หน่วยลับมังกรทมิฬ (The black Dragon Team)

-

เขียนโดย Yuanjinxia

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 19.26 น.

  18 ตอน
  3 วิจารณ์
  8,799 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 20.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ทวงคืนแผนที่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มายายังไม่ได้บอกลูกน้องคนไหนว่าออตโต้สั่งให้หน่วยมังกรทมิฬเลิกติดตามเรื่องของกบฏแล้ว แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้จึงได้ให้อลินมาตามเธอ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้บอกใครเลยว่าจะมีการเรียกตัวอาเธอร์รวมถึงหน่วยพยัคฆ์กร้าวบางส่วนกลับมาด้วย

 

เมื่อยังไม่มีใครรู้ ทุกคนจึงหูผึ่งกับเรื่องของกบฏเป็นพิเศษ ด้วยหวังว่าจะไม่ต้องมานั่งจับเจ่ารอคอยงานอยู่ที่หน่วยโดยไม่มีสิ่งใดทำ

 

“พวกนี้ชักจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว” ปราณกัดฟันกรอด

 

“กล้ามาเหยียบถึงถิ่นของหน่วยเต่าแห่งปราชญ์เลยเหรอเนี่ย” เลโอเปรยขึ้นมา

 

“ตาเฒ่าเต่าไม่อยู่เหรอ ถึงปล่อยพวกนั้นเอาของสำคัญไปได้” แชนนึกสงสัย

 

“หัวหน้าหน่วยคาลอสไปจำศีลอยู่บนเขา” มายาตอบลูกน้อง

 

“ให้ข้ารับงานนี้นะ” ลุคออกตัวทันที

 

“ข้าเองก็อยากไปด้วย ไม่ได้ออกไปทำงานนานแล้ว” สีหน้ามิกกี้เต็มไปด้วยความหวัง

 

“ไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนรออยู่นี่ ให้ปราณตามข้าไปคนเดียวก็พอ” หญิงสาวสั่งลูกน้อง

 

ถึงทุกคนจะอยากออกไปทำงานแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ต้องทำตามคำสั่งผู้เป็นหัวหน้าและนั่งรออยู่ที่หน่วยอย่างสงบเสงี่ยม

 

 

 

มายากับปราณควบม้ามุ่งหน้าไปทางตะวันออกของวังอันเป็นที่ตั้งของหอสมุดหลวง เพื่อดูว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นได้อย่างไร

 

ระหว่างทางบนถนนหลวงมีรถม้าขนาดใหญ่สีแดงตัดกับสีทองจอดขวางทางทั้งคู่อยู่

 

“หยุด!” หญิงสาวทั้งสองสั่งม้าให้หยุดวิ่ง

 

บุคคลที่นั่งอยู่บนรถม้าค่อยๆ แง้มผ้าม่านสีแดงและยื่นข้อมือหนาออกมาพร้อมทั้งกวักมือเรียก

 

“เจ้าตามข้ามาแค่คนเดียว” เสียงทุ้มที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจทำให้คนฟังทำตามทันที

 

“ค่ะ ท่านผู้บัญชาการ” มายาตอบรับแล้วลงจากม้า ยื่นสายจูงให้ปราณรับเอาไว้

 

“เอาม้ากลับไปที่หน่วยก่อน” หญิงสาวสั่งลูกน้อง

 

ปราณพยักหน้ารับคำสั่งก่อนจะหันหลังนำม้าของหัวหน้ากลับไปด้วย

 

มายาเดินไปขึ้นรถม้าของออตโต้ ในนั้นกว้างขวางสะดวกสบาย ที่นั่งเป็นเบาะกำมะหยี่และยังสามารถดึงไม้กระดานพับที่พื้นรถขึ้นมาตั้งเป็นโต๊ะน้ำชาได้อีกด้วย

 

“ออกรถ!” ออตโต้สั่งเสียงดัง

 

 

 

ระหว่างที่รถม้าควบไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงตรงไหน ชายผู้มีอำนาจก็ได้บอกเล่าถึงความสำคัญของแผนที่วังหลวง และภารกิจที่หญิงสาวต้องไปทำ

 

“มีโจรมาขโมยแผนที่แสดงที่ตั้งของตึกและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในวังอย่างละเอียดไป เรื่องนี้สำคัญมากจะให้มันไปอยู่ในมือของพวกกบฏไม่ได้ หากพวกนั้นหาช่องในการบุกเข้าวังได้จะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อคนในราชวงศ์” ชายสูงวัยกล่าวอย่างจริงจัง

 

“แต่ท่านสั่งระงับไม่ให้หน่วยของข้ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของพวกกบฏแล้วไม่ใช่หรือ” หญิงสาวย้อนถามกลับไป

 

“ข้าเรียกตัวหน่วยพยัคฆ์กร้าวกลับมาแล้วก็จริง แต่พวกนั้นยังเดินทางมาไม่ถึง หน้าที่นี้จึงจำเป็นต้องใช้เจ้า”

 

“หน้าที่ของข้าคืออะไรบ้าง ต้องฆ่ากบฏคนนั้นไหม”

 

“เอาแผนที่คืนมาให้เร็วที่สุด เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องสนใจ รออาเธอร์กลับมาข้ามีแผนจะให้เขาจัดการเรื่องนี้เอง” ชายวัยกลางคนสั่งด้วยน้ำเสียงขึงขัง

 

“รับทราบค่ะ” มายาก้มหน้ารับคำสั่ง

 

“เลือกมือดีติดไปด้วยสักคนสองคน แล้วออกเดินทางได้เลย ส่วนเรื่องที่อยู่ของคนร้าย ข้าให้หน่วยอินทรีเงาตามอยู่ เจ้ารอจดหมายก็แล้วกัน”

 

“แล้วเรื่องที่คนร้ายลอบเข้าไปหอสมุดได้ ท่านรู้หรือยังว่าทำได้อย่างไร ทั้งที่มีการตรวจตราแน่นหนาขนาดนั้น” มายาถามอย่างใคร่รู้

 

“เรื่องนั้นข้าก็สงสัยอยู่ รอคาลอสกลับมาจัดการแก้ปัญหานี้เองก็แล้วกัน ไม่แน่ว่า เกลือคงจะกลายเป็นหนอน” แม้น้ำเสียงของออตโต้จะดูไม่ตกใจ เมื่อพูดถึงว่าอาจมีคนในเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่มายากลับขมวดคิ้วหนัก

 

“ของสำคัญเช่นนั้นคงถูกเก็บรักษาไว้ไม่ชั้นที่หกก็ชั้นที่เจ็ด คนในหน่วยธรรมดาไม่มีทางผ่านขึ้นไปเอาได้ ต้องระดับผู้อาวุโสเท่านั้น”

 

ข้อสันนิษฐานของคนตรงหน้าทำให้ออตโต้ถึงกับยิ้มกว้างออกมา

 

“ใช่” เขาหรี่ตามองหวังจับผิด “ว่าแต่เจ้ารู้ได้ยังไงว่าของชิ้นไหนถูกเก็บรักษาไว้ตรงไหน”

 

“ถึงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป แต่ท่านคงลืมไปว่าครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นเด็กฝึกอยู่ที่นั่น ของยิ่งสำคัญมากก็ยิ่งถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นที่สูง เรื่องนี้เด็กฝึกคนไหนก็ทราบ” น้ำเสียงราบเรียบของคนตอบทำให้ออตโต้ชอบใจนัก

 

“ไล่ไม่ทัน ต้อนไม่จน ถือเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของคนเป็นหัวหน้า” เขาเขย่าหัวไหล่หญิงสาวอย่างถูกใจ “สมแล้วที่ข้าเลือกเจ้า”

 

เมื่อการสนทนาจบ รถม้าที่ทั้งสองนั่งมาก็หยุดลง

 

“ลงไปได้แล้ว รีบไปจัดการงานของเจ้าซะ”

 

สิ้นคำสั่งผู้บัญชาการใหญ่ มายาก็เปิดม่านก้าวลงจากรถแล้วพบว่าสถานที่เบื้องหน้าที่สารถีขับมาส่งก็คือตึกดราโกไนต์

 

“ย่ะ!!” คนกุมบังเหียนสะบัดแส้ลงที่ตัวม้าอย่างแรง แล้วม้าหนุ่มพวงพี่สีน้ำตาลก็ควบจากไป

 

 

 

“ปราณ มิกกี้ ไปกับข้า” มายาชี้นิ้วเลือกลูกน้องที่จะพาไปทำงานด้วย

 

“ห้ะ! เดี๋ยวสิไม่ยุติธรรมเลย ทำไมข้าถึงไม่ได้ไป” แชนเป็นคนแรกที่โวยวายออกมา

 

“ใช่ ใช่ ข้าก็อยากไปด้วย” ลุครีบสนับสนุน

 

“ไม่ยุติธรรมตรงไหน แกเพิ่งไปกับหัวหน้ามานะ” เลโอพูดขัด

 

“เราคงยังไม่คู่ควรสินะ” มีนาแอบพึมพำกับตัวเองเบาๆ

 

ในขณะที่อลินเลือกที่จะนั่งเฉยๆ ไม่มีปากเสียง รอให้หัวหน้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากเรียกเองคงจะดีที่สุด

 

“เออคือ…หัวหน้า” มิกกี้กล่าวอย่างตะกุกตะกัก “เมื่อครู่ข้าเห็นรถม้าสีแดงตัดกับสีทองไม่แน่ใจว่าใช่รถของท่านผู้บัญชาการใหญ่หรือเปล่า”

 

“ใช่ ทำไมเหรอ”

 

“งั้นภารกิจคงสำคัญมากสินะ ท่านออตโต้ถึงลงมาสั่งการด้วยตนเองกับหัวหน้าโดยตรง” ชายร่างใหญ่ยืนบิดไปมาด้วยท่าท่างประหม่า

 

“ก็ได้ ถ้าเจ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร” มายารู้นิสัยขี้กลัวของลูกน้องดี เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองไม่ว่าเรื่องอะไร

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็นั่งยืดตัวตัวเต็มที่หวังจะให้ตนเองเจิดจ้าที่สุดในสายตาของผู้เป็นหัวหน้า

 

มายาถอนหายใจเบาๆ “แชน เจ้าไปได้”

 

“เย้!!!” ชายหนุ่มหน้าทะเล้นลุกขึ้นมากระโดดตัวลอย

 

“อ่าทำไมเป็นแชนอีกแล้ว ทำไมเราไม่ได้ไปบ้าง” ลุคผู้น่าสงสารบ่นอุบ

 

“เอาหน่า ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวหัวหน้าก็พาไปสักวันนั่นแหละ” เลโอปลอบใจ

 

“เลโอ เจ้าเคยไปทำงานกับหัวหน้าไหม” มีนาหันมาถามคนข้างๆ

 

“เคยสิเมื่อก่อนน่ะ แต่นานมากแล้ว”

 

“สนุกไหม” สาวน้อยสงสัยเมื่อเห็นใครๆ ก็อยากจะไปทำงานกับหัวหน้า

 

“ถามอลินดูสิ” เขาหันไปยิ้มให้ชายตัวเล็กอีกคน

 

“ข้าว่ารอเจ้าโตกว่านี้อีกสักนิดดีกว่า”

 

คำตอบของอลินไม่แน่ใจว่าแฝงความนัยอะไรไว้ เพราะคนฟังไม่เข้าใจมันสักนิด ได้แต่จินตนาการว่าคงต้องเป็นการผจญภัยที่งดงามเป็นแน่

 

 

 

เมืองซินเนีย

 

กุบกับ! กุบกับ!

 

“ปราณ! เจ้ามาคุมม้าที ข้าอยากไปนั่งพักด้านในบ้าง” เสียงตะโกนของคนพูดมากดังมาจากนอกรถม้า

 

“เจ้าเป็นผู้ชายร่างกายแข็งแรงกว่าข้า ข้าเป็นผู้หญิงอ่อนแอออกไปนั่งตากแดดตากลมไม่ได้” สาวผมสั้นตอบกลับอย่างสบายใจ

 

คำตอบของอีกฝ่ายทำคนฟังรู้สึกจี๊ดขึ้นหัว เพราะชายหนุ่มนั่งตากแดดหน้าดำมาตลอดสองอาทิตย์กว่าอยู่ฝ่ายเดียว

 

“ข้าก็อ่อนแอเหมือนกัน ไม่เชื่อเจ้าออกมาดูสิจะเป็นลมอยู่แล้วเนี่ย” เขาตะโกนกลับไป

 

มายาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านในถึงกับปิดดังฟุ่บ

 

“งั้นข้าจะออกไปคุมเอง เจ้าเข้ามานั่งด้านในก็แล้วกัน” พูดเสร็จก็เปิดม่านสีดำออกมาดูลูกน้อง

 

แชนที่เห็นหัวหน้าออกมาก็นั่งหลังตรงไม่ขยับ สายตามองไปข้างหน้าอย่างจดจ่อทำหน้าที่ของตนอย่างแข็งขัน

 

“หายอ่อนแอแล้วเหรอ” ปราณที่เปิดม่านชะโงกหน้าออกมาดูเอ่ยแซว

 

ชายหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจที่คนใจไม้ไส้ระกำเช่นนางชอบเอาเปรียบเขาอยู่เรื่อย สักวันต้องหาทางเอาคืนนางให้ได้ ชายหนุ่มคิด

 

“เจ้าด่าข้าในใจเหรอ” มายาถามแชนพลางมานั่งเบียดแล้วแย่งบังเหียนไปคุมเอง

 

“ปะ…เปล่า ข้าจะกล้าทำเช่นนั้นได้ยังไง” เขาปฏิเสธพัลวัน

 

“งั้นเหรอ” คนถามหันไปส่งสายตาอำมหิตให้ “ข้าเห็นเจ้าทำปากขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าใคร”

 

“หา! เอ่อคือ…”

 

“ไอ้เจ้าบ้าแชน!” ปราณที่รู้ว่าคนที่ชายหนุ่มแอบด่าต้องเป็นเธอแน่ๆ รีบพุ่งเข้ามาทุบหลังเขาทันที

 

“โอ๊ย! เธอมันยัยปีศาจ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากันกำปั้นเล็กๆ ของอีกฝ่ายเอาไว้

 

มายาที่เห็นดังนั้นก็แอบอมยิ้มที่ข้างมุมปากโดยไม่มีใครเห็น เธอเอ็นดูลูกน้องของตนเองเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังอดแกล้งทั้งคู่ไม่ได้

 

“พอได้แล้ว เราเข้าเขตเมืองแล้ว” ผู้เป็นหัวหน้าพยักพเยิดให้ลูกน้องทั้งสองคนดู

 

“ว้าว! สมเป็นสวรรค์ของฝูงผึ้ง” คำชมแปลกๆ ของแชนทำให้ผู้ร่วมเดินทางต้องส่ายหัวนึกขบขันอยู่ในใจ

 

สวรรค์ของฝูงผึ้งในที่นี้ของชายหนุ่มหมายถึงเมืองแห่งดอกไม้นานาชนิด แม้ทุกเมืองในเขตรัฐฟลาวเวอร์จะขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ ผลไม้และธัญพืช แต่เมืองซินเนียเป็นเมืองที่มีการส่งออกดอกไม้มากที่สุด เพื่อใช้ทำน้ำหอมชั้นดีส่งออกเป็นสินค้าหลักไปต่างทวีป

 

ร้านรวงสองข้างทางจึงเต็มไปด้วยร้านขายดอกไม้ ที่มีกลิ่นหอมอบอวลอยู่เต็มไปหมด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของส่งออกจะมาเหมาที่เมืองต้นทาง เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพดีและราคาถูกที่สุด

 

“อุ๊บ! จะอ้วก” สีหน้าของชายหนุ่มพะอืดพะอมจนน่าสงสาร

 

“เป็นอะไรแชน” มายาหันไปมองคนข้างๆ ที่นั่งหน้าซีดเอามือปิดปากตนเองไว้

 

“เหม็นอะไรขนาดนี้ อุ๊บ! ข้า อุ๊บ!”

 

คนเป็นหัวหน้ารีบเอามือไปลูบหลังลูกน้องอย่างเห็นใจ กลิ่นดอกไม้จะว่าหอมก็หอม แต่หากคนไม่ชอบหรือมีหลายกลิ่นตีกันเกินไปก็จะกลายเป็นไม่หอมได้

 

“เหม็นตรงไหน หอมขนาดนี้” ปราณพูดพลางสูดกลิ่นหอมที่เธอชอบเข้าเต็มปอด

 

“รีบไปให้พ้นจากตรงนี้ที! อุ๊บ!!!”

 

ท่าทางของแชนคงทนได้อีกไม่นาน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมเทาเป็นที่เรียบร้อย มายาเห็นดังนั้นจึงฟาดแส้ที่หลังม้ารีบควบตะบึงเพื่อหาที่พักให้เร็วที่สุด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา