The Last Of Hero : ผู้กล้าคนสุดท้าย
เขียนโดย Karasu_Romani
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.35 น.
แก้ไขเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2565 12.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) #13 กิก้าบอร์2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันต่อมาผมและทุกคนก็รวมตัวกันวางแผนเพื่อที่จะจัดการกิก้าบอร์ภายในคืนนี้
ลักษณะนิสัยของกิก้าบอร์นั้นมักจะออกหากินในตอนกลางคืน ตัวของมันมีจมูกที่ไวมากดังนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปในระยะประชิดได้ แต่ยังโชคดีที่การมองเห็นของมันไม่ค่อยดีนักและมันยังมีนิสัยที่กินไม่เลือก จึงคิดว่าไม่ได้ยากต่อการหลอกล่อเท่าไรนัก
"ปัญหาจริงๆ น่าจะเป็นขนาดตัวนะ" ผมพูดออกมาในกลางวงสนทนา
"นั่นสินะ... งั้นมาสรุปสมาชิกกันก่อนเถอะ" จูเลียสกล่าว
เวล ชายหนุ่มผู้มีผมสีดำสนิท ดวงตาสีเหลืองเข้มที่ดูเบื่อโลกและมีขอบตาดำอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่มีใครรู้แต่เขาก็เป็นผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา อาวุธของเขาคือมีดสั้นที่เป็นอาวุธเวทที่มีพลังในการรวบรวมพลังเวทและปลดปล่อยออกมา และอาวุธลับของเขาที่เขาแอบซ่อนเอาไว้ "ราตรีประดับดาว" ดาบที่มีพลังการทำลายสูงแต่ต้องแลกกับผลกระทบรุนแรงต่อร่างกาย
คริสติน่า หญิงสาวผมสีบลอนด์สลวย แววตาเต็มไปด้วยความเมตตาและมีสีเขียวมรกต ผู้มีพลังเวทหายากในการรักษา "รีเจนเนอเรชั่น" ในโลกแห่งนี้นั้น "ฮีล" เป็นเพียงเวทรักษาที่กระตุ้นการสมานแผลให้ทำงานอย่างรวดเร็วเท่านั้น ไม่สามารถทดแทนอวัยวะที่สูญเสียไปได้ แต่เวทรีเจนเนอเรชั่นนั้นสามารถรักษาและทดแทนอวัยวะที่สูญเสียไปได้ถ้าหากเป็นแผลที่ยังไม่สมานตัวดี
จูเลียส ชายหนุ่มผู้มีผมและดวงตาสีทองโดดเด่น รูปร่างหน้าตาสง่าดั่งขุนนาง แม้เขาจะไม่ได้บอกประวัติของเขาเองมากนัก แต่เขาเป็นนักดาบที่มีทักษะสูงและดาบที่ใช้แม้จะดูธรรมดาแต่กลับมีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ
จูลี่ เด็กสาวผมสีทองที่ดูโดดเด่นไม่แพ้พี่ของเธออย่างจูเลียส แม้จะมีข่าวว่าเป็นคนเก็บตัวแต่ก็ยอมมากับปาร์ตี้ของเวลโดยง่าย แม้จะไม่ได้บอกประวัติมากเช่นเดียวกับตัวจูเลียส แต่ตามที่จูเลียสบอก จูลี่เป็นนักเวทที่มีความสามารถสูงมาก พลังเวทของจูลี่คือเวทประเภทพลังไฟ เป็นพลังที่สามารถสร้างไฟสำหรับใช้ในการโจมตีได้
หลังจากที่พวกเราแลกเปลี่ยนความสามารถกัน ดูเหมือนว่าผมคงจะอ่อนแอที่สุดในกลุ่มหากไม่นับพลังจากดาบราตรีประดับดาว
แสงจากพระจันทร์สาดส่องลงมาจากบนฟ้าถึงเวลาที่วางแผนกันเอาไว้ พวกเรานัดหมายแผนการและประจำจุดที่ได้รับหน้าที่
คริสติน่ารออยู่ที่ทางเข้าของสวนบาร์มเพื่อที่จะเตรียมพร้อมรักษาหากมีคนในกลุ่มบาดเจ็บ และทันทีที่มีคนบาดเจ็บ ทุกคนจะต้องรีบไปที่ต้นเสียงเพื่อที่คริสติน่าจะได้รักษาคนบาดเจ็บได้โดยสะดวก ส่วนคนที่เหลือมีหน้าที่รับมือกับกิก้าบอร์
จูลี่แม้จะเด็กมากแต่ก็มีทักษะในการใช้เวทสูง แต่ด้วยร่างกายของเธอทำให้ไม่สามารถเข้าปะทะตรงๆ ได้ทำให้เธอต้องประจำจุดอยู่บนต้นไม้เพื่อคอยสอดส่องหาเป้าหมาย และทันทีที่พบก็จะใช้เวทไฟสร้างดวงไฟบนท้องฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณทันที การใช้เวทระยะไกลมากๆ นั้นไม่ค่อยพบเท่าไรนัก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะชำนาญมากพอ เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยสะดวกต่อเวทเธอนัก
จูเลียสมีสมรรถภาพทางร่างกายที่สูงมาก ทำให้เขาอาสารับหน้าที่ลาดตระเวนรอบๆ เพื่อหาตัวของกิก้าบอร์ ทันทีที่พบ จูเลียสจะลากเข้าไปยังจุดที่จูลี่อยู่เพื่อให้จูลี่ส่งสัญญาณขึ้นฟ้าให้เวลเห็น
ส่วนเวล ด้วยผ้าคลุมสีดำนั้นทำให้สามารถพรางตัวในตอนกลางคืนได้ดี จึงทำหน้าที่พรางตัวลาดตระเวนเพื่อไม่ให้กิก้าบอร์รู้ และทันทีที่เห็นก็จะตามให้จูลี่ไปยังจุดนั้นและให้จูลี่ส่งสัญญาณขึ้นฟ้าเรียกจูเลียสมา
โดยแผนทั้งหมดนี้คือการวางแผนของจูเลียสเองทั้งหมด แม้โดยปกติจะทำภารกิจกับน้องสาวเพียงสองคน แต่ด้วยความสามารถในการเป็นผู้นำก็ทำให้วางแผนออกมาได้อย่างเป็นระบบ
แต่แผนนี้มีอุปสรรคที่เป็นปัญหาอยู่นั่นคือ "เวลา"
หลังจากที่เริ่มแผนการ เวลาก็ผ่านไปราวชั่วโมงแล้ว ทั้งจูเลียสและจูลี่ไม่ได้มีท่าทีเพลียแต่อย่างใด จูลี่ยังคงจับตามองโดยรอบอย่างตั้งใจ ส่วนจูเลียสก็เดินสำรวจรอบๆ โดยไม่เหน็ดเหนื่อย ต่างกับเวลในตอนนี้ที่รู้สึกเพลียขึ้นมาจากการเดินเป็นชั่วโมง ส่วนทางด้านของคริสติน่าก็รู้สึกง่วงเนื่องจากบรรยายกาศที่เย็นสบายในตอนกลางคืน
เสียงของสภาพแวดล้อมโดยรอบทำให้เวลระแวงอยู่พอสมควร เพียงเสียงของใบไม้ที่ถูกลมพัดก็มากพอจะทำให้รู้สึกกังวลได้แล้ว ต้นบาร์มเป็นต้นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นที่สูงถึงสิบเมตรและมีใบไม้ปกคลุมทั่ว หากดูจากภายนอกก็คงเดาไม่ออกแน่ๆ ว่าที่นี่คือสวนบาร์มไม่ใช่ป่าแต่อย่างใด ใบของต้นบาร์มนั้นมีกลิ่นที่ทำให้รู้สึกถึงเหล้าอยู่ ใบมักจะถูกนำไปใช้ในการรักษาแผล ส่วนผลของบาร์มมีผลทำให้เกิดอาการมึนเมาหลังจากกินเข้าไป จึงนิยมนำไปทำเหล้าหรือเบียร์กันจำนวนมาก ผมในตอนนี้เองก็เริ่มจะเมากลิ่นของใบมันหน่อยๆ แล้ว
ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็ได้มีแสงส่องลงมาจากท้องฟ้า พอสังเกตดีๆ แล้วนั่นก็คือแสงไฟจากเวทของจูลี่ ด้วยลักษณะเฉพาะของดวงไฟที่สว่างท่ามกลางท้องฟ้าเป็นจุดเด่น
ผมรีบวิ่งออกไปในทันที เสียงโครมครามดังสนั่นทั่วสวนบาร์ม ไม่นานนักดวงไฟดวงที่สองและสามก็ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้าเป็นสัญญาณที่ให้เปลี่ยนแผนและวิ่งออกไปจากสวน
ทางด้านของจูเลียสที่ได้มุ่งหน้าไปถึงในทันที ก็ได้พบกับกิก้าบอร์ที่มีขนาดใหญ่สูงกว่าสองเมตรซึ่งมากกว่าในภารกิจระบุ ลักษณะของมันคือหมูป่าที่มีขนาดใหญ่โตจนยากที่จะเชื่อ ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองไปยังรอบๆ ร่างกายใหญ่โตปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาลเข้ม เขี้ยวของมันดูแหลมคมราวกับสัตว์นักล่า
จูเลียสชักดาบสีเงินสง่าออกมาและบอกให้จูลี่ออกไปยังหน้าทางเข้าเพื่อที่จะเปลี่ยนแผน โอกาสในการต่อสู้กับกิก้าบอร์สองเมตรก็ว่ายากแล้ว แต่จากที่จูเลียสประเมินขนาดจากภายนอก ก็คาดเดาได้ว่าขนาดของกิก้าบอร์ตัวนี้จริงๆ น่าจะประมาณห้าเมตรเลยทีเดียว ทำให้ไม่สะดวกที่จะสู้กันในสวนบาร์มแน่ๆ เนื่องจากบาร์มมีคุณสมบัติติดไฟง่าย แม้จะไม่เป็นไรหากไฟไม่โดนต้นหรือใบของมันแต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าไฟจะไม่โดนต้นบาร์มในการต่อสู้ และทั้งทีก็ต้องลดความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ด้วย
จูเลียสตัดสินใจหยิบก้อนหินใหญ่ๆ แถวนั้นขว้างไปใส่กิก้าบอร์เพื่อเรียกร้องความสนใจและให้ตามเขามาเพื่อจะให้มันออกไปจากสวนบาร์ม เสียงฝีเท้าที่มีขนาดใหญ่สั่นสะเทือนไปทั่วไล่กวดตามหลังจูเลียสไม่หยุด แต่ด้วยความเร็วของจูเลียสทำให้กิก้าบอร์ไล่ตามไม่ทันแม้มันจะเร่งฝีเท้าแค่ไหน เสียงของต้นไม้ที่ถูกทำลายดังก้องไปทั่ว เหล่าต้นไม้หักโค่นเป็นทางยาวอย่างเห็นได้ชัด จูเลียสพามันออกมานอกสวนและมุ่งไปที่ทุ่งกว้างข้างหมู่บ้านเพื่อให้น้องสาวของตัวเองสามารถใช้เวทไฟได้อย่างเต็มที่
ทันทีที่กิก้าบอร์ออกห่างจากสวนบาร์มมาไกลพอสมควรลูกไฟจำนวนมากจากเวทของจูลี่ก็พุ่งเข้าใส่มันโดยไม่ทันตั้งตัว แม้ไฟพวกนั้นจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดของกิก้าบอร์ แต่ตัวของกิก้าบอร์ที่วิ่งชนต้นบาร์มมาจำนวนมากนั้นทำให้ตัวของมันเต็มไปด้วยของเหลวที่ติดไฟง่ายทั่วตัวทำให้ตัวของกิก้าบอร์ลุกเป็นไฟและกรีดร้องด้วยความแสบร้อน
"จูลี่!" จูเลียสตะโกนออกมาเหมือนจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง จูลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังจูเลียสนั้นได้ร่ายเวทบางอย่างทำให้เกิดเปลวไฟเคลือบบนดาบของจูเลียส
"จูลี่คุ้มกันคุณคริสติน่าทีนะ ส่วนพี่จะลองสู้กับมันดู" จูเลียสพูดออกมาพลางมองไปยังกิก้าบอร์ที่กำลังโกรธอย่างเห็นได้ชัด ไฟที่เผาตัวของกิก้าบอร์ค่อยๆ มอดดับลง ดวงตาสีแดงราวกับเลือดจ้องมองมายังที่จูเลียส
สิ่งที่จูเลียสถืออยู่คืออาวุธเวทที่ทำมาจากแร่เงิน มีความคมสูง สามารถกักเก็บพลังเวทและปลดปล่อยออกมาได้ เปลวไฟจากเวทของจูลี่ทำให้ตัวดาบมีเปลวไฟเพลิงเวทห่อหุ้มอยู่ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
‘ขนาดตัวของมันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการภายในดาบเดียว’ จูเลียสคิดในใจ
กิก้าบอร์วิ่งตรงเข้ามาหาจูเลียส เสียงฝีเท้าสั่นสะเทือนของมันยังคงดังอยู่ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหว
‘อย่างแรกเราต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของมันก่อน’ จูเลียสพยายามคิดแผนการจัดการกับกิก้าบอร์อยู่ในหัวก่อนจะวิ่งเข้าไปบริเวณขาซ้ายของกิก้าบอร์ เส้นผ่านศูนย์กลางของขากิก้าบอร์นั้นหนาราวๆ หนึ่งเมตร จูเลียสจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปฟันขาซ้ายเพื่อที่จะทำให้ขาของมันบาดเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าหนังของกิก้าบอร์ตัวนี้จะหนามากเกินไปทำให้แม้จะเป็นดาบเงินของจูเลียสก็ทำให้เกิดบาดแผลเพียงแค่ตื้นๆ เท่านั้น
กิก้าบอร์กระทืบขาหน้าที่โดนฟันเพื่อที่จะเหยียบจูเลียสในทันที แต่จูเลียสก็ม้วนตัวหลบออกมาจากบริเวณนั้นได้ทำให้ไม่โดนเหยียบเละไป แต่ผลจากการกระทืบของกิก้าบอร์ทำให้เกิดแรงคลื่นกระแทกมายังตัวของจูเลียส ทำให้จูเลียสเสียหลักกระเด็นออกไป
"พี่!" จูลี่ตะโกนออกมาและร่ายเวทไฟที่ก่อให้เกิดลูกไฟขนาดใหญ่สว่างจ้าโดยรอบออกมากลางท้องฟ้า แม้จะเป็นลูกไฟที่มีขนาดใหญ่มากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใหญ่เท่าขนาดตัวของกิก้าบอร์ ลูกไฟที่มีขนาดเกือบสามเมตรตกลงมาใส่ร่างของกิก้าบอร์อย่างช้าๆ ทำให้กิก้าบอร์ปวดแสบปวดร้อนและพุ่งเป้าหมายไปยังจูลี่แทน เสียงคำรามของสัตว์ป่าขนาดใหญ่อย่างกิก้าบอร์ดังลั่นไปทั่วพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านออกมามองดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมากจากตรงทางเข้าหมู่บ้าน
จูเลียสลุกขึ้นยืนพลางมองไปยังกิก้าบอร์ เผลอพึมพำในสภาวะตึงเครียด
"เวล... นายหายไปไหนกัน...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ