หัวใจรักเร้นวิญญาณ
เขียนโดย ไอรินรดาดาว
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.36 น.
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 19.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) บทที่ 13 หลับทั้งน้ำตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชินกฤตขับรถและใช้ความคิดไปตลอดทาง เกี่ยวกับเรื่องบ้านของชาลิสาที่ถูกขายไปแล้ว ช่วงติดไฟแดงเขาแอบมองชาลิสาที่นั่งหลับอยู่ที่เบาะด้านหลัง บนตักของเธอกอดตุ๊กตาตัวแทนของเธอไว้
เขาสังเกตว่าสิ่งของใดหากเป็นของเธอแล้ว เธอสามารถหยิบจับและสัมผัสได้ราวกับเธอเองก็มีร่างกายเหมือนเช่นตอนที่เธอมีชีวิต
“สวัสดีครับคุณอรรณพ ช่วยสืบเรื่องหนึ่งให้ผมหน่อย…ข้อมูลผมส่งไปให้ในไลน์นะครับ”
ชินกฤตยกหูโทรศัพท์ต่อสายไปยังบุคคลๆ หนึ่ง ชายหนุ่มทำงานเป็นมือขวาให้กับจักรวาลมานาน จนทำให้เขามีคอนเน็คชั่นมากมายที่ให้ความช่วยเหลือกันได้ ในแวดวงการทำงานของเขาเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนสามารถขอความช่วยเหลือกันอยู่เสมอหากไม่หนักหนาจนเกินไป
รถของชินกฤตจอดชั้นเดียวกับคอนโดของเขา ชายหนุ่มเรียกวิญญาณหญิงสาวให้ตื่น และไม่ลืมที่จะถือของให้กับเธอเหมือนอย่างเคย
“คุณง่วงคุณไปนอนต่อได้เลยนะ ตกเย็นผมจะปลุกคุณมากินข้าว”
ชายหนุ่มหมายถึงการมานั่งสูดกลิ่นอาหารของผีสาวอย่างที่ทำทุกครั้ง นับวันเขาเริ่มชินกับการใช้ชีวิตกับเธอคนนี้ คนที่ตายไปแล้วแต่ยังวนเวียนให้เขาคอยช่วยเหลือ
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับรับตุ๊กตาสาวน้อยตัวโปรดของเธอ ชินกฤตมองตามด้วยแววตาที่ห่วงใย จากเหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เขารู้สึกผิดกับเธอ และเห็นอกเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก
ขณะที่ชินกฤตรอข่าวคราวจากปลายสายที่เขาเพิ่งขอความช่วยเหลือ เขานั่งอ่านเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงินของบริษัท และแล้วสิ่งที่เขาต้องการก็มาถึง
เสียงไลน์แจ้งเตือนข้อความเข้า….
อรรณพ : เรื่องที่ให้หา เจอเท่านี้นะครับ
อรรณพ : (รูปภาพ)
อรรณพ : (รูปภาพ)
ชินกฤต : ตรวจสอบแล้วใช่ไหมครับ
อรรณพ : ตรวจดีแล้วครับผม เป็นตัวสำเนา แต่ลงลายมือชื่อตรงกับเอกสารตัวจริงครับ
ชินกฤต : ขอบคุณมาก วันหลังผมเลี้ยงข้าวตอบแทนนะครับ
อรรณพ : ฮ่าๆ ขอเป็นเบียร์เย็นๆละกันครับ
ชินกฤต : (สติ๊กเกอร์ขอบคุณ)
จบการสนทนา ชินกฤตขยายรูปภาพเพื่อดูเอกสาร สิ่งสิ่งนี้บอกถึงชื่อเจ้าของคนใหม่ของบ้านทิพย์โกศล
……นายปองพล ปัญญากร….
รูปภาพที่สองเป็นข้อมูลการซื้อขายบ้านทิพย์โกศล นอกจากตัวเลขแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาตกใจไม่น้อยไปกว่าราคาคือ “วันที่” ที่มีการโอนทรัพย์สิน
“บ้านหลังนี้ทำการซื้อขายเสร็จเรียบร้อยก่อนชาลิสาเข้าพิธีแต่งงานถึง 3 เดือน!!!”
ชินกฤตจดชื่อและข้อมูลทุกอย่างไว้ในสมุดบันทึก การที่จะตามหานายปองพลเป็นเรื่องที่เขาต้องทำต่อไป แต่ก่อนอื่นเขาต้องจัดการเรื่องเส้นทางการเงินของบริษัทให้เรียบร้อย
“บริษัทรับเงินก้อนใหญ่หลายก้อนเข้าบัญชีที่คุณจักรวาลสามารถเบิกถอนได้เพียงผู้เดียว การเคลื่อนไหวของบัญชีเป็นวันที่….”
ชินกฤตตาเบิกโพลง เมื่อวันที่ๆ ปรากฎในลิสเงินเข้าออกที่สำคัญของบัญชี…
…เป็นวันหลังจากพิธีฌาปนกิจของชาลิสาเสร็จสิ้นแล้ว…
เมื่อตั้งสติได้ ชินกฤตหันมองไปทางห้องนอนที่หญิงสาวนอนหลับอยู่ เงินเหล่านี้หากตรวจสอบให้ดีก็จะรู้ได้แน่ชัด ว่ารับและจ่ายไปทางไหนบ้าง
เขารู้อยู่แก่ใจว่าความเป็นจริงที่โหดร้ายนั้นรอชาลิสาอยู่ เขาจึงอยากเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ก่อนที่ผีสาวตนนี้จะทนเรื่องราวเจ็บช้ำต่อไปไม่ไหว
เพราะเพียงแค่เหตุการณ์ในวันนี้ เขาเองก็แทบจะทนดูเธอเสียใจจะไม่ไหวอยู่แล้ว
ชินกฤตปิดคอมพิวเตอร์ เก็บกองเอกสารทุกอย่างไว้ เขาถอนหายใจและหลับตาเพื่อรวบรวมสมาธิ ในเวลานี้เขาต้องการที่จะหาทางเยียวยาจิตให้กับชาลิสา
เพราะหากจิตใจของเธอพร้อมมากกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อวันที่ความจริงปรากฏ เขาจะได้ไม่ต้องเห็นวิญญาณสาวในสภาพที่ใจสลายเช่นนี้
ความเห็นใจของชินกฤตที่มีต่อชาลิสามากขึ้นเป็นทวีคูณ เขาเดินไปดูชาลิสาที่หลับไหลด้วยความอ่อนล้าทั้งร่างวิญญาณและจิตใจ สองเท้าของเขาพามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงอีกครั้ง แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความสงสารจับใจ
“เธอไม่ต้องอยากรู้ได้ไหม ชาลิสา…ว่าอะไรที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ”
เขานึกในใจ ขณะที่เขากำลังนั่งลงบนเตียงก็ประจวบเหมาะกับชาลิสาหันใบหน้าสวยพลิกมาด้านที่เขานั่งลง เปลือกตาที่หลับพริ้มยังทิ้งร่องรอยของความเสียใจเอาไว้ด้วยคราบน้ำตา
“คุณพ่อคะ …คุณแม่ หนูขอโทษ”
ชินกฤตเอื้อมมือไปหมายจะเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นตรงหางตาคู่สวย แต่เขาก็ต้องชะงักค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อวิญญาณสาวละเมอเบาๆ ถึงบุคคลอันเป็นที่รัก อ้อมแขนของเธอกอดตุ๊กตาสาวน้อยไว้แน่น
“เธอรู้อยู่แก่ใจใช่ไหมชาลิสา? เธอรู้เรื่องบางอย่างดีอยู่แล้วใช่ไหม?”
ชาลิสาได้ยินเสียงพูดเบาๆ ของชินกฤตหรือไม่ ก็ไม่อาจรู้ได้ เขารู้เพียงแค่ว่าที่แห่งนี้ และเพียงแค่ตอนนี้ ที่เขาจะได้อยู่ลำพังกับเธอและเฝ้ามองเธออย่างไม่ต้องรู้สึกผิดกับจักรวาลผู้เป็นเจ้านายเหมือนอย่างเคย
กลิ่นของซุปเต้าหู้เส้นปลาโชยมายังห้องนอนของชินกฤต ร่างวิญญาณหญิงสาวค่อยๆ ลืมตา และยันตัวเองขึ้นนั่งนิ่ง เธอจ้องมองตุ๊กตาตัวโปรดด้วยแววตาว่างเปล่า เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้จึงออกไปร่วมโต๊ะอาหารกับชินกฤต
“ค่อยยังชั่วหรือยังครับ”
นี่คงเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มพูดกับเธอได้สุภาพที่สุดเท่าที่สนทนากันมา เธอยิ้มอ่อนๆ ที่มุมปากและมองชินกฤตด้วยความขอบคุณ
“ค่ะ ฉัน…ไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณมาก”
ชาลิสาตอบอย่างสุภาพบ้าง มองดูชายหนุ่มทานข้าวเย็นคนเดียว
“ปกติคุณทานข้าวคนเดียวแบบนี้เหรอ แล้ว…แฟน เพื่อน หรือว่าครอบครัวของคุณล่ะ”
“ผมเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ที่โบสถ์กับคุณพ่อเป็นผู้อุปถัมภ์ พอเรียนจบก็ทำงานกับบริษัทของคุณจักรวาลทันที คุณสนใจเรื่องของผมด้วยเหรอ?”
“น่ะ!!! คุณยังไม่ตอบคำถามเรื่องคนรักหรือว่าแฟนของคุณเลยนะ”
ชินกฤตหยุดนิ่ง มือของเขาจับช้อนไว้แน่น เขาจะบอกได้ยังไงว่าชีวิตของเขาแอบชอบเธอเพียงคนเดียว ตั้งแต่จักรวาลพาเธอมาเปิดตัวที่บริษัทเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว
“ก็….ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันกลัวว่าถ้าฉันมาอยู่แบบนี้แฟนคุณจะว่าเอาน่ะสิ”
ชินกฤตยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา ที่ชาลิสาทำตัวราวกับว่าตอนนี้ทุกคนสามารถมองเห็นเธอได้ทั้งหมดอย่างนั้นแหละ
“แล้วยังไงล่ะครับคุณผี คุณกลัวจะเป็นเหตุทำให้ผมเลิกกับแฟน ว่างั้น?”
ชินกฤตหยอกผีสาวเล่น ชาลิสาทำแก้มบวมแสดงอารมณ์ว่าเริ่มโมโหเมื่อชายหนุ่มไม่ตอบให้ตรงคำถามสักที เขาเห็นท่าว่าเธอจะโกรธจริงจึงตัดบทเปลี่ยนเรื่องคุย
“ผมมีที่ที่หนึ่ง อยากให้คุณไปด้วย เผื่อคุณจะอารมณ์ดีขึ้นนะ”
******************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ