ม่านนารี By แพรววาริน

-

เขียนโดย sunthree22

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.33 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,343 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563 19.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Luckcy Day โชค(ลาภ)จากสัตว์สองเท้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อทั้งห้าคนเดินเที่ยวชมก่อนที่จะเข้าไปห้องทานอาหารที่เตรียมไว้สำหรับบริษัทฯ ม่านธาราไม่ได้สนใจมากนักเพราะเธอรู้อยู่ว่าทางโรงแรมจัดอะไรไว้บ้าง สายตาเธอยังมองหาเจ้านายของเธอที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคู่แข่งไปแล้ว ม่านธาราถอดหายใจอีกครั้ง เขาหายไปไหน?

“นั้น ฉลากกินแบ่งรัฐบาล..” สาครเหลือบตามองหญิงชราที่สะพายกระเป๋าที่โชว์ลอตเตอลี่ เขาเดินตรงดิ่งไปยังหญิงชราคนนั้นโดยไม่สนใจใครว่าจะเดินตามมาไหม

“เรียกซะ ถูกกฎหมายเลยนะแก” เอื้อมดาวมองสาครที่พูดจากเรียก ‘ลอตเตอลี่’ เป็นชื่อตามกฎหมาย กลุ้มใจกับคำพูดจาของนางครจริงๆ

“พี่ม่านไม่ซื้อเหรอ” เสาวรสรู้ดีว่าม่านธาราซื้อบ่อยๆ เพราะเธอก็หวังโชคเหมือนคนอื่นๆ

“พี่ซื้อแล้ว หมดตัวเลยละ” ม่านธาราเธอซื้อไว้สิบห้าใบคนขายนั้นก็ขายเกินราคาเพราะเป็นเลขเหมือนกันทั้งหมด น่าแปลกที่เธอทุ่มกับเลขที่ ต้องโทษเอื้อมดาวที่ส่งเลขมาให้เธอมาบอกว่าเจ้าพ่อศาลดังให้เลขมา

“หิวแล้ว นางควรจะซื้อก็ซื้อซะ เสียเวลา” เอื้อมดาวบ่น สาครชอบทำอะไรช้าๆ เห็นลีลาแล้วอารมณ์เสีย

“เจ๊ รอนิดรอหน่อยบ่นเป็น ป้า อีกล่ะ ขบวนสุดท้ายวิ่งไปโน่นนนน” สาครเน้นเสียงเพื่อเตะปมที่ทำให้เอื้อมดาวสะเทือนใจเล่น เจ๊เตยของเขานั้น สวย รวยมาก แต่นิสัยออกจะแปลกๆ เขายุให้ปิติจีบทางนั้นก็ตอบแบบว่า ‘เขาไม่สนผมหรอก’ จริงๆ ตาปิตินั้นคงสนใจเจ๊เตยบางอยู่หรอกแต่นางชอบทำตัวเอ๋อไม่รู้อะไรทั้งนั้นใครจีบก็ไม่รู้เรื่องเก่งหมดยกเว้นเรื่องเดียว

 

สาครตามองที่กระเป๋าลอตเตอรี่แต่ในใจคิดนอกเรื่องจนเสาวรสมองไปที่เขา ‘นางควรคิดแผนอะไรอีก’ เสาวรสรู้ดีว่าสาครจับคู่เจ๊เตยกับพี่ปิติ เธอก็ชอบนะ สองคนดูเหมาะกันแต่ยังไง ทีมหนึ่งธาราต้องสำเร็จก่อนค่อยเปลี่ยนเป้าหมาย “แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ พวกเรานะมองตาก็เห็นไส้ติ่งแล้วจัดการเป็นคนๆ ไป หลายคู่ จะไม่สำเร็จ” หัวหน้าทีมหนึ่งธาราเตือนสติให้รองอันดับหนึ่ง

“เกลียดจัง คนรู้ทัน” สาครส่งสายตาหมั่นไส้ให้เสาวรส เขาซื้อมาสองใบเขาไม่ได้คิดว่าจะถูกอะไรหรอก แต่สงสารคนขาย เห็นคนแก่ขายของเขาก็แทบจะเรียกซื้อหมด เพื่อนในกลุ่มก็ช่วยกันซื้อเหมือนเป็นการทำบุญอย่างนึ่ง เผยชาติน่าจะได้สวยๆ

ทั้งหกคนรับประทานอาหารที่ทางรีสอร์ตจัดได้ให้ ไร้เงาของเป็นหนึ่ง ม่านธาราก็หน้าจ๋อยๆ ไป เธอเลือกอาหารไม่ถูกใจเขางั้นเหรอ ทั้งๆ ที่เลือกของโปรดของเขาทุกอย่าง ปีหน้าจะไม่รับทำแล้ว มีแต่ตนไม่สนุก

ปุรานนท์มองหน้าม่านธาราก็รู้ว่าเธอคงคิดว่าเป็นหนึ่งไม่ชอบในสิ่งที่ม่านธาราทำให้ เขาก็เดาใจเป็นหนึ่งไม่ออก เตรียมแผนอะไรไว้ ระวังคนนี้จะเข้าใจผิดนะ

“พี่ม่าน แกงเขียวปลาหมึกอร่อยอะ” เสาวรสพูดไปเคี้ยวไปอาจจะไร้มารยาทเท่าไหร่ แต่เธอไม่อยากให้พี่สาวนั้นสบายใจขึ้น คุณหนึ่งทำเกินไปหน่อยทำไมไม่มาทานข้าว มีของโปรดคุณหนึ่งกว่าครึ่งพี่ม่านของเธอเอาใจขนาดนี้ไปไหนของเขา

“ยายม่าน คุณหนึ่งไลน์มาบอกว่าให้เอาข้าวไปให้ที่ห้องด้วย ติดงานไรไม่รู้เลยยังไม่ลงมา เธอไม่ได้พกมือถือมาหรือไง ทำไมถึงไม่ตอบคุณหนึ่งเขาละ” เอื้อมดาวยังเคี้ยวอาหารโดยที่ไม่คิดจะลุกไปจัดการอาหารให้เจ้านาย จริงๆ แล้วเป็นหนึ่งบอกเธอว่าให้เธอยกอาหารมาให้เองเพราะมีงานจะคุยด้วย แต่นี่มาพักผ่อนใครให้มาทำงานล่ะคุณเจ้านาย ปล่อยให้เป็นหน้าที่เลขาของเขาละกันเธอไม่เกี่ยว

“อ้าวงั้นเหรอ เดี๋ยวม่านยกไปให้เอง” ม่านธาราเธอยังไม่ได้ทานอะไรแต่เธอได้ยินคำสั่งของเป็นหนึ่งเธอก็จัดการตามทันทีโดยที่ไม่ถามอะไร และไม่ได้ดูในมือถือของเธอด้วยซ้ำว่าเป็นหนึ่งส่งอะไรมาหรือไม่

“เจ๊ คุณหนึ่งอะนะ จะเรียกพี่ม่านไปหา” เสาวรสข้องใจ เป็นหนึ่งทำไมถึงสั่งเอื้อมดาว ทั้งๆ ที่ถ้าสั่งม่านธาราไม่ได้ เขาก็จะสั่งงานเธอเป็นอันดับที่สอง

“อืม เปล่า ฉันขี้เกียจ มาเที่ยวยังจะเรียกไปคุยงานอีก ให้ม่านยกไปให้นั้นล่ะ” เอื้อมดาวพูดไปมือก็ยังตักส้มตำกินตามปกติ ไม่สนใจใคร

“เจ๊ไรเนี่ย” สาครครางลากเสียงยาว เจ๊ของเขานั้นทำอะไรไม่คิด เดี๋ยวคุณหนึ่งก็อารมณ์เสียใส่ม่านธารามาอีก หาว่าไปยุ่ง เจ้านายเขานั้นเวลาดีก็ดี เวลาร้ายก็ไม่อยากจะคิด

“น่าๆ ๆ คุณหนึ่งไม่ทำไรหรอกน่ะ ยายม่านไม่โดนด่าหรอก แต่เขาก็เดินมาด่าฉันเอง” เอื้อมดาวตอบเหมือนรู้ใจว่ามีคนกำลังบ่นเธอยังคงกินอยู่แบบนั้น ส้มตำอร่อยจริงๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ

“พี่จะไปนอนแล้วนะ อิ่มละ” ปุรานนท์ลุกจากโต๊ะทานอาหารมือยังคงถือน้ำแร่ขวดใสๆ ยกดื่มไม่สนใจใคร หยดน้ำที่ไหลล้นออกมาจากริมฝีบางนั้น มีบางคนมองว่าเซ็กซี่เหลือเกิน แต่บางคนกลับบอกว่า…..

“เฮียปุ เลอะเถอะอะ หลอดก็มี” สาครเห็นน้ำที่เลอะเสื้อนั้นสิ่งที่ไม่น่ามอง โดยที่ไม่ทันมองผู้หญิงข้างๆ ที่อ้าปากค้างตอนที่เฮียปุของเขายกเสื้อเช็ดน้ำที่เลอะลำคอ เผยให้เห็นหน้าท้องที่ปุรานนท์นั้นไม่เคยเผยให้ใครเห็นเท่าไหร่นัก “เฮียปุ ไปเล่นกล้ามเมื่อไหร่อะ ขอดูหน่อยซิ” สาครเอื้อมมือตรงไปยังหน้าท้องที่มองเห็นแล้วอยากลูบมากกว่าดูเฉยๆ

“นางคร เป็นสาวเป็นนางขอดูอะไรกะของผู้ชายยะ” เอื้อมดาวรู้ว่าปุรานนท์ไม่ได้ตั้งใจให้ที่จะยกเสื้อโชว์กล้ามและไม่อยากให้ใครเอามาเป็นประเด้นให้พูดกัน เธอจองปุรานนท์ไว้ให้เสาวรส แน่นอนว่าเธอเห็นเสาวรสกลืนน้ำลายตอนที่ปุรานนท์เผยกล้ามท้องสวยนั้น หรือตาปุของเจ๊กำลังอ่อยสาวๆ แถวนี้นะ

“พูดไรกันไปเรื่อย ไปนอนแล้วนะ” ปุรานนท์ไม่อยากจะคุยต่อ ตัวเขานั้นกำลังแทบจะปิดสวิตช์ตัวเองแล้ว เขาเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดเมื่อเช้าและยังไม่ได้นอน นั่งในรถก็ต้องทนฟังเอื้อมดาวและสาครคร่ำครวญเพลงนันสตอปมาตลอดทาง รางวัลอะไรนั้นไม่เอาแล้วขอนอนดีกว่า

เมื่อม่านธารายกอาหารไปหาเป็นหนึ่ง ปุรานนท์ก็ไปนอนพักผ่อน เอื้อมดาว สาคร ปิติ เสาวรถก็ถ่ายรูปกันสนุกสนาน โดยไม่สนใจในเกมที่จะเริ่มต้นขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา