ห่มรักเคียงดาว

-

เขียนโดย zusuran

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.43 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,197 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 15.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) เปิดใจ (The End)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บร้าวไปทั้งตัว สิ่งแรกที่มองเห็นก็คือเพดานสีขาวกับเสาน้ำเกลือที่มีสายระโยงรยางค์เข้ามาในตัวผม

คอผมแห้งเป็นผงจนเปล่งเสียงออกมาได้ไม่ต่างจากเสียงกระซิบ

“อืม”

“ตื่นซะที”

เสียงคุ้นหูดังมาพร้อมกับใบหน้าของคนที่ผมรู้จักดี

ภูผาหน้าตาเหมือนคนอดนอนยืนเกาะขอบเตียงมองมาที่ผมเหมือนจะโล่งใจ

 

หลังจากที่ผมฟื้นทั้งหมอทั้งพยาบาลก็เข้ามาเช็กอาการผมหลายต่อหลายรอบ พร้อมทั้งตำรวจที่เข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

จะว่าไปภูผามันก็ตำรวจไม่ใช่เหรอ

ช่างเถอะ กว่าจะเสร็จกิจกรรมต่างๆ นานา ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง ผมเจ็บแผลที่ไหล่และยังขยับตัวไม่ถนัด แต่ภูผาไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ผมและดูแลผมด้วยตัวเองทุกอย่างจนแทบจะสิงร่างผมอยู่แล้ว

“พอแล้ว ฉันทำเองได้”

“พี่รังเกียจผมเหรอ”

กึก!

ทุกอย่างหยุดชะงักไปทันที ผมเดาใจเจ้าเด็กบ้านี่ไม่ถูกเลยจริงๆ

ผมเงยหน้ามองภูผา ใบหน้าใสๆ ดูหมองคล้ำ ตาลึกโหลเพราะอดนอน แถมหนาวเคราขึ้นหร็อมแหร็ม ดูแล้วจะบอกว่าน่าสงสารหรือสมเพชดี แต่ว่าทุกอย่างมันก็เป็นเพราะผมเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนี่นะ ตั้งแต่ผมฟื้นขึ้นมาภูผาก็ไม่ห่างผมเลย

ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมคงรู้สึกไม่ดีไปมากกว่านี้แน่ๆ

“ภูผา”

“หืม”

“เรามาเปิดใจคุยกันเถอะ”

“ได้”

ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพูดออกไปเรียบๆ

“ฉันไม่ใช่เกย์”

“ผมรู้ เพราะผมเองก็ไม่ใช่”

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราทั้งคู่ การเปิดใจคุยกันมันยากอย่างนี้นี่เองเหรอ

แล้วนี่ผมต้องพูดอะไรต่อดี

ภูผาหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ห้องพักคนไข้ที่ผมพักอยู่ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลและมีการ์ดคอยคุ้มกันอยู่หน้าประตู ตอนนี้นอกจากหมอกับพยาบาลประจำแล้วก็มีแค่ภูผาเท่านั้นที่เข้ามาได้

“เวลาตกหลุมรักใครสักคน เขาสามารถเป็นใครก็ได้ ผมไม่สนใจหรอกว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ผมสนใจที่ตัวตนของคนคนนั้นมากกว่า”

ภูผาหันกลับมามองผมและยิ้มจางๆ มันทำให้ผมยิ้มออกมาด้วย

นายยิ้มฉันก็ยิ้ม.... แบบนี้จะเรียกว่าความสุขได้ไหมนะ

“พักผ่อนเถอะ”

ภูผาว่าพร้อมยื่นมือมาผลักผมเบาๆ ผมเจ็บแผลที่หน้าอกอยู่จึงได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย พอหัวถึงหมอนผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีก

ผมหลับยาวและพอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเช้าตรู่ของอีกวัน พยาบาลเข้ามาเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ใหม่

ผมนอนซมอยู่ที่โรงพยาบาลสามวันเต็มๆ และไม่เห็นแม้แต่เงาของภูผา

“เจ้าเด็กบ้านี่”

ผมบ่นไปเรื่อย มองออกไปนอกหน้าต่างที่พยาบาลเปิดผ้าม่านออกไว้ให้ ดูแล้วผมคงได้กลับบ้านคนเดียว

“เรามารับคุณธารากลับบ้านครับ”

“แล้วภูผาล่ะ”

ผมถามนายตำรวจที่เดินเข้ามาช่วยถือของ ทั้งสองคนมองหน้ากันสักพักก่อนจะหันมาตอบคำถามผม

“ติดภารกิจสำคัญ มาไม่ได้ครับ”

“อย่างนั้นเหรอ”

ผมรับคำตอบนั้นมาอย่างส่งๆ ตอนนี้ผมไม่อยากรู้เรื่องของใครทั้งนั้น ผมแค่อยากพักผ่อน อยากกลับไปยังโลกที่ผมเคยอยู่

ผมกลับมาบ้าน บ้านที่มีเพียงผมคนเดียว

ความเงียบสงบที่ผมเคยชื่นชอบหากแต่ตอนนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกเหงาชอบกล

“ขอบคุณที่มาส่ง พวกคุณกลับไปเถอะ”

“แต่ว่าคุณอยู่ในสถานะคุ้มครองพยาน....”

“ถ้ามีเรื่องอะไรผมจะรีบแจ้งทันที ตอนนี้ผมต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อพักผ่อน”

“ครับ”

ผมสลัดนายตำรวจสองคนออกไปได้สำเร็จและเหลือเพียงความเงียบที่ผมคุ้นเคย สิ่งที่ทำให้ผมอยู่กับมันได้ก็คืองาน

ผมหยิบแล็บท๊อปขึ้นมา โทรหาเลขาส่วนตัวและทำงานส่วนที่ยังค้าง แต่ทว่าผมกลับไม่มีสมาธิจะทำมันออกมาได้ดีเหมือนเมื่อก่อนเลย ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดจนต้องโยนแล็บท๊อปกลับไปบนโซฟา

“เฮ้อ....”

ผมถอนหายใจออกจนหมดปอดล้มตัวลงนอนบนโซฟามองเพดานที่เริ่มจะมืดสลัว ผมไม่คิดจะเปิดไฟและไม่มีแรงจะลุกไปทำอะไรต่อ

นี่รึเปล่านะที่เขาเรียกว่า สภาวะหมดไฟ

ผมหลับตาลงและมันก็ทำให้ผมง่วงนอนง่ายดายเหลือเกิน

ฟุ่บ!....

แรงไหวเหมือนมีคนมายกตัวผมจนลอยปลุกผมให้ตื่น เมื่อลืมตาขึ้นมาก็รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว และคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็คือภูผา

“เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง”

“ผมมีวิธีของผมแล้วกัน”

ภูผาตอบง่ายๆ สองมือกำลังเปิดกล่องปฐมพยาบาลเอาเซตทำแผลออกมา

ผมยกมือปลดกระดุมเสื้อออกอย่างรู้งาน ในหัวยังมึนงงตาจะปิดแหล่มิปิดแหล่

ภูผาทำแผลให้ผมจนเสร็จและเก็บอุปกรณ์กลับเข้าที่ก่อนที่มันจะกลับมานั่งบนเตียงและมองผมที่ยังสะลึมสะลือ

เรื่องจะคุยก็คุยกันไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ ผมมองหน้าภูผาในขณะที่อีกฝ่ายก็มองหน้าผมเหมือนกัน

“ชอบฉันจริงเหรอ”

“อืม”

“ทำไม”

“ไม่รู้สิ ชอบไปแล้ว”

สิ้นสุดบทสนทนาทุกอย่างก็เงียบลงอีกครั้ง ผมนอนนิ่งไม่ขยับในขณะที่ภูผาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมและมองหน้าผม

ทุกอย่างเงียบจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาที่กำลังหมุน แม้แต่เสียงเต้นของหัวใจตัวเองก็ยังได้ยินชัด

ภูผาจับมือผมขึ้นไปวางบนตักมันและบีบแน่นจนผมนิ่วหน้า ไม่รู้ว่ามันจะสื่อถึงอะไรแต่ว่าตอนนี้ผมไม่อยากวิ่งหนี ไม่อยากขัดขืนอะไรอีกแล้ว

และพอเห็นท่าทางโอนอ่อนของผมภูผาก็โน้มตัวเข้ามาประกบปิดปากผมทันที

เป็นจูบที่ลึกซึ้ง เนิบนาบ จนผมคล้อยตามและตอบสนองไปอย่าง่ายดาย สองมือของผมถูกล็อกตรึงไว้เหนือหัวในขณะที่ร่างกายกำลังบิดเร้ารับสัมผัสจากมือของอีกฝ่ายที่ลูบไล้ไปแทบทุกส่วน

“อื้ม”

“ทำได้ไหม”

“..........ทำสิ”

ผมกระซิบเสียงแผ่ว อายกับคำพูดของตัวเองเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้ไม่มีโอกาสคืนคำได้แล้ว ภูผายิ้มกริ่มและเริ่มซุกไซร้ร่างกายผมอย่างระวัง หลีกเลี่ยงบาดแผลที่ยังไม่หายดีและเล้าโลมอย่างเอาใจ

ร่างกายผมโยกไหวไปตามแรงของอีกฝ่าย ท่ามกลางความมืดสลัวภายในห้องที่มีเพียงไฟหัวเตียงดวงเล็กๆ

“ฮะ!อ่ะ.....”

เสียงครางผสมปนเปไปกับเสียงหายใจกระเส่าเรียกอารมณ์กระสันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายผมตอบสนองการรุกรานจากอีกฝ่ายอย่างไม่ขัดขืน ยิ่งลึกยิ่งต้องการมากขึ้นไปอีก

“ระ แรงอีก อึ่ก!”

“พี่น่ารักจริงๆ ธารา”

“แฮ่กๆๆ พูดอีกฉันจะ ฮ๊า!!!”

“จะทำไมเหรอ”

ภูผายกตัวผมแนบชิดกำแพงส่งความร้อนแรงทะลวงลึกเข้ามาจนผมจุกพูดไม่ออก สองมือของผมจิกทึ้งไหล่กำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นเพื่อระบายความเสียวกระสัน แผ่นหลังแนบกำแพงครูดไถขึ้นลงตามจังหวะกระแทกกระทั้นจากคนตรงหน้าที่กระทำกับช่องทางรักด้านหลัง

“แรงแบบนี้ พอใจพี่ไหม”

“อื้ม!”

ผมแลกจูบกับนตรงหน้าอย่างเมามันในขณะที่ร่างกายส่วนอื่นก็ทำหน้าที่ของมันอย่างถึงใจเช่นกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า เวลาล่วงเลยไปครึ่งค่อนคืน ภายในห้องแทบทุกตารางเมตรคือพื้นที่ระเริงรักของเราทั้งคู่ที่ไม่รู้จักคำว่าอิ่ม

ร่างกายมันเรียกร้องหากันทุกครั้งที่เกิดอารมณ์

สามเดือนเร็วเหมือนโกหก ภูผามาอยู่กับผมที่บ้านและทุกครั้งมันก็ไม่ได้จบลงแค่การนั่งคุยและทานข้าวชนิดที่ว่าถ้าผมสามารถตั้งท้องได้เหมือนผู้หญิง ป่านนี้เจ้าตัวน้อยคงจะมาทักทายแล้ว เพราะการมีอะไรกันทุกครั้ง ไอ้เจ้าบ้านี่ไม่เคยป้องกันและไม่ได้จบแค่ครั้งสองครั้ง

“ธารา”

“หืม”

“เรา มีลูกด้วยกันสักคนดีไหม”

“หา”

“ผมบอกว่า เรามีลูกด้วยกันสักคน ดีไหม”

แก๊ง.....

ปากกาในมือผมหลุดลงไปกลิ้งเป็นลูกข่างอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว

“ฉันเป็นผู้ชาย” ผมย้ำเสียงหนัก เจ้าตำรวจหัวทึบนี่มันคงลืมไปแล้วว่าผมท้องไม่ได้

“ผมก็ไม่ได้หมายถึงว่าพี่ต้องท้องเองนี่”

“หมายความว่ายังไง”

“เรารับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมสักคน ดีรึเปล่า”

เด็กเหรอ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

ในหัวผมมีแค่เรื่องงาน นอกจากเรื่องงานก็ไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอื่นอีก แถมเวลามีเซ็กส์กับคนตรงหน้าในหัวก็ขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก

“ลูก....เหรอ”

ถ้าในบ้านมีเด็กเพิ่มเข้ามาสักคนสองคนแบบนี้แล้วจะเรียกว่าครอบครัวได้รึยังนะ

แต่ก่อนอื่น มีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น

พ่อกับแม่ ของเราทั้งคู่

“ใช้ชีวิตตามที่ลูกต้องการเถอะจ้า”

แม่ของผมพูดผ่านหูโทรศัพท์ หลังจากที่ผมโทรหาและเล่าทุกอย่างให้ท่านทั้งสองฟัง ส่วนภูผาดูจะขรุขระอยู่ แต่สุดท้ายพ่อแม่ก็ยอมเปิดทางเพียงเพราะพี่สาวของภูผาแต่งงานและกำลังมีหลานให้

ทุกอย่างดูจะเรียบง่ายเกินคาด แต่ก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้

“เรามาทำให้มันถูกต้องกันเถอะ”

“ยังไง”

ภูผาคว้ามือผมไปและสวมแหวนที่นิ้วนางให้ทันที

“ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่ด้วยกัน ผมจะมีพี่คนเดียว ธารา”

นี่คือการขอแต่งงานที่โคตรไม่โรแมนติกที่สุดในสามโลกเลย แต่เพราะอะไรไม่รู้มันทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมา

“หึๆๆ ฮะๆๆ นายนี่มันโคตรแข็งเป็นท่อนไม้เลยว่ะ”

“แล้วชอบไหมล่ะ”

“ฮะๆๆ อะไร”

“ชอบผมไหม”

“หึๆๆ”

“ไม่ตอบ?”

“จะให้ตอบว่ายังไงล่ะ”

“ตอบตามความจริง”

“ไม่ชอบ”

ผมพูดความจริง ผมไม่ได้ชอบภูผา แต่ผมรู้สึกดีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน

ภูผายิ้มจาง แน่นอนว่ามันรู้นิสัยของผมระดับหนึ่งล่ะ

“ไม่ชอบจริงเหรอ”

“ใช่”

“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้มาทำเรื่องที่พี่ชอบกันเถอะ”

ตึกตักๆๆ

“ผมรู้ว่าพี่ชอบอะไร ธารา”

เสียงกระซิบข้างหูทำเอาผมหน้าร้อนเห่อ และต้องสะดุ้งจนลมหายใจติดขัดเมื่อถูกขบเบาๆ ที่ใบหู

“ต่อไปมีลูกแล้วก็คงทำตามใจไปทั่วบ้านแบบนี้ไม่ได้แล้วสิเนี่ย”

“หมายความว่าไง”

“หึๆๆ”

ไอ้เสียงหัวเราะกับใบหน้ายิ้มแบบมีเลศนัยแบบนี้ผมละเกลียดนัก เพราะไอ้เด็กบ้านี่มันชอบทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงเสมอ ถึงแม้ว่าสุดท้ายมันจะทำให้ผมสุขสมจนแทบสำลักก็ตาม

 

 

 

The end

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา