เหนือมาเฟีย
เขียนโดย น้องเหม่ยเหมย
วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.58 น.
แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 01.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่ 2 ผู้นำตระกูลเป็นเจ้าชายนิทรา (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรพ.xxx
อลิซรีบพุ่งตัวลงจากรถไปยังเคาร์เตอร์ของโรงพยาบาลทันทีที่รถของออกัสจอด หญิงสาวร้อนรนเมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อของเจ้าของร่างเกิดอุบัติเหตุ พ่อที่แท้จริงของอลิซตายไปแล้วคนนึง เธอไม่ยอมให้พ่อของเบลตายไปอีกคน ครอบครัวคือสิ่งที่เธอรักมากที่สุด หญิงสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังห้องที่เจ้าหน้าที่บอก
ห้อง 503
แต่พอถึงหน้าห้องอลิซก็ถูกการ์ดของตระกูลตัวเองกั้นไม่ให้เข้าห้อง ถึงแม้หญิงสาวจะยืนยันว่าตัวเองเป็นลูกของคนในห้อง การ์ดในชุดสูททั้งสองก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอม
“คุณผู้หญิงสั่งไม่ให้คนนอกเข้าไปครับ ได้โปรดเข้าใจพวกเราด้วยครับคุณหนูเบล”
“คุณหนูเบลโดนตัดอออกจากตระกูลรฉัตรแล้ว พวกเราจึงปล่อยให้เข้าไปไม่ได้”
อลิซหยุดฝืนแรงของอีกฝ่าย ก่อนจะทำท่าทียอมแพ้ เพราะถ้าให้สู้กันเรื่องแรง ยังไงผู้หญิงอย่างเธอก็แพ้
“โอเคๆ ฉันจะกลับมาอีกทีหลัง”
แต่นั่นก็เป็นแค่คำพูดที่ทำให้บอดีการ์ดทั้งสองตายใจก่อนจะรีบวิ่งฝ่าการ์ดมือที่เริ่มตกของอีกฝ่ายเข้าไป แต่เธอทำได้แค่เปิดประตู ร่างบางก็โดนรั้งไว้เสียก่อน อลิซมองลอดเข้าไปในห้องพักฟื้นของพ่อเธออย่างห่วงหา เธอเห็นร่างพ่อของเธออยู่บนเตียง ภายในห้องยังมีแม่ใหญ่ กับแม่รองนั่งคุยกันอย่างใจเย็น ก่อนที่ประตูจะปิด ดวงสีน้ำตาลของอลิซสบเข้ากับดวงตาเย่อหยิ่งของแม่ใหญ่ที่มองออกมาดูความวุ่นวายที่ประตูพอดี
หญิงสาวในชุดปักลายหงส์รีบเดินออกมาด้านนอกห้องทันที
“ยังกล้ามาอีกเหรอนังตัวดี คุณพี่ไล่แกออกจากตระกูลแล้ว แกจำไม่ได้หรือยังไง”
“แม่ใหญ่ พ่อเป็นยังไงบ้างคะ” อลิซไม่สนใจคำพูดก่อนหน้า เธอถามทั้งๆที่ยังอยู่ในการจับกุมของบอดีการ์ดหนุ่ม แต่เธออยากรู้อาการของผู้เป็นพ่อมากกว่า
“คุณพี่ต้องนอนเป็นผักเพราะแม่แก รู้ไว้ซะด้วย” แม่รองผู้หญิงอีกคนในห้องเดินตามออกมาเสริมทัพ พูดพลางจิ้มนิ้วมาที่หน้าผากของอลิซอย่างถือดี “แล้วแม่แกอยู่ไหนล่ะ ไปอยู่กับชู้แล้วเหรอ”
“แม่เบลโดนใส่ร้าย แม่ใหญ่แม่รอง หนูขอเข้าไปดูอาการพ่อหน่อยได้ไหมคะ”
“เอาตัวออกไป เธอไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งเห็นหน้าคุณพี่”
และนั่นเป็นคำสั่งสุดท้ายที่ดังออกจากปากแม่ใหญ่ หรือเมียหลวงของพ่อเธอนั่นเอง อลิซโดนลากออกไปอย่างช่วยไม่ได้ คำสั่งของคุณหญิงของตระกูลย่อมศักดิ์สิทธิกว่า คำร้องขอของคุณหนูที่เพิ่งโดนนายใหญ่อย่างพวกเค้าไล่ออกจากบ้านอย่างกับหมูกับหมาแน่นอน ก่อนที่อลิซจะหมดหวังในการเข้าพบพ่อของเธอ เธอยืนรอลิฟท์อย่างหมดอาลัยตายอยาก พอประตูลิฟท์เปิดเท่านั้นแหละ อลิซตกใจเล็กน้อยที่เห็นร่างสูงใหญ่ของออกัสพร้อมด้วยการ์ดอีก4คน เพิ่งตามเธอขึ้นมา เธอตกใจเพราะคิดว่าชายหนุ่มจะนั่งรถกลับไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าเขาจะตามเธอขึ้นมาด้วย
“นายมาได้งะ ไง” อลิซถามขึ้นทั้งๆที่ยังถูกคุมตัว
แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากออกัสเช่นเคย “ปล่อยตัวเธอซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ดวงตาสีดำสนิทจ้องไปยังชายทั้งสองที่อยู่ข้างอลิซ เหมือนเป็นคำพูดที่เรียบง่ายแต่ถ้ามันได้ออกมาจากชายเจ้าของดวงตาดำสนิทแล้ว เหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาด้วย ชายทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่กไม่รู้จะทำยังไงดี
“เดี๋ยวๆ อันนี้คนของพ่อฉัน นายอย่าทำร้ายนะ” อลิซเห็นท่าไม่ดีรีบห้ามทัพ เธอไม่อยากสร้างเรื่องเดือดร้อนให้ผู้เป็นพ่อ “โอเคพวกนายปล่อยฉันก่อน เดี๋ยวเกิดเรื่อง” อลิซสลัดตัวเองจากการจับกุมของการ์ดพ่อเธออย่างง่ายดายเพราะสติของทั้งสองเกือบจะลอยหลุดจากร่างไปแล้ว
หรือวันนี้เธอควรถอยออกไปตั้งหลักก่อน เดี๋ยววันหลังค่อยมาหาพ่อใหม่
อลิซพยายามตัดใจจากความอยากพบพ่อวันนี้ของตัวเองอย่างหมดหวัง เธอไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่ ถ้าเธอไม่ยอม ลูกน้องพ่ออาจจะเดือดร้อน เพราะออกัสไม่ใช่คนใจเย็นสักเท่าไหร่ ถึงแม้เธอไม่ได้รู้จักชายหนุ่มดี แต่จากประสบการณ์ทั้งหมดก็บอกได้คร่าวๆแล้วว่าเค้าไม่ใช่คนที่ควรหาเรื่องด้วย
อลิซยอมถอยด้วยหัวใจแห่งความสิ้นหวัง แต่เมื่อสายตาของเธอมองผ่านเบื้องหลังการ์ดทั้งสองไป ดวงตาของหญิงสาวก็ฉายแววแห่งความหวังใหม่ขึ้น
“คุณปู่!!!” ใช่แล้ว ชายร่างแก่อายุเกิน70 ผู้มาพร้อมกับไม้เท้าประจำตัว กำลังเดินเลี้ยวไปยังห้องคนป่วยคือคุณปู่ของเบลนั่นเอง ในครอบครัวเบล นอกจากพ่อก็มีคุณปู่อีกคนที่เมตตาเธอเสมอ “เบลอยากไปเยี่ยมคุณพ่อ แต่แม่ใหญ่ไม่ยอม”
ชายวัยชราเจ้าของเรือนผมสีขาวทั้งหัว ใบหน้าที่เหี่ยวย่นยู่เข้าหากัน ดวงตาสีน้ำตาลหันมามองผู้เป็นหลานด้วยแววตาครุ่นคิด พยายามปะติดปะต่อเรื่องในหัวว่าหลานเขามายืนทำอะไรตรงนี้ท่ากลางชายล้วนทั้ง7 ถึงแม้ว่าอายุจะไม่ใช่น้อยแต่ความจำของเขาก็ยังไม่เลอะเลือน เขายังคงจำได้ว่าล่าสุดลูกชายของเพิ่งไล่เมียคนที่3ออกจากบ้านไปพร้อมกับลูก นั่นก็คือหลานคนนี้ของเขานั่นเอง หลานที่เขาต้องคอยช่วยเข้าไปปรามไม่ให้หลานและลูกสะใภ้คนอื่นๆรังแกเธอ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยียนเจ้าลูกชายคนเดียวของเขา เขาทั้งเอ็นดูและสงสารในโชคชะตาของเด็กตัวน้อยๆที่ดูยังไงๆก็ไร้พิษสง เช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ของเธอ ในวันที่เขารู้ว่าสองแม่ลูกถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะผู้เป็นแม่ถูกจับได้ว่ามีชู้ เขาก็ไม่ได้เชื่อเต็มร้อย แต่ชายแก่ที่ร่างกายไม่แข็งแรงมีโรคหัวใจติดตัว จนต้องยกอำนาจการดูแลตระกูลให้ลูกชายไปแล้วอย่างเขาจะทำอะไรไปได้มากไปกว่านั่งดู หลักฐานทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนั้น
และนี่ก็คงเป็นอีกครั้งที่ลูกสะใภ้ของเขารังแกหลานคนนี้
“เบลกลับไปก่อนเถอะลูก เดี๋ยวปู่ช่วยคุยกับแม่ใหญ่หนูให้” คนเป็นปู่เอื้อมมือมาตบเบาที่บ่าอลิซ
“คุณเป็นถึงปู่ ทำไมจะพาเบลเข้าไปพบพ่อเธอตอนนี้ไม่ได้” อลิซหันขวับไปทางต้นเสียง ออกัสจ้องไปยังชายชราอย่างไม่เกรงกลัว
“คุณมายุ่ง....” ชายชรากลืนคำพูดที่เหลือลงคอก่อนจะหลี่สายตาเพื่อมองใบหน้าชายหนุ่มเจ้าของเสียงให้ชัดเจน ก่อนที่ดวงตาเหี่ยวย่นจะเบิกตึงขึ้นเมื่อจำได้ว่าเขาเป็นใคร “คุณออกัสรู้จักกับหลานผมด้วยหรือ”
“ไม่สำคัญที่คุณต้องรู้ ผมแค่อยากให้คุณทำหน้าที่ปู่ของคุณให้สุดความสามารถ” ออกัสพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบขึ้น
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ ปู่รู้จักเค้าด้วยเหรอ”
น้ำเสียงเบลเจือด้วยความอยากรู้ อายุของทั้งสองห่างกันเท่าตัว ไม่น่าจะรู้จักกันง่ายๆ ถามสรรพนามที่คุยกันมันแปร่งๆ มันไม่เหมือนคนอายุคราวปู่คุยกับคนอายุคราวลูกคราวหลาน
“เอ่อ...รู้จักกันนิดหน่อยลูก ก็คนมันอยู่ในวงการธุรกิจเดียวกัน” ผู้เป็นปู่พูดอย่างขอไปที เหมือนเก็บงำความจริงบางอย่างไว้ อลิซเริ่มสงสัยและกำลังจะถามต่อ แต่ประโยคถัดมาทำให้เธอลืมความสงสัยนี้ไปทันที “งั้นเบลไปกับปู่ เดี๋ยวปู่พาเข้าไปเยี่ยมพ่อลูก”
“ส่วนคุณออกัสผมว่ากลับไปก่อนดีกว่า อันนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของเรา” ชายชราหันไปพูดกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงประนีประนอม
“ผมเพิ่งรู้นะว่า ตระกูลคุณปล่อยให้คนของตัวเองโดนตามฆ่าได้ง่ายๆขนาดนี้”
ชายชราที่โดนตำหนิจากชายตรงหน้าฉายแววไม่พอใจ หลานเค้าเนี่ยนะโดนตามฆ่า ใครจะมาตามฆ่าเธอ ผู้ซึ่งมีความสำคัญน้อยที่สุดในตระกูล
“ใช่ค่ะปู่ เบลโดนตาฆ่า แม่โดนพวกมันฆ่าตายแล้ว ฮึก” อลิซมองหน้าผู้เป็นปู่อย่างต้องการที่พึง อลิซกับเบลช่างมีโชคชะตาน่าเศร้าใจไม่ต่างกัน
“โอเคๆ เดี๋ยวปู่จัดการเรื่องแม่หนูเอง อย่าร้องไห้ไปเลย เรายังมีปู่” มือเหี่ยวลูบหัวปลอบหลาน “เดี๋ยวผมจัดการเรื่องต่างๆของหลานผมเอง รวมถึงความปลอดภัยของเบลด้วย คุณกลับไปได้แล้ว”
ขนคิ้วสีขาวของชายชราขมวดเข้าหากันอีกรอบเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายังไม่ยอมกลับไป แต่สายตาเขาไม่ได้มองมาที่เขาเหมือนเดิมแล้ว แต่กลับมองไปที่ร่างบางที่กำลังสะอึกอยู่ในอ้อมกอดเขา
“ผมจะรับเธอกลับเข้าบ้าน และผมจะจัดลูกน้องผมให้เป็นบอดีการ์ดเธอด้วย 2 คน ทีนี้คุณจะกลับไปได้หรือยังครับ”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน” ก่อนที่ร่างสูงจะพาลูกน้องกลับไป ชายชราถอดหายใจออกพลางลูบหัวหลานสาวตัวเองอย่างสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ไม่ได้รู้จักกันธรรมดาแน่นอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ