ยัยดอกไม้ของนายตะวัน sunflower (เดอะซีรีย์ Flower of love)
เขียนโดย kone
วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.11 น.
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 23.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) แนะนำตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
~ แนะนำตัว ~
“ทานตะวัน” เสียงเรียกชื่อที่คุ้นหูจากเพื่อนสนิทของฉัน นที เพื่อนชายคนสนิทที่สอนฉันเล่นเกมส์ “นายมาสาย” ประโยคที่ฉันตอบกลับไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด “วันนี้เราจะไปสัมภาษณ์งานกันนะนที ทำไมเล่นมาสายขนาดนี้” “โทษทีวะแก พอดีเมื่อคืนเล่นเกมส์ดึกไปหน่อย หาข้อมูลในการตอบคำถามไงวะ” นทีตอบฉันด้วยสีหน้าที่ไม่รู้สึกผิด
วันนี้เป็นวันที่ฉันจะได้ทำตามความฝันสักที การได้เข้าทำงานที่บริษัทผลิตเกมส์และสื่อที่มีชื่อเสียง ความฝันของฉันคือการได้ผลิตเกมส์ที่สามารถนำทุกคนไปสู่โลกที่เราสร้างได้ด้วยตัวเอง ฉันผู้ที่ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก แต่เมื่อได้ก้าวสู่โลกของเกมส์ฉันสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ “แกคิดว่าเราจะผ่านการคัดเลือกป่าววะ” นทีถามฉัน “แกจะกลัวอะไรวะ ของแบบนี้มันต้องลุยเว้ย”
- บริษัทเกมส์
“คุณชญาภา เชิญสัมภาษณ์ครับ” เสียงเรียกของเจ้าหน้าที่ทำฉันสะดุ้ง ฉันเดินตามเสียงเรียกเข้าไปยังห้องสี่เหลี่ยม ภายในห้องมีเก้าอี้สำหรับผู้ที่มานั่งสัมภาษณ์ และโต๊ะที่มีกรรมการ 2-3 ท่านเพื่อรอสัมภาษณ์ เมื่อเข้าไปสายตาฉันสะดุดกับผู้ชายรูปร่างสูง ไหล่กว้าง สวมชุดสูทแสนเท่ ผมดำขลิบ ดวงตาสีฟ้า ใช่คะ เขาคือเจ้าของบริษัทแห่งนี้ คุณอาทิตย์ หนุ่มหล่อ ไฟแรงที่เป็นที่จับตามองของสาวๆ
“เชิญนั่งครับ” เจ้าหน้าที่ได้กล่าวกับฉันด้วยน้ำเสียงเบาๆ “วันนี้คุณอาทิตย์ให้เกียรติมาฟังการสอบสัมภาษณ์พนักงานใหม่ด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่ยิ้มพร้อมกล่าวคำพูดก่อนออกไปจากห้อง “เชิญแนะนำตัวคะ” กรรมการท่านหนึ่งกล่าวขึ้นมา “สวัสดีคะ ดิฉัน น.ส.ชญาภา นันทปรากร หรือเรียกง่ายๆทานตะวันคะ” ฉันตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ในประวัติการสมัครงานของคุณเขียนว่า คุณอยากสร้างเกมส์ใช่ไหมครับ” กรรมการท่านหนึ่งได้ถามคำถามออกมา“ใช่คะ ฉันสมัครงานที่นี้ก็เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานเกมส์ที่ทำให้ทุกคนมีโลกที่สามารถเป็นตัวเองได้อย่างอิสระ”
ในระหว่างที่การสัมภาษณ์ของฉันกำลังเป็นไปในทางที่ดีอยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ แต่สายที่เธอเรียนจบมามันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างเกมส์เลยสักนิด” น้ำเสียงเย็นชาจนทำให้ฉันต้องหันไปมอง “คุณอาทิตย์คะ ถึงฉันจะไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรงแต่ฉันก็ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้มาแล้วนะคะ” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่มีความมั่นใจ “จากที่ฉันนั่งฟังสัมภาษณ์มาทั้งวัน คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่มันไม่ต่างจากเธอหรอกนะ” คำตอบของเขาทำให้สีหน้าของฉันเปลี่ยนไป “เด็กสมัยนี้คงคิดว่าการทำงานในสายงานนี้เป็นงานที่ง่าย สบาย และได้เงินดีสินะ ถึงได้พากันตั้งความฝันที่ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยสักนิด ทั้งเธอ และพวกที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้ต่างก็ไม่ได้ทำให้ฉันรับรู้ถึงความพยายามในการสร้างผลงานที่ดีออกมา คำตอบที่ให้กรรมการก็ฟังดูคล้ายๆกันฝันของคนๆหนึ่ง ทำไมเขาถึงทำมันออกมาได้ง่ายขนาดนี้ เขาไม่เคยมีความฝันเลยหรอ ในหัวของฉันมีคำถามมากมาย ฉันยกย่องเขาเป็นแบบอย่างมาตลอด ชายผู้มีความมั่นใจ ใส่ใจการทำงาน และให้เกียรติผู้อื่น เขาได้ทำลายภาพลักษณ์เหล่านั้นไปจนหมด เหลือแต่ผู้ชายที่ดูถูกคนอื่น และคำพูดคำจาที่ไม่น่าจะฟังนั้น ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าฉันจะไม่สามารถทำตามความฝันของฉันได้อีกต่อไป
“ฉันว่าเราจบการสัมภาษณ์ไว้แค่นี้ดีกว่า เสียเวลาการทำงานมากพอแล้ว” เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาให้กรรมการเพื่อลุกขึ้น “เดี๋ยวก่อนคะ” ฉันตะโกนออกไป “คุณจะพูดจาแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้นะคะ การดูถูกความฝันของใครสักคนเป็นเรื่องที่สมควรทำหรอคะ” ฉันพ่นคำถามออกมาอย่างโมโห เขาทำสีหน้าเย็นชาและถามฉันกลับมาว่า “เธอมีปัญหาอะไรไหม” “พนันกันไหมคะ” ฉันเอยคำพูดออกมาอย่างมั่นใจ
เขายิ้มมุมปากแล้วหัวเราะ “เธอท้าฉัน” “ใช่คะ ฉันทราบดีว่าการสัมภาษณ์วันนี้คงทำให้คุณหงุดหงิดและฉันคงไม่ได้ไปต่อ” “เธอจะพนันเรื่องอะไรละ” เขาถามกลับมาด้วยท่าทางที่ดูสบายและมั่นใจสุดๆ “ถ้าฉันสามารถผลิตเกมส์ที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบและเป็นเกมส์ที่สามารถทำรายได้ให้คุณได้ คุณต้องให้ฉันทำงานทีนี้ต่อ และต้องขอโทษฉันต่อหน้าทุกคน” เขาหัวเราะออกมา “ภายในระยะเวลา 1 ปี ถ้าเธอทำไม่ได้แบบที่เธอพูด เธอต้องออกจากวงการนี้ และขอโทษฉัน โอเคไหม” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ได้คะ” ฉันตอบรับเขา
“ฉันจะจำชื่อเธอไว้นะยัยดอกไม้” “ทานตะวันคะ” ฉันพูดพร้อมชักสีหน้าใส่เขา “เอาเป็นว่าวันนี้เราได้บทสรุปที่สนุกขึ้นมาหน่อยนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้หน้าของฉัน ฉันถอยห่างออกมา ก่อนที่เขาจะเดินผ่านฉันเพื่อออกจากห้องนี้ไป “เดี๋ยวรบกวนมาเริ่มงานได้เลยนะคะ” กรรมการได้หันมาพูดกับฉัน “ขอบคุณคะ” ฉันหันไปส่งยิ้มพร้อมกับยกมือขอบคุณ แต่ภายในใจกลับอัดแน่นไปด้วยความโมโห คนอะไรเอาแต่ใจอย่างนี้ คอยดูนะนายอาทิตย์ฉันจะทำให้นายมาขอโทษฉันให้ได้
_นายอาทิตย์_
นี่ก็สัมภาษณ์คนสุดท้ายแล้วสินะ ทำไมคนสมัยนี้ถึงได้ให้ค่ากับผลงานน้อยขนาดนี้ สนใจแต่เรื่องเงินเดือน สวัสดิการ ก็จริงที่ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ดี แต่ความคิดที่แสดงออกมากลับไม่ได้ใส่ใจงานขนาดนั้น หวังแค่มาทำแล้วได้เงินเดือนไปวันๆ มีคำถามมากมายในหัวของผมที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ สวัสดีครับผมอาทิตย์ ประธานบริษัทเกมส์และนักออกแบบโปรแกรม วันนี้ที่บริษัท เปิดสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ผมซึ่งเป็นเจ้าของก็อยากที่จะออกมาฟังทัศนคติของเด็กๆยุคใหม่บ้าง แต่คำตอบที่ได้นั้นกลับทำให้น่าอึดอัดใจเหลือเกิน
จนมีหญิงสาวคนนึงเดินเขามา เธอเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จนผมต้องหันไปมองเธอ หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวหยักศกสีน้ำตาล พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย ผมนั่งฟังเธอสัมภาษณ์ไม่ใช่ว่าคำตอบของเธอนั้นไม่ดีหรอกนะครับ แต่ความมั่นใจและบวกกับสายการเรียนของเธอมันทำให้ผมคิดว่าเธอไม่เหมาะกับบริษัทของผม ผมจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้เธอได้ไปต่อ แต่ใครจะคิดละครับว่าอยู่ๆเธอก็อยากจะพนันกับผมสะงั้น
ยัยดอกไม้ชื่อนี้เป็นคำที่ผมใช้เรียกเธอ ดวงตาที่เปล่งประกายพร้อมกับท่าทางที่ไม่ยอมแพ้ ผมไม่เห็นคนแบบนี้มานานแล้ว ในเมื่อเธออยากจะลองมาเล่นกับผม งั้นเราจะได้เจอกันแน่แม่สาวดอกไม้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ