สะ-กด-รัก

-

เขียนโดย LaVieRosy

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.23 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,467 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) Learn

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            น้ำส้มคั้นสดเย็นฉ่ำทำให้ปริมาสดชื่นตื่นเต็มตาหลังจากเมื่อคืนได้เข้านอนจริงๆเมื่อล่วงเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วโมง ปฐวีใช้ซองสีเงินที่เขาโยนลงบนเตียงจนหมด บอกเธอหน้าตายว่า

 

            ‘พี่ซื้อเก็บจนจะหมดอายุแล้ว เสียดายตังค์ต้องใช้ให้หมด’

 

            คิดแล้วก็อยากจะบิดเนื้อคนที่นั่งซ้อนกอดด้านหลังเกยคางบนไหล่เธอเอาไว้ตอนนี้ที่กำลังพิมพ์ตอบอีเมล์อย่างสบายใจนัก เธอตื่นมารู้สึกเหมือนระบมไปทั่วตัวในขณะที่เขาสดชื่นเกินหน้าเกินตา ยิ้มกรุ้มกริ่มยามมองเธอตลอดเวลา

 

            “ลาป่วยเรียบร้อย วันนี้ปรางอยากไปไหนครับ เราไปเดทกันนะ”

 

            หญิงสาวหันมามองคนที่มองเธอตาใส

 

            “จู่ๆก็ลางานได้ไงคะ คุ...เอ้อ พี่แดน”

 

            ริมฝีปากถูกจุมพิตตามคำประกาศิตของเขา

 

            ‘ต่อไปนี้เรียกคุณแดนจะต้องโดนทำโทษ’

 

            “ลาวันเดียว บริษัทพี่คงไม่เจ๊งหรอก พี่ไม่ได้ลางานเป็นชาติแล้วมั้ง เดี่ยวก็จะได้พักด้วย ว่าไงครับ อยากไปไหน”

 

            ปริมาเอียงคอคิด ปกติเธอก็ไม่ค่อยไปไหนนัก เพราะแม้จะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยพอสมควร แต่ก็อยู่กันอย่างธรรมดาๆ ที่ที่ติวเตอร์เช่นเธอไปมากที่สุดคงหนีไม่พ้นร้านหนังสือ จริงสินะ ตอนนี้กำลังมีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ระยะหลังเธองานยุ่งจนไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว

 

            “อยากไปงานหนังสือค่ะ อยากไปดูแบบฝึกหัดเพิ่มให้แพท”

 

            สายตาที่มองเธออ่อนแสงลงเมื่อเธอพูดถึงลูกสาว

 

            “ปกติทำงานจริงจังแบบนี้ตลอดเวลาเลยเหรอ”

 

            “มันเป็นความรับผิดชอบนี่คะ ปรางจะคิดถึงตัวเองตอนนั้นที่ปรางสอบเข้ามหาลัย ความฝันมันดูไกลแต่ก็เป็นโลกทั้งใบของเด็กผู้หญิงอายุสิบเจ็ดคนนึง ทั้งเครียด ทั้งกังวล ทั้งกลัวคู่แข่งเยอะแยะ อยากทำให้คนในบ้านภูมิใจ อยากเห็นทุกคนมีความสุข ปรางจะคิดเสมอว่าปรางกำลังเดินไปข้างๆเด็กๆทุกคนเพื่อไปส่งพวกเขาให้ถึงเส้นชัยให้ได้ ในวันที่ประกาศคะแนน ประกาศผลสอบ สิ่งที่ได้มันมีค่ามากกว่าเงินมาก รอยยิ้ม ความสุขของเด็กๆ คือสิ่งที่ทำให้ปรางอยากทำอาชีพนี้”

 

            เธอเล่าไปก็ยิ้มไปเมื่อนึกถึงเด็กๆที่เรียนกับเธอทั้งหลาย

 

            “ทำไมเราสองคนพ่อลูกโชคดีแบบนี้นะ ที่ได้เจอปราง”

 

            ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาประคองแก้มขาวนวลเอาไว้ จูบที่ปลายจมูกเล็กอย่างรักใคร่

 

            “แล้วพี่แดนอยากไปไหนรึเปล่าคะ”

 

            “ตอนนี้ ไปไหนก็ได้ที่ปรางไปด้วย ไปได้ทั้งนั้น”

 

            เธอย่นจมูกกับคำตอบหวานเลี่ยนของเขา

 

            “เดี๋ยวอย่าบ่นก่อนละกัน ปรางเดินได้เป็นวันๆนะคะ ขอบอก”

 

            “สบายมาก ไป ไปอาบน้ำกันดีกว่า”

 

            พูดจบเขาก็ช้อนตัวเธอขึ้น ปริมารีบโวยวาย

 

            “เดี๋ยวค่ะๆ พี่แดนก็กลับไปอาบที่ห้องพี่แดนสิคะ”

 

            “อาบด้วยกันนี่แหละ จะได้ช่วยกันถูหลัง เมื่อคืนเหงื่อออกกันเต็มตัว อาบคนเดียวเดี๋ยวไม่สะอาดนะครับ”

 

            ใบหน้าหญิงสาวแดงแปร๊ดอีกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ภาพ เสียง แต่ละฉากเลื่อนเข้ามาในหัวชัดเจน

            “ปรางอาบสะอาดค่ะ พี่แดนไปอาบที่ห้องพี่แดนได้เลยค่ะ ปรางอาบเองได้”

 

            ปฐวียิ้มกริ่มกับอาการลนลานของหญิงสาว ไม่ฟังเสียงใดๆเดินก้าวเร็วๆพาเธอขึ้นมาที่ห้องน้ำชั้นสอง วางหญิงสาวลงที่อ่างล้างหน้า ดึงสายชุดคลุมออก

 

            “พี่แดน”

 

            “ครับผม น่า จะอายอะไรกันอีก เมื่อคืนก็เห็นกันทุกซอกทุกมุ...”

 

            เธอยกมือมาทาบปิดปากเขาทันที ตัวแดงไปทั้งตัว ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ จับมือที่ปิดปากเขามาจูบนิ้วเรียวขาวนวลนั้นทีละนิ้วๆอย่างอ่อนหวาน

 

            “อาบน้ำอย่างเดียว พี่สัญญา นะครับ ถอดเสื้อให้พี่หน่อย”

           

            น้ำเสียงเขาออดอ้อน ชูมือขึ้นให้เธอเหมือนเด็ก ปริมาตัดใจข่มความอาย อาบก็อาบ ในเมื่อตกลงคบหากันแล้วเธอก็อยากทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุด แม้เธอจะไม่เคยแต่ก็เรียนรู้มาบ้างว่าผู้หญิงเราหากไม่จำเป็นก็อย่าปฏิเสธความต้องการของผู้ชายในวันที่เขายังต้องการเราอยู่ เธอจับเสื้อยืดของเขารูดออกทางศีรษะ ขณะที่เขาปลดกระดุมเสื้อเธอรวดเร็วปานกัน ท่อนบนของทั้งคู่เปลือยเปล่า

 

            ในแสงสว่างเต็มตาเช่นนี้ ปฐวีมองร่างเล็กขาวผ่องที่อะไรๆไม่เล็กตามตัวตาปรอยอย่างหลงใหล เขารีบถอดเสื้อผ้าที่เหลือของเขาและเธอออกและพาเธอไปยืนใต้ฝักบัวด้วยกัน ชายหนุ่มทำเพียงอาบน้ำให้เธอกับขอเก็บค่าอาบน้ำเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เขาตั้งใจทำความสะอาดผิวของเธออย่างทะนุถนอมให้สะอาดหมดจด ปริมาก็ทำดุจเดียวกันให้เขา เธอพบว่าช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ เป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจสดชื่นผ่อนคลายมากทีเดียว ทั้งสบายตัวและสุขใจ

 

            ปริมาเลือกชุดเดรสยาวเกือบถึงข้อเท้าแขนกุดลายทางสีฟ้าขาว ผูกโบว์หลวมๆที่เอว เธอต้องลุกนั่งเลือกหนังสือ การใส่ชุดยาวสบายตัวดีที่สุดสำหรับเธอ ส่วนปฐวีเลือกเชิ้ตสีเดียวกันคอจีนแบบเรียบกับกางเกงผ้าสีกากีให้เข้ากับเธอ เดี่ยวจัดการขนเสื้อผ้ามาให้เขาจัดเรียงเข้าตู้ให้อย่างเรียบร้อยตั้งแต่เช้ามืดตามคำสั่ง เขาพับแขนเธอขึ้นมาที่ศอกทั้งสองข้าง ขณะมองหญิงสาวรวบผมเป็นมวยบนศีรษะทุยเปิดลำคอระหง เลือกต่างหูกับนาฬิกา

 

            เขาสังเกตว่านาฬิกาสำคัญกับเธอมาก ใส่ติดข้อมือไม่เคยขาดและใส่วนอยู่ไม่กี่เรือนเป็นแบบเรียบๆเหมือนๆกัน ส่วนต่างหูก็มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นแบบไม่หวือหวาแต่เก๋ไก๋ มักจะมีมุกไม่ก็เพชรประดับอยู่ด้วยเสมอ ทำให้เขานึกถึงปัทมาผู้เป็นมารดาที่ดูจะมีรสนิยมคล้ายกัน

 

            ปฐวีเลือกขับรถไปเองเพราะอยากใช้เวลากับเธอส่วนตัวรวมถึงให้เดี่ยวได้พักเต็มที่ การจราจรก่อนเที่ยงหนาแน่นเล็กน้อยแต่ก็ดูเหมือนจะไม่น่าเบื่อเลยที่มีปริมาอยู่ด้วย พูดคุยกันไปเรื่อยๆตลอดทาง

            ชั่วโมงกว่าต่อมาชายหนุ่มกับหญิงสาวก็กอบกุมมือกันเดินเข้าสู่สถานที่จัดงาน ปริมาดึงมือเขาไปที่บูธที่มีแผนที่ให้ดูและมีคูปองส่วนลดจากสำนักพิมพ์ต่างๆแจก หญิงสาวหยิบปากกาที่มีติดตัวตลอดเวลามาเขียนเลขตามลำดับ บางตัวมีเครื่องหมายเพิ่มเติม ก่อนจะเดินไปดูลาดเลาที่บูธของไปรษณีย์เพื่อส่งหนังสือกลับบ้าน

 

            “ถึงกับต้องส่งไปรษณีย์กลับเลยเหรอ รถพี่ก็คันใหญ่นะ”

 

            ปริมาเพียงยิ้มให้กับสีหน้าสงสัยของเขา...เดี๋ยวก็รู้...

 

            เพียงหนึ่งชั่วโมงถัดมา เขาก็เข้าใจว่าทำไมต้องส่งหนังสือกลับทางไปรษณีย์ เพียงบูธเดียวปริมาก็ได้หนังสือมากมายท่วมหัว ขนาดเขาเป็นผู้ชายช่วยถือยังรู้สึกแขนเริ่มเมื่อยแขนแล้วปกติ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอมาคนเดียวและซื้อหนังสือมากมายขนาดนี้เลยหรือ ชายหนุ่มถามเมื่อผ่านไปสองชั่วโมงแต่ยังเดินได้ไม่ถึงสามบูธ

 

            “ก็ลดราคาเยอะนี่คะ แล้วก็มีหนังสือใหม่ๆออกมาตลอด คนเป็นติวเตอร์ต้องอัพเดทตัวเองตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นจะไปสอนเด็กๆให้ดีได้ยังไง อย่างตำราภาษาอังกฤษก็เอาไปอ่านทบทวนตัวเอง พัฒนาตัวเอง ส่วนแบบฝึกหัดก็เอาไปดู ไปเรียนรู้วิธีการออกแบบ แบบฝึกหัดใหม่ๆของตัวเองให้ทั้งสนุกแล้วก็เด็กๆได้ฝึกฝนได้ดีที่สุด ให้พวกเขาได้ใช้ความรู้มาจัดการกับโจทย์หลายๆแบบให้เป็น มันเป็นเป้าหมายของปราง เรียนเพื่อใช้ความรู้ได้จริงๆ ไม่ใช่สอบแล้วจบไป ปรางอยากเห็นเด็กที่เรียนกับปรางได้ใช้ภาษาเพื่ออนาคตของพวกเขาไปได้ตลอดชีวิต”

            ปฐวีมองเธอด้วยหัวใจที่มีความรู้สึกพิเศษบางอย่างก่อตัวขึ้น

 

            “บอกตรงๆ พี่ไม่เคยคิดเลยว่าคนเป็นติวเตอร์จะจริงจังขนาดนี้ พี่เคยคิดว่ามันเป็นงานที่โกยเงินได้เยอะมากในพริบตา”

 

            ปริมายิ้มกับเขา พยักหน้าอย่างเข้าใจ

 

            “ไม่ใช่แค่พี่แดนหรอกค่ะ มีอีกหลายคนที่คิดว่าอาชีพอย่างเรางานสบายแล้วโกยเงินมหาศาล แต่นั่นก็แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง การแข่งขันสูง เราต้องเท่าทันโลก พัฒนาตัวเองให้ทันแล้วก็ทำงานให้หนักเสมอเพื่อเด็กๆ ปรางคิดว่าอาชีพไหนก็เหมือนกัน เราต้องให้ก่อน ให้ด้วยความซื่อสัตย์จริงใจแล้วเราจะได้กลับมาเอง สำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับงานที่ทำทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ให้จบๆไป เด็กๆเขาสัมผัสได้นะคะ หัวใจเขาจับความรู้สึกบางเรื่องได้ดีกว่าเราที่เป็นผู้ใหญ่ซะอีก”

 

            เธอพูดไปยิ้มไป จนเขายิ้มตาม

 

            “ปรางชอบงานนี้ขนาดนี้เลยเหรอครับ”

 

            หญิงสาวพยักหน้าทันที อย่างไม่ต้องคิด

 

            “แค่ปรางได้อยู่กับตัวหนังสือที่ปรางหลงรักมาตั้งแต่เด็กทุกวัน แค่นั้นก็เป็นเหตุผลที่มากพอแล้วไม่ใช่เหรอคะ จะมีอะไรโชคดีไปกว่านี้อีก”

 

            ปฐวีนิ่งไป มองเธอยิ้มไปถึงดวงตา สำหรับเขางานคือภาระหน้าที่ที่อยากสานต่อให้ดีที่สุด ตัวเลขที่โตขึ้นคือเป้าหมาย ความสุขคือยอดสรุปผลกำไรปลายปีในแฟ้มที่อ่าน ทุกๆวันผ่านไปเพื่อการแก้ปัญหา การตัดสินใจ กำไรขาดทุน เขาไม่รังเกียจและเต็มใจกับงานที่ทำอยู่ก็จริงแต่ไม่เคยมองเป็นความรักแบบที่ปริมากำลังแสดงให้เห็น

 

            “ปรางยังจำได้ครั้งแรกที่สอนตอนนั้นปรางเป็นนิสิตปีหนึ่ง ไปสอนพาร์ทไทม์ที่..... ได้ค่าจ้างวันละสามร้อยแต่สอนเด็กไม่รู้กี่คน”

 

            เธอเอ่ยชื่อสถาบันสอนภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ชื่อดัง

 

            “ยังไม่รวมตรวจการบ้านด้วย งานเยอะมากแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ สนุกที่ได้ทำ ที่ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับเด็กๆ พี่แดนรู้ไหมคะ บางครั้งเราไปเพื่อสอนแต่เป็นเด็กๆที่สอนเรา คำพูดบางคำ ความตั้งใจมุ่งมั่นของพวกเขาเติมพลังงานบวกให้ปรางเสมอ เหมือนที่ปรางบอกเวลาปรางมองแพท ปรางก็ได้สอนตัวเองด้วยว่าขนาดเด็กๆยังสู้เลยนะแล้วเราจะไม่สู้ได้ยังไง”

 

            “มีหลายครั้งที่ปรางท้อ เหนื่อย เครียด ปรางเคยโดนผู้ปกครองมายืนด่าหน้าห้องเรียนว่าเลิกเรียนช้า ไม่ตรงเวลา เคยโดนโทรมาปลุกเพื่อต่อว่าตั้งแต่หกโมงเช้าว่าทำไมไม่ช่วยลูกเขาทำการบ้าน สี่ห้าทุ่มก็โทรมาจะให้เฉลยข้อสอบให้ลูกไปสอบเช้าวันต่อไป หลังๆต้องเปิดแอร์เพลนโหมดตอนนอนเพราะไม่งั้นไม่ได้นอน แต่ก็โทรเข้าไลน์ เข้ามาทางเฟสบุ๊คเมสเซ็นเจอร์อยู่ดี”

            ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ปริมาจึงใช้นิ้วไปคลายออกให้

 

            “ใต้ยอดภูเขาน้ำแข็งของทุกๆงาน ปรางเชื่อว่าก็เป็นแบบนี้ คนมองพี่แดนก็มองแต่ด้านสวยหรู มีเงินมาก นั่งเซ็นต์เอกสารในห้องแอร์เย็นฉ่ำสบายๆ แต่ใครจะมารู้ว่าพี่แดนแบกรับอะไรเอาไว้บ้าง งาน คน เงิน ค่าใช้จ่าย กำไร ขาดทุน ลูกค้า งานพี่แดนเหนื่อยกว่าปรางเยอะค่ะ”

 

            ปฐวีรู้สึกว่าความรู้สึกพิเศษที่ก่อตัวขึ้นนั้นกำลังค่อยๆหยั่งรากลึกลงไปในหัวใจของเขา มือใหญ่เอื้อมมือไปคว้ามือเธอมาจูบที่หลังมือแนบแน่น

 

            “พี่แดน!”

 

            เขาเพียงยักไหล่ ซ้ำยังจูบซ้ำลงไปอีกรอบ

 

            “อยากน่ารักเองทำไม ช่วยไม่ได้นะครับ”

 

            หญิงสาวค้อนก่อนชวนเขาเดินต่อ ปฐวีเพลิดเพลินที่ได้มองเธอเลือกหนังสือแต่ละเล่มด้วยความตั้งใจ บางครั้งเขาเห็นเธอนั่งลงไปบนพื้น เปิดไล่ดูหนังสืออย่างละเอียด ทีละหน้า ทีละหน้า เกือบห้าชั่วโมงที่เขาเดินตามเธอไปอย่างไม่เบื่อ หนังสือทั้งหมด ปริมากับเขานั่งลงบนพื้นแพ็คใส่กล่องไปรษณีย์ขนาดใหญ่รวมได้หลายกล่องแล้วส่งไปที่บ้านของเขา เมื่อจูงมือกันออกมาฟ้าก็มืดพอดี ปฐวีจึงชวนหญิงสาวหามื้อเย็นกินต่อที่ห้างในเมือง

            เดินสำรวจกันอยู่พักหนึ่ง ทั้งคู่ก็เลือกร้านอาหารไทยแนวครอบครัวเก่าแก่ร้านหนึ่งที่ทั้งเขาและเธอกินมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ เป็นร้านอาหารไทยร้านแรกๆที่มีเมนูข้าวไข่ข้นต่างๆ ปริมาเจริญอาหารมากเพราะใช้พลังงานไปเยอะและมีคนคอยตักอาหารเติมใส่จานให้เสมอ

 

หลังจากนั้นจึงชวนกันเดินเล่นย่อยอาหาร ปฐวีสังเกตว่าหญิงสาวไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษเมื่อเขาถามว่าอยากได้อะไรหรือไม่ในแผนกเครื่องสำอาง เธอก็ตอบเพียงว่าของที่ใช้อยู่ยังไม่หมด แตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยคบหาที่หากเขาเอ่ยเช่นนี้ พวกเธอจะไม่รีรอแวะไปตามเค้าท์เตอร์ต่างๆอย่างเพลิดเพลินใจโดยมีเขาคอยรูดการ์ดให้หลังจากนั้น ซึ่งเขาก็เต็มใจอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ต่างออกไป

 

ปริมาชวนเขาลงไปโซนร้านขนมและซุปเปอร์มาร์เก็ต ถามเขาว่าเดือนเพ็ญกับเดี่ยวชอบขนมอะไรบ้างและได้ของฝากคนในบ้านเป็นขนมกินเล่นหลายอย่าง

 

“แพทชอบสตรอเบอรี่กับองุ่น ก้านยังเขียวสดๆเลยมาจากญี่ปุ่นด้วย เอาไปเก็บไว้ให้แพทกันนะคะ อ่านหนังสือเหนื่อยๆ ต้องกินของมีประโชน์เยอะๆ”

 

แล้วก็เลือกสตรอเบอรี่ลูกโตสีแดงสวยกับองุ่นพวงใหญ่สีเขียวสดหลายพวงใส่รถเข็น เป็นอย่างเดียวที่ปฐวีรูดการ์ดจ่ายไปวันนี้ ระหว่างทางกลับ การจราจรช่วงค่ำหนาแน่นพอสมควรแต่เขาไม่เบื่อเลย

 

“ขอบคุณนะคะ ที่พาปรางไปเที่ยววันนี้ ครั้งหน้าต้องไปที่ที่พี่แดนอยากไปบ้างนะ”

 

หญิงสาวกระชับมือที่กุมกับเขาไว้ ปฐวีหันมายิ้มถามเหมือนท้า

 

“กล้าไปกับพี่ทุกที่จริงนะ”

 

ปริมาย่นคิ้วอย่างสงสัย แต่เธอกล้ารับคำท้าอยู่แล้ว

 

“แน่นอนค่ะ ถ้าอยากให้ปรางไปด้วย ปรางก็จะไป”

 

เขาเพียงหัวเราะหึหึในลำคอ...เดี๋ยวก็รู้...

 

อีกหนึ่งชั่วโมงถัดมาเขาก็เดินจูงมือเธอมาถึงห้อง ทันทีที่ผ่านประตูเข้าไปวงแขนแข็งแรงก็ตวัดอุ้มเธอขึ้น

 

“พี่แดน!”

 

“ปรางบอกว่าที่ไหนที่พี่อยากให้ปรางไป ปรางก็จะไปด้วยใช่ไหม”

 

ปริมาเหมือนจะเริ่มรู้แล้วว่าคำว่า “ทุกที่” ของเขาหมายความอย่างไรเมื่อเขาเดินตรงขึ้นบันไดตรงมาที่ห้องนอน จัดการปลดกระเป๋าสบายของเธอออกโยนเอาไว้ พาเธอตรงไปนั่งที่อ่างล้างหน้าเมื่อเช้า จับขาเรียวเสลาให้เกี่ยวรอบเอวของเขาไว้

“ถอดเสื้อให้พี่นะครับ”

 

เขาก้มลงมากระซิบเสียงพร่าข้างใบหูและขบเม้มเบาๆ หญิงสาวตระหนักว่าครั้งนี้คงไม่ใช่เพียงแค่การอาบน้ำ ‘เฉยๆ’ แบบเมื่อเช้าเป็นแน่แต่ก็อยากตอบแทนที่วันนี้เขาใจดีกับเธอมาทั้งวัน จึงเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเนื้อดีลงมาทีละเม็ดอย่างตั้งใจ ส่วนเขารูดซิปชุดเธอและดึงออกไปอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยวนาที

 

“กางเกงด้วยครับ ถอดให้หมดเลย”

 

เขาก้มมากระซิบแล้วงับใบหูให้เธอหวามไหวอีกครั้ง

 

มือของปริมาสั่นเล็กน้อยตอนที่แตะไปที่กระดุมเม็ดใหญ่และดึงซิปลงมา เธอลงมายืนแล้วจับขอบกางเกงนอกและในของเขารูดลงมาจนสุดปลายเท้า ความปรารถนาของเขาดีดตัวออกมาทันที เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นมันอย่างชัดเจนใต้แสงสว่างไสวของห้องน้ำกว้าง เมื่อเช้าเธอยังเลี่ยงไม่ถูสบู่ให้เขา แต่ครั้งนี้ ปฐวีจับมือนุ่มมาวางบนตัวตนอุ่นร้อนของเขาจับมือเธอให้ลูบไล้สัมผัสแนบชิดตามการนำของเขาจนเริ่มมีเสียงครางในลำคออย่างพอใจ

 

ชายหนุ่มก้มลงมาจูบริมฝีปากบาง ปล่อยให้เธอขยับเคลื่อนไหวมือนุ่มตามใจ ส่วนมือเขาลูบไล้ไปทั่วร่างสะคราญนวลเนียน ปลดผ้าชิ้นน้อยที่เหลือบนตัวเธออีกสองชิ้นออก จูบเธอเร่าร้อนขึ้นขณะเดินถอยหลังนำเธอเข้ามาในส่วนฝักบัวอาบน้ำ

มือใหญ่เปิดเรนชาวเวอร์ให้น้ำอุ่นรินรดร่างทั้งคู่ ก่อนกดสบู่กลิ่นหอมมาถูเป็นฟองในมือแล้วเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างหญิงสาว ครานี้เขาเคล้นคลึงวนไล้ยอดอกสีชมพูสวยทั้งสองข้างอยู่นานจนเธอเริ่มครางออกมาและลูบรูดตัวตนของเขาเร็วขึ้นตามอารมณ์ มือปฐวีเลื่อนลงไปลูบไล้เนินเนื้อนุ่มด้านล่าง ไล้รอยแยกอย่างนุ่มนวลแต่ทำให้ปริมายิ่งหวามไหวและครางเสียงหวาน

 

ชายหนุ่มรู้สึกถึงความพร้อมพรักของเธอจึงรีบฟอกสบู่ให้ตัวเองและเธอก่อนเปิดน้ำอุ่นล้างอีกครั้ง เขาจับเธอให้หันเข้าหาผนังหินอ่อนสีดำระยับ จับเอวคอดที่เอวคอดค่อยๆขยับตัวตนเข้าสู่สะโพกกลมกลึง ปริมาครางหวาน ยกมือมายันที่ผนังไว้เมื่อชายหนุ่มเข้ามาจนสุดและเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าหา เขาจับใบหน้าเธอให้หันไปรับจูบ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง มือใหญ่เลื่อนมากอบกุมทรวงอกที่ส่ายไหว้ด้านหน้า จูบบดเบียดเร่าร้อนขึ้นตามจังหวะสะโพกที่แรงขึ้นและเร็วขึ้น จนกระทั่งปริมาหวีดร้องตอดรัดตัวตนของเขา ปฐวีขยับกายอีกสองสามครั้งก็คำรามระเบิดความปรารถนาออกมา

 

ชายหนุ่มซวนซบคลอเคลียร่างเปลือยเปล่าในอ้อมแขน พึมพำขอบคุณเธอและจูบอย่างอ่อนหวานดูดดื่ม รอจนปรับลมหายใจกันเป็นปกติจึงเปิดน้ำล้างตัวอีกครั้งและอุ้มหญิงสาวห่อผ้าเช็ดตัวออกมา ซับหยดน้ำให้ทั่วทั้งตัวจนแห้ง ปริมาตัวอ่อนเหมือนตุ๊กตายามที่เขาสวมชุดนอนเนื้อนุ่มแบบกระโปรงให้และอุ้มไปนอนบนเตียงนุ่ม จูบคลอเคลียไปทั่วใบหน้าอีกครั้งก่อนจะสอดแขนเข้ามากอดรัดเธอแนบแน่นให้หลับไปในอ้อมแขนอบอุ่น

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา