The Project secret ปฏิบัติการสร้างจารชน
เขียนโดย UnknowJ
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16.33 น.
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 16.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จดหมายสีน้ำเงิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในโลกปัจจุบันดูทั่วไปก็เหมือนจะมีความสงบสุข แต่ก็ไม่ใช่กับบางพื้นที่และไม่ใช่กับบางประเทศที่ยังมีการก่อการร้ายหรือการก่ออาชญากรรมอยู่มากมาย หลังจากปี ค.ศ. 1945 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ ดูเหมือนว่าในหลายๆประเทศจะสูญเสียกำลังพลไปมากมาย ไม่ใช่แค่ทหาร แต่ประชาชนคนธรรมดาก็ด้วย และเหมือนว่าจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีแนวคิดเหมือนๆกัน ว่าหลังจบสงครามไม่มีบุคคลชั้นยอดที่จะส่งไปแทรกแซงหรือทำภารกิจเสี่ยงอันตรายได้มากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว จึงได้ทำการจับมือกันก่อตั้งโรงเรียนขึ้นอย่างลับ ๆ แน่นอนว่าโรงเรียนที่ว่าไม่มีในรายชื่อโรงเรียนที่หาได้ทั่วไป คนทั่วไปไม่อาจรู้ได้ว่าอยู่ที่ไหน และไม่มีคนรู้เลยว่าที่นี่สอนอะไร ….
“ ขอโทษนะครับ มีใครอยู่รึเปล่าครับ ? ” เสียงของผู้ชายที่คาดว่าอายุไม่มากวัยหนุ่มกำลังร่าเริงตะโกนอยู่ข้างหน้าบ้าน
“ อ่ะ ครับ ” ดูจากการแต่งตัวคงไม่ต้องสงสัยหรอกว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์
“ มีจดหมายมาส่งน่ะครับ ” บุรุษไปรษณีย์ยื่นซองจดหมายสีน้ำเงินพร้อมกับมีตราปั้มรูปตัว S ที่ใช้ปิดผนึกเหมือนจดหมายสมัยก่อนมาให้
“ ขอบคุณครับ ” เมื่อรับมาก็สังเกตุว่ามันแปลก
“ ขอโทษนะครับ เอ่อ…คือว่า ไม่มีชื่อผู้ส่งเหรอครับ มันมาแบบนี้เลยหรอ ” ใช่ ที่ตัวซองจดหมายสีน้ำเงินไม่มีอะไรอยู่เลยมีแต่ที่อยู่และชื่อผู้รับซึ่งก็คือผม แต่กลับไม่มีชื่อผู้ส่งหรือแม้แต่ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
“ ไม่รู้สิครับ ผมก็มาส่งตามที่อยู่เฉยๆน่ะครับ ” บุรุษไปรษณีย์ตอบแบบเรียบๆ สีหน้าแบบนั้นคงไม่ได้โกหกหรอกมั้ง
“ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ” บุรุษไปรษณีย์เห็นว่าผมไม่มีอะไรจะถามอีกแล้วก็ขับรถมอไซค์ออกไปเพื่อส่งจดหมายให้กับบ้านอื่นต่อ แล้วทิ้งผมไว้กับความงุนงงพร้อมกับจดหมายประหลาด
เมื่อกลับเข้าไปในบ้านก็เริ่มมานั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ในบ้านที่ผมอยู่ตัวคนเดียวเพราะเมื่อ 3 ปีก่อนคุณปู่ที่เป็นคนเลี้ยงผมมาได้ตายจากไปเพราะโรคชรา ผมที่เป็นหลานชายคนเดียวก็ได้รับบ้านและมรดกที่เหลือมาแบบเต็มๆ ถึงจะไม่ได้มีอะไรมากมายแต่อย่างน้อยก็มีบ้านไว้ให้อาศัยอยู่ล่ะนะ ส่วนแม่ของผมเสียตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ หน้าแม่ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆสักครั้ง มีแต่รูปถ่ายของแม่เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าแม่หน้าตาเป็นยังไง ส่วนพ่อก็จากผมไปเมื่อ 5 ปีก่อน และเป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่าพ่อทำงานอะไร จากเมื่อก่อนที่บอกว่าไปทำงานและก็หายไปหลายเดือน หรือบางทีก็หลายปี มีแต่ส่งเงินและของฝากมาให้ผมกับปู่ที่อยู่กันสองคน จนเมื่อพ่อตายก็มีคนที่แต่งตัวเหมือนทหารแต่ไม่ใช่ของญี่ปุ่นมาหาที่หน้าบ้านพร้อมกับบอกว่าพ่อเสียแล้ว ทำให้ผมรู้เป็นครั้งแรกว่าพ่อเป็นทหารปฏิบัติการพิเศษของต่างประเทศ
ที่ได้จากพ่อก็มีแต่มรดกที่ทิ้งไว้ให้กับเหรียญกล้าหาญเท่านั้น เมื่อตอนที่พ่อตายคุณปู่ถึงได้บอกให้ฟังว่าเขาทำงานเป็นทหาร นานๆทีจะกลับมาหาผม และที่ไม่สามารถบอกให้ผมรู้ได้ว่าทำงานอะไรก็เพราะเป็นความลับของหน่วยงานเพราะพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษที่มักจะถูกส่งไปแทรกซึมหรือทำงานอันตรายตลอด ข้อมูลทุกอย่างจึงเป็นความลับ พ่อบอกผมแค่ว่าตัวเองทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็เลยต้องเดินทางไปที่ต่างๆทั่วโลก
เอาเถอะยังไงซะมันก็เรื่องในอดีตตอนนี้ก็อยู่ตัวคนเดียว หลังจากเรียนจบ ม.ปลาย เมื่อ 3 เดือนที่แล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรดี ไม่มีความรู้สึกว่าอยากเข้ามหาลัยด้วย จนถึงตอนนี้ก็ได้แต่ทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงิน ถึงแม้จะมีเงินจากมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้อยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ใช้เลยเพราะติดนิสัยประหยัดมาจากคุณปู่
“ ว่าแต่จดหมายนี่มันอะไร ” เมื่อรู้ตัวว่าคิดอะไรเพลิน ก็เปิดจดหมายที่มาส่ง ข้างในมีเพียงกระดาษแผ่นเดียวสีขาวไม่มีลวดลาย และมีทิ้งที่เขียนไว้เพียงประโยคเดียวว่า ‘ ยินดีต้อนรับสู่ Secret ’ แค่ข้อความในประโยคยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยที่สุด แต่สิ่งที่สงสัยที่สุดคือ มันเขียนเป็นภาษารัสเซีย ซึ่งผมที่ได้พ่อสอนภาษารัสเซียให้ตั้งแต่ตอนเด็กถึงได้อ่านออก ที่สิ่งก็เคยรับงานพาทไทม์เป็นนักแปลเอกสารของบริษัทแห่งนึงด้วย
“ ยินดีต้อนรับสู่ Secret งั้นหรอ อะไรละเนี่ย แล้วไอ้ตัวเลขที่เขียนอยู่มุมล่างกระดาษนี่มันอะไร ” ด้วยความสงสัยที่ไม่รู้จะระบายที่ไหนเลยพูดลอยๆออกมาทั้งที่อยู่คนเดียว ถ้าคนอื่นมาเห็นคนคิดว่า ไอ้นี้พูดอยู่กับใคร ถึงจะบอกว่าเป็นตัวเลขแต่ก็ไม่ใช่การพิมพ์แบบปกติหรือการเขียน แต่มันคือการปั้มนูนเหมือนเครื่องพิมพ์ดีดสมัยก่อนเพียงแต่ไม่มีน้ำหมึกทำให้กระดาษนูนออกมาเล็กน้อยเป็นตัวเลข ต่างๆ
‘ 554 595*52 ’ นี่คือตัวเลขที่ปั้มเอาไว้ที่มุมล่างขวาของกระดาษ
ตัวเลขแบบนี้เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ใช่แล้วในตอนที่พ่อสอนเรื่องเกี่ยวกับแผนที่นี่มันตัวเลขบอกพิกัด (Map code) ของ Google map ในตอนที่ยังเป็นเด็กพ่อได้สอนผมหลายอย่าง ทั้งศิลปะการต่อสู้เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวและการอ่านแผนที่ การใช้เข็มทิศ หรือแม้กระทั่งการปีนเขาและว่ายน้ำก็ตาม ทำให้ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความรู้รอบตัวค่อนในระดับนึง
เมื่อรู้แล้วว่าเป็นตัวเลขบอกพิกัดเลยเอาไปหาตำแหน่งของสถานที่ใน Google ทำให้รู้ว่าสถานที่นั่นคือ โตเกียวทาวเวอร์ …
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ