ฟาดหนุ่มซิง

-

เขียนโดย Webster

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 06.29 น.

  7 ตอน
  7 วิจารณ์
  3,130 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 06.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คืนนั้นดินนอนคิดถึงคําพูดของตัวเองอยู่เป็นชั่วโมง ตอนแรกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองทําถูกต้อง คนหลงตัวเองที่ดีแต่ข่มเหงรังแกผู้อื่น เป็นฝ่ายโดนด่าเองบ้างก็สมควร ที่เขาตําหนิเธอเพราะว่าการกระทําอันบัดซบของเธอเองก็ถือว่าชอบด้วยเหตุผล ตัวเขาไม่ได้ทําอะไรผิด ดังนั้นเขาก็ไม่มีเหตุผลให้รู้สึกผิดเลย เขาคิดแบบนี้ตอนที่แปรงฟัน เวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่งกว่าๆ หลังจากนั้นก็นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ในห้องนอนอีกครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยไปนอนอ่านต่อบนเตียงอยู่อีกยี่สิบนาทีกว่าๆ แล้วค่อยปิดไฟที่หัวเตียงก่อนนอนหลับตา แต่ก็ยังไม่สามารถหลับได้ในทันที

ทว่าหลังจากที่หนุ่มร่างบางปิดไฟเตรียมจะนอนแล้ว ดินกลับคิดขึ้นมาได้ว่าคู่กรณีที่ตนด่าไปในวันนี้อาจจะไม่ได้ยํ่าแย่แบบที่คิด จริงอยู่ที่อีกฝ่ายเป็นคนเย่อหยิ่ง มีนิสัยจองหองอวดดี แต่ว่าคนเราก็ใช่ว่าจะเกิดมาเลวเสมอไป บางครั้งบางคราก็เลวร้ายเพราะคนอื่นให้ท้าย คอยตามใจมาโดยตลอด ทําให้กลายเป็นคนหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกผู้คน อยากจะด่าใครยังไงก็ด่าไปได้ แม้แต่ตัวดินเองที่ภูมิใจที่ระงับอารมณ์เก่งยังวู่วามพูดจาไม่ดีกับแอมไปแล้วเลย นับปราสาอะไรกับเด็กรวยที่โดนพ่อแม่เลี้ยงดูแบบตามใจ มีผู้คนประจบสอพลอมาเป็นปีๆ

เช้าวันต่อมา เขาก็ตื่นขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกอ่อนเพลีย นั่นเป็นเพราะว่าดินนอนพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืนเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของแอม จนในตอนนี้เขาก็ตัดสินใจได้แล้วว่าควรจะทํายังไงต่อไปดี ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนชั่วโดยเนื้อแท้ของตัวเอง เขาก็จะลองให้โอกาสเธอดูอีกครั้ง พูดจาดีๆกับเธอ เลิกด่าว่าเธอเหมือนกับที่ทําลงไปเมื่อวาน เพื่อว่าจะช่วยให้เธอกลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย ดีกว่าการนั่งอยู่เฉยๆและไม่ทําอะไรเลย มันไม่ใช่นิสัยของเขาที่จะใช้วิธีหนีปัญหาแบบนั้น ไม่ใช่จริงๆ คิดได้แบบนี้เขาก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

วันนี้เขาไม่ได้ช่วยตัวเองหลังตื่นนอน เป็นเพราะว่าเมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย เลยรู้สึกอ่อนเพลียบ้าง ไม่มีอารมณ์ชักว่าว ได้แต่เดินตรงไปยังห้องนํ้าและเริ่มแปรงฟันทันที พอแปรงเสร็จเขาก็อาบนํ้าเย็นให้สดชื่นแล้วเช็ดตัวให้แห้ง สวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย และลงไปทําอาหารเช้า แม่ของเขากําลังมองมาที่ดินด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่พอใจที่เขาพูดจาไม่ดีกับแอมเมื่อคืน เพราะว่าต้องการให้เขามีเพื่อนบ้าง ดินรู้สึกผิดที่ทําให้แม่ของเขาผิดหวังแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยกจานข้าวมาวางไว้ที่โต๊ะหน้าพ่อแม่แล้วนั่งลงรับประทานพร้อมๆกันสามคนพ่อแม่ลูก

พ่อของดินสังเกตเห็นว่าท่าทีของทั้งสองคนดูผิดปกติ ราวกับว่ามีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้ เขาทนดูอยู่ไดสักพัหนึ่งจึงค่อยถามขึ้นว่า "ทั้งสองคนมีอะไรกันรึเปล่า ทําไมวันนี้ไม่พูดไม่จากันเลย" ดินและแม่ต่างก็เงียบ ไม่ตอบอะไรสักคํา ทําให้่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาฉายแววไม่ค่อยพอใจที่ไม่มีใครตอบ "ดิน บอกพ่อมาซิ ทําไมวันนี้ดูแปลกๆไป มีเรื่องอะไร" ทําให้ดินรู้ตัวว่าเดี๋ยวต้องยอมพูด ไม่งั้นพ่อของเขาก็คงจะเป็นห่วงและพยายามถามคําถามเดิมซํ้าๆต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาหรือแม่จะยอมตอบ สู้ตอบตอนนี้ไปเลยยังจะดีซะกว่า

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามค้นหาคําพูดที่เหมาะสม ก่อนจะอ้าปากเอ่ยไปว่า "พอดีเมื่อคืนมีงานเยอะน่ะครับ ผมเลยต้องทํานานหน่อน กว่าจะได้นอนก็ดึกกว่าปกติ เลยยังรู้สึกง่วงอยู่ครับ" พ่อของเขาฟังแล้วก็พยักหน้า และทุกคนก็นั่งกินอาหารเช้าด้วยกันต่อไป หลังจากกินกันเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเป็นคนแรกและเก็บจานกับช้อนซ้อม "ไว้เดี๋ยวผมเอาไปล้างให้ครับ" เขาพูดและยกไปที่ห้องครัวทีเดียวทั้งหมด เปิดนํ้าแล้วก็ล้างอย่างพิถีพิถัน จนทั้งจานและช้อนซ้อมสะอาดสะอ้าน ก่อนปิดนํ้าและเอาไปวางตากไว้ให้แห้งตรงจุดเดิม

เขาสองแม่ลูกไปขึ้นรถเหมือนกับทุกเช้าและแม่ของเขาก็เริ่มขับออกไปแบบเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร ดินรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้ เขารอจังหวะสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปเลยตรงๆว่า "ผมได้คิดเรื่องการมีเพื่อนแบบที่คุณแม่ต้องการแล้วนะครับ" ทําให้แม่เขามองเขาด้วยหางตาก่อนจะจ้องไปด้านหน้าแบบมีสมาธิเหมือนเคย แค่นั้นก็ทําให้เขารู้แล้วว่าเธอสนใจจะฟังต่อ "ผมตั้งใจจะไปขอโทษแอมที่โรงเรียนวันนี้หลังจากเสียมารยาทกับเธอไป เพื่อว่าวันนึงเราออาจจะเป็นเพื่อนกันได้ ถึงแม้ว่าโอกาสมันจะน้อยมากก็ตาม" เขาพูดอย่างมั่นคงกว่าที่คิดไว้

แม่ของเขาดูเหมือนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยบ้าง แต่ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย "ก็ดีอยู่หรอกลูก แต่เมื่อวานลูกดูเหมือนรังเกียจเธอมากไม่ใช่หรอ แล้วทําไมวันนี้จู่ๆถึงมาเปลี่ยนใจเอาล่ะ" เธอจอดตรงไฟแดงแล้วหันมามองหน้าลูกคนเดียวอย่างครุ่นคิด ก่อนจะชักสีหน้าเหมือนกับคิดอะไรดีๆออกอย่างหนึ่ง ทัาให้ดินสงสัยว่าแม่เขาคิดอะไรอยู่ "หรือว่าความจริงแล้วลูกแอบชอบเขา ใช่หรือเปล่า อายุสิบเจ็บแล้ว จะมีแฟนสักคนแม่ก็ไม่ว่าหรอกนะ ขอแค่อย่าคบซ้อนก็พอ เข้าใจมั้ย" ดินแทบจะสําลักอากาศกับคําพูดของคุณของแม่เขาเลยทีเดียว

ดินถอนหายใจยาวเฮือกนหนึ่งแล้วตอบไปว่า "นั่นก็เป็นเพราะว่าผมมองแอมผิดไปต่างหากครับคุณแม่ ไม่ใช่เพราะผมชอบเขาแบบนั้น" ตอนนี้แม่ของเขากลับมาดูมีท่าทีงุนงงกับคําพูดของลูกคนเดียว ดินไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงดี ถึงแม้ปกติเขาจะมีทักษะในการพูดที่ดี แต่เวลาเรียบเรียงเรื่องอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว เขากลับไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ "ตอนแรกผมนึกว่าเธอนิสัยไม่ดี ชอบเหยียดหยามเด็กเนิร์ดอย่างผมและคนอื่นๆที่มีเงินน้อยกว่าครอบครัวเธอ แต่เมื่อคืนผมนึกขึ้นมาได้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็คงเพราะคนอื่นเอาแต่ประจล จะโทษเธอคนเดียวก็ไม่ได้น่ะสิครับ ผมเลยอยากลองให้โอกาสเธอดูสักครั้งหนึ่ง"

ตอนนี้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว แม่ของเขาเหยียบคันเร่ง รถพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง "ดีแล้วล่ะลูกแม่ หัดให้โอกาสคนอื่นบ้าง ต่อไปนี้เวลาอยู๋โรงเรียนจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวไง ดีมั้ย" เธอถามด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ทําให้ดินรู้สึกดีขึ้นเยอะ อีกไม่นานรถก็ไปถึงโรงเรียน เธอจอดไว้อยู่ตรงหน้ารั้วทางเข้าแล้วหันไปมองหน้าเขา บอกลูกชายว่า "เย็นนี้แม่มารับตรงจุดเดิมนะ" ดินพยักหน้าก่อนลงจากรถและเดินเข้าไปในโรงเรียน เขาคาดหวังว่าวันนี้จะเหมือนกับวันอื่นๆ คืออยู่ตามลําพัง ไม่มีใครให้พูดคุยด้วย แต่กลับไม่รู็เลยว่าตนคิดผิดมากแค่ไหน

...............

ทันทีที่ดินเดินไปถึงห้องเรียนของวิชาคาบแรกของวัน เขาก็พบกับสาวน้อยหน้าตาสดใสคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้อง เป็นคนที่เข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เธอหันหน้ามาเห็นเขาพอดีแล้วเกิดอาการหน้าแดงทันดี พลันยิ้มให้กับเขาอย่างเขินอาย "หวัสดีนะ ฉันชื่อว่าทิพ เป็นนักเรียนใหม่น่ะ" อ๋อ ที่แท้เพิ่งย้ายมานี่เอง ไม่น่าถึงไม่คุ้น เขาแปลกใจกับท่าทีเขินอายของอีกฝ่ายเพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแสดงท่าทีแบบนี้กับเขามาก่อนเลย คงเป็นเพราะเธอเป็นเด็กใหม่เลยอายมั้ง เขาคิดในใจ "ว่าแต่นายชื่ออะไรน่ะ บอกฉันแล้วก็พาฉันไปเดินดูรอบๆโรงเรียนหน่อยสิ"

ดินกระแอมทีหนึ่งด้วยความเคอะเขิน เขาไม่คุ้นเคยกับการมีสาวมาชวนคุยเลยนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบเธอในนํ้าเสียงสุภาพว่า "ผมชื่อดิน ยินดีที่ได้รู็จักคุณนะ" ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่าหล่อนกําลังจินตนาการว่าเรือนร่างผอมบางของเขาที่ซ่อนอยู๋นั้นจะเป็นยังไงตอนโดนจับถอดเสื้อผ้า "ไว้เดี๋ยวตอนพักหลังคาบเช้าแล้วก็ตอนกลางวัน ผมจะพาคุณไปเดินดูรอบๆให้ทั่วทั้งโรงเรียนเลยนะครับ" เธอรีบพยักหน้า ทิพรู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นได้ตกหลุมรักดินตั้งแต่แรกพบแล้ว หญิงสาวตั้งใจจะใช้เวลาอยู่ใกล้เขาแล้วค่อยๆแอบหยอดไปเรื่อยๆ จะต้องทําให้เขาเป็นของเธอให้ได้

...............

หลังจากที่ดินได้พูดคุยกับทิพและพาเธอไปเดินวนดูรอบๆโรงเรียนตอนกลางวัน เขาก็ร่าเริงแจ่มใสขึ้นมาก ตอนนี้เขากําลังนั่งทํางานอยู่ที่บ้านตัวเองกับแอม ชายหนุ่มนั่งคิดอยู่สักพักแล้วจึงรวบรวมความกล้าที่มีอยู่ บอกเธอไปว่า “ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณน่ะครับ” ทําให้เธอมองขึ้นมาจากหนังสือเรียนไปที่ใบหน้าของดิน “ผมอยากจะขอโทษคุณสําหรับสิ่งที่ผมพูดกับคุณไปเมื่อวาน ผมเข้าใจคุณผิดไปจริงๆ ผมไม่สมควรว่าคุณแบบนั้น ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะครับ”

แอมแปลกใจมากที่จู่ๆดินก็พูดกับเธอแบบนี้ มันทําให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอจึงมองหน้าเขาแล้วก็ตอบร่างบางไปว่า “ทําไมจู่ๆถึงรู้สึกผิดขึ้นมาล่ะ ก็เมื่อวานยังเห็นทําท่าเหมือนเกลียดชังฉันเข้าไส้อยู่เลย” นักว่ายนํ้าสาวจ้องตาเขาแบบไม่กระพริบจนดินรู้สึกเก้อกระดากขึ้นมาบ้าง ทันได้นั้นแอมก็ถามขึ้นมาว่า “หรือนายไม่อยากซิงแล้วเลยหวังว่าถ้าขอโทษฉัน นายก็จะมีโอกาสได้แอ้มฉันน่ะ ใช่หรือเปล่า ตอบฉันมาสิ” แค่คิดเธอก็รู้สึกสะอิดสะเอียนมากจนขนหัวลุกแล้ว

ดินรีบส่ายหน้าเพราะไม่ต้องการให้คนอื่นมาเข้าใจตัวเองผิดแบบนี้ ไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่ชอบเวลาถูกมองแบบดูแคลนและไม่อยากเจอกับแววตาอย่างนั้นอีก “คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะแอม ที่ผมคิดไม่ใช่แบบนั้นเลย” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ “ตอนแรกผมมองว่าคุณเป็นคนเลวโดยสันดาน แต่ความจริงน่าจะเพราะสภาพแวดล้อมมากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ให้ท้าย มีเพื่อนฝูงคอยเอาอกเอาใจ คงไม่เป็นแบบนี้หรอก” แอมต้องตกตะลึงกับวาจาของหนุ่มน้อยคนนี้เป็นครั้งที่สามหลังจากเริ่มพูดคุยกัน

แอมมองหน้าเขาไปสักพัก ทําเอาดินรู้สึกเขินจากการถูกจ้องอย่างต่อเนื่อง เธอมองดินอีกครู่หนึ่งก่อนถามเขาว่า “นายคิดได้มากขนาดนี้ทั้งๆที่เพิ่งคุยกับฉันไม่นานเลยเหรอ?” เธอมองดูเขาอย่างใจจดใจจ่อ แบบที่ไม่เคยมองใครมาก่อนเลยในชีวิต นับว่ามันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่อย่างที่หญิงสาวยังไม่เคยมี

“ก็ใช่น่ะสิ ผมว่าเนื้อแท้คุณจริงๆอาจเป็นคนดีก็ได้ เพราะขะนั้นเราอย่าทะเลาะกันอีกเลย มาพูดคุยกันดีๆดีกว่า” ชายหนุ่มยิ้มให้เธอเล็กน้อย มันเป็นครั้งแรกที่ทําให้แอมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่ารักคนหนึ่ง ทําให้อยากอยู่ใกล้

แอมมองหน้าเขาพร้อมยิ้มกลับ “ขอบใจมากนะ ถ้าเป็นคนอื่นโดนฉันร้ายใส่คงไม่ยอมพูดดีๆด้วยแบบนี้ ฉันขอบใจนายมาก” เธอรู้สึกขอบใจเขามากจริงๆและอยากอยู่ใกล้ๆเขา หลังจากที่เขาพูดให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เขามีในตัวเธอ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา