เป็นนางร้ายอยู่ดี ๆ ทำไมนางเอกมาชอบฉันล่ะ
เขียนโดย _LYNN_
วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.37 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2564 21.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 'My Lady'
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ'My Lady'
ถึงจะเป็นบล็อกเกอร์รีวิวนิยายชื่อดัง แต่ก็ไม่เคยรับงานโดยใช้ชื่อจริง ๆ หรือเปิดเผยหน้าตาเลยสักครั้ง ฉันเป็นแค่มนุษย์ทั่วไปหน้าตาธรรมดา ที่ใช้ชีวิตแค่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ งานกราฟิกส่วนใหญ่ที่รับก็เป็นพวกออกแบบโลโก้ ทำInfographic Package Design วาดหน้าปกนิยาย อะไรเทือก ๆ นั้น ชีวิตแทบไม่ได้ออกไปเจอผู้คนเลย นอกจากนิติคอนโดหรือไรเดอร์ส่งอาหาร เวลาว่างเลยจมอยู่กับโลกของนิยาย
ดังนั้น วิธีเอาตัวรอดฉบับนางร้ายย้อนยุคต้องมาาาา จากคลังนิยายที่อยู่ในหัว ถ้าตัวละครอย่างตัวร้ายสำนึกได้ กลับใจทันก็ยังมีโอกาสรอด 90% ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
หนึ่ง ช่วงเวลาที่ย้อนมา ย้อนมาเร็ว=โอกาสรอดเยอะ ซึ่งฉันนั้นมาตอนร้ายแบบสุด ๆ กับนางเอกไปแล้ว เกือบจะฆ่านางเอก เขาคงอยากจะไว้ชีวิตอยู่หร๊อกกกก
สอง ความจิตใจดีมีเมตตาของตัวละคร ห้า ห้า ห้า (หัวเราะทั้งน้ำตา) ทางด้านของนางเอกนั้น คาแรคเตอร์ชัดเจนตามรีวิว+สปอยในเพจเลย ร้ายมาร้ายกลับ ฟาด ๆ เฟียส ๆ หมดยุคนางเอกแสนดีใจอ่อนจ้า แล้วยังไงซิ ตอนนี้นางเอกที่ฉันปลื้มกำลังจะฆ่าฉันจ๊ะ ถ้าจะถามว่าทำไมคิดว่านางเอกจะฆ่าฉันแน่ ๆ ย้อนกลับไปอ่านข้อหนึ่งจ๊ะ เห็นมั้ย เห็นโอกาสรอดของฉันมั้ยถามใจเธอดู ดีนะกว่าจะเจอนางเอกอีกทีก็ปาเข้าไปตอนที่ 3 โน่นนนนน หัวยังอยู่บนบ่านานขึ้นอีกหน่อย
มาทางด้านของตัวร้ายฝ่ายชาย เอ้ย!!! พระเอกของเรากันบ้าง คนนี้เขาก็ไม่เบาจ๊ะ บอกแล้วคู่นี้คือกิ่งทองใบหยก อารมณ์ประมาณจะไม่ฆ่าเองเพราะสัญญากับพ่อไว้ แต่เป็นสายซับที่ดี เธอฆ่าเลยจ๊ะที่รัก ฉันจัดการศพให้เองอะไรประมาณนี้ นึกไปนึกมาก็สงสารนางร้ายเหมือนกันนะ ฉันขอโทษนะที่เคยดีใจกับการตายของเธอ ถึงเธอจะน่ารำคาญ แต่ช่วยอยู่นานกว่านี้อีกหน่อยเถอะนะ
สาม กัลยาณมิตรที่ดี นางร้ายอย่างไอรีนที่มีคนเกลียดทั้งเรื่อง มีแค่สามคนเท่านั้นที่รักในความนิสัยเสียได้ พ่อ แม่ และสาวใช้คนสนิทที่ชื่อเบตตี้ ทั้งหมดที่พูดมาสู้บารมีครอบครัวพระนางไม่ได้ ที่ตระกูลท่านดยุกเกรงใจเพราะบุญคุณที่ท่านปู่เคยมีต่อตระกูลเดอร์มองกูเลย์ซิลัส แต่มันไม่เกี่ยวอะไรเพราะคนที่จะฆ่าฉันคือนางเอก แต่ความรักทำให้คนใจอ่อนเสมอ นางเอกสายไฝว้ก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น ใช่สิ!!! ถ้าพระเอกขอให้ไว้ชีวิตฉัน นางเอกอาจใจอ่อนเพราะความรักก็ได้
เอาล่ะ กลับโลกเดิมก็ไม่ได้เพราะตายไปแล้ว ฉันต้องรอดมาใช้ชีวิตบนโลกใบนี้เนี่ยะแหละ ถึงเวลาใช้ชีวิตซะที จากที่โลกจริงไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตให้คุ้มก็ตายซะแล้ว ตอนนี้อยากจะใช้ชีวิตขึ้นมาดันจะมาตายเร็วอี๊กกกก รึจะเก็บข้าวเก็บของหนีดี แต่ยังไม่ได้ ในโลกนี้ฉันยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉันจะต้องประคองหัวไปจนถึงตอนนั้นก่อนแล้วค่อยหนีออกจากบ้านนนนน โดยเริ่มจากต้องรอดจากงานเดบูตองต์*1 ของเจ้าหญิงอลิซาเบธ แล้วก็ต้องควงไปงานกับว่าที่คู่หมั้นด้วย
*1 เดบูตองต์ (Debutante) คือ งานเลี้ยงต้อนรับสุภาพสตรีชนชั้นสูงเข้าสู่สังคม หรืองานเลี้ยงที่ครอบครัวคนรวยจัดขึ้นเพื่ออวดว่าลูกสาวของตนนั้นดีพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่สังคมไฮโซอย่างเต็มตัว ในที่นี้ ไรท์จะนิยามว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบ 18 ปี ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า งานบรรลุนิติภาวะ
เป็นคนรักไม่ได้ก็ขอเป็นน้องสาวที่น่าเอ็นดูก็พอ จากที่พอจะรู้จักนิสัยใจคอของพระเอกคร่าว ๆ ว่าชอบผู้หญิงฉลาด วางตัวดี ดูสวยแบบผู้ดี๊ผู้ดี ‘อืมมม ไม่น่ารอด’ ดังนั้นขอเป็นแมวน้อยขี้อ้อนแล้วกัน ใคร ๆ ก็ทาสแมวกันทั้งนั้นแหละ จากฉากงานเลี้ยงในนิยาย ไอรีน ก็สร้างวีรกรรมไว้เยอะอยู่เหมือนกัน วางตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพระเอก หึง หวง วีนแตก จนคนเกลียดทั้งงาน คงโดนแบนจากงานสังคมไปตลอดชีวิตเลยละมั้งเนี่ยะ ฉันไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่
“เบตตี้ ~ ~ ~”
“ค่ะท่านหญิง เรียกหาข้าต้องการสิ่งใดหรือคะ”
“เจ้าว่าข้าน่ารักมั้ย”
“ถามอะไรแบบนั้นล่ะคะ ความงามของท่านหญิงของข้ายากที่ใครจะมาเปรียบอยู่แล้ว”
“เจ้าก็พูดเกินปายยยยยย”
“ข้าไม่ได้กล่าวเกินเลยค่ะท่านหญิง ในเมืองนี้ไม่มีผู้ใดงามเท่าท่านหญิงของข้าแม้แต่น้อย”
“เบตตี้ เจ้าอายุมากกว่าข้าใช่หรือไม่?”
“ใช่ค่ะ ข้าอายุมากกว่าท่านหญิงเพียง 3 ปี”
“ดีเลย งั้นข้าเรียกว่าพี่เบตตี้แล้วกันนะ”
“อย่าเลยค่ะท่านหญิง หากใครมาได้ยินเข้าจะลดเกียรติของท่านหญิงเสียเปล่า ๆ”
“คนพวกนั้นไม่มีใครจริงใจกับข้าสักคน มีแค่พี่เบตตี้ ท่านพ่อ และท่านแม่ เท่านั้นที่รักข้าจริง ๆ ข้าอยากดีกับคนที่รักข้าให้มาก ๆ เผื่อวันหนึ่ง ข้าตายไป จะได้ไม่รู้สึกเสียใจทีหลัง”
“ไม่มีทางที่ใครจะทำร้ายท่านหญิงได้หรอกค่ะ ข้าจะปกป้องท่านหญิงด้วยชีวิตของข้า” ว่าพลางกุมมือนั่งลงและผู้เป็นนายมาไว้แนบแก้ม
“ข้าก็พูดไปงั้นแหละ พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก วันนี้ข้าอยากไปตัดชุดใหม่สำหรับงานเดบูตองต์ พี่พาข้าไปได้หรือไม่”
“จะให้ข้าเรียงช่างตัดชุดมาตัดที่ปราสาทดีหรือไม่คะ ท่านหญิงจะได้ไม่ต้องไปเอง” แหงล่ะ เบตตี้ต้องห้ามเป็นธรรมดา ไอรีนน่ะมีข่าวลือด้านแย่ ๆ เยอะมาก คงกลัวฉันได้ยินแล้วไปวีนก็จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“ไม่เอาหรอก ข้าอยากไปเอง พี่ช่วยจัดการให้ข้าหน่อยนะ เดี๋ยวข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่เอง”
“น่านะ ~ ~ ~ ข้าอยากออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง”
เบตตี้ทนความออดอ้อนที่ไม่เคยมีมาของผู้เป็นนายไม่ได้ จริงรับคำแล้วรีบทำตามคำสั่งทันที สำหรับเบตตี้ที่เติบโตมากับท่านหญิงตั้งแต่เด็ก เพราะตัวเองเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ตระกูลของไอรีนเก็บมาเลี้ยง ทั้งชีวิตมีแค่หน้าที่เดียว คือ ทำทุกอย่างที่ผู้เป็นนายสั่ง ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งแบบไหนก็ตาม ถึงกับเกือบฆ่าคนเพราะแค่ท่านหญิงสั่ง
หลายวันมานี้ ท่านหญิงที่แสนจะเอาแต่ใจ กลายเป็นท่านหญิงที่แสนดีและชอบออดอ้อนให้เธอทำโน่นนี่ให้เสมอ จนมาวันนี้ได้ยินท่านหญิงผู้สูงศักดิ์เรียกเธอว่าพี่เป็นครั้งแรก ใจของเบตตี้ก็สั่นระรัวด้วยความดีใจ
แต่ประโยคถัดมาก็ทำให้ใจหล่นวูบ เธอคงยอมไม่ได้หากใครจะมาทำร้ายท่านหญิงของเธอ จนเผลอสัมผัสฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของท่านหญิงมาแนบแก้ม หากการกระทำนี้เกิดขึ้นเกินขึ้นในอดีต เธอคงโดนท่านหญิงตบหน้าสั่งสอน โทษฐานไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แต่ว่าท่านหญิงไม่ทำเช่นนั้น เพียงแต่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน การกระทำเช่นนั้นทำให้เธอปฏิญาณตน แม้จะต้องใช้ชีวิตเข้าแลก ก็จะไม่ยอมให้ใครมาแตะท่านหญิงแม้แต่ปลายเล็บ
หลังจากที่ฉันนั้นต้องใช้สกิลออดอ้อนท่านพ่ออยู่นาน จนในที่สุดก็สู้ลูกตื๊อไม่ได้ ยอมให้ไปแต่มีคนติดตามเยอะมาก แทบจะยกไปทั้งปราสาท ไม่น่าล่ะ ไอรีนถึงได้เอาแต่ใจนัก เพราะท่านพ่อสปอยเก่งแบบนี้นี่เอง
“พี่เบตตี้ เราจะไปกันกี่ร้านเหรอ”
“อีกสองร้านค่ะท่านหญิง”
“ข้าเหนื่อยแล้วอ่ะ อยากไปกินขนมร้านนั้นก่อนได้มั้ยคะ ~ ~ ~”
“ได้ค่ะท่านหญิง เดี๋ยวข้าออกไปบอกท่านอัศวินด้านนอกก่อนนะคะ”
ทางสะดวกแล้วหนีออกไปเที่ยวเล่นดีกว่า ชุดก็ได้แล้วจะตัดอะไรเยอะแยะ ขืนเบตตี้อยู่คงต้องยกกองทัพคนเดินไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยมาก อารมณ์ประมาณเมืองเวนิสที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ เคยเห็นแค่ในรูป วันนี้ได้เห็นของจริงแล้ว
“นี่ ๆ ๆ พวกเจ้ารู้รึเปล่าว่าวันนี้เลดี้ไอรีนมาในเมืองด้วยล่ะ”
“ใช่ ๆ ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน เห็นว่าจะอยู่ตรงฝั่งร้านตัดผ้า พวกเจ้าก็อย่าเผลอไปแถวนั้นเชียวนะ”
“ข้าเห็นด้วยนางน่ากลัวมาก ว่ากันว่าผมแดงเหมือนปีศาจ แถมยังเป็นเลดี้ที่จิตใจโหดเหี้ยม สั่งฆ่าคนได้เป็นผักปลาเลย”
“ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน ไม่น่าเชื่อเลยท่านดยุกอาวเฟรตออกจะจิตใจดี ทำไมลูกสาวของท่านถึงได้อำมหิตเพียงนี้”
เดินมาครึ่งทางก็ได้ยินแต่คำนินทา ไม่ได้รู้จักไอรีนเลยสักนิด แต่พูดจาเหมือนเคยโดนมากับตัว เพราะอย่างนี้ท่านพ่อถึงไม่ค่อยยอมให้ไอรีนคนก่อนออกจากบ้าน เพราะถ้าได้ยินแบบนี้คงปรี๊ดแตกอาละวาดแน่นอน ถึงไอรีนจะงี่เง่า เอาแต่ใจ ชอบทำร้ายคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใจดำถึงขนาดฆ่าใครง่าย ๆ ดีนะที่ฉันใส่ชุดคลุม ไม่อย่างนั้น แค่เห็นผมคนก็รู้แล้วว่าฉันคือใคร
“ไปเดินเล่นแถว ๆ ทะเลสาบดีกว่า” ใครจะไปอยากฟังคนอื่นด่ากันล่ะ ถึงคนที่โดนด่าจะเป็นไอรีนคนก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ฉันคือไอรีนไง
หลังจากนั้นฉันก็เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงส่วนของทะเลสาบ ตรงนี้ผู้คนพลุกพล่านมาก ๆ ฉันพยายามรีบเดินให้พ้นบริเวณสะพาน แต่เนื่องจากผู้คนที่พลุกพล่านมากจนทำให้ฉันพลัดตกสะพาน
ฉิ_หายแล้ววววว น้ำก็ว่ายไม่เป็นแถมมีสุ่มไก่อยู่รอบเอวอีก ไม่น่ารอดดดดด พระเจ้านี่ท่านกะจะฆ่าฉันแล้วเหรอ ไวไปหน่อยมั้ย เรื่องยังอยู่ตอนแรกเองยังไม่ทันได้เจอนางเอกเลย ช่วยด้วยยยยยยยย
ทันทีที่ร่วงลงมาจากสะพานก็รอดตายแบบหวุดหวิด โชคดีมีเรือจอดอยู่ตรงนี้พอดี แต่ก็เล่นเอาปวดเอวพอตัว
“โอ้ยยยย” หลังจากก้นกระแทกบนเรือก็ทำเอาเรือแทบล่ม หลังจากสำรวจตัวเอง ก็มองไปรอบ ๆ เรือ จนพบกับเจ้าของเรือ ยังไม่ได้ทำอะไรก็ได้ยินคำทักทายจากเจ้าของเรือ
“เจ้าลงมาทำอะไรในเรือของข้ากัน”
“ขอโทษค่ะ ข้าพลัดตกจากสะพาน ขอโทษท่านจริง ๆ นะคะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ว่าพลางก็พยายามปืนขึ้นไปบนสะพานแบบทุลักทุเล เห้อหมดกันภาพลักษณ์เลดี้อันสูงสัก ฮือออออ ท่านพ่อรู้เข้าคงไม่ยอมให้ออกจากบ้านแน่
“ทำอะไรของเจ้า สูงขนาดนั้น เดี๋ยวก็ตกลงมาอีกหรอก”
“แล้วข้าจะกลับยังไงล่ะคะ”
“เฮ้อออ นั่งลง เดี๋ยวข้าพายไปลงที่ฝั่ง” ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าจะไปส่ง เสียงดุขนาดนั้น ใครจะกล้าไปขอให้ส่งกัน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกจะได้ไม่ต้องปืนเนี่ยะ
“เอ่อ ขะ ขอบคุณนะคะ” เจอดุขนาดนั้นใครก็ต้องสั่นเป็นธรรมดาแหละ ผู้หญิงอะไรดุฉิ_หาย
หลังจากนั้นก็เงียบตลอดทางระหว่างที่พายเรือไปเรื่อย ๆ ฉันก็ลอบมองหน้าอีกฝ่าย อีกฝ่ายท่าทางดูเป็นผู้หญิงชั้นสูง มีผ้าคาดบริเวณใบหน้าครึ่งล่าง ผมสีดำขลับยาวถึงเอวเมื่อแสงแดดตกกระทบก็เห็นเป็นประกายสีน้ำเงิน ตาสีดำประกายน้ำเงิน หางตาชี้ขึ้นดูสวยแบบเฉี่ยว ๆ ดุ ๆ ดูคุ้น ๆ เหมือนมีคำบรรยายประมาณนี้ที่ไหนนะ ไม่ทันจะได้คิดอะไรคนตรงหน้าก็เอ่ยขึ้น
“นั่งเหม่ออะไรอยู่ ไม่ขึ้นฝั่งรึไง”
“คะ อ่อจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ว่าแต่ท่านชื่ออะไรคะ ครั้งหน้าข้าอยากจะตอบแทนท่าน”
“ไม่จำเป็นหรอ เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้จักข้าเอง เจ้าต้องตอบแทนข้าอยู่แล้ว หนีไม่พ้นหรอก”
หลังจากนั้นฉันก็ขึ้นฝั่งแบบงง ๆ พูดอะไรของเขาก็ไม่รู้ เพี้ยนรึไง งงใจ จะเอาอะไรก็ไม่บอก หวังว่าคงจะไม่เจอกันอีกแล้วกัน......
TALK : ใครกันน้าาาาา
ความน้อนไอรีนจะปีนสะพานโดยมีสุ่มไก่รอบเอวไม่ด้ายยยย โอ้ยลู๊กกกกกกกก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ