หัวใจรักเร้นวิญญาณ

“ยินดีด้วยจ้า….ยินดีด้วยนะเพื่อน…ยินดี…..” เสียงอวยพรดังไม่ขาดสาย เมื่อเจ้าสาวสุดสวย ชาลิสา หรือ ลิสา ก้าวลงมาจากเวทีหลังจากกล่าวความรู้สึก ต่อไปคงเป็นการแจกของชำร่วยและอีกหลายขั้นตอนพิธีวิวาห์ในคืนนี้  แสงไฟในโรงแรมหรูส่องกระทบแก้วไวน์ชั้นเลิศที่วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะขาวสะอาดท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติมากมาย ใช่แล้ว….วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของเธอและจักรวาล หรือ จักร …ชายหนุ่มที่เธอคบหามาร่วมปี ถึงแม้ใครจะทักว่าการแต่งงานนี้เกิดขึ้นเร็วไปไหม แต่สำหรับเธอแล้ว จักรคือคนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างเธอเมื่อเธอไม่มีใคร หลังจากที่คุณพ่อและคุณแม่ ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของเธอต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปทั้งคู่ ลิสาก็เหมือนหัวใจจะแตกสลาย เธอไม่เหลือใครอีกเลยนอกจาก แก้วตา…สาวรับใช้ในบ้านที่อายุมากกว่าเธอประมาณสิบปี แก้วตาเป็นเหมือนพี่สาวของเธอที่พอจะพึ่งพาได้ แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับคุณพ่อคุณแม่ที่เธอสนิทและได้รับความรักที่แสนอบอุ่นมาโดยตลอด

“พ่อคะ แม่คะ หนูอยากให้ท่านได้มาเห็นหนูในวันนี้จังเลยค่ะ”

หญิงสาวคิดรำพันในใจ แม้จะรู้สึกเศร้าหมอง แต่เมื่อเธอมองมือใหญ่ที่กุมมือเธอไว้ในตอนนี้ ก็ช่วยให้เธอหายคิดถึง และมั่นใจว่าชีวิตของเธอจะเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข

“เอ้า…มาด้วยเหรอ” จักรทักทายชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในกลุ่มแขกเหรื่อ

“ไหนว่านายไม่ว่างไง ยังไงก็ขอบใจนะ รู้สึกยินดีมาก” 

“นายแต่งงานทั้งที ไม่มาได้ไงวะ” ตระการกุล หรือ กุล ตอบพร้อมกับรอยยิ้ม พลันหลบสายตามองมายังลิสา จักรนึกขึ้นได้ก็รีบแนะนำ

“ลิสา นี่กุล เพื่อนพี่เองนะ”

“ยินดีที่รู้จักค่ะ” เธอยิ้มพร้อมพยักหน้าอย่างเป็นมิตร กุลส่งยิ้มอ่อนๆให้กับเธอ ทันใดนั้นจักรก็เอ่ยขอตัวพาลิสาไปทักทายแขกอื่นๆ

“ไปก่อนนะเว้ย แล้วค่อยดื่มกันยาวๆ”

“เออ” กุลตอบสั้นๆ สายตาของเขามองตามคู่บ่าวสาวด้วยแววตาที่ยากจะอธิบาย

…………………….

คืนนี้ช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ลิสารู้สึกเจ็บเท้าไปหมด ส้นสูงที่ใส่คู่กับชุดเจ้าสาวคู่นี้ช่างโหดร้ายกับเท้าเธอจริงๆ หญิงสาวนั่งบนเตียงในห้องหอ ซึ่งเป็นห้องหนึ่งในโรงแรมหรู มือบีบนวดที่เท้าเบาๆ คนตัวสูงนั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอแล้วจับเท้าเธอมานวดอย่างแผ่วเบา เธอสะดุ้งเล็กน้อย

“เป็นไงคนดี เจ็บเท้ามากเลยเหรอ แดงหมดแล้ว” กุลพูดกับเธอเสียงหวาน นั้นไม่ใช่แค่เท้าที่แดง หน้าของเธอก็แดงด้วยไม่แพ้กัน

“อุ๊ย!!! ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลิสานวดเอง คืนเดียวก็หายค่ะ”

กุลเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานฉ่ำของลิสา ลิสาแอบคิดเตลิดไปไกล ใช่สิ…คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ คงไม่พ้นเรื่องอย่างว่าที่สามีภรรยาเขาทำกันอยู่แล้ว

“หันหลังสิ พี่จะปลดตะขอชุดให้”

ลิสาหันหลังอย่างช้าๆ หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ แต่ถึงอย่างไรเธอก็พร้อมที่จะเป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์ เพราะเธอรักเขาอย่างหมดหัวใจอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ความรักที่เธอมอบให้เขาช่างบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่มากมายจนไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดจนหมดได้

“ไปอาบน้ำซะนะคนดี” กุลเอ่ยขึ้น ลิสาสะดุ้งและโล่งใจเล็กน้อย

“ค่ะ” เธอหันมายิ้มให้กับเขา แล้วเดินเข้าห้องน้ำที่มีชุดและอุปกรณ์อาบน้ำเตรียมไว้แล้ว จริงสินะ…วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังไงก็ต้องชำระทั้งเครื่องสำอางค์และเหงื่อไคลเสียก่อน

“ผมเตรียมนมสดอุ่นๆไว้ให้แล้วนะ เผื่อคุณหิว” กุลตะโกนบอกเธอ

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” เธอตะโกนตอบแล้วเริ่มอาบน้ำสระผม เอาล่ะ…ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง เธอนึกตื่นเต้นในใจ

สักพัก ชาลิสาในสภาพชุดนอนบวกกับผมเปียกยาวสลวย ก็ออกมาพบกับชายหนุ่มที่เผลอหลับบนโซฟาไปเสียแล้ว 

“พี่คะ…ตื่นไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” เงียบ…ชายหนุ่มหลับสนิท ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ลิสายิ้มและส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะหยิบแก้วนมขึ้นมาดื่ม เธอจัดการประทินผิวและเป่าผมจนแห้งแล้วเข้านอน เธอปัดเหล่าบรรดากลีบกุหลาบสีแดงชมพูออกจากที่นอน เมื่อซุกตัวลงนอนใต้ผ้าห่ม เธอก็ไม่วายมองไปที่สามีที่นอนตะแคงหันหลังให้

“ราตรีสวัสดิ์คะกุล” เธอหลับตาลงสักพักก็หลับลงอย่างง่ายดาย แต่ในความมืดสลัวของห้องนอนหรูนั้น ยังมีตาคู่หนึ่งลืมตาอยู่ด้วยความครุ่นคิดอย่างเป็นปริศนา และยังไม่รู้เลยว่าเจ้าของตาคู่นี้จะหลับสบายในคืนนี้ หรือคืนต่อๆไปอีกหรือไม่

……..

ง่า…บทแรกก็มีลับลมคมในแล้ว จริงๆไร้ท์อยากจะซ่อนไว้สักบทที่ 3 - 4 แต่ด้วยความที่มีอีกหลายเรื่องที่ไร้ท์อยากจะเขียน ก็เลยเริ่มเรื่องให้เร็วๆถูกอกถูกใจผู้อ่านกันเลยทีเดียว มาลุ้นติดตามบทที่ 2 กันเลยค่ะ