เธอ(YOU)

9.8

วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.24 น.

  11 chapter
  0 วิจารณ์
  7,488 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม พ.ศ. 2565 12.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) This is So Crazy!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

“เฮียว่าเราเมามากแล้ว กลับบ้านไปพักเถอะ คนพวกนั้นเดี๋ยวเฮียจัดการเอง”

 

เจษลินทร์ได้ยินเสียงซีเปียนคุยกับน้องชายทุกถ้อยคำ ใช่ว่าเขาอยากเสียมารยาทแอบฟัง แต่เขามึนหัวและง่วงหนักมาก คล้ายจะวูบได้ทุกเมื่อ ยืนไม่อยู่จนต้องพิงร่างกับผนังทางเดินไว้

พยายามตั้งสติเดินเลียบผนังกลับไป แต่ยิ่งเดินก็เหมือนยิ่งจะไม่ไหว เขาเห็นคนเดินสวนมารางๆ จึงเอ่ยเรียกขอความช่วยเหลือ

“ขอโทษครับ ร รบกวนหน่อ-” พูดยังไม่ทันจบสติของเจษลินทร์ก็พลันดับหายไปพร้อมกับร่างของเขาที่ล้มลง โชคดีที่อีกฝ่ายแม้จะตกใจแต่ก็รับไว้ได้ทัน

“เห้ยคุณ!” พยายามเขย่าตัวคนที่หมดสติอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะจำใจอุ้มร่างไร้สติไปที่รถของเขา

 

.

.

“งื้อ ร้อนจังเลย จันทร์เร่งแอร์ให้หน่อย” เจษลินทร์พูดทั้งๆที่ไม่ได้ลืมตา มือก็ปัดป่ายรั้งเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อออกจากคอ

ปัณณวิชญ์ยืนค้ำเอวมองดูคนตรงหน้าที่เขาเพิ่งแบกมาวางโซฟากลางห้องของตัวเองเมื่อกี้

กดเปิดพัดลมเพดานให้อีก แม้ว่าเขาจะเปิดแอร์แล้วเพราะเห็นว่าเจษลินทร์คงจะร้อนจริงๆ เหงื่อผุดเต็มหน้าไปหมด

เจษลินทร์นอนขยับไปขยับมาคล้ายคนกระสับกระส่าย มือขาวปัดป่ายแกะกระดุมแล้วถอดเสื้อเชิ๊ตตัวเองออก

“ร้อนน เวียนหัวอ่า” ร่างบางบ่นพร้อมถอดเสื้อกล้ามออกอีกตัว

ปัณณวิชญ์จึงเดินไปเอาน้ำเย็นมาให้

“คุณ ดื่มน้ำก่อน” พร้อมประคองคนที่เปลือยท่อนบนลุกขึ้นมาดื่มน้ำ พรางคิดอะไรบางอย่าง

‘ไม่ใช่! นี่ไม่น่าใช่ร้อนธรรมดา เขาร้อนเพราะยาต่างหาก!

คิดได้ดังนั้นปัณณวิชญ์ยกมือกุมขมับตัวเอง

ถ้ามาตายในห้องจะทำยังไงวะเนี่ย?

เขาวางคนตรงหน้าลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อน

ทันทีที่เพื่อนกดรับ ปัณวิชญ์ไม่รอให้ปลายสายได้เอื้อนเอ่ยคำใด เขารีบแจ้งจุดประสงค์ของตัวเองออกไป

"อี้ มาหาหน่อย มีเรื่องให้ช่วยว่ะ"

[พ่อ บางทีมึงอาจจะลืมว่ากูมาต่างจังหวัดนะ]

[ทำไมมีอะไร]

"ถ้าโดนยา แต่ไม่รู้ว่ายาอะไร จะทำไงดีวะ"

[อาการเป็นไง ไหนบอกหมอซิ]

"เหมือนคนเมา ร้อน เหงื่อออกเยอะ หายใจถี่ มือเย็นเฉียบ แล้วก็นอนกระสับกระส่าย"

[มึงเป็นเองเหรอ แต่กูฟังเสียงหายใจมึงก็ปกติดีนี่]

"ไม่ใช่กู ไม่ต้องถามด้วยว่าใคร แค่ช่วยกูแก้ปัญหาก่อน หรือต้องไปโรงบาลวะ?"

[อืม มึงลองเอามือลูบหน้าเขาดิ๊]

ปัณณวิชญ์ทำตามที่เพื่อนบอก

[เป็นไง]

"เขาเหมือนมีปฏิกิริยา พึมพำ อือ ออในคอ"

[ลองลูบคอดิ๊]

"เชี่ยไรมึงเนี่ย อีกนิดจะล่วงละเมิดแล้วนะ"

[ไอ้บ้า ลองดูก่อน กูแค่อยากแน่ใจ]

ปัณณวิชญ์ทำตามที่เพื่อนบอกอีกครั้ง

"เชี่ย!"

[เค้าเคลิ้มใช่มั้ย?]

"เออสิวะ"

[ชัดเลย ยาปลุกเซ็กส์จ้าพ่อ ยินดีด้วย] ปลายสายเอ่ยเสียงติดตลก

"ฆรวย!"

"แล้วกูต้องทำไง?"

[มึงก็จัดไปดิ ซักดอกสองดอก]

"ไอ้สัสอี้ ไอ้หมอไร้จรรยาบรรณ!"

[โอ้ย แค่ล้อเล่น ให้อภัยกันได้หรือไม่เล่า]

"สรุปกูต้องทำยังไง"

[อาการเขารุนแรงมั้ย แบบเขารุกมึงมั้ย]

"ไม่นะ แค่นอนดิ้นไปดิ้นมา เหมือนอยากจะหลับแต่หลับไม่ได้ แถมบอกว่าเวียนหัว"

[อ่า แสดงว่ายาไม่แรง ลองเอาน้ำให้กินเยอะๆ หรือถ้าเขาร้อนมากมึงก็เอาไปแช่น้ำเย็นซักพัก]

[ถ้าหลับก็คงจะไม่มีไรแล้ว ถ้าไม่ดีขึ้นมึงก็ต้องจัดแล้วป้ะ]

"ฆรวย"

ปัณณวิชญ์กรอกเสียงใส่โทรศัพท์แล้วกดวางสาย

หันมาจัดแจงเอาน้ำให้คนไม่ค่อยมีสติดื่มอีกรอบ แล้วเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำไว้

พอกลับออกมาก็เห็นว่าเจษลินทร์ถอดกางเกงขายาวออกแล้ว เหลือแค่กางเกงTrunkตัวเดียวล่อนจ้อน เจ้าตัวยังคงนอนนอนกระสับกระส่ายไปมา

"คุณ ไปอาบน้ำ จะได้หายร้อน"

เจ้าของห้องพยายามพยุงเจษลินทร์ลุกขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ดิ้นไปมาอยู่ไม่สุข

ปัณวิชญ์ถอนหายใจก่อนจะช้อนอุ้มคนตรงหน้าเดินเข้าห้องน้ำ โชคยังดีที่เจษลินทร์ตัวเบากว่าที่เขาคิดไว้เยอะ

พอเข้ามาในห้องน้ำหมายจะวางเจ้าตัวลงในอ่างอาบน้ำ คนในอ้อมแขนดั๊นเกี่ยวคอเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“คุณ ปล่อยก่อน อาบน้ำจะได้หายร้อนไง”

เหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูดอ่ะ เพราะเจษลินทร์รั้งคอเขาไว้แน่นกว่าเดิมอีก

'เอิ่ม นี่คือกะจะฆ่ากันทางอ้อมใช่มะ?' ปัณณวิชญ์บ่นในใจเมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก

เขาถอนหายใจอีกครั้ง จำใจต้องลงอ่างไปด้วยกันนี่แหละ ไม่งั้นคงได้ยื้อกันอีกนาน

กลายเป็นว่าตอนนี้เจษลินทร์อยู่บนตักและอ้อมแขนของเขาในอ่างอาบน้ำแคบๆ

เรามาอยู่จุดนี้ได้ไงวะเนี่ย?

 

พอโดนน้ำ เจษลินทร์ดูเหมือนจะสงบลงบ้าง เจ้าของห้องจึงพยายามแกะมือที่เหนียวเป็นตุ๊กแกออกจากคอเขา ทว่าคนตรงหน้าก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ซ้ำยังซุกหน้าแนบแน่นคล้ายจะสิงลำคอของเขาแล้ว!

โอ้ย สภาพ!ปัณณวิชญ์ก่นในใจ

"งื้อ ร้อน เวียนหัว ทรมานจัง!” ปากเล็กๆบ่นเสียงอู้อี้ปนไม่พอใจ

ปัณณวิชญ์เอื้อมมือไปหยิบฝักบัวมาเปิดน้ำใส่หัวคนตรงหน้า เจษลินทร์จึงได้ผละออกจากคอเขา ยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาตัวเอง

“ดีขึ้นมั้ย?” เจ้าของห้องถาม

"....."

เจษลินทร์ไม่ตอบ แค่ขยับตัวหลบน้ำจากฝักบัว ลูบหน้าตัวเองสะบัดผมสองสามทีแล้วเงยหน้ามาสบตากับปัณณวิชญ์

ฝ่ายเจ้าของห้องเลิกคิ้วขึ้น มองดูว่าคนตรงหน้าได้สติรึยัง

ใบหน้าข่าวผ่องประดับประดาไปด้วยหยดน้ำ แก้ม จมูกและหางตาขึ้นสีชมพูค่อนแดง ทว่าริมฝีปากขึ้นสีแดงชัดที่สุด สายตาปรือๆที่จ้องมา กอปรกับหัวไหล่และลำคอขาวๆนั้น ทำเอาปัณณวิชญ์ถึงกับใจกระตุก ลมหายใจสะดุดไปครู่หนึ่ง

 

“ค คุณ ดีขึ้นรึยัง?”

!!!!!!

นอกจากไม่ตอบ คราวนี้เจ้าตัวยังเอาแก้มของตัวเองมาถูกับแก้มของปัณณวิชญ์อย่างสบายใจ!

“สบายอ่า เย็นๆลื่นๆ” ว่าแล้วก็ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าลงมาถูกกับลำคอของปัณณวิชญ์เชื่องช้า มือเรียวไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตปัณณวิชญ์ไปด้วยคล้ายจะหาพื้นที่ถูแก้มเพิ่มอีก แล้วแก้มแดงๆนั้นก็คลอเคลียเลื่อนลงต่ำมาเรื่อยๆ มือของเจ้าตัวลูบไล้สะเบะสะปะไปตามเนื้อตัวที่มีแต่กล้ามเนื้อ รู้สึกว่ามันลื่นและสบายมือเอามากๆ

คนโดนกระทำตัวแข็งทื่อแล้ว! ปัณณวิชญ์เผลอหายใจผิดจังหวะและกลืนน้ำลายไปหลายอึกใหญ่

พอได้สติก็รวบแก้มล้อคใบหน้าของอีกฝ่ายออกจากอกเขาไม่ให้ซนไปมากกว่านี้

“งื้อ” เจษลินทร์งึมงำอย่างขัดใจ

“ตั้งสติหน่อยสิคุณ” ปัณณวิชญ์ว่าพลางเขย่าหัวอีกคนหวังให้เจ้าตัวมีสติ

แต่กลายเป็นว่าคนตรงหน้าเบะปาก ทำท่าจะร้องไห้

“ก็มันร้อนนน มันทรมานอ่า ถูหน่อย นิดเดียวววว” ปากเรียวสวยของเจษลินทร์เอ่ยเชื่องช้า น้ำเสียงคล้ายอ้อนวอนแต่ก็แฝงไปด้วยความเอาแต่ใจ

หน้าอ้อนๆนั้น ทำเอาปัณณวิชญ์ใจกระตุกอีกครั้ง เขารู้สึกหูร้อนและทำหน้าไม่ถูกจนต้องหันหน้ามองไปทางอื่น

ลูกกระเดือกใหญ่ขยับขึ้นลงโดยไม่รู้ตัว เขาชำเลืองมองอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าเงียบเสียงไป จึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าเจษลินทร์หมดฤทธิ์แล้ว

อ้อมแขนแกร่งยกคนหลับขึ้นจากอ่าง หยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อให้แล้ววางเจษลินทร์ไว้บนที่นอน

ส่วนตัวเขารีบไปถอดเสื้อผ้าเปียกของตัวเองออก ห่อผ้าขนหนูที่เอวลวกๆแล้วมาจัดการคนไร้สติก่อน

บ้าเอ๊ย นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยฟระ?

ปัณณวิชญ์บ่นไปพลางเช็ดหัวให้เจษลินทร์ไปด้วย

พอได้มองใบหน้าของอีกฝ่ายจังๆ เขานึกในใจว่าผู้ชายอะไรหน้าหวานขนาดนี้ คิ้วเรียงตัวสวยจะหนาก็ไม่หนาจะบางก็ไม่บาง ขนตายาวเป็นแพ จมูกขนาดกะทัดรัด ริมฝีปากบางแถมเป็นสีชมพูอีก มีจุดเล็กๆใต้หางตาด้วยแฮะ

เขาเผลอมองจนเห็นว่าผิวพรรณเจษลินทร์นั้นขาวและเนียนละเอียดมากแค่ไหน เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองจ้องนานเกินไป ปัณณวิชญ์จึงเบนสายตาไปที่ไหล่แทน

หัวไหล่ขาวมนของเจ้าตัวมีแผลเป็นลากเป็นทางยาว นั่นทำให้ปัณณวิชญ์ขมวดคิ้วจ้องแผลเป็นนั้นอยู่นาน หัวใจเขาเต้นรัวขึ้นมาเสียดื้อๆ

‘บ้าหน่า ไม่ใช่หรอก’

‘หรือว่าใช่? ถ้าใช่ล่ะ?’

เขาทะเลาะกับตัวเองอยู่นาน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าพรุ่งนี้จะถามเจษลินทร์ดูว่าได้แผลเป็นนี้มาจากไหน

 

พอเช็ดหัวให้คนไม่ได้สติจนแห้ง ปัณณวิชญ์ก็จัดการใส่เสื้อให้อีกฝ่าย เห็นว่าอากาศเย็นเลยใส่เป็นเสื้อนอนแขนยาวให้ละกัน พอจะถอดTrunkให้ อยู่ๆมือของคนที่หลับไปแล้วก็มาจับมือเขาไว้

“งื้อ จันทร์เดี๋ยวเจษถอดเอง” เจษลินทร์ว่าพลางลุกขึ้นมาจัดการถอดTrunk ใส่อันเดอร์แวร์ที่ปัณณวิชญ์เตรียมไว้ให้ สวมกางเกงนอนแล้วดึงผ้าขนหนูที่เอวโยนทิ้งเสร็จสรรพทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

“เหวอ!”

ปัณณวิชญ์ร้องตกใจ เพราะโดนอีกฝ่ายรั้งจนล้มลงที่นอน

ไม่เพียงแค่นั้น เจษลินทร์ยังปีนเกยขึ้นมาบนตัวเขา เอาแก้มมาถูไถกับตัวเขาที่กึ่งนอนหงายกึ่งตะแคง คล้ายหาพื้นที่ที่ถูกใจ และที่ที่ถูกใจเจ้าตัวก็คือหน้าอกของปัณณวิชญ์นั่นเอง

“ค คุณ ทำอะไรเนี่ย? ผมจะใส่เสื้อ”

ร่างบางงัวเงียเอาแขนมาวางบนหน้าอกปัณณวิชญ์

“ไม่ๆ” ว่าจบก็วางหัวหลับแหม่ะลงเสียอย่างนั้น

 

 

 

ปัณณวิชญ์มองคนที่หนีไปเฝ้าพระอินทร์ตรงหน้า แล้วตบหน้าผากตัวเองดังแป๊ะ!

นี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ!

เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ครั้นพอพยายามจับคนที่เกยอยู่บนอกเขาวางลงหมอน แต่อีกฝ่ายก็ยังโผมาเอาแก้มร้อนๆมาซุกอกของเขาอีก แถมมือยังลูบไล้ต้นแขนที่ประดับประดาไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างสนุกมือราวกับว่ามันเป็นของเล่นชิ้นนึง

เอากับเขาเถอะ! งั้นจะทำอะไรก็เชิญตามสบายเถอด แล้วแต่โลด!

เจ้าของห้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ปล่อยให้อีกฝ่ายทั้งซุกทั้งลูบตามสบาย เพราะเขาเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน จึงจัดท่าจัดทางให้ตัวเองนอนได้ถนัด

ขยับยื่นแขนข้างหนึ่งเหยียดตรงคล้ายท่าไม้กางเขน แล้วเอาหัวของเจษลินทร์มานอนหนุนช่วงหัวไหล่เขาไว้ เจ้าตัวจะได้ซุกหน้าพร้อมลูบไล้ได้สมใจ!

และเป็นไปตามคาด พอได้ท่าที่ถูกใจเจษลินทร์ก็หลับไปในที่สุด

ปัณณวิชญ์ถอนหายใจไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวัน สุดท้ายเขาก็ปล่อยวางทุกอย่างเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนข้างๆไป

 

 

 

TBC

 

 

⍣⚝⍣⚝⍣⚝⍣⚝⍣⚝⍣ 

 

เอร้ยยยย เขานอนด้วยกันเฉย

กรี้ดดดด ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะฟาโรห์? 

 (〃' v '〃)

 

ปมเก่ายังไม่คลาย ปมใหม่มาอีกแล้ว อะไรของไร้ท์วะ5555 ผูกเก่ง แต่จะแก้เก่งมั้ย นั่นก็อีกเรื่อง555

 

Talk: คือในตอนนี้มันเป็นยาสมมุตินะคะไรท์ตั้งขึ้นเอาเอง ไม่มีในโลกความจริงน้า

ซึ่งยาตัวนี้มันจะออกฤทธิ์ได้ดีกับแอลกอฮอลล์

แต่พิ่น้อนเจษยังไม่ได้ดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไป เลยยังไม่มีอาการรุนแรงมาก แค่น้วยเบาๆอ้อนคนบางคนเต้าอั้นเจ้า

กรู้กกก

 

 

ติชมกันเข้ามาได้นะคะ

 

 

- LOVE -

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา