พิมพ์ลดา
เขียนโดย karnnuttha
วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 21.11 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 22.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) พิมพ์ลดา 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากตัดสินใจได้ตกกลางคืนคุณแก้วก็โทรทางไกลไปต่างประเทศหาคุณผู้หญิง และเล่าความผิดปกติทุกอย่างของคุณหนูให้คุณผู้หญิงทราบ
“คุณผู้หญิงคะ แก้วมีเรื่องต้องเรียนให้ทราบค่ะ คือช่วงนี้แก้วรู้สึกว่าคุณหนูผิดปกติไปหลายอย่างเลยค่ะ อย่างเช่น ปกติคุณหนูไม่ค่อยได้ตื่นเช้า แต่เดี๋ยวนี้ตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวันไม่เคยขาดเลย อีกอย่างนะคะ คุณหนูเป็นคนไม่ชอบทานกาแฟ และไม่ชอบทานเผ็ด แต่เดี๋ยวนี้คุณหนูสั่งกาแฟให้มาส่งที่บ้านทุกวัน และชอบทานอาหารรสเผ็ดมากค่ะ ถ้ามื้ออาหารไหนไม่มีของเผ็ด คุณหนูจะทานได้น้อยลงค่ะ และที่สำคัญที่สุดที่แก้วอยากจะแจ้งให้คุณผู้หญิงทราบคือ เวลาที่คุณหนูอยู่คนเดียวมักจะมีอาการเหม่อลอย แล้วก็แอบร้องไห้บ่อยๆ ค่ะ เรื่องนี้แก้วเป็นกังวลมากที่สุดเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไงดี จึงต้องโทรมาเรียนให้คุณผู้หญิงทราบก่อนค่ะ” คุณแก้ว
“เดี๋ยวฉันจะหาตั๋วเครื่องบิน บินกลับไปให้เร็วที่สุด อย่างไงช่วงนี้เธอก็พยายามอย่าทิ้งยัยพิมพ์ไว้คนเดียวนะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปคุยกับยัยพิมพ์เอง เธออย่าพูดอะไรให้ยัยพิมพ์รู้ตัวก่อนนะ ว่าฉันกำลังจะกลับไป เราจะได้เห็นพฤติกรรมของยัยพิมพ์จริงๆ ที่ไม่ได้แสร้งทำ” คุณศิรินภา
“ได้ค่ะ แก้วจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องกังวลค่ะ ขอให้คุณผู้หญิงเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยนะคะ” คุณแก้ว
“ขอบใจจ้ะ แล้วพบกันที่บ้านจ้ะ แค่นี้นะ” คุณศิรินภา
สามวันต่อมา
“คุณพิมพ์คะ วันนี้ต้องไปสอบแล้วใช่ไหมคะ” คุณแก้ว
“ใช่ค่ะ คุณแก้วอวยพรให้พิมพ์หน่อยสิคะ” พิมพ์ลดา
“แก้วขอให้คุณพิมพ์สอบผ่านทุกวิชานะคะ” คุณแก้ว
“ขอบคุณค่ะ แค่นี้พิมพ์ก็มีกำลังใจแล้วค่ะ” พิมลดาหอมแก้มคุณแก้ว
คุณแก้วพาพิมพ์ลดาเดินทางมาถึงสถานที่สอบ
“พิมพ์ขอตัวเข้าห้องสอบก่อนนะคะ คงหลายชั่วโมงอยู่ ถ้าคุณแก้วเบื่อไม่ต้องนั่งรอพิมพ์ก็ได้นะคะ จะไปเดินเล่นหรือจะกลับบ้านก่อนก็ได้ค่ะ พิมพ์ไม่งอนหรอกค่ะ” พิมพ์ลดายิ้มอย่างสดใส
ปกติแล้วคุณแก้วจะต้องนั่งเฝ้าพิมพ์ลดาจนกว่าจะสอบเสร็จ ไม่เช่นนั้นเธอจะงอนคุณแก้วหลายวัน แต่นั่นมันเมื่อก่อน สำหรับเธอตอนนี้ไม่จำเป็นต้องให้ใครมานั่งเฝ้าหน้าห้องสอบให้เสียเวลาไปเปล่าๆ อีกแล้ว
ใช้เวลาสอบนานถึงห้าชั่วโมง พิมพ์ลดาเดินออกจากห้องสอบอย่างมั่นใจ คุณแก้วยังคงนั่งรอเธอ เมื่อเห็นเธอเดินออกมาก็ยืนขึ้นเพื่อรับกระเป๋าอุปกรณ์เครื่องเขียนไปจากเธอ เธอส่งกระเป๋าให้ พร้อมกอดคุณแก้วยิ้มอย่างน่ารัก
“คุณแก้วทายสิคะ ว่าพิมพ์สอบผ่านไหม” พิมพ์ลดา
“คุณหนูของแก้วเก่งขนาดนี้ต้องผ่านอยู่แล้วค่ะ” คุณแก้ว
“ถูกต้องเลยค่ะ พิมพ์ผ่านทุกวิชาเลยค่ะ วันนี้เราไปเลี้ยงฉลองกันนะคะ” พิมพ์ลดา
“คุณพิมพ์อยากทานอะไรคะ เดี๋ยวแก้วทำให้ทานที่บ้านก็ได้ค่ะ” คุณแก้ว
“ไม่เอาค่ะ พิมพ์อยากไปทานสุกี้ เราไปทานด้วยกันนะคะ เดี๋ยวให้ลุงชวนไปนั่งทานด้วยกัน” พิมพ์ลดา
“ถ้าคุณผู้หญิงทราบจะดุคุณพิมพ์เอาได้นะคะ” คุณแก้ว
“คุณแก้วก็อย่าฟ้องคุณแม่สิคะ นะคะ นะนะ ถือว่าเลี้ยงฉลองที่พิมพ์สอบผ่านนะคะ” พิมพ์ลดาอ้อน
“ก็ได้ค่ะ แต่แค่วันนี้วันเดียวนะคะ ถ้าคุณผู้หญิงทราบว่าแก้วกับนายชวนมานั่งทานอาหารกับคุณหนู ถ้าไม่โดนตัดเงินเดือนก็คงโดนไล่ออกแน่ๆ ค่ะ” คุณแก้ว
ณ ร้านสุกี้ชื่อดังแห่งหนึ่ง
“รับอะไรดีคะ สั่งได้เลยนะคะ” พนักงานเสิร์ฟ
พิมพ์ลดาจำหน้าตาพนักงานคนนี้ได้ไม่มีวันลืม นี่มันมินตราไม่ใช่หรือ ไม่คิดเลยว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้เจอกันเร็วขนาดนี้ คงลำบากมากสินะถึงต้องมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟทั้งที่เรียนอยู่ม.ปลายเท่ากันกับเธอ เธอจ้องมองมินตราด้วยสายตาดุดัน
“คุณพิมพ์คะ คุณพิมพ์คะ มองอะไรอยู่คะ พนักงานรอคุณพิมพ์สั่งนานแล้วนะคะ” คุณแก้ว
“พิมพ์ไม่อยากทานอาหารในร้านนี้แล้วค่ะ เห็นหน้าพนักงานแล้วทานอาหารไม่ค่อยลง” พิมพ์ลดา
“เราไปทานอาหารที่ร้านอื่นกันดีกว่าไหมคะ” พิมพ์ลดา
มินตราที่กำลังยืนรอรับออเดอร์อยู่ ได้ยินทุกคำที่พิมพ์ลดาเอ่ย จึงมีน้ำตาซึมกำลังจะไหลออกมา
“ร้องไห้ ร้องไห้อะไรกัน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ เธอจะมายืนร้องไห้ทำไม หรือเก่งเรื่องบีบน้ำตา อ้อฉันลืมไปเธอมันเป็นพวกเสแสร้ง แสดงเก่ง แต่ตรงนี้คงไม่มีคนเห็นใจเธอหรอกนะ เสียใจด้วยนะมินตรา” พิมพ์ลดา
“ไปร้านอื่นกันดีกว่าค่ะคุณแก้ว ลุงชวน” พูดจบพิมพ์ลดาก็ลุกขึ้นเดินออกจากร้านไป
คุณแก้วกับลุงชวนเลยต้องรีบเดินตามออกจากร้าน
มินตรายืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น เธอไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นว่าเธอทำไม ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงรู้จักชื่อของเธอได้ล่ะ หรือว่าอ่านจากป้ายชื่อที่เธอติดอยู่
“มินผู้จัดการเรียก” พนักงานเสิร์ฟอีกคน
“ขอบคุณค่ะ” มินตรา
“เมื่อกี้เธอทำอะไร ทำไมลูกค้าถึงได้อารมณ์เสียเดินออกไป ที่ฉันรับเธอเข้าทำงานก็เพราะสงสารเห็นว่าอยากหารายได้พิเศษ ไม่ได้ให้เธอมาไล่ลูกค้านะ ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอเก็บของออกไปได้เลยนะ ฉันจะไล่เธอออก” ผู้จัดการร้าน
ถึงชาตินี้มินตราจะยังไม่ได้ทำร้ายพิมพ์แต่เข้าใจน้องพิมพ์นิดนึงนะคะ ความเจ็บปวดมันยังคงอยู่ เหมือนกับว่าเรื่องเพิ่งเกิด แผลยังสด จะให้น้องเจอหน้าแล้วพูดดีคงเป็นไปไม่ได้ รอให้น้องโตกว่านี้อีกนิด เดี๋ยวการแสดงออกจะเปลี่ยนไปค่ะ อย่าลืมว่าตัวน้องเพิ่งจะอายุ 16 ถึงข้างในจะ 32 แต่มันก็ต้องมีนิสัยเดิมๆ ติดมาบ้าง มาเป็นกำลังใจให้น้องพิมพ์กันนะคะ
ถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ช่วยกันกดแชร์หน่อยนะจ๊ะ ชวนเพื่อนมาอ่านด้วยกัน
อ่านแล้วรู้สึกยังไงคอมเม้นท์บอกกันบ้างนะจ๊ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
ยินดีรับฟังทุกคำวิจารณ์นะคะ ขอแค่กรุณาอย่าคอมเม้นท์หยาบคาย ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ