เส้นทางรักของเยว่ชิง
เขียนโดย karnnuttha
วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 21.59 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 22.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เยว่ชิง 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ แคว้นเย่ว์
“ฝ่าบาทรีบหนีก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์
“ตอนนี้พวกกบฏนำกำลังคนบุกเข้ามาถึงเขตพระราชฐานชั้นในแล้วพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์
“เราไม่หนีเราจะอยู่ที่นี่” ฮ่องเต้
“เจ้ารีบให้คนพา ฮองเฮากับลูกของเราหนีไปก่อน” ฮ่องเต้
“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์
ณ ตำหนักคุนหนิง
“ฮองเฮารีบเสด็จเถิดเพคะ” นางกำนัล
“ไม่เราจะไปหาฝ่าบาท เจ้ารีบพาโอรสและธิดาของเราหนีไป” ฮองเฮา
นางกำนัลคนหนึ่งรีบอุ้มพระโอรส นางกำนัลอีกคนหนึ่งรีบอุ้มพระธิดา พวกนางรีบวิ่งหนีออกไปทางห้องลับ โดยมีราชองครักษ์คุ้มกัน ทางเดินยาวเป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปมาเส้นทางนี้สามารถไปทะลุที่ชายป่านอกเมืองได้
“แย่แล้วมีพวกกบฏตามมา” องครักษ์
“เจ้ารีบพาพวกนางหนีไปต้องคุ้มกันพระโอรสพระธิดาให้ดีที่สุด” หัวหน้าราชองครักษ์
“รีบวิ่งไปไม่ต้องหันหลังกลับมา” หัวหน้าราชองครักษ์
เมื่อจวนตัวจำเป็นที่จะต้องรักษาชีวิตของพระโอรสและพระธิดาไว้ จะให้เกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองพระองค์ไม่ได้ นางกำนัลสองคนตัดสินใจแยกกันไปคนละทาง คนหนึ่งอุ้มพระโอรสไปทางขวา อีกคนหนึ่งอุ้มพระธิดาไปทางซ้าย องครักษ์แบ่งเป็นสองกลุ่ม ตามคุ้มกันความปลอดภัย
กลุ่มของพวกกบฏตามมาไม่ทันจึงไม่ได้เห็นนางกำนัลไปทางขวา แต่เห็นกลุ่มของนางกำนัลที่ไปทางซ้าย พวกกบฏจึงมุ่งหน้าไล่ตามไป พวกกบฏเข้าจู่โจมด้านหลัง กระจายกำลังเพื่อต้องการตัวเด็ก พวกกบฏไม่รู้ว่าเด็กในอ้อมกอดของนางกำนัลคือพระโอรส หรือพระธิดา แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่าให้ตาย
องครักษ์พยายามต้านพวกกบฏให้ได้มากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เพราะจำนวนคนที่แตกต่าง ฝ่ายกบฏมีคนมากกว่า นางกำนัลที่อุ้มพระธิดาอยู่ โดนฟันกลางหลัง นางล้มลงไปทันที แต่ยังคงกอดพระธิดาเอาไว้แน่น
นางกัดฟันลุกขึ้นอีกครั้งวิ่งไปจนสุดทาง ที่เบื้องหน้าแห่งนี้คือหน้าผาเหวลึก นางกำนัลยืนอย่างลังเลมองไปโดยรอบแต่ไม่มีหนทางให้นางหนีได้อีกแล้ว นางตัดสินใจเอาผ้าผูกพระธิดาไว้กับอกของนาง
“อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลาเลยจะดีกว่า” พวกกบฏ
“รีบส่งตัวเด็กนั่นมาซะดีๆ” พวกกบฏ
“ไม่ต่อให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีทางส่งเด็กให้กับพวกเจ้า” นางกำนัล
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า น้ำหน้าอย่างเจ้าจะทำอะไรพวกข้าได้” พวกกบฏ
“ตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด คิดจะช่วยเด็ก ข้าว่าเจ้าส่งเด็กให้พวกข้าจะดีกว่า อย่าต้องให้ออกแรง” พวกกบฏ
ขณะที่พวกกบฏข่มขู่นางกำนัล องครักษ์กำลังรับมือกับพวกกบฏบางส่วน ทันใดนั้นเองมีกำลังทหารอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมกลุ่มของกบฏไว้
“พวกเจ้ายอมจำนนซะดีๆ” แม่ทัพประจิม
“อย่าหวังว่าพวกข้าจะยอมแพ้ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็มีเพียงแต่ต้องสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น” พวกกบฏ
พวกกบฏส่วนหนึ่งเข้าปะทะกับคนของแม่ทัพประจิม
พวกกบฏอีกส่วนหนึ่งตรงเข้าไปหวังฆ่าเด็กที่นางกำนัลอุ้มอยู่ นางกำนัลเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนสุดทางที่จะถอยหลังได้แล้ว ก่อนที่พวกกบฏจะเข้ามาถึงตัว นางจึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาอย่างไม่ลังเล
“ไม่นะอย่ากระโดดลงไป” แม่ทัพประจิมตะโกน
สายไปเสียแล้วนางกำนัลกระโดดลงไปที่หน้าผาพร้อมกับเด็กต่อหน้าของทุกคน
แม่ทัพประจิมจับกุมพวกกบฏกลุ่มนี้ได้เป็นบางส่วนบางส่วนก็เสียชีวิตเพราะขัดขืน บางส่วนก็หนีหายไป
วันต่อมาได้มีการส่งกำลังทหารลงไปค้นหาภายใต้หน้าผาแต่ไม่มีใครพบศพของนางกำนัลหรือเด็กทารกเลย
ในขณะที่นางกำนัลกำลังกระโดดลงจากหน้าผาเด็กทารกส่งเสียงร้อง ดีดดิ้น เกิดลมพายุโหมกระหน่ำพัดอย่างแรง ด้านล่างของหน้าผาเกิดช่องว่างระหว่างมิติได้เปิดขึ้น ดูดนางกำนัลพร้อมกับเด็กทารกเข้าไปยังมิติแห่งนั้น โดยไม่มีใครรู้เห็น นางนอนสลบอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
เสียงเด็กร้องดังไม่หยุด ทำให้เจ้าของบ้านต้องออกมาดูว่ามีคนเอาเด็กมาวางทิ้งไว้หรือเปล่า เขาเห็นสตรีคนหนึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ มีเด็กทารกผูกไว้ที่หน้าอก เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายจึงโทรตามเพื่อนที่เป็นหน่วยกู้ภัยให้มาดู นางกำนัลได้ยินเสียงร้องของพระธิดาจึงรู้สึกตัว มองไปรอบๆ พบสถานที่แปลกตาไม่คุ้นเคย
“คุณครับ คุณเป็นยังไงบ้างครับ ให้ผมพาไปหาหมอไหมครับ” ชายเจ้าของบ้าน
นางกำนัลกำลังสับสน นางฟังคำพูดของชายคนนี้เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
“ท่านคือใคร ที่นี่คือที่ใด” นางกำนัล
“ผมคือเจ้าของบ้านหลังนี้ครับ ที่นี่คือบ้านของผมเองครับ” ชายเจ้าของบ้าน
“เด็กเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ต้องพาไปหาหมอไหม” ชายเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้อง อย่ามายุ่งกับเด็กคนนี้” นางกำนัล
ใช้เวลาสนทนากันอยู่นาน กว่าจะสื่อสารกันเข้าใจ หน่วยกู้ภัยมาช่วยทำแผลให้กับเธอ ตรวจดูแล้วเด็กไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงแม่ของเด็กเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าถูกทำร้ายมา เธอตอบไม่ได้ว่าเป็นใครมาจากไหน บ้านอยู่ที่ไหนเธอบอกว่าเธอจำอะไรไม่ได้ ชายเจ้าของบ้านเป็นชายโสด จึงไม่รังเกียจที่จะให้เธอและลูกพักอาศัย เขาคิดว่าเธอโดนทำร้ายมาจึงทำให้ความทรงจำมีปัญหา และเธออาจจะสติไม่ดีด้วย เรื่องนี้เขาก็ไม่แน่ใจ เพียงแต่วิเคราะห์จากการพูดคุย เขาเป็นห่วงเธอและเด็ก จึงไม่ได้ขับไล่ เพราะเธอก็ไม่ได้มีท่าทางดุร้ายหรืออันตราย
“คุณพักที่ห้องนี้ไปก่อนนะครับ อยากได้อะไรก็บอกผม เดี๋ยวผมจัดการให้” ชายเจ้าของบ้าน
นางกำนัลเดินสำรวจภายในห้อง นางไม่รู้จักสิ่งของต่างๆ ที่เห็น แต่นางเป็นคนสนิทของฮองเฮา ย่อมไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้นางไม่มีที่ไป ไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแบบไหน นางไม่สามารถเอาพระธิดาออกไปเสี่ยงกับอันตรายรอบด้านได้ จึงต้องขออาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปก่อน
จากวันเป็นเดือน ความสนิท ความใกล้ชิดก่อให้เกิดเป็นความรัก นางแต่งงานอยู่กินกับชายเจ้าของบ้าน เรียนรู้การทำงานของเขา ช่วยทำงานบ้านและแบ่งเบางานของเขา จดทะเบียนรับพระธิดาเป็นลูก นางจะไม่มีวันพูดเรื่องชาติกำเนิดของพระธิดาให้ใครได้รู้อย่างเด็ดขาด นางและเขาช่วยกันส่งเสียเลี้ยงดูพระธิดาให้ได้รับความรัก ให้มีการศึกษา เสมือนบิดา มารดาเลี้ยงบุตรของตน
นางไม่รู้ว่าจะยังคงมีโอกาสได้กลับไปที่แคว้นเย่ว์อีกหรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงนางก็จะเลี้ยงดูพระธิดาอย่างดีที่สุดเท่าที่นางจะสามารถทำให้ได้
เป็นการปูพื้นฐานสำคัญของเรื่องก่อนที่จะดำเนินเรื่องนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
ยินดีรับฟังทุกคำวิจารณ์นะคะ ขอแค่กรุณาอย่าคอมเม้นท์หยาบคาย ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ