Waiting for you แค่เธอที่ใจต้องการ
เขียนโดย waradsadakorn
วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.02 น.
แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 20.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) แรกพบสบตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงดนตรีบรรเลงเคล้าเสียงเพลงอันสนุกสนานเล็ดลอดออกมาจากบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยอย่างไม่เว้นช่วงจังหวะให้กับความเงียบสงบเลยแม้แต่น้อย ครั้นเพลงจบการบรรเลง ก็มีเสียงพูดหยอกล้อในหมู่เพื่อนดังออกมาแทน สลับสับเปลี่ยนแบบนี้มาร่วมสองชั่วโมงแล้ว
แพรวรุ้งหยุดเดินแล้วมองไปยังบ้านหลังใหญ่ที่มีแสงไฟส่องสว่างทั่วฟ้าชวนให้ลายตา เรียวปากอิ่มยกยิ้มออกมาน้อยๆ พลางส่ายศีรษะไปมาเบาๆ ระบายลมหายใจหนักออกมาหนึ่งครั้งแล้วก้าวเท้าเดินต่อ
วันนี้เธอได้รับการขอความช่วยเหลือจากพี่สาวคนสนิทให้มาช่วยดูแลเด็กน้อยฝาแฝดในวัยสามขวบ ซึ่งเป็นหลานสาวสุดที่รักของเธอทั้งสองคนด้วยกัน เนื่องจากสามีของอีกฝ่ายต้องบินด่วนไปประชุมงานที่ต่างประเทศเป็นเวลาครึ่งเดือน
“พี่นิดคะ เปิดประตูให้แพรวหน่อยค่ะ ตอนนี้แพรวอยู่หน้าบ้าน” แพรวรุ้งบอกปลายสายที่เธอโทรหา ก่อนจะตัดสายแล้วหันไปมองบ้านหลังใหญ่ที่ยังครื้นเครง สนุกสนานไปด้วยการบรรเลงของแสงสีและเสียง
ถ้าแค่คืนเดียวคงไม่เป็นไร แต่หากเล่นจัดงานปาร์ตี้กันบ่อยๆ เธอคงต้องบอกให้นิดไปเตือนกันหน่อยเสียแล้ว อย่างน้อยก็ในฐานะของเพื่อนบ้านรั้วติดกัน
“มาแล้วเหรอแพรว...หอบอะไรมามากมายเนี่ยเด็กคนนี้” เจ้าของบ้านแม่ลูกแฝดรีบเปิดประตูรั้วให้หญิงสาวที่ยืนยิ้มอยู่ด้านหน้า ปากก็กล่าวว่าอย่างไม่จริงจังเมื่อเห็นว่ามือทั้งสองข้างของแพรวรุ้งเต็มไปด้วยข้าวปลาอาหารที่หญิงสาวซื้อมา
แทนที่หญิงสาวจะสนใจคำต่อว่าของนิด แพรวรุ้งกลับส่งสายตามองไปบ้านที่อยู่ด้านข้าง แล้วพูดถามแข่งกับเสียงดนตรี “ครึกครื้นเชียวนะคะ ไม่เกรงอกเกรงใจเพื่อนบ้านกันเลย เจ้าของบ้านเขารู้ไหมคะว่าบ้านเราน่ะมีเด็กอยู่”
“รู้สิ...เขาก็เดินขออนุญาตบ้านทุกหลังที่คาดว่าเสียงจากงานจะดังรบกวนเลยนะ...เอาน่า เข้าไปด้านใน ปิดประตูบ้านเสียก็ไม่ดังเท่าไหร่หรอก พี่บอกเขาไปแล้วว่าขอไม่เกินสี่ทุ่ม”
“ก็ยังดีที่รู้จักคำว่ามารยาททางสังคม” แพรวรุ้งพึมพำแล้วเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปด้านใน
“เฮ้ย! ทิม วันเกิดกูทั้งทีมึงสนุกหน่อยสิวะ มานั่งหล่อเป็นหมอจำศีลอยู่ได้”
ร่างสูงโปร่งถือแก้วไวน์สองแก้วเดินเข้ามาหาเพื่อนรักที่นักข่าวทุกสำนักต่างตั้งฉายาให้เขาว่า ‘พ่อหนุ่มดอกไม้’ ด้วยท่าทางร่าเริง ใบหน้ายิ้มแย้มเจ้าเล่ห์
สนต์กับทิมธัชทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน จนกระทั่งตอนนี้ทั้งคู่ต่างเป็นเดือนประดับวงการบันเทิง นิสัยของทั้งคู่นั้นต่างกันสุดขั้ว แต่เคมีด้านการแสดงความสัมพันธ์กลับลงตัวจนแฟนคลับหลายคนจับให้เป็นคู่จิ้นชาย-ชายอันดับหนึ่งของวงการ หากไม่ติดว่าเจ้าของงานวันเกิดมีข่าวพัวพันกับสาวงามหลากวงการ รักๆ เลิกๆ ราวกับเป็นปกติในชีวิตประจำวันแล้วละก็ คงไม่พ้นถูกกล่าวหาว่าทั้งคู่แอบคบกันเป็นแน่
ทุกครั้งที่มีข่าวหลุดออกมา ทั้งทิมธัชและสนต์ ต่างก็ไม่มีใครออกมาปฏิเสธเลยสักคน..
“ถ้ากูจำศีล กูคงไม่มานั่งกินเหล้าอยู่ในงานปาร์ตี้ของมึงหรอกว่ะ” หนุ่มหน้าสวยเถียงเพื่อนรักเสียงต่ำ
ความจริงแล้วเขาไม่เห็นด้วยกับงานในวันนี้ของสนต์เลยสักนิด แต่ก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้มากนัก นอกจากเสนอให้อีกฝ่ายทำการแจ้งเพื่อนบ้านถึงงานที่จัดขึ้น ซึ่งอาจมีเสียงดังรบกวนทุกคนเล็กน้อย และอีกไม่ถึงชั่วโมง....งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ก็ต้องจบลงตามคำสัญญาที่พวกเขาได้ให้ไว้กับเพื่อนบ้านคุณแม่ลูกแฝด
“เอ่อๆ กูไม่คุยกับมึงล่ะ เชิญมึงดื่มด่ำกับธรรมชาติของงานปาร์ตี้อยู่คนเดียวเถอะว่ะ กูขอสุดเหวี่ยงก่อนงานเลี้ยงต้องเลิกราดีกว่า...ไปนะ”
เร็วเท่าคำพูด ร่างสูงของสนต์ก็เคลื่อนเข้าไปปะปนอยู่กับกลุ่มเพื่อนหญิงชายริมสระกว้างทันที หลังจากมองหาสาวสวยที่ถูกใจได้ ดาราหนุ่มก็ไม่รอช้ารีบหว่านเสน่ห์ของตัวเองที่มี พร้อมกับโอบรั้งเอวบางทรงสวยของหญิงงามนางหนึ่งเข้าหาตัว ส่งสัญญาณบางอย่างผ่านการสัมผัสทางกายไปให้อีกฝ่ายรับรู้
“คุณสนต์จะอยู่ส่งแขกก่อน หรือจะไปรับแขกพิเศษอย่างอรบนห้องนอนกันสองคนดีคะ” นางแบบสาวร่างสวยในชุดบิกินีกระชับสัดส่วนถามเสียงแผ่ว สบสายตาอันปรารถนาของดาราหนุ่มไม้เลื้อยอย่างไม่เกรงกลัว
แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีทางปฏิเสธ! ร่างสูงตวัดแขนอุ้มนางแบบสาวขึ้นจากน้ำทันที จุดหมายปลายทางสำหรับเขาตอนนี้คือเตียงนอนนุ่มขนาดกว้างบนชั้นสอง ที่พร้อมจะรองรับแรงกระแทกจากพายุอารมณ์สวาทของเขาและเธอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ