ภวังค์รักในห้วงฝัน

9.0

เขียนโดย Yajula

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.05 น.

  19 ตอน
  2 วิจารณ์
  14.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ความสัมพันธ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               

บทที่ห้า

ความสัมพันธ์

          พักเที่ยง

          พาฝันแยกกับเพื่อนๆ เพื่อขึ้นไปที่ห้องเรียนก่อน เพราะรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย อยากกลับมานั่งพักที่ห้องสักครู่ คิดว่าอาการน่าจะดีขึ้นเพราะเธอขี้เกียจเกินกว่าจะไปห้องพยาบาลที่มีเจ้าหน้าที่หน้าตาบึ้งตึงรอให้การรักษาอยู่ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอรู้สึกปวดท้องประจำเดือน จึงไปนอนพักที่นั่น ระหว่างที่เธอกำลังจะนอนอยู่ในขณะนั้น กลิ่นแปลก ๆ ได้ลอยโชยมา เป็นกลิ่นของน้ำปลาร้า มะนาวผสมผสานกัน ทำให้เธอได้แต่สงสัยระคนรำคาญ สักพักพวกเขาถือจานใบใหญ่สีขาว ที่เต็มไปด้วยส้มตำปูปลาร้า โรยหน้าด้วยไข่เค็มพูนเต็มจาน เดินผ่านเธอไปยังมุมหนึ่งของห้อง พลางชวนกันพูดคุยกันเสียงดังเซ็งแซ่ วันนั้นเธอจึงอดทนนอนอยู่ในห้องนั้น จนกระทั่งอาการปวดลุเลาลง จึงรีบขอตัวกลับไปเรียนกับเพื่อน ๆ ดีกว่า นับแต่นั้นเด็กสาวจึงขยาดกับห้องพยาบาลที่นั่นมาก ๆ

          เด็กสาวร่างบางในชุดนักเรียนเดินเข้าไปในห้องอย่างช้า ๆ เจอเด็กผู้ชายร่างสูงคุ้นตากำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะของเขา ซึ่งอยู่แถวหน้าสุดของห้อง เพราะเขาเป็นเด็กเรียนเก่ง ขยัน และอารมณ์ดี แต่สีหน้าที่จริงจังของเขาในขณะนี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อน  อาจเป็นเพราะเด็กชายจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขากำลังเขียน จึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอที่เดินเข้ามา

          พาฝันหันหลังเดินกลับออกไป อ้อมมาทางด้านหลังแทน สายตาของเด็กสาวจับจ้องไปยังแผ่นหลังของเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น ไม่นานเธอก็ละสายตาเดินตรงไปยังโต๊ะเรียนของเธอ

          เสียงขยับเก้าอี้ดังขึ้น ทำให้เด็กผู้ชายคนนั้นหันหลังมองตรงมายังเสียงดังกล่าว จึงสบตาเข้ากับเธออย่างจัง และเผยรอยยิ้มขึ้นให้อย่างใจดี ดวงตาที่ยิบหยีของเขาแสดงออกถึงความเป็นมิตรให้กับเธอ

          “ขอโทษนะ รบกวนนายหรือเปล่า” พาฝันรีบเอ่ยขอโทษออกไปอย่างรู้สึกผิด

          “ไม่เป็นไร เสร็จพอดี” เขาบอกอย่างไม่ถือสา

          “อ่อ” เสียงเธอตอบรับพึมพำเบา ๆ และหลบเลี่ยงสายตานั้นของเขาอย่างรวดเร็ว เหมือนคนไม่รู้จะทำอะไร มือของเธอสารวนกับกระเป๋าเรียน  ราวกับหาของบางอย่างที่สำคัญ คิ้วของหญิงสาวขมวดขึ้นอย่างเคร่งครึม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เธอกลับลืมไปเสียสนิท ว่าขึ้นมาทำอะไรที่นี่

          ระหว่างนั้นมือเล็กควานหาของในกระเป๋า เจอเข้ากับแผงยาเล็ก ๆ ที่มักจะพกเป็นประจำ เธอหยิบยาแก้ปวดมาแกะและหยิบเข้าปากทันที คว้าขวดน้ำดื่มของตัวเอง ที่วางไว้ข้างโต๊ะมาดื่มอย่างรวดเร็ว  

          “ไม่สบายเหรอ” เสียงทุ้มห้าวถามขึ้น เมื่อเขาเห็นเธอหยิบยาออกมาทาน

          “ปวดท้องนิดหน่อย กินยาแล้วนอนสักพักก็หายแล้ว” เธอบอกไปความจริงไปส่วนหนึ่งกับเขา

          “ให้ผมพาไปส่งที่ห้องพยาบาลไหม?” เขาอาสาพาเธอไปส่งที่ห้องพยาบาลด้วยความหวังดี

เธอส่ายหน้าให้อย่างปฏิเสธ โดยให้เหตุไปว่า “ปวดไม่นาน เดี๋ยวก็หาย อาการแบบนี้ฉันเป็นประจำทุกเดือน ชินแล้วล่ะ” ทันทีที่เขาได้ยินแบบนั้น เขาก็แสดงสีหน้าเห็นใจออกมา

          “มีอะไรให้ช่วย บอกผมได้นะ”

          “ขอบคุณนะ...นายเมศ” ว่าแล้วเธอก็ฟุบหน้านอนลงไป ปล่อยให้เขามองมาที่เธออยู่อย่างนั้น

          นี่เป็นบทสนทนาของเขากับเธอที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่เธอได้เข้ามาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของห้อง ไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ เข้ามาใกล้

          “อ้าว เมศ ทำไมวันนี้นายขึ้นมาอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ” เสียงหวานใสของเด็กสาวหนึ่งในสมาชิกดีเด่นของห้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ก่อนที่เธอจะกลับเข้ามาที่ห้อง เห็นกลุ่มเพื่อนของเมศยังอยู่กันที่สนามกีฬา ซึ่งปกติเขาจะอยู่ที่นั่นด้วย

          “ผมมาทำงานที่อาจารย์สั่งไว้ให้เสร็จน่ะ” น้ำเสียงสบาย ๆ ของเขาเอ่ยบอกไป สิ้นเสียง ทุกคนที่อยู่ในห้องและได้ยินเข้าต่างพากันมองมาที่เขาอย่างชื่นชม

          “งานของอาจารย์สมพรเหรอ?” เด็กสาวถามอย่างกระตือรือร้น

          “ใช่”

          “เฮ้ยเมศ เย็นนี้ช่วยติวให้หน่อยนะ อีกสองวันอาจารย์จะนัดสอบอีกแล้ว ถ้าไม่ได้เอ็งช่วย พวกข้าตายแน่” เพื่อนผู้ชายกลุ่มหนึ่งรีบเดินเข้าทันที เพราะบังเอิญไปได้ยินเข้าพอดี งานชิ้นนี้คือข้อสอบ เมื่อทำเสร็จ นั่นคือคำตอบของข้อสอบที่มีเนื้อหาอยู่ในนั้นเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ คนที่มีแวว และเก่งที่สุดของห้อง คงไม่พ้น นายเมศคนนี้

          “ได้สิ ผมคงไม่สะดวกติวด้วยตัวเองได้ แต่ผมจะให้ชีทที่ผมสรุปเสร็จให้พวกคุณนะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน โทรมาถามหรือแชทถามผมได้” เขาหยิบกระดาษบางอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นแผ่นกระดาษที่เขาพึ่งเขียนเสร็จใหม่ ๆ ยื่นให้เพื่อน ๆ กลุ่มนั้นไป อย่างไม่มีกั๊ก

          “เออ ๆ ขอบใจเอ็งมากนะ” เด็กหนุ่มไม่คิดอะไรมาก เมื่อได้เห็นกระดาษแผ่นนั้น ตาถึงกับเป็นประกาย พลางนึกในใจว่า รอดตายแน่แล้ว จากนั้นจึงรีบรับมา มองตรงไปที่เด็กชายอย่างซาบซึ้ง และพากันเดินกลับไปที่นั่งประจำของตัวเองพร้อมเพื่อน ๆ ในกลุ่ม

          “นายไม่น่าให้คนอย่างนั้นเลย” เสียงหวานใสของมินนี่ เพื่อนสาวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในห้องพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ ใช่สิ คนพวกนี้ทำตัวน่าหมั่นไส้ นิสัยเลว วัน ๆ ได้แต่แบกหน้าตาหล่อ ๆ และชื่อเสียงของห้องมาอ้าง หลอกใช้รุ่นน้องไปวัน ๆ ความจริงก็อาศัยหัวหน้าห้องหรือไม่ก็เมศช่วยติวให้ พวกไร้ประโยชน์ เธอคิดอย่างแค้นเคืองแทนเด็กหนุ่มตรงหน้าที่โดนพวกนั้นเอาเปรียบ

          มินนี่ เด็กสาวดีเด่นของห้อง ทุกคนในห้องต่างให้ความเกรงกลัวต่อเธอ เนื่องจากครอบครัวของเธออิทธิพลและเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นทุนต่าง ๆ ที่โรงเรียนร้องขอหรือบางครั้งก็มอบให้ด้วยความเต็มใจ เธอยังสวย รวย เก่ง เรียกได้ว่าครบทุกด้าน และเด็กสาวยังรู้สึกแอบปลื้มเด็กชายตรงหน้าอีกด้วย แม้ไม่เคยสารภาพความในใจกับเขาไปตรง ๆ แต่ทุกการกระทำของเธอสื่อให้เขาเห็นอย่างชัดเจน เช่น ซื้อขนมมาฝากเป็นประจำ ให้เขาช่วยติวหนังสือให้ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ  ซึ่งทุกคนในห้องรู้กันเป็นดี
ที่สำคัญแม้ทุกคนจะรู้ แต่ดูเหมือนว่าเมศจะปฎิบัติกับเธออย่างเพื่อนเท่านั้น ไม่มีทีท่าอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

          “ไม่เป็นไร ผมเต็มใจ เพราะทุกคนเป็นเพื่อนผม” เขาบอกไปอย่างนั้น พร้อมเงยหน้ายิ้มให้เด็กสาวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทางอื่น ทำราวกับเธอเป็นธาตุอากาศ แต่ทว่ามินนี่ยังไม่รู้ตัว ว่าตัวเองกำลังลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเมศอยู่ จึงเอ่ยเตือนเขาไปด้วยความหวังดี

          “อือ..อยู่กับคนแบบนั้น มีแต่จะทำให้เราเดือดร้อนไปด้วย พยายามอยู่ห่าง ๆ ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”

          “ขอบคุณครับ” เขาบอก พร้อมก้มหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน ไม่สนใจเด็กสาวตรงหน้าอีกต่อไป ทำให้มินนี่แอบไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเรียนของตัวเองที่อยู่ห่างกันไม่มากนัก

          ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเด็กสาวหลังห้องคนหนึ่ง

          ไม่นานก็มีเพื่อน ๆ ทยอยพากันเข้ามาห้องเรียน เพราะใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนคาบบ่าย เพื่อน ๆ ของพาฝันต่างพากันเดินเข้ามานั่งยังที่ประจำของตัวเอง

          “เป็นไงมั่ง ดีขึ้นยัง” พลอยเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

          “ดีขึ้นมากแล้ว” คงเป็นเพราะเธอกินยา และนอนหลับไประยะสั้น ๆ นั้นช่วยให้เธอดีขึ้นพอสมควร

          “ดีแล้ว ค่อยหายห่วงหน่อย” แก้วเพื่อนสาวในกลุ่มเอ่ยขึ้น ทุกคนต่างพากันพูดคุยสารพัดเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการสอบที่ใกล้จะเข้ามาถึงอีกสองวันมากกว่า

          ไม่นาน อาจารย์ประจำวิชาก็เข้าสอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา