เท้าบางเรียวสวยก้าวรถจากรถลีมูซีน เดินเข้ามายังคฤหาสน์หลังโต พลันคิดถึงของติดไม้ติดมือที่น้องสาวของเขาต้องชอบมากแน่ๆ ...
นั้นคือน้ำหอมฝรั่งเศสที่เธอไปมาจากการไปสัมมนามา...
“เดียร์น่า...! ลูกรักของพ่อ โฮะๆ ให้พ่อกอดให้ชื่นใจหน่อยลูก” พ่อของเธอ โผเข้ากอดลูกสาวคนโปรดอย่างเต็มแรง...
“หืม คุณพ่อขา เดียร์เจ็บไปหมดแล้ว คุณพ่อกอดเดียร์แน่นมากเลยค่ะ...”
“ก็เดียร์ไม่อยู่ตั้ง 5 เกือบ 6 ปี เป็นธรรมดาที่พ่อต้องคิดถึงลูกสาวที่น่ารักของพ่อ”
“ค่ะ เดียร์ก็คิดถึงคุณพ่อนะคะ แล้วนี่...ยัยจินไปไหนหรอคะ? เดียร์ยังไม่เห็นหน้ายัยน้องสาวตัวแสบของเดียร์เลย...”
“อืม...น่าจะอีกสักพักคงกลับมา เห็นแต่งตัวสวยออกไป สงสัยมีนัดเดทกับหนุ่มๆ”
“จริงหรอคะ? คุณพ่อ ยัยจินมีแฟนแล้วหรอ?”
“อืม...พ่อก็ไม่แน่ใจ แต่น่าจะมีนะ วันนั้นเห็นมีมาส่งที่บ้านด้วยนะ”
“แล้วนี่เราหน่ะ เมื่อไหร่จะมีแฟนให้พ่อเห็นบ้าง? เรียนก็จบแล้วนะ”
“คุณพ่อ...ไม่เอา...เดียร์ไม่คุยด้วยแล้ว”
“โธ่ ลูกรัก ก็ตั้งแต่วันที่คุณอาโนห์มาขอหมั้นลูก ลูกก็ปฏิเสธเขา นี่ยังไม่คิดจะมีใครใหม่อีกหรอ? ดีไม่ดี ลูกกลับไปทบทวนคำของคุณอาโนห์ก็ดีอยู่น้า” พ่อของเธอยิ่งพูดยุยง ส่งเสริมอย่างให้ลูกสาวของเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที...”
“พอเถอะค่ะ ถ้าเดียร์สนใจนายเอนโซ่อะไรนั้น เดียร์คงจัดการตั้งนานแล้วค่ะ”
“เอาเถอะ ไงกลับมาแล้วก็ลองหาดูนะ พ่ออยากเห็นหน้าลูกเขยบ้างแล้ว”
“คุณพ่อรอดูของยัยจินก่อนเดียร์ได้เลยค่ะ ฮ่าๆ”
เธอพูดคุยกับคนเป็นพ่อด้วยความรู้สึกที่คิดถึงมานาน...แต่เรื่องที่มีความสุขมักจะจบลงเร็วเสมอ...
กริ๊งงง กริ๊งงง เสียงเรียกเข้า...
“ครับ เจฟเฟอร์ มอร์ริส พูดครับ” พ่อของเธอรับสายเบอร์แปลก...
“อะไรนะครับ?!!!”
“ครับ..! ผมจะรีบไปครับ!!”
“มีอะไรคะคุณพ่อ?” เดียร์น่าถามขึ้นอย่างสงสัย และรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีเอาซะเลย...
“ยัยจิน ชนท้ายสิบล้อรถคว่ำลงข้างทาง...ตอนนี้อาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล...”
“คะ?!!! ว่าไงนะ! ยัยจินเนี่ยนะ?”
“ใช่ เรารีบไปกันเถอะ”
ทั้งคู่รีบขับรถไปที่โรงพยาบาล...
อีกด้านของ เอนโซ่....
หลังจากที่กลับมาจากเครียกับเดียร์น่าเสร็จเขาก็รู้สึกโล่งอก จึงมานั่งออกแบบห้องคอนโดที่กำลังวางแปลนไว้อยู่...
“นายครับ” ลูกน้องคนสนิทของเขาเอ่ยทักขึ้น...
“ว่า?”
“เอ่อ คุณเดียร์น่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ รถชนกับสิบล้อและคว่ำลงข้างทางครับ...”
“ว่าไงนะ?!”
“เอ่อ...ตอนนี้เธออาการสาหัส”
ก่อนที่เขาจะหยิบกุญแจรถหรูออกไปดูอาการของเธอ...แต่ภาพที่พ่อเขาเสียไปต่อหน้าต่อตาที่โรงพยาบาล กลับลอยขึ้นในหัว...ทำให้เขาหยุดฝีเท้าและกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“ฝากดูอาการเธอด้วยก็แล้วกัน...ว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วมารายงานฉัน” เอนโซ่พูดเสียงเรียบ และปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“เอ่อ..ครับนาย นายไม่ไปดูอาการเธอหน่อยหรอครับ?”
“แล้วตอนที่พ่อกูจะตาย เธอมาดูมั้ยละ?”
“อีกอย่างเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดและที่สำคัญคือเรื่องของพ่อกู...”
“เอาเป็นว่ารายงานกูด้วยแล้วกัน แค่นั้นพอ”
“ได้ครับนาย”
เอนโซ่บทจะเย็นชา และนิ่งเงียบก็ทำได้ลงอย่างใจร้ายซะเหลือเกิน...เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ จุดที่แค้นใครได้...แต่เธอคือข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้!
ณ โรงพยาบาล...
“หมอเสียใจด้วยนะครับ หมอช่วยคนไข้เต็มที่แล้วจริงๆ ...เธอไม่สามารถทนพิษบาดแผลตรงนี้เอาไว้ได้...”
“อะไรนะคะ? ไม่จริง!! เดียร์ไม่เชื่อ!!! นี่เดียร์เสียน้องสาวคนเดียวของเดียร์ไปงั้นหรอ? ฮึก! ไม่จริงใช่มั้ยคะ คุณพ่อ! เดียร์ไม่เชื่อ...”
ร่างบางเป็นลมสลบไป นี่คือข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ รองจากการไปเรียนต่างบ้าน ต่างเมือง ยังไม่พอ การคิดถึงบ้านและพ่อกับน้อง ก็ยิ่งทำให้เหงามากขึ้น...
ซ้ำร้ายของการเรียนจบปริญญาโทของเธอแทนที่ทุกๆ เรื่องที่มันกดดันจะจบลง...กลับกลายเป็นความโหดร้ายที่สุดในชีวิตเมื่อน้องสาวฝาแฝดคนเดียวของเธอได้สิ้นลมหายใจไปเสียแล้ว...
คนของเอนโซ่ตามมาเฝ้าดูว่าอาการของเดียร์น่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะรายงานเจ้านายของเขา...
ลูกน้องคนสนิทเดินหาห้องพักของเดียร์น่า...และในที่สุดก็เจอห้องของเธอ....
‘เดียร์น่า มอร์ริส’
ลูกน้องของเขาแอบเปิดประตูเข้าไปดู...และ...ต่างฏ็พากันสงสัยเมื่อเธอ...
“เอ่อนายครับ...เธอปกติดีครับ ไม่มีรอยฟกช้ำหรือบาดแผลอะไรเลยครับนาย” ลูกน้องของเอนโซ่ค่อนข้างตกใจ ที่เธอประสบอุบัติเหตุขนาดนี้ แต่กลับไม่มีบาดแผลอะไรเลย...
อีกด้านของ เอนโซ่
เมื่อเขาได้รับสายรายงานจากลูกน้องคนสนิท...อารมณ์เขาตอนนี้มันเรียบตึง และความรู้สึกต่างๆ หลายความรู้สึกพลันดีกันมั่วไปหมด...
“ตายยากดีนี่...” เอนโซ่พูดขึ้นและหยิบบุหรี่มาดูดเพื่อระบายความเครียดออกมา...
“ไม่เป็นอะไรเลยงั้นหรอ? รอยฟกช้ำก็ไม่มีเลยงั้นหรอ?”
“เธอจะวิเศษเกินไปแล้ว เดียร์น่า...”
เขาพูดพลางคว้ากุญแจรถหรูและเหยียบคันเร่งเพื่อไปดูสภาพของเธอที่ว่าไม่เป็นอะไรเลย ให้เห็นกับตา!
ณ โรงพยาบาล
เจฟเฟอร์นั่งกุมมือลูกสาวที่รักของเขา ที่เป็นลมสลบไปถึงตอนนี้ ยังไม่ฟื้นขึ้นมา...ใช่เดียร์น่า รักจีน่า น้องสาวฝาแฝดของเธอมาก
ถึงแม้จีน่าจะทำตัวไม่น่ารัก และทำร้ายเธอทุกครั้งที่มีโอกาส แต่เธอก็พร้อมที่จะดูแล จีน่าเสมอ...ถ้าถามว่าทำไมผมถึงรักลูกไม่เท่ากัน...
เป็นเพราะวันหนึ่งตอนที่ทั้งคู่ยังเด็ก อายุประมาณ12-13 ปี เดียร์น่ามาบ่นกับผมว่าช่วงนี้ รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกทุกๆ คืนเลย เป็นอะไรก็ไม่รู้ ตอนตี1-2 เธอชอบรู้สึกหายใจไม่ออก...
เธอมาบอกผมซ้ำๆ ...จนวันหนึ่งผมเห็นว่าตรงลำคอของเดียร์น่า มีรอยนิ้วมืออยู่...ซึ่งก็ไม่ใช่รอยนิ้วมือใหญ่นัก...
ผมเลยลองแอบเข้าไปในห้องของลูกตอนเที่ยงคืน และนอนอยู่ใต้โซฟานั่งเล่น...เพื่อดูว่าใครกันแน่ที่ทำร้ายใครก่อน...
และที่ผมเห็นคือ จีน่าพยายามบีบคอ เดียร์น่าให้เธอหายใจไม่ออก...และดูแล้วเธอน่าจะใจเด็ดไม่พอที่จะฆ่าพี่สาวฝาแฝดของเธอได้...เธอปล่อยมือเมื่อเดียร์น่าหายใจไม่ออก...และรีบกลับไปนอนที่นอนตัวเอง...
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยบอกเดียร์น่า และจีน่า เลยว่าผมรู้เรื่องนี้ ผมจัดการวิธีนี้คือการแยกห้องของทั้งคู่นอนคนละห้องไปเลย...
ถ้าถามถึงแม่ของพวกเธอทั้งคู่...เธอเสียแล้วครับ เธอคลอดลูกสาวฝาแฝดให้ผม หลังจากนั้นเธอเสียเลือดมาก และจากผมไป ผมดูแลลูกทั้งสองคนอย่างดี...
แต่เหมือนจีน่าจะค่อนข้างอิจฉาเดียร์น่าในทุกๆเรื่อง เธอเลยชอบทำร้ายหรือว่าร้ายเดียร์น่าบ่อยๆ ผมพยายามบอกและเตือนแล้ว แต่เดียร์น่าก็ไม่เคยโกรธน้องสาวของเธอเลย...
เดียร์น่าเรียนดี และมีทุกอย่างให้เชิดหน้าชูตา อีกอย่างเป็นความลับส่วนตัวทางการทูตที่ผมไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องส่วนตัวของผมมาก เพราะมันจะเป็นอันตรายต่อตัวผมและลูกๆ ของผม...เวลาไปไหน ผมก็พาแต่เดียร์น่าไป เพราะเคยชวนจีน่าแล้ว เธอ...ไม่อยากไป และไม่ชอบเข้าสังคม...ถึงจะเป็นแฝดกัน แต่นิสัยพวกเธอทั้งสองคนแตกต่างกันมากๆ ....
___________________________________________________________________________
มาแล้ววววว มาอัพพี่โซ่แล้วจ้า อิพี่มันใจร้ายนัก!
อีพีหน้า พระนาง(ตัวจริง) เจอกันแล้ว จะสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน รอติดตามกันนะคะ
กดไลค์ เก็บไว้ในคลัง คอมเม้นท์
เป็นกำลังใจให้ไรท์ ได้ดีมากๆเลยน้า