พิมพ์ลดา
เขียนโดย karnnuttha
วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 21.11 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 22.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) พิมพ์ลดา 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องนอนในบ้านหลังหนึ่ง มีสตรีกำลังนอนหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่มีแรงแม้แต่จะหยิบจับสิ่งใด ได้แต่นอนร้องไห้เงียบๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลริน ไม่มีใครจะสนใจดูแลเธอสักคน ตลอดชีวิตทั้งชีวิตของเธอ เธอทำแต่ความดีมาโดยตลอด เธอไม่เคยคิดร้าย หรือทำร้ายใคร แต่ทำไมชีวิตของเธอถึงต้องเป็นแบบนี้
“เป็นยังไงบ้างจ้ะพิมพ์ วันนี้ยังหายใจอยู่อีกเหรอ แหมเธอนี่ก็ตายยากตายเย็นเสียจริงนะ” มินตราเดินเข้ามา
“นี่ฉันพูดด้วยทำไมไม่พูดล่ะ ไหนว่าที่บ้านเป็นผู้ดีเก่า มารยาทแค่นี้ไม่รู้เหรอจ๊ะ อุ๊ยตายจริง ฉันลืมไปซะสนิทเลย ว่าเธอพูดไม่ได้” มินตราหัวเราะ
“นี่พิมพ์ฉันมีอะไรจะบอกเธอด้วยล่ะ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี ฉันไม่อยากให้เธอโง่จนตาย เธออยากรู้ไหมว่าใครที่เป็นคนตัดสายเบรกรถพ่อกับแม่ของเธอ” มินตราจับผมของพิมพ์ลดา
ดวงตาของพิมพ์ลดาหวั่นไหว ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว และเธออยากรู้ว่าใครเป็นคนที่ตัดสายเบรกรถคุณพ่อคุณแม่ของเธอ เธอจ้องมองมินตราด้วยดวงตาดุร้าย
“แหมๆๆ อย่ามองกันด้วยสายตาแบบนั้นสิจ๊ะ ไม่ใช่ฉันหรอกนะ ฉันน่ะไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก คนที่ทำก็สามีสุดที่รักของเธอไงจ๊ะ” มินตราหัวเราะ
พิมพ์ลดาดวงตาเบิกโพลง เธอไม่เคยสงสัยปรีชาสักนิด พิมพ์ลดาส่ายศีรษะไปมา
“นี่เธอไม่เชื่อฉันเหรอ มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะโกหกเธอไปทำไมกัน งั้นฉันจะบอกเธออีกอย่างก็แล้วกันนะ การที่เธอต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบนี้ก็เป็นฝีมือของสามีสุดที่รัก ของเธอเช่นกัน” มินตราหัวเราะ
มีเด็กสองคน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง วิ่งเข้ามากอดมินตรา
“คุณแม่ขา เราจะย้ายมาอยู่ที่นี่กันใช่ไหมคะ” เด็กหญิง
“คุณแม่ครับนี่คือบ้านใหม่ของเราใช่ไหมครับ” เด็กชาย
“อุ๊ยตายแล้ว น้องปราบ น้องปราง สวัสดีคุณน้าพิมพ์สิคะลูก นี่คุณน้าพิมพ์เป็นคนยกบ้านหลังนี้ให้กับเราจ้ะ” มินตรา
“สวัสดีค่ะ น้าพิมพ์” น้องปราง
“สวัสดีครับ น้าพิมพ์” น้องปราบ
“คุณแม่ขาถ้าน้าพิมพ์ยกบ้านหลังนี้ให้กับพวกเรา แล้วน้าพิมพ์จะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ” น้องปราง
“น้าพิมพ์จะย้ายไปอยู่ที่วัดอีกไม่กี่วันนี้แล้วค่ะลูก เดี๋ยวพวกหนูลงไปเล่นข้างล่างก่อนนะคะ คุณแม่มีธุระต้องคุยกับน้าพิมพ์ อีกเดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้วจ้ะ” มินตรา
“ค่ะ/ครับ คุณแม่” น้องปราง/น้องปราบ เด็กๆ วิ่งลงบันไดไป
“เห็นลูกของฉันกับชาแล้วเธอคิดว่าเป็นยังไง เหมือนฉันหรือเหมือนชา” มินตรา
พิมพ์ลดาทั้งตกใจและเสียใจ น้ำตาเธอไหลราวทำนบแตก
“ร้องไห้ ๆ เอะอะอะไรก็ร้องไห้ ชีวิตคุณหนูของเธอนี่มันช่างสุขสบายซะจริงนะ สุขสบายจนฉันอิจฉาเธอเลยล่ะ เธอรู้ไหมฉันกับชาเรารักกันมาก่อนที่เธอกับเขาจะคบกันซะอีก แต่ฉันไม่โกรธที่เธอมาแย่งเขาไปหรอกนะ เพราะว่ามันเป็นแผนของเขา ชาก็แค่เห็นว่าเธอโง่ ซื่อดี หลอกง่าย พูดอะไรเธอก็เชื่อไปซะหมด เธอคิดจริงๆ เหรอว่าเขารักเธอ เขาอยู่กับเธอมาห้าปีทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับเขาสักคนเลยล่ะ ก็เพราะเขาไม่อยากมีลูกกับเธอไง ชาบอกว่าถ้าเธอมีลูก มันจะก่อให้เกิดเป็นปัญหากับลูกของฉันกับเขา เขาก็เลยให้เธอกินยาเสมอ ไอ้ที่เธอเข้าใจว่าเป็นยาบำรุงนั่นไง นั่นล่ะเป็นยาที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ยิ่งเธอกินมันมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งหมดแรง อวัยวะในร่างกายจะค่อยๆ หยุดทำงาน” มินตราหัวเราะอย่างสะใจ เอามือลูบไปบนใบหน้าของพิมพ์ลดา
“พิมพ์เอ๋ยพิมพ์วันนี้เรามาเปิดใจคุยกันสักครั้ง ก่อนที่เธอจะตายก็แล้วกันนะ ตั้งแต่สมัยเรียน เธอชอบทำตัวอ่อนแอ บอบบาง น่าทะนุถนอมอยู่ตลอดเวลา เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดเธอมากแค่ไหน เธอมันก็พวกขี้อวด ชอบเอาของดีๆ แพงๆ มาอวดร่ำอวดรวย เป็นพวกคุณหนูหน้าโง่ ที่พอใครชมเข้าหน่อยก็บาน อันที่จริงแล้วฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเธอเลยสักนิด แต่ชาเขาเป็นคนบอกให้ฉันเข้าไปตีสนิทกับเธอ แล้วที่เขาขอเธอเป็นแฟนก็เพราะเขามั่นใจแล้วว่าสามารถกำจัดเธอกับทุกคนในครอบครัวของเธอได้ไม่ยาก เขาถึงได้คบกับเธอ ตลอดเวลาที่เขาคบกับเธอเขาก็มีฉันอยู่ตลอดเวลา ชาบอกฉันว่าเพื่ออนาคตของฉันกับเขาและลูกของเรา ชาถึงต้องยอมแต่งงานกับเธอ แต่ก็ต้องขอบคุณเธอนะช่วงที่เธอแต่งงานกับเขาฉันกำลังตั้งท้องลูกคนแรกของฉันกับชาพอดี ถ้าตอนนั้นเธอไม่แต่งงานกับเขา ฉันก็คงจะไม่มีเงินไปคลอดลูกในโรงพยาบาลดีๆ อันที่จริงเธอควรจะต้องขอบคุณที่ฉันแบ่งสามีให้เธอใช้ด้วยนะ แต่ฉันเห็นว่าตลอดเวลาที่เธออยู่กินกับเขาทำให้ชีวิตของฉันสุขสบายขึ้นมาก ฉันก็เลยไม่โกรธเธอ ฉันต้องขอบคุณเธอมากนะพิมพ์ ที่ยอมเซ็นยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับชา เพราะสุดท้ายแล้วมันจะตกเป็นของฉันกับลูกของเขา อ้ออีกอย่างที่สำคัญมากเลยนะพิมพ์ ฉันคิดว่าเธอคงยังไม่รู้เรื่องนี้แน่นอน ทะเบียนสมรสของเธอกับชา มันใช้ไม่ได้ตามกฎหมายนะจ๊ะ เพราะเธอน่ะจดทะเบียนซ้อน ฉันกับชาเราจดทะเบียนกันก่อนเธอกับชาจะจดกันหนึ่งสัปดาห์ ยังมีอะไรที่เธอควรจะรู้อีกไหมนะ เอาเป็นว่าวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนละกัน พูดมาตั้งนานฉันก็เริ่มหิวน้ำละ ฉันไปเข้าครัวทำอาหารเย็นรอชากลับมาดีกว่า ไปก่อนนะจ๊ะ เอาไว้ว่างๆ ฉันจะมาคุยเล่นกับเธออีกนะจ๊ะพิมพ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ฟังฉันคุยได้อีกซักกี่วัน” มินตราหัวเราะแบบสะใจ
เป็นยังไงกันบ้างคะ เปิดตัวมาก็รอรับเปลือกทุเรียนเลยเชียว 55555
ถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ช่วยกันกดแชร์หน่อยนะจ๊ะ ชวนเพื่อนมาอ่านด้วยกัน
อ่านแล้วรู้สึกยังไงคอมเม้นท์บอกกันบ้างนะจ๊ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
ยินดีรับฟังทุกคำวิจารณ์นะคะ ขอแค่กรุณาอย่าคอมเม้นท์หยาบคาย ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ