เหนือมาเฟีย
เขียนโดย น้องเหม่ยเหมย
วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.58 น.
แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 01.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่1 โดนตามล่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่1 โดนตามล่า
ปังงง ปัง
เสียงปืนปะ
อลิซค่อยๆลืมตาขึ้น เนื่องด้วยโดนปลุกจากเสียงปืน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่านั่นคือเสียงปืนจริงๆ ชายหนุ่มข้างกายเธอทั้งเอื้อมออกไปนอกหน้าต่างเพื่อยิงสวนกลับไปด้านหลังก่อนจะรีบปิดกระจกรถหันมาเหยียบคันเร่งมิดด้าม รถสปอร์ตคันหรูพุ่งทยานไปข้างหน้า ทำเอาอลิซอกสั่นฝันผวา เธอกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ปังๆๆๆ
ชายใส่เสื้อคลุมยีนขี่ด้วยความเร็วขึ้นมาทางอลิซ ชายคนซ้อนฉายปากกระบอกปืนมายังเธอ
ปัง
เธอไม่ถูกยิงเพราะเป็นกระจกกันกระสุน
ชายหนุ่มเป็นใคร ถึงติดกระจกแบบนี้ น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา
“นั่งนิ่งๆไป ถ้าไม่อยากตาย ใครมันตามล่าเธอ”
นั่งนิ่งๆแล้วจะไม่ตายจริงๆใช่ไหม ฮืออออ
ดูจากสถานการณ์ยังไงตอนนี้พวกเขาก็เป็นรอง ตอนนี้มีรถมอเตอร์ไซต์ 4 คันวิ่งตามรถพวกเธอ ถึงจะเป็นรถกันกระสุน
แต่ถ้าหากพวกมันฉลาดหน่อยแล้วยิงเจาะยางรถหล่ะก็ พวกเธอหมดทางรอดแน่
อลิซๆ เธอต้องตั้งสติ เธอต้องไม่ตายอีกรอบ
“นายขอยืมปืนหน่อย” อลิซยื่นมือไปแย่งปืนจากคนขับทันทีไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ
อลิซกระชับกระบอกในมือในท่าที่ถนัด ก่อนสูดลมหายใจรวบรวมสติสร้างสมาธิให้ตัวเอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอกำลังจะเล็งปืนไปที่คนไมใช่เป้า เธอรอจังหวะจะเปิดกระจกรถ แต่ก็ไม่วายหันหน้ามาถามคำถามสุดท้ายกับคนขับ
“ถ้ายิงไม่โดนหัวใจจะไม่ถึงตายใช่ไหม” อลิซไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ มือบางเปิดกระจกและลั่นไก ยิงไปที่หน้าอกข้างขวาของคนขับคันที่ใกล้ที่สุด และอีกนัดยิงไปยางของล้อรถคันหน้าอย่างแม่นยำ โชคดีที่เธอเคยลงแข่งขันยิงเป้าแบบเคลื่อนที่ กระสุนเพียง 2 นัดของเธอ ทำให้มอเตอร์ไซต์2คันนั้นเสียหลักพุ่งเข้าชนข้างทาง
หวังว่าจะไม่ตายนะ อลิซรีบหดมือกลับเข้ามาหอบหายใจด้วยความตื่นเต้น เธอเลือกยิงในจุดที่ไม่สำคัญแต่ก็ทำให้ตอนนี้เหลือมือปืนอีกเพียง2คนที่ขี่ตามมา เธอไม่ยิงเธอเองจะเป็นคนโดนยิงเสียเอง เธอยังจำภาพสุดท้ายก่อนตายของตัวเองได้
เธอและคนที่เธอรักจะโดนยิงเสียเอง
“เธอยิงเป็นหรือ...” ชายหนุ่มพูดยังไม่ทันจบก็ได้รับคำตอบเป็นภาพรถมอเตอไซต์2คนที่กำลังพุ่งรถข้างทาง ที่เขามองเห็นผ่านกระจก อย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อกี้เขาแทบไม่เห็นร่างบางข้างๆเล็งเลยด้วยซ้ำ
อลิซกำปืนในมือแน่นจนแฉะเพราะเหงื่อของเธอ เธอไม่สามารถเปิดกระจกอีกครั้งได้เลย เพราะอีกฝ่ายยิงมาทางฝั่งเธออย่างต่อเนื่อง พวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด ถ้าพวกมันฉลาดหน่อยยิงมาที่ยางรถของพวกเธอล่ะก็ และก็เป็นอย่างที่อลิซคิด ยางรถโดนยิงทำให้ชายข้างเธอสบถคำหยาบออกมาก่อนจะบังคับรถชนต้นข้างทางให้เบาที่สุด
ปึก กรี๊ดดดด
ร่างบางเกือบพุ่งไปชนกระจกข้างหน้าโชคยังดีที่ได้มือหนาช่วยรั้งไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะรีบลงจากรถ ชายหนุ่มลากอลิซที่เหมือนสติหลุดออกจากร่างให้วิ่งตามตนมาก่อนที่มือปืน จะตามทัน ข้างหน้าไม่ไกลเป็นที่ตั้งของสวนสนุกชื่อดังในเมืองนี้ที่ถูกปิดมาหลายเดือนเนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด และเวลานี้ก็ดึกค่อนคืน มองไกลๆจึงดูเหมือนร้าง ไร้ซึ่งผู้คน
“มันอยู่นั่น ปัง ปัง ปัง” มือปืนทั้ง4 วิ่งตามทั้งสองมาพลางรัวยิงออกมา
ชายหนุ่มฉุดร่างบางให้หลบกระสุนหลังต้นไม้ใหญ่ก่อนเปิดประตูรั้วสวนสนุกที่ไม่ได้ล็อค ชายหนุ่มยิงสวนไปบ้างเพื่อถ่วงเวลาใช้ความคิดว่าจะจัดการมือปืนพวกนั้นยังไงดี เพราะตอนนี้ลูกกระสุนเค้าเหลือน้อยเต็มที
“นะ นายโดนยิงเหรอ เลือดไหลเต็มเลย”
อลิซรู้สึกถึงอะไรเปียกๆที่มือเธอซึ่งกำลังจับแขนของชายหนุ่มอยู่ร้องขึ้น
“เฉียดๆ ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันบอกให้เธอวิ่งหนีไป รีบหนีไป”
อลิซส่ายหน้าพลางปาดน้ำตาด้วยความกลัว มองสบเข้ากับดวงตาดำสนิทของชายหนุ่ม
“ไม่เอาหรอก เรื่องอะไรฉันจะทิ้งคนที่ช่วยชีวิตฉันจากการจมน้ำหล่ะ”
คำพูดของหญิงสาวแปลกหน้าที่ภายนอกเหมือนจะกลัว แต่ภายในกลับแข็งแกร่งทำให้เขาประหลาดใจ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่เขาเจอมานี่แทบจะวิ่งหนีไปตั้งแต่คำแรกที่เขาพูดแล้ว แต่ ยัยหน้าจืดนี่...
ปัง
เสียงปืนทำให้เขาสลัดความคิดสงสัยนั้นออกไป
“ฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะ ที่ฉันบอกอย่างนั้นเพราะตอนนี้เธอเป็นตัวถ่วงฉันอยู่” เขาพูดจริง แค่4คนไม่คณามือเค้าหรอก แต่เพราะมี อลิซเลยทำให้เขาห่วงหน้าพะวงหลัง จัดการไม่ถนัดมือ
“แหม นาย นาย เราเข้าไปหลบข้างในสวนสนุกกันเถอะ”
อลิซดึงมือลากชายหนุ่มให้วิ่งเข้าไปข้างในโดยไม่ฟังเสียงเห็นด้วยจากชายหนุ่ม ซึ่งทีแรกชายหนุ่มก็ขืนตัวไม่ยอมทำตาม สายตาจ้องไปที่ร่างมือปืนทั้ง4ที่กำลังตรงมาทางนี้
ฝีมือไม่เก่ง น่าจะแค่ชั้นล่างๆ
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงยอมตามคนตัวเล็กที่ดึงมือเค้าอยู่ เค้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงตัวเล็กคนนี้จะทำยังไงต่อ
ทั้งสองรีบวิ่งผ่านประตูเข้าไปแล้วหาที่กำบังหลบ ทำตัวให้เงียบเพื่อไม่ให้พวกมันหาเจอ โชคยังดีที่ในนี้มีที่ให้ซ่อนตัวเยอะ
“หายไปไหนแล้ววะ”
“กระจายกันหา เว้ย เดี๋ยวกูไปทางนี้ ติดต่อกันทางโทรศัพท์เว้ย”
เมื่อบริเวณนั้นไร้เงามือปืนทั้งสองหนุ่มสาวที่กำลังหลบอยู่ตรงพุ่มไม้ ก็เตรียมตัวจะลุกขึ้น มือหนากำลังดึงร่างบางให้หนีไปอีกทาง แต่อลิซขืนไว้ เธอกำลังยืนมองป้ายที่บอกแผนที่ทั้งหมดของสวนสนุกแห่งนี้ ก่อนที่จะต้านแรงของอีกฝ่ายไม่ไหว วิ่งตามชายหนุ่มไป
“เข้าไปหลบในตู้นั้น”
ชายหนุ่มผลักอลิซเข้าไปก่อนที่จะดันตัวเองเข้าไปด้วย เพราะเบื้องหน้าเขาเห็นชายหนึ่งในมือปืนกำลังวิ่งมาทางนี้
“กูอยู่แถวรถไฟเหาะ ไม่เจอว่ะ พวกมึงอ่ะเจอไหม”
‘ข้างหน้ากูเป็นเมืองยักษ์ ไม่เจอเหมือนกัน’
‘กูอยู่ในบ้านผีสิง ไม่มีร่องรอยมันว่ะ’
‘กูวิ่งมาเจอประตูหลังว่ะ มันล็อคมันน่าจะยังไม่หนีออกไปจากที่นี่’
“กูว่าโทรหานายให้ส่งคนมาหาที่นี่ดีกว่า มันยังไม่หนีไปไหนแน่นอน”
‘เออ เดี๋ยวกูโทรเอง ’
เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของพวกมันดังท่ามกลางความเงียบ และก็หายไปเมื่อมือปืนร่างกำยำนั้นเดินไกลออกไป
“เราต้องออกจากที่นี่ มีเวลาอีกไม่เกิน20นาที คนพวกมันมาถึงแน่”
ชายหนุ่มพูดเสียงเครียด พลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ควานหาโทรศัพท์
“เ*ย หายไปไหนวะ”
อลิซมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหมดหวัง แต่จู่ๆดวงตาของอลิซก็ฉายแววความหวังเหมือนนึกอะไรออก สมองเธอมันกำลังทำงานแล้ว
“ฉันนึกอะไรออกแล้ว ปืนในเหลือกระสุนกี่นัด”
ใช่แล้ว เธอนึกอะไรออก จู่ๆสมองเธอก็จำภาพแผนที่ของสวนสนุกนี้ได้ ถึงเธอจะได้ดูเพียงแปบเดียว
“2นัด ทำไม”
2เองเหรอ ยังยิงได้ไม่ครบพวกมันเลย แต่ไม่ไม่เป็นไร เธอไม่ได้ต้องการใช้กระสุนยิงพวกนั้น
“นายเก็บไว้นะ อย่างน้อยนายต้องเหลือ 1 นัด”
“ทำไมฉันต้องเชื่อผู้หญิงอย่างเธอด้วย”
“นะ นะ ถือว่าฉันขอร้อง นายต้องเชื่อหัวฉัน” อลิซเอื้อมมือไปจับมือหนา พลางสบตาเขาเพื่อสร้างความมั่นใจ
“อือ”
“แผนของฉันคือ เราจะลัดเลาะไปตามทาง แกรนแคนยอน คือเลี้ยวขวาไปทางนั้นเพราะน่าจะถูกเห็นได้น้อยสุด และใกล้ทางออกด้านหลังที่สุด นายตามฉันมานะ เราจะไปเงียบๆ หลบอย่างเดียวนายห้ามยิงปืนเสียงดังโต้”
เมื่อเห็นชายหนุ่มพยักหน้า อลิซจึงวิ่งนำไปยังทางตามแผนที่ที่แสดงในหัวเธอ
ไม่นานทั้งสองก็เห็นประตูรั้วด้านหลังอยู่ไม่ไกล แต่ยังไปไม่ถึงจุดหมาย ทั้งสองต้องรีบปลีกตัวหลบชายร่างท้วมมือปืนอีกคนหนึ่งที่เดินวนๆแถว ประตูทางออกด้านหลัง
“รอให้มันไปก่อน ไปเร็วๆสิโว้ย” อลิซลุ้นให้ชายร่างท้วมเดินออกไปจนฉี่จะราดอยู่แล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นดั่งใจคิด
“เรามีเวลาเหลือไม่พอแล้ว เดียวฉันฆ่ามันเอง” ชายหนุ่มข้างกายอลิซพูดเสียงเย็น พลางเล็งปืนไปทางศัตรู
“ไม่ ไม่ได้ พวกมันก็มากันหมดสิ เราเหลือลูกปืนไม่พอมันนะ” อลิซรีบตะครุบมือชายใจร้อนทันที “ขอฉันใช้เวลาคิดแปบ” ก่อนจะตบรัวที่หัวตัวเองเพื่อกระตุ้นให้สมองเร่งทำงาน
“คิดออกแล้ว เดินไปอีกหน่อยเป็น เครื่องเล่นไวกิ้งเราล่อมันไปที่เครื่องนั้น ฉันมีวิธีจัดการมัน นายถอดเสื้อคลุมนายมา เร็วๆ”
ก่อนที่ทั้งสองจะลัดเลาะไปยัง เครื่องเล่นไวกิ้งที่อยู่ไม่ไกล อลิซ โยนเสื้อสูทของชายหนุ่มขึ้นไปบนที่นั่งไวกิ้งหลังสุดก่อนที่เธอจะลากตัวชายหนุ่มที่ยืนมองการกระทำของเธออย่างใจเย็น ก่อนจะมาที่ตู้ควบคุมเครื่องเล่นไวกิ้ง
“นายโยนหินขึ้นไปบนเครื่องเล่นที ให้มันได้ยินนะ ขอแม่นๆ”
ใช่แล้ว เธอจะล่อให้มันขึ้นไปบนนั้นแล้วจัดให้มันได้เล่นเครี่องเล่นแสนสนุกนั้น
ตึก
“ทางนั้นใครวะ มึงเปล่าไอ้หนึ่ง” ชายร่างท้วมกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาทางเรือไวกิ้ง ก่อนจะหัวเราะหึในลำคอเพราะนึกว่าเสื้อคลุมนั้นเป็นเหยื่อที่แอบหลบซ่อนอยู่ เป็นไปตามแผนของอลิซ ต้องขอบคุณความมืดและความโง่ของมันจริงๆ
อลิซที่ได้กดปุ่มเปิดเรื่องไว้แล้ว เตรียมกดปุ่มเริ่มเล่นสีเขียวทันทีที่มันเดินย่องขึ้นไปหาเสื้อคลุมนั้น
Start
ทันทีที่กดปุ่ม เครื่องก็เริ่มทำงาน มันเพิ่งรู้สึกตัวว่าตกเป็นเหยื่อ แต่ใครจะต้านทานความเสียวของเรือไวกิ้งได้ ชายร่างท้วมรีบหาที่ยึดเกาะทันที
อลิซกับร่างสูงจึงรีบวิ่งไปที่ประตูหลังทันทีเพราะ ตอนนี้เสียงร้องของผู้เล่นได้ตะโกนดัง คงเรียกความสนใจของมือปืนคนอื่นๆไม่น้อย เธอต้องขอบคุณมันที่ช่วยเรียกความสนใจไว้สินะ
“ล็อค”
ร่างสูงจับแม่กุญแจอย่างหัวเสีย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีปืน และก็ถึงกับบางอ้อว่าทำไมสาวน้อยแต่หัวสมองไม่น้อยข้างกายเขาถึงไม่ให้ใช้กระสุน ก่อนจะถอยออกมาและมือเล็งปืนเตรียมยิงแม่กุญแจ
“ไม่ๆ เสียงมันดัง นายถอดเสื้อนายออกมากลบเสียง” โชคดีที่เขาใส่เสื้อมาหลายชั้น ใช้เสื้อผ้าเค้าเปลืองจริงๆแม่สาวคนนี้
จริงสิ ยิงกระสุนผ่านผ้าลดความดังลงได้ ร่างสูงทำตามที่อลิซบอก แต่ไม่มีเวลาคิดมากเขายิงแม่กุญแจอย่างแม่นยำด้วยนัดเดียวก็สามารถเปิดประตูออกไปได้แล้ว ก่อนจะหันหลังมาจูงมืออลิซให้ออกวิ่งพร้อมกันออกไป
โชคยังดีที่ประตูด้านหลังนี้ติดกับบ้านคนหลายหลัง เป็นหมู่บ้าน ทั้งสองจึงเคาะประตูบ้านเข้าไปขอความช่วยเหลือ และด้วยความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาทำให้อลิซสลบเหมือดอยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า
ชายหนุ่มอุ้มยกร่างบางด้วยสองมือเข้าไปในบ้านของผู้ใจดีคนหนึ่ง เพื่อรอให้ลูกน้องที่เค้าเพิ่งใช้โทรศัพท์โทรให้มารับ ดวงตาสีดำสนิทที่เคยเย็นชาดูอ่อนโยนลง ทอดมองมายังร่างบางในอ้อมกอดด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม ถ้าคนรู้จักเขามาเห็นภาพนี้คงไม่เชื่อว่าว่านี่คือ หัวหน้ามาเฟียที่ชื่อ ‘ออกัส’ ผู้โหด เหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ