11
เขียนโดย Ghetto
วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.12 น.
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 17.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) 11-09 (ตอนจบ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ผมตื่นขึ้นมากับความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังจากพยายามต่อสู้กับความคิดและความนอยด์ของตัวเองมานานหลายวัน ผมรู้ว่าการจมดิ่งไปกับความรู้สึกมันไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับอดีตที่ผ่านไปแล้วได้เลย แต่มันจะทำให้อนาคตผมต้องเปลี่ยนไปหากผมไม่รีบจัดการกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้
ผมตัดสินใจแล้วว่า ผมจะไปทำบุญให้น้องเจในสัปดาห์หน้า และไม่ว่าผมจะรักและคิดถึงน้องเจมากแค่ไหน ผมจะต้องนำความทรงจำของเรา ยัดลงใส่กล่องใบเล็กๆ ใบนึง และทิ้งกล่องใบนั้นให้จมหายไปในทะเลแห่งความคิดของผมให้ได้ แม้ว่ามันจะจมช้าแค่ไหน หรือจะมีกระแสใต้น้ำพัดพามันขึ้นมาลอยอยู่เหนือผิวน้ำอีกสักกี่ครั้ง ผมก็จะต้องล่องเรือของผมผ่านมันไปโดยไม่สนใจให้ได้ ไม่เช่นนั้นผมจะต้องวนอยู่ที่จุดจุดเดิมไปตลอดกาล
31 มีนาคม
ผมตื่นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น ผมมีความตั้งใจอันแรงกล้าว่าจะต้องตัดความคิดถึงน้องเจให้ได้อย่างเด็ดขาด ผมเดินลงจากห้องนอนเตรียมพร้อมกับแผนการที่วางไว้ พบกับความว่างเปล่าของบ้าน มันทำให้จิตใจผมห่อเหี่ยวจริงๆ พ่อผมออกไปข้างนอก แม่ผมออกไปข้างนอก ผมไม่เคยรู้สึกเดียวดายขนาดนี้มาก่อนเลย เดิมผมเป็นคนชอบอยู่บ้านคนเดียวมาก แต่น้องเจทำให้สิ่งเหล่านี้มันเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายจริงๆ ผมจะต้องรีบทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
ผมขับรถออกจากบ้าน จุดมุ่งหมายเดียวที่สามารถสืบมาได้คือวัดแห่งหนึ่งย่านบางนา ซึ่งไม่ได้ไกลจากบ้านผมมากนัก ผมขับรถมาประมาณ 50 นาที ผมจำได้ว่า ณ เวลาตอนที่เลี้ยวเข้าซอยที่วัดอยู่นั้น หัวใจผมร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม มันใจหายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
ผมลงจากรถ วันนั้นเป็นวันที่อากาศแจ่มใสมาก ลมแรง แดดร้อน แต่มองไกลๆ ฟ้ามีเมฆครึ้มอยู่จำนวนหนึ่ง เปรียบเหมือนกับตัวผมเอง ที่ดูเหมือนจะร่าเริงและเป็นปกติได้แล้ว แต่ลึกๆ ในใจก็ยังไม่คลายความเศร้าหมอง
วัดแห่งนี้ช่างแปลกเหลือเกิน ผมมองหาศาลา ผมหาไม่เจอ มีเพียงอุโบสถที่สวยงามและกุฏิพระเท่านั้น ผมมองหาเมรุ ก็ไม่เจอ ผมเริ่มสังหรณ์ใจว่าผมมาผิดหรือเปล่า หรือว่าจริงๆ แล้วมีส่วนของศาลาแยกไปจากตัววัดอีกที ผมไม่แน่ใจว่าที่นี่คือสถานที่สุดท้ายบนโลกใบนี้ที่ตัวน้องเจมาถึงก่อนที่จะกลายเป็นเธ้าธุลีรึเปล่า
ผมเดินหารอบบริเวณวัดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพบกับศาลาที่ทันสมัยซ่อนอยู่ในตัวอาคารด้านหลังของวัด พร้อมเมรุที่ซ่อนกลืนไปกับกำแพงด้านหนึ่งของอาคาร แต่ผมก็สามารถบอกได้จากคราบเขม่าควันว่านี่คือสถานที่ที่น้องเจถูกเผาก่อนที่ครอบครัวน้องจะพาน้องไปยังทะเลที่น้องรักที่สุด ผมหมดความกังวลแล้ว ผมมาถึงที่แล้ว…
ผมเดินไปยังอุโบสถ ทรุดเข่าลงเบื้องหน้าพระพุทธรูป
ผมหลับตา…
ภายในใจพรั่งพรูทุกความรู้สึกที่อยากบอกน้องเจ ในใจขอเพียงได้เห็นน้องเป็นครั้งสุดท้าย แต่ความจริงก็คือความจริง นี่ไม่ใช่ละครที่จะมีวิญญาณของคนที่รักมานั่งอยู่ตรงหน้าให้เราได้แก้ตัวเป็นรอบที่สอง
หลังสักการะพระพุทธรูปเสร็จสิ้น ผมเดินออกจากอุโบสถด้วยความรู้สึกที่ไม่มีความรู้สึก มันว่างเปล่า อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้…
ผมเดินมาที่รถจะตัดสินใจกลับบ้าน… แต่เหมือนผมลืมอะไรไปอย่างนึง ผมมาตัด ดังนั้น ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับน้องเจจะต้องจบลงที่นี่ จะต้องหายไปจากโลกนี้ เหมือนที่น้องเจได้หายไปจากโลกนี้อย่างไม่มีวันกลับมา
ผมเปิด Instagram ขึ้น เลื่อนหาข้อความที่เคยส่งให้น้องเจ
ผมถ่ายรูปท้องฟ้าและเมรุ.. ส่งให้น้อง ถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีใครจะได้อ่านมัน
“พี่มาส่งน้องเจแล้วนะครับ”
“พี่รักน้องเจมากนะครับ”
“แต่พี่ว่าพี่ต้องพอแล้วแหละ”
“เอาใจช่วยให้พี่เจอคนที่ทำให้พี่รู้สึกเหมือนเจอน้องเจอีกครั้งด้วยนะครับ”
“หลับให้สบายนะครับน้องเจ”
ผมลบแชทของเราออกอย่างไม่ลังเล ผมลบทุกการค้นหาที่เกี่ยวกับน้องเจออกจากมือถือผมทั้งหมด ผมจบแล้ว ผมพร้อมจะเดินหน้าต่อแล้ว
ขอบคุณครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ