สามี
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.13 น.
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 09.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
44) วันแม่ของไอติม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสามี (44)
โรงเรียนอนุบาล....กิจกรรมวันแม่
...เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่าเด็ก ๆ ที่นั่งประจำเคียงข้างผู้ปกครองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างร่าเริง เด็กหญิงไอติมที่เดินจับมือกับคุณพ่อเจและแม่แนนของเธออย่างมีความสุข ใบหน้าเธอดูมีชีวิตชีวากว่าทุกวัน
"เดินดี ๆ ลูกเดี๋ยวหนูจะล้มนะคะ" เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น เมื่อเด็กหญิงนั้นเดินจับมือพ่อเจและแม่แนนอยู่ตรงกลาง ทิ้งตัวโยนอย่างไม่คิดกลัวล้มเพราะคิดว่าจับมือคนเป็นพ่อดีแล้ว
"วันนี้ไอติมดีใจ อยากให้แม่แนนมาส่งโรงเรียนทุกวันเลยค่ะ" เด็กหญิงดีดตัวเดินในท่าปกติหลังจากผู้เป็นพ่อนั้นตำหนิเธอ
"พ่อมาส่งหนูคนเดียวก็ได้" คนเป็นพ่อมองหน้าหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นกับลูกสาว
"....แต่บ้านแม่แนนอยู่ไกล น้องไอติมให้คูมพ่อมาส่งก็พอค่ะ" เด็กหญิงก้าวขาสั้น ๆ เดินไป พรางเงยหน้ามองหญิงสาวและส่งยิ้มสดใส
"เป็นเด็กดีจังเลย..." หญิงสาวหยิบพวงแก้มกลมเบา ๆ อย่างเอ็นดูกับคำพูดที่แสนน่ารัก
"น้องไอติมกลัวแม่แนนไม่รักเลยต้องเป็นเด็กดี" เด็กหญิงพูดด้วยความใสซื่อ ดวงตากลมสดใสเงยมองหน้าหญิงสาวอย่างเปี่ยมสุขในใจ
((ไอติม)) เสียงเรียกขานระหว่างเดินไปอาคารที่จัดกิจกรรม เด็กชายผมสีทองเดินมากับพ่อและแม่ของเขา วิ่งกรูเข้าหาเด็กหญิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มร่าเริง
"เจท!" เด็กหญิงหยุดเดินแล้วหันไปมอง พรางทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองนั้นต้องมองตาม
"สวัสดีครับ" เด็กชายยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่ยืนยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันเหสายตามองหน้าเด็กหญิง
"สวัสดีค่ะ...ชื่ออะไรครับเนี้ย" หญิงสาวที่เห็นเด็กชายหน้าตาน่ารักจึงเอ่ยทักทันที ด้วยพื้นฐานที่ชอบเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"ชื่อเจทครับเป็นเพื่อนไอติม" เด็กชายแนะนำตัวทันทีอย่างรู้งาน
"น่ารักจังเลย...วิ่งไม่รอคุณพ่อคุณแม่เลย" หญิงสาวพูดแซวเมื่อเห็นพ่อแม่ของเด็กชายกำลังเดินเข้ามาใกล้
"แดดดี๊ครับ มัมครับ ไอติมเพื่อนเจท" เด็กชายแนะนำเพื่อนหญิงด้วยความตื่นเต้นแก่พ่อและแม่
((สวัสดีค่ะ/ครับ)) พ่อเจและแม่แนนกล่าวทักทายเมื่อพ่อแม่ของเจทหยุดยืนด้านหลังเด็กชาย
"สวัสดีค่ะคุณ....เอ่อ~~อ่า คูมแดดดี๊ คูม...คูมมัมของเจท" เด็กหญิงกล่าวทักทายยกมือประนมแนบอก และเอ่ยติดขัดเมื่อไม่คุ้นชินกับสรรพนามเรียกขานที่เธอยังไม่ค่อยรู้จัก
(ฮ่าฮ่า...หนูน้อยน่ารักเชียว) แม่ของเจทเอ่ยชมในความเดียงสาของเด็กหญิง
((So cute)) แล้วตามสำทับด้วยพ่อของเจทที่เป็นชาวต่างชาติเอ่ยชมเด็กหญิงตามเพราะความน่ารักของเธอที่เฉิดฉายบนใบหน้า
"คิ้วเหรอ?...น้องไอติมมีคิ้วฉองข้างค่ะ คิ้วข้างที่หนึ่ง คิ้วข้างที่ฉอง" เด็กหญิงที่เดียงสาเอ่ยขึ้นด้วยความเข้าใจของตัวเอง พรางชี้นิ้วมือบอกอย่างชี้ชัด จนทำเอาคนรอบกายนั้นปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
"ไอติมไม่ใช่คิ้วบนหน้า แดดดี๊ของเจทบอกว่าไอติมน่ารัก" และเป็นเด็กชายผมสีทองที่คลี่คลายความหมายให้เด็กหญิงนั้นเข้าใจ
"น่ารักเหรอ...น้องไอติมน่ารักเหรอคะคูมแม่ของเจท" เด็กหญิงหันไปถามความเห็นอย่างไม่นึกกลัวแม้จะเพิ่งพบเจอกันครั้งแรกก็ตาม เธอกล้าที่จะถามหากเกิดความสงสัย
"ใช่ค่ะ...น้องไอติมน่ารักมาก ๆ เจทชอบพูดถึงหนูประจำเลยตอนอยู่ที่บ้าน" แม่ของเจทลูบหัวเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู
"ผมว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะครับ แดดเริ่มร้อนแล้ว" คุณพ่อเจเอ่ยชวนเมื่อจวบใกล้เวลางานและแดดก็เริ่มร้อนจริง ๆ อย่างที่เขาว่า
...........
...เมื่อพิธีการเริ่มขึ้นเหล่าผู้ปกครองก็นั่งประจำที่ เหล่าลูก ๆ วัยน่ารักก็เริ่มมอบพวงมาลัยบนเวที และมีเหล่าเเสงเเฟลชจากกล้องถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพที่ซาบซึ้งของแม่และลูก....จนเวลาเวียนมาบรรจบถึงแถวของผู้ปกครองของเด็กหญิงไอติม ในระดับชั้นอนุบาลหนึ่ง
...ร่างกายกลมเดินอย่างช้า ๆ นำหน้าเพื่อ เข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งประจำที่ พร้อมกับพวงมาลัยดอกมะลิที่ถูกจัดวางบนพานให้ดูสวยงาม เธอนั่งพับเพียบเรียบร้อย ใบหน้าน้อย ๆ และดวงตากลมสดใสจ้องมองหน้าหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
"แม่แนนสวย" เด็กหญิงเอ่ยชมหญิงสาวที่นั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าเธอ วันนี้เป็นวันที่เด็กหญิงมีความสุขสุดใจ มีแม่ให้กราบไหว้เฉกเช่นเพื่อนคนอื่น ๆ
"น้องไอติมก็น่ารัก" หญิงสาวลูบหัวเล็กเบา ๆ พร้อมยิ้มหวานส่งให้ พวงแก้มกลมใสที่มีไมค์อันเล็กจ่อปากอย่างเตรียมการเพียงแค่เธอรอสัญญาณจากคุณครูเท่านั้น ด้วยการฝึกซ้อมจนจดจำ
...ผู้เป็นพ่อที่นั่งร่วมกิจกรรมอยู่ด้านล่างเวทีกดชัตเตอร์ถ่ายภาพไม่ว่างเว้น ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เขาเปี่ยมล้นในหัวใจ ใบหน้าลูกสาวดูผ่องใสสดชื่นมีความสุข ทำให้เขานั้นมีความสุขตามเพียงมีรอยยิ้มของลูกสาวเปื้อนบนใบหน้า
((ลำดับต่อไปจะเป็นการมอบพวงมาลัยแด่คุณแม่ของนักเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง และมีบทกลอนซึ้ง ๆ เชิญรับฟังได้เลยค่ะ))...เสียงของพิธีกรประกาศส่งสัญญาณ
...เสียงปรบมือของเหล่าผู้ปกครองดังกังวานลั่นอาคารอเนกประสงค์เพื่อเป็นกำลังใจ
...เมื่อสัญญาณทำให้เด็กหญิงรับรู้ เธอจึงเริ่มเอื้อนเอ่ยด้วยความตั้งใจตามที่ได้ฝึกฝน
...........
*...พระคุณแม่ กว้างดั่ง มหาสมุทร
...พระคุณแม่ ไม่สิ้นสุด มหาศาล
...พระคุณแม่ คณานับ ดั่งสายธาร
...พระคุณแม่ ผูกผสาน เป็นสายใย
...ลูกซาบซึ้ง พระคุณแม่ ปลาบปลื้มจิต
...ลูกรู้คิด รู้ธรรม เพราะแม่สอน
...ลูกจึงขอ บอกรักแม่ ผ่านบทกลอน
...ลูกวิงวอน ...เอ่อ...วิงวอน...กราบลง ตักแม่เอย!
............
เสียงปรบมือดังกระหึ่มลั่นอาคารอเนกประสงค์ พร้อมกับน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ แม้จะติดขัดในการจดจำตามวัยที่ยังไม่ประสาแต่ว่าก็ทำให้น้ำตาของบรรดาแม่ ๆ นั้นรินไหล เมื่อบทกลอนที่แสนจะกินใจจบลง ด้วยน้ำเสียงใส ๆ ในการขับกลอนของเด็กหญิงไอติม ที่ใช้ความพยายามอย่างมากในการจดจำเพราะเธอนั้นยังไม่สามารถอ่านหนังสือเองได้
....ทุกจังหวะของการขับกลอน เด็กหญิงจ้องมองใบหน้าหญิงสาวที่เธอเรียกว่าแม่แนนตลอดเวลา คำพูดทุกคำกับสายตาที่หญิงสาวจ้องมองเด็กหญิงไอติมทำให้เธอน้ำตาไหลอย่างไม่อาจเก็บกั้นความรู้สึก ยิ่งเธออ่านบทกลอนอย่างตั้งใจมันสื่อความหมายของคำว่าแม่ได้อย่างลึกซึ้ง ยิ่งทำให้คนที่ขาดความรักจากแม่มาก่อนไม่อาจทัดทานความรู้สึกไว้ได้...จนต้องปล่อยน้ำตาให้ไหลรินตลอดบทกลอน...
...เหล่าบรรดาลูก ๆ มอบพวงมาลัยดอกมะลิหอมหวนลงมือแม่ แล้วค่อย ๆ ก้มกราบเท้าด้วยการสั่งสอนของคุณครูประจำชั้น เด็ก ๆ ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ของแต่ละคนที่ใบหน้าแปดเปื้อนด้วยน้ำตา
"น้องไอติมรักแม่แนนเท่าฟ้า" เด็กหญิงที่ถูกกอดแน่นเอื้อนเอ่ยตามใจรู้สึก ยิ่งคำว่ารักหลุดจากปากเด็กหญิงยิ่งทำให้น้ำตาของหญิงสาวนั้นรินไหลต่อเนื่อง เธอซาบซึ้งกับมาว่าแม่ที่เด็กหญิงเรียกขาน
"แม่แนนก็รักไอติมนะคะ...รักมากๆ เลย" ทั้งสองกอดกันด้วยรัก หญิงสาวกอดแน่นให้ความอบอุ่นแก่เด็กหญิงเข้าใจความรู้สึกของการขาดพ่อแม่มาก่อน แม้จะเป็นลูกติดจากชายที่รัก ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่เธอก็รักเด็กหญิงคนนี้ด้วยหัวใจที่มี และพร้อมจะเป็นแม่ให้เธอโดยไม่ร้องขอใด ๆ
"แม่แนนอย่าร้องสิคะ เดี๋ยวไม่สวย คูมพ่อไม่รัก...น้องไอติมยังไม่ร้อง" เด็กหญิงละจากอ้อมกอด เอื้อมมือป้อม ๆ ลูบเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มของหญิงสาว พร้อมเอ่ยกล่าวอย่างปลอบใจ
"ฮึก อึก...แม่แนนขี้แยจัง สู๊ด...มาเป็นลูกสาวแม่แนนนะคะไอติม" หญิงสาวสูดดมพวงแก้มกลมทั้งน้ำตา ดึงร่างเด็กหญิงเข้ามากอดอีกครั้งด้วยความรักใคร่
.....กิจกรรมบนเวทีจบลงหญิงสาวเดินจับมือเด็กหญิงลงจากเวที แล้วแกะไมค์ตัวเล็กส่งคืนแก่ทางคุณครู ผู้เป็นพ่อเดินมารับคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มและดวงตาที่แดงก่ำ เขาซึ้งใจกับภาพที่เห็น เขาปลื้มปริ่มและมีความสุขอย่างมากกับภาพความรักก่อนหน้านี้
"เรากลับบ้านของเรากันนะครับ"
*ผู้ถ่ายทอดบทกลอน : ปีกไม้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ