การล้างแค้นของผู้ถูกกระทำ
เขียนโดย Dest_hope
วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 11.03 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 11.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สูญเสียและเคียดแค้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบนโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆที่น่าสะอิดสะเอียน และพวกเราที่เป็นแค่สัตว์เล็กสัตว์น้อย แต่ดันทำตัวเหมือนดั่งรู้ไปทุกเรื่องและแกร่งที่สุดในทุกเผ่าพันธุ์ แต่หารู้ไม่ว่ายังมีพวกสัตว์เดรัจฉานที่คอยจะฉุดพวกเราลงนรกอยู่เสมอ
ถ้าหากว่าตัวเองนั้นอยู่ในสถานการณ์คับขัน เมืองของตัวเองมอดไหม้กลายเป็นผุยผง บิดาผู้เป็นที่รักถูกฆ่าตาย พี่น้องร่วมสายเลือดตนเองถูกข่มขืนแล้วหายตัวไป
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดในยี่สิบปีที่แล้ว ก่อนที่ผมจะล้างบางพวกปีศาจทั้งหมดบนผืนโลกใบนี้จนหมดสิ้น
สวัสดีกระผมมีชื่อว่า อเล็กซ์ซานเดอร์ วาร์ช เอเวอร์การ์เดน อายุสิบเอ็ดปี เป็นเพียงแค่เด็กชายคนหนึ่ง ผมเป็นบุตรของเจ้าเมืองๆ หนึ่ง ดยุคโมสาร์ท วาร์ช เอเวอร์การ์เดน ผู้ปกครองเมืองวาร์ช ผมมีพี่น้องอยู่เพียงแค่คนเดียว เธอเป็นพี่สาว มีชื่อว่า โซเฟีย วาร์ช เอเวอร์การ์เดน นางมีนิสัยที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่งอแงง่ายอยู่นิดหน่อย นางชอบให้ตัวเองเป็นหนึ่ง หรือก็คืออยากเป็นใหญ่ บางครั้งก็ชอบเอาเปรียบผม ชอบโกหกบ้าง แถมเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีและบางครั้งก็โบ้ยความผิดเล็กๆ น้อยๆ ให้ผมเฉยเลย แต่ก็รักผมด้วยจริงใจ พวกเราสนิทกันมาก และสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยกันให้ได้เลย ฮ่าๆ ทั้งที่มีสายเลือดร่วมกันเนี่ยนะ
พวกเราอาศัยอยู่ในคฤหาสน์กลางเมือง จะว่าโม้ก็ว่าเถอะ แต่พวกเรานั้นอยู่ในสถานะที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเมืองหรือเงินทอง ท่านพ่อของผมคือดยุคของประเทศเอลเดียร์ ซึ่งมีอำนาจในทางการเมืองสูงสุดและอำนาจในการปกครองรองจากราชา ท่านพ่อถูกส่งให้มาปกครองเมืองๆ นี้ที่ตั้งอยู่แถมทางทิศตะวันตกของประเทศ
เมืองที่พวกเราอาศัยอยู่นั้นถือว่าอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ใบหญ้าเขียวขจีและแม่น้ำลำธารหลายสาย ซึ่งพื้นที่นี้เหมาะแก่การใช้สอย แต่ว่าก็ตกเป็นเป้าหมายของทุกเผ่าพันธุ์ที่จะมารุกราน เพียงเพราะว่าสมบูรณ์เกินไป ดังนั้นท่านพ่อจึงต้องไปสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศข้างเคียงอยู่บ่อยๆ และในการทูตแต่ละครั้ง และทุกคนในประเทศก็ยอมรับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมท่านพ่อถึงได้รับตำแหน่งดยุคแห่งเอลเดียร์
ในเมืองที่ท่านพ่อดูแลนั้นอาจจะรุ่งเรืองในด้านเศรษฐกิจและการเกษตร แต่ว่าในด้านการทหารนั้นถือว่าย่ำแย่มาก ผู้คนในเมืองนั้นตั้งแต่เกิดมานั้นก็จับจอบจับเสียมกับหมดแล้ว จึงยากนักที่จะหาตังนักรบในละแวกนั้น เมื่อถึงยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็ทำได้แค่อพยพคนในเมือง แล้วเรียกขอกำลังเสริมจากเมืองข้างๆ
ผมเคยมีมารดาอยู่ แต่หายตัวไปได้หกปีแล้ว ผมเคยถามท่านพ่อไปแล้วว่าท่านแม่นั้นหายไปไหน และท่านก็ตอบว่า
“เมื่อตอนที่ลูกอายุได้เพียงห้าขวบ พ่อและแม่ฝากลูกไว้กับเมดที่คฤหาสน์หลังนี้แล้วเดินทางไปยังเมืองหลวง ในระหว่างทางก็ได้ถูกพวกปีศาจบุกโจมตี พวกมันฆ่ากองอารักขาของพวกเรา และลักพาตัวผู้หญิงทั้งหมดที่เดินร่วมกัน รวมถึงแม่ของเจ้าด้วย ในตอนนั้นข้าทำได้แค่เพียงจ้องมองแม่ของเจ้าที่กำลังถูกลักพาตัว ข้าพยายามที่จะไปช่วยนางแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของพวกมันแล้ว ขาของข้ามันก็ไม่ยอมขยับ มือเท้าชาไปหมด ในตอนนั้นข้ากลัวเหลือเกิน ถ้าข้าเข้าไปหยุด พวกมันจะฆ่าข้าแน่นอน ในตอนนั้นข้าคิดแบบนั้น แต่จนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังเสียใจในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ถ้าตอนนั้นข้าเข้าไปช่วยนาง ข้าอาจจะไม่ต้องมานั่งเสียภายหลังก็ได้ อเล็กซ์เอ๋ย ในฐานะที่ข้าเป็นบิดาของเจ้า ขาขอสั่งสอนเข้าเลยก็แล้วกัน หากเมื่อใดที่คนรักหรือคนสำคัญของเจ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย เจ้าจงอย่าได้ลังเลและรีบเข้าไปช่วยนางซะ! ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจภายหลังเช่นเดียวกับข้า และอีกอย่าง ข้าขอโทษนะ ที่ช่วยมารีแอน แม่ของพวกเจ้าไม่ได้ ข้าขอโทษจริงๆ ”
ท่านพ่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเองและภรรยา ทำให้รู้ได้เลยว่าท่านพ่อนั้นเสียใจกับการกระทำของตนเองเป็นอย่างมาก และที่ท่านพ่อสั่งสอนผมนั้นก็เพราะรักผมจริงๆ ท่านพ่อไม่อยากให้ผมเสียใจภายหลังแบบเดียวกับท่านพ่อ น่าเห็นใจจริงๆ
แต่ว่าพวกปีศาจนั้นมันน่ากลัวจริงๆ อย่างงั้นเหรอ? ท่านพ่อบอกว่าเมื่อเห็นใบหน้าของพวกมันแล้วขามันจะไม่ยอมขยับ สำหรับท่านพ่อแล้วปีศาจอาจจะน่ากลัวจริงๆ นั่นแหละ แต่สำหรับผมแล้วถ้ายังไม่เคยเจอกับตาตัวเอง ก็จะไม่รู้สึกอะไรกับมันหรอก
ในวันหนึ่งที่ฟ้าอากาศแจ่มใส่ มีลมพัดโชยมานิดหน่อย ผมและโซเฟียออกมาวิ่งเล่นในทุ่งหญ้านอกคฤหาสน์
“นี่ ท่านพี่”
“หืม?”
“พวกเรามาวิ่งไล่จับกันมั้ย?”
“เอ๋!? ไม่เอาหรอก ข้าไม่ชอบเป็นคนไล่”
“ให้ตายสิท่านพี่ กลัวที่จะแพ้ข้ารึไง?”
“ว่ายังไงนะ!? ข้าเล่นกับเจ้าก็ได้ แต่ว่าเจ้าต้องเป็นคนไล่ก่อนนะ สามครั้งด้วย!”
“เอ๋...”
หลังจากนั้น ผมก็นับเลขถึง3เพื่อต่อให้ท่านพี่วิ่งหนีข้า
เมื่อผมนับเสร็จ ผมก็รีบวิ่งไปจับพี่ของข้า แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านพี่ของผมจะถูกผมจับหมดสามครั้งภายในไม่ถึงนาทีเดียวด้วยซ้ำ หึๆ น่าแกล้งชะมัด
หลังจากที่พี่ของผมนั้นเป็นคนไล่ ผมก็วิ่งหนี แต่ว่านางไล่ผมช้ามาก ผมก็เลยอดแกล้งไม่ได้
ผมวิ่งไปอย่างช้าไป พร้อมกับพูดแทงใจดำนาง
“นี่อเล็กซ์ รอข้าด้วยสิ เจ้า..เจ้าเร็วเกินไปแล้วนะ แฮก..แฮก”
“ฮ่าๆ ไม่เอาน่า ท่านพี่น่ะช้าเกินไปต่างหาก”
“จ..เจ้า! ทั้งที่เป็นน้องข้าแต่กลับต่อว่าข้าเนี่ยนะ อ..อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!”
นางทำท่าทำทางโกรธ หน้าแดง น้ำตาก็เริ่มซึมออกมานิดหน่อย
“หรือไม่จริงล่ะท่านพี่ ท่านน่ะอ่อน-แอ-สุดๆ ฮ่าๆๆ”
“ง...งะ...แงงงง”
ท่านพี่ของผมเริ่มร้องไห้ซะแล้ว น้ำตาไหลซึมลงแก้มลงสู่พื้นดิน หน้าแดง กำมือแน่น นั่งยองพร้อมก้มหน้าหลบข้า
“อ..เอ่อ ข้าอาจจะพูดแรงไปหน่อยละมั้ง”
“แงงงงง!!!”
“อ..เอ่อ”
ผมสับสน ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี และผมก็รู้สึกผิดด้วยแหละ
“อะแฮ่ม! ท่านพี่เอ๋ย ข้าขอโทษที่พูดจาแบบนั้นกับท่านพี่ไป ท่านพี่นั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าข้าแต่อย่างใดเลย ท่านน่ะแข็งแกร่งสุดๆ นะ”
ผมเข้าไปนั่งข้างพี่สาว พร้อมกับปลอบใจ
นางเริ่มหยุดร้องไห้ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองผม หน้าของเธอแดงกล้ำ น้ำตาที่ปริ่มตรงริมตานั้นน่ารักชะมัด
“จ..เจ้า พูดจริงอย่างงั้นหรอ?”
“ใช่แล้วท่านพี่ ท่านน่ะสุดยอดไปเลย ข้าชื่นชมท่านดั่งเป็นเทพธิดาเลยล่ะ ไม่สิ ท่านนั้นงดงามและสง่าผ่าเผยยิ่งกว่าเทพธิดาพวกนั้นอีก!”
นางหน้าแดงและฟุบหน้าลง ผมก็เลยโน้มตัวลงไปโอบกอดนาง และยังขอโทษนาง
“ข้า ร..รักท่านนะท่านพี่ ได้โปรดอภัยให้แก่การกระทำของข้าด้วย”
นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย น่าอายชะมัดเลย
หลังจากที่ผมพูดจบ ท่านพี่ของผมก็เงยหน้ามามองผม มือของนางจับที่แขนเสื้อของผม นางจ้องตาผมพร้อมกับยิ้มละมุน จากนั้นก็พูดว่า
“ข..ข้าจับเจ้าได้แล้ว”
อ..อะไรกัน ใบหน้าของท่านพี่นั้นช่างทำให้..ให้เกิดอารมณ์คลั่งไคล้จริงๆ อยากจะเก็บไว้ครอบครองเสียจริง เอ้ย! ไม่ได้นะ พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ
ผมแอบรู้สึกเขินอยู่นิดหน่อย จะทำยังไงได้ล่ะ ก็น่ารักไปซะขนาดนั้น
“ท..ท่านพี่ขี้โกงนี่”
“หุบปากไปเลยน่า ฮิๆ ฮึบ”
ท่านพี่ของข้าพลิกตัวขึ้นมานอนบนตัวของข้า หน้าอกของนางนั้นชิดกับข้ามาก ข้าเลยแอบดูอยู่นิดหน่อย จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ผู้ชายนี่!
ผมแอบจ้องไปที่หน้าอกของท่านพี่ในขณะที่เรานอนแนบชิดกัน เสื้อผ้าของนางหลวมละลุ่ยลง คงเป็นตอนที่เราวิ่งไล่จับกันมันจึงทำให้เสื้อหลวมนิดหน่อย ผมจ้องแบบนั้นไปสักพักจนนางขยับตัว จุดที่ผมเค้นมองมันก็โผล่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้น ผมเห็นหน้าอกเป็นๆ ของพี่ตัวเอง มันช่าง…งดงาม! ดูโคนที่ขาวอวบนั่นสิ ถ้าได้บีบมันสักครั้งก็คงจะเหมือนได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ และดูตรงหัวโคนนั่นสิ มันมีสีสันที่เร้าอารมณ์มาก สิ่งที่เห็นอยู่นั้นมันงามตามากจริงๆ หัวนมชมพูที่งดงามของท่านพี่นั้นมันทำให้ผมมีอารมณ์จนท่อนล่างของผมเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้
“อ..อเล็กซ์ ข้ารู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ มาทิ่มตรงระหว่างขาของข้านะ”
ไอ้นั่นของผมมันแข็งตัวและกำลังจี้หว่างขาของพี่สาวตัวเองอยู่ ไร้ศิลธรรม!ไร้ศิลธรรมสิ้นดี!!
ผมต้านทานกิเลสตัณหาไม่ไหว มือของผมมันค่อยๆ ขยับเขยื้อนไปที่หน้าอกของท่านพี่
“อ..อเล็กซ์!?”
“ท..ท่านผิดเองนะ ที่..ที่เข้ามาแนบชิดตัวข้าน่ะ”
จากนั้นมือของผมก็จับอยู่ที่หน้าอกของพี่สาวตัวเอง ผมค่อยๆ บีบมัน ทะนุถนอมกับมัน
“อื.อ..อ๊าห์”
ท่านพี่ครางเสียงหลง อา..มันช่างเร้าใจเหลือเกิน
ผมพลิกตัวแล้วมานอนคร่อมท่านพี่ จากนั้นมือทั้งสองข้างก็มุ่งเข้าไปปลดกระดุมเสื้อของเธอ ผมค่อยๆ ปลดมันทีละอัน อย่างช้าๆ จนมันทำให้เห็นร่างกายนี่บอบบางของท่านพี่
“ท่านพี่ น..นี่เป็นสิ่งที่ข้าจะพูดเพียงครั้งเดียวในชีวิต มัน..น่าอายมาก คือว่า ด..ได้โปรดยกเรือนร่างอันงดงามของท่านให้ข้าด้วยเถอะ”
“เอ๊ะ!? เดี๋ยวสิ!อึก”
ผมเปิดเสื้อของเธอ แล้วจึงค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจูบหัวนมของเธอ ผมรู้สึกดีมาก ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อ๊าห์..”
ผมดูดตรงหัวนมของเธอ ดูดอย่างเป็นจังหวะ ในขณะที่ดูดผมก็ขยับลิ้นไปด้วย อา..นี่มันรู้สึกดีเป็นบ้า รู้สึกดีจริงๆ แต่..มันยังไม่พอ ผมอยาก อยากที่จะสอดไอ้นั่นของผมเข้าไปในร่างกายของเธอ อยากทำให้เธอแปดเปื้อน!
ผมเลิกดูด แล้วเลียร่างกายของเธอ เลียลงมาเรื่อยๆ จนถึงใต้สะดือ ผมยกหน้าขึ้นแล้วเคลื่อนตัวมุดลงไปที่ใต้กระโปรงของเธอ
“เดี๋ยวสิ! อเล็กซ์ อ๊าห์!”
ผมนำจมูกไปถูไถตรงท่อนล่างของท่านพี่ จากนั้นก็แลบลิ้นเลียตรงนั้น ผ่านกางเกงในบางๆ ผืนหนึ่ง
“ไม่นะ อเล็กซ์ อึก อ๊าห์”
ท่านพี่เกร็งขาและหนีบศีรษะของผมเอาไว้ มันเร้าใจมาก ผมเลียแรงขึ้น เลียต่อไป จนตรงนั้นของท่านพี่มันเริ่มแฉะ ผมสังเกตุเห็นจากนั้นก็จึงหยุดเลีย ผมนำมือทั้งสองข้างมาจับตรงชายกางเกงในของท่านพี่ และคิดที่จะถอดมันออก
“ไม่ได้นะ!!”
ท่านพี่ถีบตัวผมออกและขยับตัวให้ห่างผม
ผมเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าตัวเองนั้นทำบาปมหันต์อย่างใหญ่หลวง จึงได้โน้มตัวคุกเข้าแล้วก้มกราบอย่างงดงาม
“ข้าขออภัยเป็นอย่างสูงท่านพี่!!ข้าตรียมใจที่จะรับโทษแล้ว!”
หน้าของเธอแดงก่ำ ทำหน้าโกรธอยู่นิดหน่อย น้ำตาคลอ เม้มปาก จากนั้นก็นำมือข้างซ้ายหยืดตรงไปที่หว่างขา หนีบไว้อย่างแรง และมือขวาชี้มาหาผม แล้วพูดว่า
“ข..ของแบบนี้รออีกเจ็ดปี อีกเจ็ดปีข้าจะให้เจ้าทำแบบที่ว่า พ..เพราะงั้น ช่วยรอด้วย!”
“ข..เข้าใจแล้วครับ!!”
และหลังจากนั้น พวกเราก็เดินทางกลับบ้าน
ในระหว่างทาง พวกเราแทบไม่ได้มองหน้ากัน ทั้งๆ ที่ยังจับมือกันอยู่ ทางพี่สาวนั้นรู้สึกเขินอาย ส่วนทางผมนั้นก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เห้อ~ ไม่น่าทำแบบนั้นไปเลย นี่สินะ ความรู้สึกเสียใจภายหลัง
เมื่อพวกเราเดินทางกลับไปถึงคฤหาสน์ ก็พากันไปอาบน้ำทั้งๆ ที่เมื่อตะกี้เกิดเหตุการณ์ล้ำเส้นกัน ผมถอดเสื้อผ้าทั้งหมดและมุ่งตรงไปอ่างอาบน้ำ เมื่อมองเข้าไปในอ่างก็เห็นเด็กสาวรูปงามคนหนึ่ง นั่นก็คือท่านพี่นั่นเอง
ผมมองไปที่ท่านพี่ และเธอเองก็มองกลับมาเหมือนกับ แต่ก็ได่แค่แปปเดียว เธอหันหน้าหนีไปอย่างทันที เหมือนจะยังไม่พอใจกับผมอยู่ ให้ตายสิ ผมอยากจะขอโทษเธออีกสักที ผมรู้สึกผิดจริงๆ นะ ท่านพี่ ได้โปรดให้อภัยแก่การกระทำอันต่ำช้าของข้าด้วยเถิด
จากนั้นผมก็แยกไปล้างตัว โดยระหว่างที่กำลังทำความสะอาดร่างกาย ผมก็ได้จ้องไปที่ท่านพี่อย่างสงสัย ถ้าไปขอโทษแล้วนางจะหายโกรธมั้ยนะ แล้วถ้าไม่ล่ะ? แบบนั้นคงแย่แน่ ผมคิดแบบนั้นแล้วก็ท้อใจ
“เดี๋ยวเถอะ!”
อะไรกัน นี่มันเสียงท่านพี่นี่
ท่านพี่ลุกขึ้นจากอ่างแล้วเดินมาหาผม จากนั้นก็กำมือเขกที่ศีรษะผม
“โอ้ย!มันเจ็บนะ”
“ก็เมื่อกี้เจ้าแอบดูหน้าอกของข้านี่ แบบนั้นมันก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ หึ!”
“หา? ข้าไม่ได้แอบดูนะ”
“โกหกกันอยู่เห็นๆ เมื่อกี้เจ้าจ้องมาที่ตัวข้านี่”
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะมองหน้าอกท่านนี่!”
“หึ”
นางหันหน้าหนี และเดินกลับไปที่อ่างเหมือนเดิม
“เห้อ บางทีข้าก็คิดอยู่นะว่าท่านพี่เกลียดข้าอยู่รึเปล่า? ”
“เอ๊ะ?”
ข้าก้มหน้าและระบายความในใจออกมา
“ก็ตอนนี้ท่านเอาแต่โกรธเคืองใส่ข้านี่ บางทีข้าก็คิดนะว่าข้าอาจจะเป็นสิ่งกีดขวางสำหรับท่าน แถมเมื่อตอนเย็นยัง..ทำสิ่งเกินเลยกับท่านอีก ข้า..ข้ารู้สึกผิดจริงๆ ข้าอยากจะขอโทษท่าน แต่ว่า ท่านนั้นก็ดูเหมือนจะปฏิเสธข้า ข้าก็เลยอดคิดไม่ได้ว่า ท่านพี่นั้นจะเกลียดข้ารึเปล่า..อ๊ะ”
ท่านพี่เดินเข้ามาแล้วก็โอบกอดผมตรงข้างหลัง
“เจ้าเด็กบ้าเอ้ย ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นเด็กที่แย่ขนาดไหน หรือทำอะไรเลวๆ กับข้าไว้ ถึงกระนั้นข้าก็ไม่เคยคิดที่จะเกลียดเจ้าเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นเจ้าก็จงอย่าน้อยใจเช่นนี้เลย”
“ท่านพี่”
“ฮิๆ สำหรับข้าเจ้าก็ยังเป็นแค่เด็กน้อยอยู่วันยันค่ำแหละ”
“เอ่อ..คือ..จะว่ายังไงดีล่ะ คือว่า หน้าอกของท่านมันโดนหลังข้าอยู่น่ะ ถ้าไม่รีบเอามันออกไปเดี๋ยวตรงนั้นของข้ามันจะผงาดเอาน่ะ ฮ่าๆ ”
“อ๊ะ!?”
ท่านพี่รีบพุ่งตัวออกห่างจากผม และจากนั้นก็กำหมัดแล้วเขกหัวผมอีกครั้ง
“หนอย เจ้าเด็กแก่แดดนี่!”
“โอ้ย!!”
และหลังจากนั้นพวกเราก็แต่งตัวแล้วพากันลงไปทานอาหาร
ตรงข้างหน้าที่เห็นนั้นก็คือท่านพ่อที่นั่งรอพวกเราก่อนแล้ว และโต๊ะที่จัดแต่งนั้นสวยหรู มีแสงสะท้อนระยิบระยับ อาหารที่เสิร์ฟนั้นดูแพงแสะอาด และน่าอร่อย พวกเราเริ่มทานอาหารนั่นอย่างเอร็ดอร่อย เนื้อวัวที่เอาเข้าปากนั้นนุ่มมาก และรสชาติกระตุ้นต่อมรับรสดี และขนมปังที่หอมหวาน เมื่อทานเข้าไปก็ทำให้รู้สึกสบายตัว อืม..นี่มันสวรรค์บนพื้นดินชัดๆ
พวกเราทานอาหารพวกนั้นจนหมด และจากนั้นก็เริ่มคุยกันเรื่อยเปื่อยตามภาษาพ่อลูกและพี่น้อง แต่ว่าถังถือว่าโชคดีที่ท่านพี่ไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราสองคน
“ฮ่าๆๆ มันเป็นเรื่องจริงนะท่านพ่อ”
“แล้วเจ้าก็ทำมันลงไปเหรอ? ฮ่าๆ เจ้านี่มันเลวจริงๆ พ่อคนนี้ขอคาราวะ”
“เดี๋ยวสิท่านพ่อ!ท่านควรจะต่อว่าอเล็กซ์ที่ตดใส่ข้าไม่ใช่หรอ!?”
พวกเราคุยกันเรื่อยเปื่อย จนสักครู่ผมบังเอิญมองไปที่ข้างนอกตรงหน้าต่าง ผมเห็นแสงอะไรบางอย่าง ผมมองไม่ค่อยชัด เพราะว่าตัวผมนั้นเตี้ยเกินไป
“ฮ่าๆๆ ว่าแต่..ท่านพ่อ มันเกิดอะไรขึ้นที่นอกหน้าต่างนั่นน่ะ ข้ามองไม่ค่อยเห็น”
“หืม…อ๊ะ!?”
เมื่อท่านพ่อหันไปมองข้างนอกหน้าต่าง ก็รีบลุกขึ้นไปดูใกล้ๆ ท่านพ่ออึ้งไปสักพักใหญ่ ผมเกิดความสงสัยขึ้น ทำไมท่านพ่อถึงอ้าปากค้างโดยไม่พูดอะไรสักคำเลยล่ะ ผมเลยถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ท่านพ่อ?
“..เผา”
“เผา?”
“เมืองของพวกเราถูกเผาแล้ว!”
ผมตกใจมาก จึงรีบลุกขึ้นไปดูที่ข้างนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านั่นคือ เปลวไฟที่กำลังครอบคลุมเมืองของพวกเราไว้ และหลังจากนั้นก็ได้มีบอลเพลิงยักษ์พุ่งตรงเข้ามาที่คฤหาสน์หลังนี้
ตู้ม!!
แรงระเบิดจากบอลเพลิงทำให้ตัวคฤหาสน์พังทลาย คฤหาสน์ที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้ทั้งหลังพังทลายลงเพียงไม่กี่วินาที
“อะแฮ่กๆๆ ”
เมื่อผมได้สติ ผมจึงมองดูสถานการณ์รอบตัวที่เกิดขึ้น พวกเราทั้งหมดนั้นถูกหินทับอยู่
“ช่วย..ช่วยด้วย”
ผมได้ยินเสียงพี่สาวของตนเองอยู่ใกล้ๆ นี่ และคว้านหาใต้หินแถวๆ นี้ และก็ได้พบท่านพี่ถูกหินทับอยู่
ผมรีบยกหินทุกก้อนบนร่างกายพี่ออก ท่านพี่ยังปลอดภัยดี แต่ว่าขาของท่านพี่นั้นหักจนบิดเบี้ยวผิดรูป ท่านพี่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“กรี้ดด!เจ็บ!มันเจ็บมาก ใครก็ได้ช่วยทำให้มันหายที”
“ท่านพี่ ไม่เป็นอะไรนะ ข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะหาทางรักษาท่านเอง แต่ว่าข้าต้องหาท่านพ่อให้เจอก่อน”
ผมปล่อยท่านพี่ทิ้งไว้อยู่ตรงนั้นและจากนั้นก็พยายามตามหาท่านพ่อ ผมค้นทุกซองทุกมุมจนเจอ ท่านพ่อก็ถูกหินทับเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงรีบยกหินออก แต่สิ่งที่ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นนั่นก็คือร่างกายของท่านพ่อ เมื่อผมเห็นอย่างงั้นผมก็รีบยกหินออกมาให้หมด แต่ว่าสิ่งที่เจอก็มีเพียงแค่ร่างกายของท่านพ่อเท่านั้น เพราะว่าส่วนหัวนั้นถูกหินขนาดใหญ่ทับจนละเอียด
“ท..ท่านพ่อ!”
“อ..อเล็กซ์?”
“ไม่นะ..ท่านพ่อ ท่านพ่อตายแล้ว”
“อะไรนะ!? เกิดอะไรขึ้นน่ะอเล็กซ์!”
“อุก!?”
ผมทนรับกับภาพที่เห็นไม่ได้ จนผมต้องอาเจียนออกมา
“อเล็กซ์ เป็นอะไรมากมั้ย….นั่นมัน..ท่านพ่อ? ไม่ ไม่นะ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย?”
ท่านพี่คลานเข้ามาหาผมเพราะว่าเป็นห่วงผม แต่ว่าท่านพี่ก็เห็นศพของท่านพ่อที่อยู่ตรงหน้าอย่างอนาถ ท่านพี่ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก และได้แต่จ้องมองศพอยู่ตรงนั้น
เมื่อผมรู้สึกตัว ผมจึงลุกขึ้นยืนและอุ้มท่านพี่ออกจากที่นี่เพื่อพาไปยังที่รักษา แต่เมื่อเดินไปได้สักพัก ก็พบกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบทั้งหมด ใบหน้าของพวกมันบางตัวนั้นบิดเบี้ยว มีเขี้ยวที่แหลมคม ดวงตาที่แดงเดือดอย่างกับว่ามีขุมนรกอยู่ภายในตา ใช่แล้ว สิ่งที่เจออยู่ตรงหน้านั่นก็คือปีศาจ!
จากนั้นผมก็รีบวิ่งหนีมุ่งตรงหาที่หลบซ่อน ผมหนักมาก เดินก็เกือบจะไม่ไหว ในระหว่างทางผมล้มมาหลายครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า จนท่านพี่สังเกตุเห็นและรู้ตัวว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง
“อเล็กซ์ เจ้าทิ้งข้าไว้ตรงนี้เถอะ”
ผมอึ้งไปซักพัก เพราะท่านพี่พูดประโยคนี้ขึ้นมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของท่านพี่
“ท่านพี่ พ..พูดอะไรกันน่ะ พวกเราต้องไปด้วยกันสิ”
“ข้าเป็นตัวถ่วงแก่เจ้า ถ้าเจ้าทิ้งข้าไว้ตรงนี้เจ้าก็จะไปได้เร็วกว่านี้”
“ไม่เอา! ไม่เอาแบบนี้นะ ท่านพี่ ถ้าข้าทิ้งท่านไว้ท่านอาจจะต้องตายนะ”
“ข้ารู้! ข้าไม่อยากตาย แต่ถ้าต้องเห็นเจ้าตายไปด้วยกับข้า ข้าไม่เอานะ!! เจ้าปล่อยข้าไว้เดี๋ยวนี้!”
ท่านพี่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ และก็ดิ้นตัวเพื่อที่จะทำให้ตัวเองหลุดออกจากข้า
“เดี๋ยวก่อนสิท่านพี่”
“ไม่ต้องมาใกล้ข้า ข้าเกลียดเจ้า!! ข้าเกลียดเจ้าตั้งแต่เจ้าเกิดมาแล้ว! เจ้าเห็นแก่ตัว ขอบดูถูกข้ามาตั้งแต่เด็ก และมักจะเอาเปรียบข้า!! อึก..ฮื..อ ขอร้องล่ะ อเล็กซ์ ให้ข้าได้ตายคนเดียวเถอะ”
ในระหว่างที่ผมพยายามที่จะอุ้มท่านพี่ ก็ได้มีปีศาจหลายตนบุกเข้ามาล้อมพวกข้า เจ้าพวกนั้นมีรู้ร่างประหลาด ตัวสูง ผิวซีด บางตนมีปีกที่ดำสนิท บางตนมีเขาที่แหลมคม หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“ดูสิ พวกเราเจออะไร?”
“ฮ่าๆๆๆ เจอคู่ชายหญิงด้วยล่ะ”
“จะทำอะไรกับพวกมันดีล่ะ? ฆ่าทิ้งแม่งดีมั้ย?”
ปีศาจตัวอ้วนผิวเขียวซีดเสนอคำกล่าวนี้
“อเล็กซ์! หนีไปซะ!!”
ผมกลัวมาก จึงรีบวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล แต่เมื่อก้าวท้าวออกไปได้แค่ก้าวเดียว ก็ถูกพวกนั้นจับกดลงพื้นอย่างรุนแรง
“อึก!?”
“อะไรกันๆ นี่แกคิดจะทิ้งหญิงสาวไว้ตัวคนเดียวอย่างท่ามกลางคนอันตรายแบบพวกข้าอย่างงั้นหรือ นี่แกไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายเลยรึไง?”
จริงสิ ผมคิดที่จะทิ้งพี่สาวของตัวเองเพื่อให้ตัวเองรอดอยู่คนเดียว ผมนี่มันน่าเกลียดจริงๆ เพียงเพราะแค่กลัวตายก็เลยจะทอดทิ้งเลยงั้นเหรอ น่าสมเพชชะมัด
“ห..ให้ข้าตาย แล้วไว้ชีวิตพี่ของข้าซะ ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตพี่สาวของข้าด้วยเถอะ”
“ไม่นะ! อเล็กซ์”
“โห ก็ยังมีความเป็นลูกผู้ชายดีนี่ แต่ว่ามันสายไปซะแล้ว! ข้าจะให้ได้ดูบาปของเจ้าซะตอนนี้เลย เห้ยพวกแก! จับนางผู้หญิงคนนั้นถอดเสื้อผ้าซะ!!”
จากนั้นพวกปีศาจก็ได้ทำการฉีกเสื้อผ้าของท่านพี่ จับผมหมอบลงกับพื้นแล้วหันหน้าไปทางเจ้าพวกนั้น
“นี่เป็นบาปของแกที่พยายามทิ้งหญิงสาว จงดูบาปของแกไว้ซะ!”
เจ้าพวกนั้นลูบคลำร่างกายของท่านพี่ เลียส่วนต่างๆ ของร่างกาย
“กรี้ดด!! ไม่นะ จะทำอะไรน่ะ!?”
มันจับหน้าอกของท่านพี่ และบีบเหมือนกับว่าเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งของพวกมัน
“อึก อ๊า!”
“ทำอะไรของพวงแกกันน่ะ พวกแกกำลังทำร้ายร่างกายของผู้หญิงอยู่ไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะความเป็นลูกผู้ชายที่แกพูดถึงกันน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”
ผมตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังสนั่น ความรู้สึกที่มีในตอนนั้นก็คือความโกรธ ผมพยายามดิ้นให้หลุดเพื่อที่จะไปช่วย แต่ยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่ ปีศาจตนนั้นก็ยิ่งกดแรงขึ้นเท่านั้น
“อ๊ากกก! พวกแก!!”
จากนั้นปีศาจตนหนึ่งก็ได้คลำร่างกายของท่านพี่ จากหน้าอก ไปสู่สะดือแล้วสิ้นสุดตรงช่องขาทั้งสอง เมื่อนิ้วมือของมันไปถึงตรงนั้น ก็ได้สอดเข้าไปทีละนิ้ว ท่านพี่มีสีหน้าหน้าทุกข์ทรมาร และกรีดร้องด้วยด้วยเจ็บปวด
“อ๊ากกก! ไม่นะ! เอาออกไปนะ ไม่! ไม่เอาอีกแล้ว เจ็บมาก มันเจ็บ!”
ผมทนดูไม่ไหว จึงตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่ง และพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการโดนกด แล้วก็ทำสำเร็จ
“เห้ย!! พวกแกเอามือสกปรกนั่นออกไปจากท่านพี่ของข้านะ! ย๊ากก!!”
ผมวิ่งเข้าไปต่อยที่ตรงหน้าปีศาจตนหนึ่ง แต่ก็ทำอะไรเจ้าพวกนั้นไม่ได้เลย มันยิ้มและต่อยผมกลับ แถมยังกลับมากระทืบซ้ำ นั่นจึงทำให้ผมปางตาย
“ปล่อย...ปล่อยท่านพี่..เดี๋ยวนี้นะ”
ผมพยายามหยุดพวกมันไว้ แต่ก็ทำได้แค่พูด พวกมันไม่ฟัง และยังไปทำกับท่านพี่ต่ออีก
พวกมันสอดนิ้วเข้าไปตรงนั้น ดึงเข้า-ออกอย่างเป็นจังหวะ ท่านพี่หมดแรงต่อต้าน ตอนนี้ก็ทำได้เพียงครางด้วยความเจ็บปวด
“อ๊า...แฮก..ได้โปรด..หยุดทำ เถอะนะ อึก..ฮือ..อ”
พวกมันไม่สนใจ และก็ยังทำต่อ ตนหนึ่งคอยจับนาง เพื่อไม่ให้ดิ้นไปไหน ตนหนึ่งนั้นลูบคล้ำร่างกายและบีบหน้าอกดั่งเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง และอีกตนก็สอดนิ้วเข้า-ออกท่อนล่างท่านพี่ และนำลิ้นอันสกปรกโสโครกสอดเข้าไปที่ท่อปัสวะของนาง ท่านพี่ก็ทำได้แค่อยู่นิ่งๆ เป็นเครื่องมือแก่การสนองตัณหาของพวกมัน
“อื๊อ..อึก...อ๊าห์!”
เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก ท่านพี่ก็เสร็จให้พวกมัน ท่อนล่างท่านพี่นั้นแฉะ มันเปียกไปหมด สีหน้าของท่านพี่ซีดหมด หน้าแดง อ้าปากค้างพร้อมกับร้องไห้ แววตาดูไร้วิญญาณ เหมือนดั่งทุกข์ทรมาร
“อา ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วสินะ คิกๆๆ”
ปีศาจตนหนึ่งพูดขึ้น แล้วถอดท่อนล่างของมันออกทั้งหมด สิ่งที่เห็นตอนนี้มันคือแท่งเนื้อที่แข็งและใหญ่ มันนำเข้ามาใกล้ตรงหว่างขาของท่านพี่ และจากนั้นก็สอดเข้าไปจนมิด
“อ๊ากกกก! จ..เจ็บ!! ไม่เอาแล้ว! ใครก็ได้ ช่วยข้าที ช่วยฆ่าเจ้าพวกนี้ให้ฆ่าที ใครก็ได้ อ๊าาา!!”
อ..อะไรกัน นั่นน่ะ มันเป็นของผมนะ พวกแก พวกแกทำให้มันต้องแปดเปื้อน ยกโทษให้ไม่ได้!
“ฮ่าๆๆ นี่มันยังไม่จบโว้ย!”
ปีศาจอีกตนควักแท่งเนื้อของมันแล้วนำมายัดปากของท่านพี่เพื่อไม่ให้ตะโกนโวยวาย พวกมันรูดเข้า-ออกอย่างรวดเร็ว นั่นจึงมำให้ท่อนล่างท่านพี่ฉีกขาดจนเลือดออก
ใครก็ได้ช่วยหยุดสิ่งเหล่านี้ที
ผมร้องไห้เสียใจที่ตัวเองนั้นทำอะไรไม่ได้เลย ผมปิดตาและก้มหน้าฟุบลงตรงนั้น เพื่อไม่ให้ตัวเองเห็นภาพเหล่านั้น แต่ปีศาจที่จับตัวผมก็จับหัวของผมหันไปทางท่านพี่ และขึงตาของผมออก
ผมต้องทนดูไปตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะนี่คือบาปที่ผมพยายามที่จะทิ้งท่านพี่ไว้ตัวคนเดียว
“อึก..อ๊า!”
พวกมันหยุดเคลื่อนตัว และนำแท่งเนื้อออกจากท่อนล่างและปากของพี่ ตรงนั้นมันดูเหมือนเป็นท่อระบายน้ำในร่างกายมนุษย์ น้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาจากตรงนั้นของท่านพี่ ท่านพี่สะบักสะบอม พร้อมกับหมดสติอยู่ตรงนั้น
ผมคับแค้นใจมาก ทั้งที่จะต้องช่วยให้ได้ ผมอยากจะช่วยเธอ ผมอยากที่จะรักษาเธอ ผมอยากที่จะแก้แค้นให้เธอ ข้า..อยากที่จะฆ่าพวกมันให้หมด
“คิกๆๆ เป็นยังไงบ้างล่ะ กับภาพบาปของแก”
ปีศาจตนหนึ่งพูดกับผม
“พูดมากน่ารำคาญชะมัด ถ้าข้าไม่หนี แกก็คงจะฆ่าพวกเราตั้งแต่แรกอยู่แล้วใช่มั้ย!”
“ฮ่าๆๆ ก็รู้ตัวดีนี่นา พี่สาวของแกนี่มันน่าปล้ำชะมัด ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่า ถ้าจับปล้ำต่อหน้าแกซะ มันน่าเร้าใจออก ข้าก็เลยทำแบบที่คิดซะเลย!! คิกๆๆ จงโทษตัวเองซะเถอะนะที่มาอยู่ในที่แบบนี้น่ะ”
“แกนะแก!! ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ทั้งที่เมืองของข้าก็ไม่เคยโจมตีอาณาจักรของเจ้ามาก่อน ทั้งๆ อย่างงั้น แต่ทำไม!?”
“เพราะมันน่าสนุกยังไงล่ะ”
ข้าอึ้งกับคำตอบอยู่สักพัก จากนั้นในใจมันก็เริ่มปั่นป่วน ความรู้สึกเศร้าโศรกเสียใจมันเริ่มหายไป แต่กลับกัน ความโกรธแค้นอาฆาตมันก็เริ่มเข้ามาแทน ฆ่า ฆ่ามันให้หมด แม้จะต้องตายก็ต้องฆ่ามันให้ได้
“แก..ชื่ออะไร? ”
“จะรู้ไปทำไมล่ะ?”
“ก็ถ้าไม่รู้จักแก ข้าก็จะล้างแค้นผิดคนน่ะสิ”
ปีศาจตนนั้นยิ้มอย่างได้ใจ และตอบสั้นๆ เพียงแต่ว่า
“ลัสท์ นั่นคือนามของข้า”
“แกน่ะมันน่ารังเกียจ ต่ำช้า เลวทราม ถ้าข้ามีโอกาสสักครั้ง แม้ร่างกายนี้จะแหลกเป็นผุยผง ถูกเผา หรือถูกฟันสักกี่ครั้ง ข้าก็จะฆ่าพวกแกไปให้หมด ไม่สิ ขอแค่แก..แค่แกคนเดียวก็พอ!!”
เมื่อปีศาจตนนั้นได้ยินสิ่งที่ข้าพูด มันก็ยิ้มอย่างได้ใจ และจับข้าเข้ามาใกล้ตัวมัน
“ยอดเยี่ยม!แบบนี้แหละที่ข้าอยากจะฟังที่สุด มนุษย์ทุกคนล้วนแต่ร้องขอชีวิตและไม่เคยคิดที่จะโต้กลับเลยสักครั้ง แต่ว่าแกนั้นต่างออกไป ชักจะถูกใจแล้วสิ หึ ข้าจะให้โอกาสแกสักครั้ง..หลังจากที่แกมีชีวิตรอดจากนี้ล่ะนะ ย๊ากกก!!”
หลังจากนั้น มันก็โยนผมออกจากนอกหน้าต่างอย่างสุดแรง ตัวผมนั้นลอยอยู่เหนือพื้นดิน และกำลังพุ่งตัวไปที่ไหนสักแห่งด้วยความเร็ว
อา..
พระเจ้าเอ๋ย สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นภายในใจของข้าในตอนนี้ก็คือความแค้น ข้าอยากที่จะฆ่าพวกมัน ข้าอยากที่จะล้างบางพวกมัน แต่ว่าข้านั้นไม่มีพลังพิเศษใดๆ ข้า..อยากได้โอกาส
“ข้าจะฆ่าพวกมันให้ได้เลย!!”
หลังจากนั้นผมก็ตกไปยังพื้นที่ใดสักแห่งบนผืนโลก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ