ่นเป็นรูมีช่องโหว่ขนาดของรูแตกต่างกันไปตามอายุการใช้งาน บางครั้งเธอสามารถคาดเดาช่วงเวลาจากสีของท้องฟ้าที่เธอมองผ่านรูโหว่กระเบื้องเหล่านี้โดยที่ไม่ต้องมองนาฬิกาและบางทีก็มีน้ำฝนตกผ่านรูโหว่เหล่านี้ด้วยเช่นกัน ศิรญาเฝ้ารอเวลาให้เสร็จภารกิจผู้รับหน้าที่ “จับฉ่าย” เธอเฝ้ารอเวลากลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อซึ่งบ้านที่เธอกล่าวถึงนั้นเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนต่างไม่อยากย่างกรายเข้าไปเฉียด ศิรญาเอ๋ยศิรญา.....เธอมีพียงที่พักทางจิตใจแห่งเดียวเท่านั้นนั่นคือบ้านที่เธออาศัยอยู่คนเดียวเพียงลำพัง

          ณ ที่ทำงานในแต่ละวันท่ามกลางเพื่อนร่วมงานต่างแข่งกันเสียงดังเซ็งแซ่ หัวใจและสมองของศิรญาวุ่นวายกระวนกระวายเพราะเสียงเหล่านั้นทำให้เธอไม่มีสมาธิเธอวอกแวกจิตใจไม่จดจ่อหรือแน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำให้เธอทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายไม่เต็มที่และทำงานไม่ถูกต้องเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมสมาธิและสติของเธอได้เธอจึงทำงานพลาดและเธอมักจะโดนก่นด่าซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาเมื่อทำงานพลาดหรือทำงานไม่ได้ดั่งใจคนที่ใช้งานเธอ ศิรญาต้องเก็บรวบรวมสมาธิเพื่อทำงานที่เธอได้รับมอบหมายให้สำเร็จ แต่เสียงเหล่านั้นยังคงดังต่อเนื่อง ผู้คนพูดมากพูดดังพูดไม่เป็นประโยคปากขยับน้ำลายกระเด็นเล็ดลอดพ่นใส่หน้ากันเป็นละอองฝอยต่างคนต่างแย่งกันพูดแย่งกันออกความเห็น ไม่เคยปล่อยให้ประสาทสัมผัสของศิรญาได้พักผ่อนเลยสักเสี้ยววินาทีเดียว “ช่วยทำเรื่องนี้หน่อยนะ” “พี่วานหน่อยนะ” “ช่วยอะไรหน่อยสิ” แต่ละวันมีผู้คนเหล่านี้คอยใช้งานเธอไม่ให้ได้พักผ่อน ใช้งานเธอคุ้มเกินเงินเดือนที่เธอได้รับ เธอทำเกินหน้าที่เกินขอบเขตทุกคนรู้ หัวหน้ารู้ เพื่อนร่วมงานรู้ดีกว่าใครอนิจจาศิรญาช่างน่าสมเพชที่สุดในโลก...“ปฏิเสธสิสาวน้อย เธอเรียนรู้ที่จะปฏิเสธได้นะ”สายตาดังกล่าวส่งผ่านเป็นประโยค.. ศิรญากลับมามีสติเรียกสมาธิทั้งหมดของเธอกลับคืน มุ่งจุดสนใจไปตรงคำสั่งที่เธอได้รับมอบหมาย ทำตามคำสั่งเหล่านั้นทั้งหมดผ่านไปด้วยดี เธอสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีเช่นเดิม ทุกคนชอบพอที่คำร้องขอถูกดำเนินการอย่างเสร็จสมบูรณ์ ได้เวลาเลิกงานของศิรญาแล้ว...

          อย่างน้อยเธอยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างที่ไม่ยอมโดนเอาเปรียบไปตลอดเพราะเธอรู้จักที่จะปฏิเสธเมื่อมีคนขอให้เธอช่วยทำงานนอกเวลา เพราะเธอคิดว่าในเวลาทำงานเธอได้ทำในส่วนของพวกคนเหล่านี้ไปหมดแล้ว เธอจึงปฏิเสธคำขอนอกเวลาเหล่านั้นไปแล้วมุ่งหน้าเดินตรงกลับบ้านทันที เธอกลับเข้าสู้โลกของเธอ โลกที่เธอจำลองสร้างขึ้นเพื่อสนองความต้องการทั้งหมดที่เธอมี...ศิรญาเริ่มเข้าสู่วงการการใช้ยานอนหลับเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังประสบสถานการณ์เลวร้ายอันแสนหนักหน่วงที่เธอไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะสามารถก้าวข้ามทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวก็ตามเป็นปกติของมนุษย์ย่อมมีผิดพลาดล้มเหลวกันเป็นธรรมดา เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับศิรญาที่ช่วงวัยที่ควรผลิบานของเธอนั้นเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดและความโดดเดี่ยว เธอตัดสินใจเข้ารับการวินิจฉัยทางการแพทย์เพื่อรับการรักษาเพราะเธอไม่อาจแก้ไขบางอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวอีกต่อไปเพราะสภาพจิตใจของเธอบกพร่องในการทำงาน บางทีเธออาจเพียงแค่ต้องการความคิดเห็นทางการแพทย์ที่มีหลักการและเหตุผลสนับสนุนอาการผิดปกติของเธอเพื่อให้เธอนั้นรู้สึกดีขึ้นว่าตัวเธอไม่ได้คิดไปเอง

           “โรคซึมเศร้าแบบขั้นรุนแรง” แพทย์หญิงสูงอายุวัยใกล้เกษียณผู้ที่มีใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอ่อนล้าดวงตาฉายแววอิดโรยได้กล่าวสรุปถึงอาการแสดงของโรคที่เธอเป็น วันนั้นศิรญาได้รับรู้เรื่องใหม่เกี่ยวกับตัวเองว่าตัวเธอนั้นได้กลายเป็นผู้ป่วยแบบสมบูรณ์ ยาที่เธอได้รับหลักๆแล้วผลข้างเคียงคือทำให้เธอง่วงนอนความคิดไม่แล่นและทำงานพลาด เพื่อแลกกับความมั่นคงทางจิตใจศิรญาตั้งใจรักษาตัวเองโดยปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ประมาณสองเดือนเศษ จากผลข้างเคียงของฤทธิ์ยาเธอได้ตัดสินใจหยุดใช้ยาจึงทำให้เธอล้มเหลวในการรักษาโรคดังกล่าว

          เธอเรียนรู้จากการเขารับการรักษาทางการแพทย์ว่า มียาบางตัวที่เธอต้องการใช้แต่เธอไม่อาจหาซื้อยานั้นได้ตามร้านขายยาข้างนอกเธอต้องได้รับการจ่ายยาตามห้องยาของโรงพยาบาลเท่านั้น ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอต้องการใช้มัน เธอกลับทำผิดพลาดอีกครั้งเมื่อความยากใช้ยาตัวนั้นรุนแรงขึ้นจนเธอไม่สามารถหยุดใช้ได้ เธอจึงต้องหามาใช้ให้ได้ในที่สุด ศิรญาทำความผิดอีกครั้งทั้งที่รู้อยู่เต็มอก เธอหายาตัวนั้นด้วยวิธีการที่กฎหมายบันทึกไว้ว่า “ผิด”... อาการที่เรียกว่าติดยาคงบ่งบอกสภาพของศิรญาได้ชัดเจนที่สุดในตอนนี้ บางทีเธอเองก็ตระหนักได้ว่า ตัวเธอมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เธอกลายเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร ศิรญารู้สึกผิดที่เอาแต่สนใจสายตาของบุคคลอื่นโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของตัวเองเลย เธอไม่เคยรักตัวเองเลยสักครั้ง ศิรญาพร่ำเพ้อพรรณนาตัดพ้อกึ่งด่าทอตัวเองในความมืด เงาจากพระจันทร์เล็ดลอดผ่านแผ่นกระเบื้อง เสียงนกแสกร้องดังตอนกลางคืน แมวจรที่ออกหาอาหารตอนกลางคืน เสียงลมพัดหวิวเบาๆ ในยามนี้ศิรญากำลังทุกข์ระทมนอนขดกอดตัวเองซึมเสร้าแสนทรมานไม่มีใครเลยสักคนที่สามารถพาเธอออกไปจากจุดนี้ได้ ไม่มีใครเลยสักคนที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากศิรญา...

ศิรญาเอ๋ย...ศิรญา

.

***ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจควรเข้ารับการวินิจฉัยทางการแพทย์เพื่อรับการรักษาทางการพยาบาล ผู้แต่งไม่ได้มีเจตนาแฝงโฆษณาชวนเชื่อเรื่องการใช้ยาใดๆทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ ขออวยพรให้ทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงค่ะ ด้วยรัก...ศิรญา.***

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา