พิษรักรสจูบคุณแวมไพร์
เขียนโดย Sullitale
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.06 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563 18.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) ตอนที่ 25 !! จูบรสเบียร์ ♡ !!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 – 5/5
ตอนที่ 25 !! จูบรสเบียร์ ♡ !!
บนเตียง
เมื่อวานซูยองเผลอหลับไปเร็ว เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง หรือเพราะเธอตื่นเต้นจนเหนื่อย ก็ไม่แน่ใจ วันนี้เธอถึงตื่นขึ้นมาซะเช้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นก็คือแผงหน้าอกแน่นๆ ของควี เธอซุกอกนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เธอเองก็แทบอดใจไม่ไหวเช่นกัน เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
นี่เราอยู่ในอ้อมกอด เจ้าของกล้ามหน้าอกแน่นๆ จริงหรือเนี่ย กล้ามสวยจนอยากจะลูบไล้ แต่ก็กลัวเขาตื่น
ซูยองทำได้แค่จ้องมองควีนานๆ เท่าที่จะทำได้ เธออยากสำรวจทุกอย่างด้วยสายตาให้ละเอียด เธอค่อยๆ มองไปยังบ่ากว้างๆ ไล่สายตาไปที่ไหปลาร้า ตื่นเต้นไปพร้อมกับจังหวะหายใจเบาๆ ของเขา เธออยากมองคนรักยามหลับนานๆ เธอรู้สึกว่าการแอบมองอยู่ฝ่ายเดียวในระยะประชิด ก็ดูซุกซนดี > <
มองหน้าสวยๆ ของควีไม่เคยเบื่อเลย ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอ่อนโยนถึงเพียงนี้ อยากอยู่กับเค้าไปนานๆ จัง เราจะทำได้ไหมนะ ความต่างของเราจะหนักหนาเกินไปหรือเปล่า? รักที่มีให้จะพอไหม …
ซูยองได้แต่คิดทบทวนในใจ รักทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องเจอปัญหาอีกมากมาย และไม่แน่ใจว่าเธอจะรับความต่างนี้ได้แค่ไหน
แต่ชีวิตไม่มีใครอาจรู้อนาคต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราทำได้แค่เตรียมยอมรับมัน
เมื่อเธอดูจะตัดสินใจได้แล้ว ว่าควรจะรับรักควีจริงๆ จังๆ หรือไม่ เธอก็ดูเบาใจไปเยอะ
“เจ้าคิดอะไรอยู่เหรอ ? เห็นทำหน้าคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา” พอควีลืมตามาได้ซักพัก แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่สังเกตว่าซูยองกำลังใจลอยจึงกล่าวทักไป
“เออไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันทำให้คุณตื่นใช่ไหม ขอโทษนะคะ”
“ไม่หรอก ข้าไม่ได้หลับ แค่พักสายตาเฉยๆ” ควีเห็นซูยองตื่นแล้ว แต่ก็ยังกอดไม่ห่าง เขาดึงตัวซูยองเข้ามากอดแนบอกเบาๆ กอดใกล้จนสามารถดมผมของเธอได้ถนัด เขาแทบจะใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่า เหมือนกับไม่อยากจะพลาดสิ่งสำคัญในชีวิตที่ตามหามานานซักวินาทีเดียว
ช่วงมื้อเช้า
“นี่มีของใหม่มานำเหน๋อด้วยนะ ตั้งใจแพคใส่กระเป๋ามาให้เลย ให้ทายก่อนว่ามันคืออะไร ในนี้ประกอบไปด้วยข้าวพอง ธัญพืช อาจเพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย โดยปกติแล้วมนุษย์จะชอบกินกับนม ลองทายดู คุณคิดว่าคืออะไรคะ”
“สิ่งที่มนุษย์ปัจจุบันชอบกินกับนมหน่ะเหรอ?” ควีทำหน้าคิดตาม
“ใช่ค่ะ มนุษย์ชอบกินกันมากในเวลาเช้าที่เร่งรีบ สามารถเปิดออกมากินได้เลยโดยไม่ต้องเอาไปปรุงใดๆ” ซูยองอธิบายด้วยท่าทีที่สดใส
“ทำไมมนุษย์ถึงต้องรีบขนาดนั้นละ” เขาเอ่ยถามกลับอย่างสงสัย
“ก็เพราะมนุษย์ต้องรีบไปทำงานหาเงินหน่ะสิคะ ยิ่งเราลดเวลาส่วนอื่นๆ ในชีวิตได้มากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะสามารถใช้เวลาที่เหลือหาเงินได้มากขึ้นเท่านั้น”
ซูยองเล่าเรื่องความต้องการของมนุษย์ให้ฟัง มนุษย์อยากมีเงินเยอะๆ บ้านใหญ่ๆ เขาต้องหาเงินมากมาย เพื่อจะมาตอบสนองตัวเอง แต่ไม่ว่ามีเงินมากเท่าไหร่ บ้านใหญแค่ไหน ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าไม่พอสักทีอยู่ดี
“แล้วเจ้าหล่ะ อยากมีบ้านใหญ่ๆ เงินเยอะๆ ไหม” ควีมองหน้าซูยองและรอให้เธอตอบ
“ฉันค่อนข้างแตกต่างกับคนทั่วไป จริงๆ สิ่งที่ฉันเป็น จัดอยู่ในหมวดที่เรียกว่าสันโดษ แต่ยังไม่ถึงกับเข้าขั้นแยกตัวเป็นโยคีนะ ฉันพยายามจะใช้ทุกอย่างที่มีก่อน และพยายามไม่เพิ่มของที่มีอยู่แล้ว ขนาดของที่อยู่ไม่ต้องการใหญ่มาก เพราะดูแลไม่ไหว แค่ตอนนี้บ้านเล็กๆ ขนาด 2 ชั้น อยู่คนเดียวยังรู้สึกกลัวทุกครั้งที่มีเสียงแปลกๆ อยากจะย้ายไปอยู่คอนโดที่มีความปลอดภัยมากกว่า”
“ทำไมถึงชอบสันโดษล่ะ”
“อืม… อาจเป็นเพราะ เบื่อนิสัยของมนุษย์ส่วนใหญ่ อยากมีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องมานั่งคอยกังวลว่าใครจะไม่ชอบเรา และคิดว่าถ้าเราตัดเรื่องพวกนั้นได้จริงๆ ก็คงจะดี”
ควีชอบฟังซูยองเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟังทุกเย็น ควีเล่าให้เธอฟังว่าถ้าในยุคของเขา ซูยองคงเปรียบเป็นนักปราชญ์ เธอไม่เหมือนหญิงทั่วๆ ไป มีแนวคิดที่ล้ำสมัย และเป็นแนวคิดที่ไม่ยึดติดกับค่านิยมพื้นฐานที่มนุษย์ชอบกัน
และเขาก็บอกว่าดีใจที่เธอเกิดในยุคสมัยใหม่ ถ้าเป็นอดีต การมีความคิดแบบนี้ ยิ่งเป็นหญิงคงโดนจับเอาไปเผา อย่างยุคนึงที่เรียกกันว่ายุคล่าแม่มด ซึ่งจริงๆ เป็นคำเรียกยุคที่ผู้หญิงจะโดนใส่ร้ายได้ง่าย ถ้าไปขัดผลประโยชน์ใคร หรือไม่ยอมตกเป็นเมียคนที่มีอำนาจก็อาจจะโดนยัดข้อหาว่าเป็นแม่มด และโดนจับเอาไปเผา
“น่ากลัวจัง ดีนะที่ฉันไม่ได้เกิดยุคนั้น !! งั้นก็ควรพอใจกับความเป็นอยู่ในยุคนี้ให้ได้แล้วสิเรา ^^”
ทั้งสองคนคุยกันเรื่อยเปื่อยจนตกเย็น
ณ ตอนเย็น
“รอตรงนี้แป๊บนึงนะคะ”
ซูยองบอกให้ควีนั่งรอ แล้วเธอก็รีบเดินหายไปหยิบของบางอย่าง ที่แอบแช่ไว้ที่ลำธารตั้งแต่เมื่อคืน
“แต๊นนนน เบียร์เย็นเจี๊ยบอุนหภูมิจากน้ำใสๆ ตามลำธารมาแล้วค่า”
“คนสมัยใหม่ชอบดื่มกันมาก เลยพกมาให้คุณลองกินด้วย กินกับปลาย่างคงฟินสุดๆ ว่าแต่คุณจะกินได้ไหมนะ มันมีแอลกอฮอล์” ซูยองเปิดฝากระป๋องแล้วยื่นให้
“ต้องลองดู” ควีลองชิมทันที
“รสเป็นยังไงบ้างคะ”
“เหมือนหญ้าน้ำมั้ง ไม่รู้สิบอกไม่ถูก”
“กินแรกๆ จะรู้สึกขมลิ้น ถ้ากินไปบ่อยๆ จนชินมันจะไม่ขมเท่าไหร่ แต่กินมากๆ จะรู้สึกร้อนๆ ที่หน้ากับหน้าอกนิดนึง”
ซูยองยังพูดไม่ทันจบ ควีก็ดื่มรวดเดียวหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว เขาจ้องมองกระป๋องเบียร์ที่ว่างเปล่า
“คุณกินหมดแล้วเหรอ กินไวจัง” ซูจองกำลังดื่มเฮือกใหญ่ตาม แต่ยังไม่ทันจะกลืนลงคอหมด ควีก็ดึงซูยองเข้ามา
“จุ๊บ”
“จูบรสเบียร์ ! ค่อยหวานคอขึ้นหน่อย”
“เจ้าเล่ห์” ซูยองเอ่ยทักทำหน้างอนเล่นๆ แบบคนรัก
ควีไม่รีรอบรรจงจูบซูยองต่อด้วยร่างกายที่ร้อนผ่าว อารมณ์เขากำลังพุ่งพ่าน ทำให้เอื้อมมือคว้าเอวซูยองมาแนบกายโดยไม่รู้ตัว เขาเพียงแต่ขยับตัวไปตามความรู้สึกเท่านั้น
“เหมือนมันจะทำให้หัวสมองข้าโล่งและก็รู้สึกตื่นเต้น เหมือนกับจะหักห้ามใจไม่ได้ยังไงอย่างนั้นแหละ” ควีโอบหลังซูยองด้วยมือขวาที่แข็งแรง พร้อมกับมือซ้ายลูบไล้ไปที่เอวของเธอ และในระหว่างที่จูบอยู่นั้น ก็ยกซูยองขึ้นแนบอกเพื่อกระชับแนบแน่นกับตัวเขายิ่งขึ้นด้วยมือขวาข้างเดียว ส่วนมือข้างซ้ายประครองที่เอวเบาๆ
เขาค่อยๆ โลมเลียนางด้วยปากและลิ้น จังหวะขยับกายของทั้งสองเริ่มเข้ากัน เมื่อควีจูบที่ปากของเธอ เธอก็จูบตอบ ถึงซูยองจะอายๆ แต่ครั้งนี้เธอไม่รู้สึกกลัวจนต้องปัดป้องแล้ว
“ข้าควรปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาติญาณไหม” ควีมองหน้าซูยองพร้อมกับอุ้มเธอขึ้นแล้วค่อยๆ วางร่างหญิงสาวลงบนเตียง
แย่ละ หรือจะเสียสาวเพราะฤทธิ์เบียร์ !
วันนี้ควีเร่าร้อนและรุกเร็วกว่าปกติ เขาค่อยๆ โน้มตัวลงมายังเธอพร้อมกับขยับขายาวๆ ขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวเธอทันที ตอนนี้ซูยองเหมือนเด็กสาวที่ไร้หนทางหนี เธอโดนกักขังไว้ด้วยเสน่ห์ของเขาที่สุดแสนจะยั่วใจ จนเธอเองยังตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะหยุดหรือจะไปต่อตามอารมณ์ดี
และในวินาทีถัดมาเขาก็เริ่มโน้มตัวลงมาใกล้ๆ เธออีกครั้ง
เป็นระยะที่ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจหอบๆ ด้วยความตื่นเต้น
แล้วเขาก็ ! ! !
โปรดติดตามตอนต่อไป …
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ